จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 345 ที่แท้คนที่วางยาพิษในตอนนั้นก็คือเขา

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 345 ที่แท้คนที่วางยาพิษในตอนนั้นก็คือเขา

องค์หญิงหลันรั่วถึงได้ตอบสนองกลับมา มองดูหลิวมามาที่อยู่ตรงหน้า ก็กอดนางเอาไว้ทันที ร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมา

เป็นเพราะตกใจมากเกินไป องค์หญิงหลันรั่วร้องไห้จนหายใจไม่ออกแล้ว ย่อมพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน

หลิวมามาอยู่วังหลังมานานหลายปี มองแว๊บแรกก็ดูออกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น บัดซบ ถึงกับกล้ารังแกองค์หญิง“ปิดปากคนพวกนี้ให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”

“ขอรับ!” บรรดาองครักษ์ทำตามคำสั่งทันที

หลิวมามาปลอบประโลมองค์หญิง และพานางจากไป

ระหว่างทางกลับไป องค์หญิงหลันรั่วกอดหลิวมามาเอาไว้แน่นตลอด ไม่ยอมปล่อยมือตลอดทาง หลิวมามามองแล้วก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูสงสารมากขึ้น และรู้สึกตำหนิตัวเองจะตายอยู่แล้ว

ถ้าหากนางพบว่าองค์หญิงหายตัวไป และพาคนออกตามหาเร็วกว่านี้ คิดว่าคงจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้กับองค์หญิง

กลับไปถึงที่พักเปลี่ยนม้า องค์หญิงหลันรั่วร้องไห้จนนอนหลับไปแล้ว หลิวมามาปลุกนางให้ตื่น เกรงว่านางจะเป็นหวัดจึงให้นางกลับไปนอนที่ห้อง

แน่นอนว่า ในคืนนี้หลิวมามาอยู่กับองค์หญิงหลันรั่วตลอด ไม่ห่างไปแม้แต่ก้าวเดียว

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น องค์หญิงหลันรั่วก็ตื่นขึ้นมา นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนยังรู้สึกนึกกลัวภายหลังเล็กน้อย สีหน้าซีดขาวเล็กน้อย

หลิวมามายกอาหารเข้ามาให้นางด้วยตัวเอง บอกกับนางว่าคนเมื่อคืนนี้ถูกปิดปากไปหมดแล้ว องค์หญิงหลันรั่วถึงได้รู้สึกโล่งใจไปหนึ่งเปลาะ จากนั้นก็นึกถึงคุณชายที่ช่วยตัวเองเมื่อคืนนี้ องค์หญิงหลันรั่วรู้สึกประทับใจอย่างมาก

เมื่อคืนนี้หากไม่ได้คุณชายท่านนั้นช่วยตัวเองเอาไว้ เกรงว่านางคงจะถูกอันธพาลสารเลวพวกนั้นทำมิดีมิร้ายอย่างแน่นอน

องค์หญิงหลันรั่วรีบเอาเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาทันที ให้หลิวมามาส่งคนไปตามหาคุณชายที่ช่วยตัวเองเมื่อครู่นี้

เมื่อครู่นี้หลิวมามายังคิดอยู่ว่ามีคนช่วยองค์หญิงเอาไว้ใช่หรือไม่ อย่างไรเสียอันธพาลเหล่านั้นล้วนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่ขยับเขยื้อนเลย สมควรต้องขอบคุณคุณชายท่านนั้นจริงๆ

“หลิวมามา ข้าต้องการจะเข้าวัง!” องค์หญิงหลันรั่วเอ่ยปาก

“บ่าวจะไปจัดเตรียมรถม้าเดี๋ยวนี้!” หลิวมามารีบออกไปทันที ครั้งนี้นางตามองค์หญิงเข้าวังไปด้วยตัวเอง

เมื่อฮ่องเต้ได้ยินว่าองค์หญิงหลันรั่วขอเข้าพบ นึกว่านางมาเพราะเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับจวินหย่วนโยว กำลังคิดว่าควรจะรับมืออย่างไร

แต่แล้วก็ได้ยินองค์หญิงหลันรั่วกล่าวว่าจะยกเลิกการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับจวินหย่วนโยว ฮ่องเต้ตกตะลึงอย่างยิ่ง

“องค์หญิงหลันรั่ว เจ้าจะยกเลิกการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์จริงหรือ?”

“ทูลฝ่าบาท ข้าคิดทบทวนเป็นอย่างดีแล้ว ยกเลิกการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์” องค์หญิงหลันรั่วเต็มไปด้วยความจริงจัง

มามาที่เข้ามาพร้อมกับนางก็ยังตกตะลึง“องค์หญิง ทำไมจู่ๆถึงยกเลิกการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ล่ะ นี่เป็นการตัดสินใจของฝ่าบาทเชียวนะ ท่านจะกลับไปพิจารณาดูหน่อยไหม?”

“ไม่ต้อง นี่คือราชโองการของเสด็จพ่อข้า แต่คนที่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์คือข้า ตอนนี้ข้ากลับคำแล้ว แม้แต่เขาก็ไม่สามารถบังคับข้าได้ หลังจากที่กลับไปแล้วข้าจะอธิบายกับเสด็จพ่อเอง” องค์หญิงหลันรั่วตอบ

นัยน์ตาสีดำที่ลึกล้ำของฮ่องเต้หรี่ลงเล็กน้อย มองพิจารณาหลันรั่ว“ก่อนหน้านี้สาบานเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากจวินหย่วนโยวไม่ใช่หรือ เหตุใดจู่ๆถึงได้ยกเลิกล่ะ?”

องค์หญิงหลันรั่วไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นนางโอหังและกำเริบเสิบสานมาตั้งแต่เด็ก ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนจิ่วอย่างมาก หากนางยืนกรานที่จะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไปตลอด และจวินหย่วนโยวก็ปฏิเสธไม่ยอมรับปาก นี่ต้องทำให้ฮ่องเต้ลำบากใจแน่นอน

เวลานี้นางเป็นเอ่ยออกมาเอง ทำให้ฮ่องเต้รู้สึกประหลาดใจและงุนงงจริงๆ

“เป็นเพราะจู่ๆข้าก็พบว่า ไม่ได้ชอบจวินหย่วนโยวขนาดนั้น จะต้องแต่งงานกับเขาให้ได้ ชีวิตคนแสนสั้น ข้าจะไม่เสียเวลาดีๆในชีวิตไปกับคนที่ไม่ชอบข้า” หลันรั่วอธิบาย

คุณชายที่มีใบหน้าประดุจหยกประดับกวน หล่อเหลาประดุจผานอันแว๊บเข้ามาในหัวของนาง เมื่อนึกถึงตอนที่เขาคลุมเสื้อคลุมให้นางด้วยตัวเอง แก้มขององค์หญิงหลันรั่วแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย

ฮ่องเต้เลิกคิ้วมองมา คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงหลันรั่วจะยังมีความเข้าใจเช่นนี้

“ตกลง ในเมื่อองค์หญิงหลันรั่วกล่าวเช่นนี้ งั้นข้าก็ตกลง ต่อไปห้ามเอ่ยถึงเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์อีก” ฮ่องเต้ย่อมยินดีอยู่แล้ว

“เพคะ”

เรื่องที่องค์หญิงหลันรั่วยกเลิกการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ถูกสายในพระราชวังส่งข่าวไปยังจวนซื่อจื่อ

หลังจากที่หยุนถิงได้ยินก็ตกตะลึงอย่างยิ่ง ทำไมแค่คืนเดียวองค์หญิงหลันรั่วผู้นี้ก็คิดได้แล้ว ช่างน่าแปลกจริงๆ

“นางคิดได้ย่อมดีที่สุด มิเช่นนั้นคนที่โชคร้ายก็มีแค่นางเท่านั้น!” จวินหย่วนโยวเดินออกมาด้วยใบหน้ามืดมน

เมื่อคืนหยุนถิงกลับมาปลอบประโลมเขาไปทั้งคืน จวินหย่วนโยวถึงได้ฟื้นตัวกลับมา ทันทีที่ออกมาก็ได้ยินข่าวนี้ ย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าซื่อจื่อของข้าจริงใจต่อข้าที่สุด ท่านอย่าเป็นเหมือนเมื่อคืนอีกนะ ข้าตกใจแทบแย่” หยุนถิงกล่าวด้วยความเป็นห่วง

จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา ยื่นมือไปจับมือของหยุนถิง“ขอบคุณที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า ต่อไปไม่มีอีกแล้ว เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว สืบหาความจริงแล้วล้างแค้นให้พ่อแม่ถึงจะเป็นการแสดงความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

“ถูกต้องแล้ว ข้าให้หลงซื่อส่งคนไปจับตาดูพ่อและลูกสาวซ่างกวนเจิ้นแล้ว จากเส้นทางของพวกเขา น่าจะไปที่แคว้นเป่ยลี่” หยุนถิงกล่าว

จวินหย่วนโยวสีหน้าเคร่งขรึม“บางทีคนที่อยู่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังคนนั้นอาจจะอยู่ที่แคว้นเป่ยลี่ก็ได้”

“เช่นนั้นซื่อจื่อคิดจะทำอย่างไร?”

“นิ่งเฉยรอดูสถานการณ์ไปก่อน ให้พวกเขาจับตาดูเอาไว้ คราวนี้ข้าจะกำจัดพวกเขาในคราวเดียว!” จวินหย่วนโยวเอ่ยปากอย่างแข็งกร้าว

“ซื่อจื่อปราดเปรื่องยิ่งนัก!”

ด้านนอกลาน โม่เหลิ่งเหยียนให้คนยกบ่าวรับใช้เข้ามาหนึ่งคน“ข้ารับหน้าที่สอบสวนบ่าวรับใช้ในจวนซ่างกวน ท่านนี้คือพ่อบ้านเก่าแก่ของจวนซ่างกวน เขาบอกว่ามีเบาะแสสำคัญจะเสนอให้ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าบางทีอาจจะมีประโยชน์ต่อเจ้า”

ทั่วทั้งตัวของพ่อบ้านท่านนั้นเต็มไปด้วยเลือด รอยเลือดที่อยู่บนเสื้อผ้าล้วนแห้งไปหมด สีหน้าซีดขาว ดูแล้วคงถูกทรมานมาอย่างหนัก

นัยน์ตาสีดำที่คมกริบของจวินหย่วนโยวกวาดมองไปทางพ่อบ้านท่านนั้น“หากเจ้ากล้าโกหก ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ก็อยู่ไม่ได้ ตายก็ตายไม่ได้!”

พ่อบ้านตกใจแทบตาย“ซื่อจื่อโปรดไว้ชีวิตด้วย ถึงแม้บ่าวจะมีความกล้ามากแค่ไหนก็ไม่กล้าโกหกหรอก สิ่งที่บ่าวจะพูดคือ ความลับบนร่างกายของนายท่านของข้า”

“ซ่างกวนเจิ้น?” หยุนถิงถาม

“เรียนซื่อจื่อเฟย ใช่แล้ว บ่าวอยู่ที่จวนซ่างกวนมาสิบกว่าปีแล้ว รับผิดชอบดูแลเรื่องใหญ่น้อยในจวนมาตลอด แต่กลับพบว่าตอนที่นายท่านของข้าอาบน้ำไม่เคยให้ใครเข้าใกล้มาก่อน

มีครั้งหนึ่งบ่าวเห็นว่านายท่านหยิบเสื้อผ้าผิดไป ก็เลยส่งไปให้ บังเอิญเห็นบนไหล่ของนายท่านมีรอยสักรูปหัวหมาป่าเข้าพอดี ดูน่ากลัวอย่างมาก

แน่นอนว่านายท่านก็สังเกตเห็นข้าเช่นกัน ด่าว่าข้าชุดใหญ่ แถมยังให้คนโบยข้ายี่สิบที ต่อไปห้ามข้าปรากฏตัวตอนที่เขาอาบน้ำอีก

ดังนั้นบ่าวจึงคิดว่า รอยสักบนร่างกายของนายท่านมีความลับอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถบอกใครได้ใช่ไหม ขอซื่อจื่อกับซวนอ๋องเห็นแก่ที่บ่าวพูดความจริง ปล่อยบ่าวไปเถอะ บ่าวทนการทรมานไม่ไหวแล้วจริงๆ” พ่อบ้านตอบอย่างเคารพนบนอบ

คนทั้งคนของจวินหย่วนโยวแข็งทื่อไปหมด เลือดทั่วทั้งร่างกายเหมือนจะแข็งตัวในชั่วพริบตา

เขาจำได้ว่า โจวคุนเฉิงบอกว่าคนที่ฆ่าท่านพ่อ และวางยาพิษท่านแม่ ก็คือคนที่มีรอยสักรูปหัวหมาป่าบนร่างกาย

คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่เขาตามสืบและหามานานขนาดนี้ จะเป็นซ่างกวนเจิ้น

เส้นเลือดบนหน้าผากของจวินหย่วนโยวเต้นตุ้บๆ นัยน์ตาสีดำเปล่งแสงที่โหดเหี้ยม มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำหมัดเอาไว้แน่น กระดูกส่งเสียงดังกรอบแกร้บ บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือก ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งในชั่วพริบตา

“เขานี่เอง เขาเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของข้า แต่ข้ากลับไม่เคยรู้มาก่อน ข้านี่มันช่างโง่จริงๆ เด็กๆ ฆ่าพ่อลูกซ่างกวนเจิ้นทันที!” จวินหย่วนโยวออกคำสั่งด้วยความโกรธแค้น

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท