จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 360 ข้าช่วยเจ้ารักษานกเขาไม่ขัน

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่360 ข้าช่วยเจ้ารักษานกเขาไม่ขัน

วี่อู๋เสียมองดูหยุนถิงที่อยู่บนเตียงด้วยความสนใจ “คิดไม่ถึงเลยว่า ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งกลับทำให้จวินหย่วนโยว เซวียนอ๋อง และแม้กระทั่งคนคนนั้นใส่ใจมากถึงขนาดนี้ และยอมหักหน้ากับข้าเพื่อนเก่าคนนี้อย่างเปิดเผย หยุนถิงเจ้ามีความสามารถมากจริงๆเลย”

น้ำเสียงเหลาะแหละ ขี้เล่น และมีความเคียดแค้นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทำเอาหยุนถิงขมวดคิ้วด้วยความสับสน

เขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงเข้าออกจากจวนซื่อจื่อได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น หากเขาอยากฆ่าตัวเองคงทำได้อย่างง่ายดายสินะ

หยุนถิงมองดูคนคนนั้นด้วยสีหน้าเย็นชา ในห้องไม่ได้จุดเทียนไขไว้ แสงจันทร์ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง หยุนถิงสามารถมองเห็นใบหน้าของคนคนนั้นได้อย่างไม่ค่อยชัดเจน

เพศชายรูปลักษณ์หน้าตาคล้ายผู้หญิง ยังมีความสง่างามที่อ่อนโยนอีกด้วย แต่รอบกายกลับเต็มไปด้วยออร่าของความชั่วร้าย และพิงตัวอย่างสบายๆ และเกียจคร้านบนเสาข้างเตียง ดูเหมือนไม่อันตรายใดๆ แต่กลับทำให้หยุนถิงไม่กล้าดูถูก

เมื่อเห็นว่าหยุนถิงไม่พูด เพียงแค่จ้องมองตัวเองด้วยความโกรธ วี่อู๋เสียก็ยิ่งพอใจมากขึ้น เดินมาและหยิกแก้มของหยุนถิง

“ได้ยินมาว่าตอนนี้เจ้าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าเยียน ใบหน้านี้แหละที่ทำให้ผู้ชายหลายคนหลงใหล ข้าจะดูว่าเจ้ามีความสามารถอะไรกันแน่?”วี่อู๋เสียเอนกายเข้าใกล้

มือนั้นบีบจนแก้มของนางเจ็บมากนัก หยุนถิงมองดูใบหน้าที่กำลังจะเข้ามาใกล้ ก้มหัวลงกัดมือของวี่อู๋เสียโดยสัญชาตญาณ

“อ๊าก!” วี่อู๋เสียทำเสียงเชอะ เจ็บจนเขาขมวดคิ้ว และปล่อยมือที่บีบหยุนถิงเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ยกมืออีกข้างแล้วตบมา แต่มือของเขายังไม่ทันได้ตบโดนนาง ก็สบกับดวงตาแสนสวยที่เย็นชาของหยุนถิง จู่ๆวี่อู๋เสียก็หยุดมืดในทันที

ดวงตานี้โหดร้ายเกินไป ราวกับเศษน้ำแข็งที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับว่าสามารถแทงใจของผู้คนได้ในชั่วพริบตา

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆวี่อู๋เสียก็นึกถึงคนคนนั้น

หยุนถิงเห็นเขาจู่ๆก็เหม่อลอยไป ก็ปล่อยเข็มเงินที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมาทันที

เมื่อรู้สึกถึงความอันตรายในอากาศ วี่อู๋เสียก็รีบหลบทันที และเข็มเงินสามเล่มก็แทงเข้าไปที่เสาข้างๆ

วี่อู๋เสียเลิกคิ้ว “ไอ๊หยะ ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถเล็กน้อย ถูกข้ากดจุดไปทำให้ขยับตัวไม่ได้แล้ว ยังสามารถโจมตีได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่สามารถส่งหนานเทียนหลินเข้าไปที่จวนผิงหยวนได้”

“เจ้ารู้จักหนานเทียนหลินหรือไม่?” หยุนถิงมองมา คนคนนี้คงไม่ใช่มาแก้แค้นตัวเองแทนหนานเทียนหลินสินะ

“ไอ้งี่เง่านั่นกลับตกอยู่ในมือของเจ้าผู้หญิงคนหนึ่ง โง่ยิ่งนัก ดูเหมือนคืนนี้ข้าจะไม่ได้มาเสียเปล่า!” มุมปากของวี่อู๋เสียโค้งขึ้น

นอกประตู มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา

สีหน้าของวี่อู๋เสียเย็นชาลง และเหลือบมองหยุนถิง “วันนี้ปล่อยเจ้าไปก่อน ข้าจะมาหาเจ้าในภายหลัง!” หลังพูดจบ ก็กระโดดออกจากหน้าต่าง

ประตูก็ถูกเปิดออกในขณะนี้เช่นกัน จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา มองดูที่หน้าต่างที่สั่นไหว และขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ซื่อจื่อ หน้าต่างบานนั้นข้าเป็นคนเปิดเอง เมื่อครู่ข้ารู้สึกร้อน” หยุนถิงอธิบาย

เหตุผลที่นางไม่บอกซื่อจื่อ เพราะนางไม่อยากให้จวินหย่วนโยวกังวล ในเมื่อคนคนนั้นสามารถเข้าออกจวนซื่อจื่อได้ตามความต้องการโดยไม่มีใครสังเกต ก็คงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน อีกอย่างอีกฝ่ายก็ไม่มีเจตนาฆ่า ไม่งั้นก็คงไม่พูดไร้สาระกับนางเยอะขนาดนี้

หยุนถิงไม่อยากให้ซื่อจื่อปกป้องตัวเองอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เช่นนี้ก็จะทำให้เรื่องของซื่อจื่อหน่วงเหนี่ยว และที่สำคัญคือ กล้าแอบโจมตีนาง หยุนถิงย่อมต้องล้างแค้นด้วยตัวเอง

เมื่อเห็นเช่นนี้จวินหย่วนโยวก็ไม่พูดอะไรมาก เดินไปปิดหน้าต่าง จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุม กอดหยุนถิงและนอนลง

อาจเป็นเพราะมีจวินหย่วนโยวอยู่ข้างๆ ไม่นานหยุนถิงก็ผล็อยหลับไปแล้ว

แต่จวินหย่วนโยวที่อุ้มนางอยู่กลับลืมตาขึ้นมา มองดูใบหน้าของหยุนถิง ดวงตาของจวินหย่วนโยวลึกล้ำ และมองไปที่ทิศทางของหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว

ในเมื่อหยุนถิงไม่อยากบอก แน่นอนว่าจวินหย่วนโยวเองก็จะไม่คำอะไรมาก ขอให้นางสบายดีก็พอแล้ว

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หยุนถิงก็พักฟื้นอยู่ที่จวนซื่อจื่อมาโดยตลอด และไม่ได้ออกไปไหนเลย

ทุกวันจวินหย่วนโยวก็จะอยู่เป็นเพื่อนนาง ป้อนข้าวและป้อนดื่มแถมยังเดินเล่นและพูดคุยกับนาง เพราะกลัวว่านางจะเบื่อ

ในพริบตาวันสอบบรรจุขุนนางก็มาถึง เดิมทีจวินหย่วนโยวไม่อยากให้หยุนถิงไป แต่ก่อนหน้านี้หยุนถิงได้สัญญากับฝ่าบาทแล้วว่านางจะไปคุมสอบ ดังนั้นจู่ๆมาบอกว่าไม่ไปก็ไม่ดี

ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงไปเป็นเพื่อนหยุนถิงที่สนามคุมสอบตั้งแต่เช้าตรู่เลย และผู้คุมสอบคนอื่นๆเห็น ก็รีบทำความเคารพในทันที

“ทุกคนอย่าได้เคร่งครัดเกินไป ควรทำอะไรก็ทำ ข้าก็แค่มาเป็นเพื่อนซื่อจื่อเฟย”จวินหย่วนโยวพูดอย่างเย็นชา

“พ่ะย่ะค่ะ”

จวินหย่วนโยวพาหยุนถิงไปที่ห้องรอเพื่อพักผ่อน ผู้คุมสอบคนอื่นๆ ต่างก็เข้านั่งกัน ผู้เข้าสอบต่างก็เข้ามานั่งทีละคน เมื่อเสียงฆ้องดังขึ้น ก็แจกกระดาษข้อสอบ ทุกคนต่างก็เขียนอย่างรวดเร็ว ต่างก็เริ่มเขียนอย่างละเอียด

หยุนถิงเหลือบมองด้านในจากนอกหน้าต่าง กลับเห็นจ้าวเคอ ซึ่งทำให้นางประหลาดใจเล็กน้อย

การสอบในครั้งนี้มีหลายสิบรอบ แต่นางกลับบังเอิญได้มารับผิดชอบการสอบรอบนี้ของจ้าวเคอ ช่างบังเอิญเกินไปแล้ว

ดังนั้นหยุนถิงซึ่งเดิมมีแผนจะเข้าไปเดินสำรวจดู ก็หยุดความคิดนี้ในทันที และให้คนส่งน้ำชาและของว่างและนั่งทานในศาลานอกห้องสอบกับจวินหย่วนโยว

“หยุนถิงเจ้าก็อยู่ที่นี่เช่นกันหรือ ข้าได้ว่าเจ้ามาคุมสอบจึงมาดูเจ้าโดยเฉพาะเลย” องค์ชายสี่เดินเข้ามาและพูด

หลีอ๋องโม่ฉือหานที่อยู่ข้างหลังก็เดินเข้ามา เหลือบมองใบหน้าที่สดใสของหยุนถิง ก็รู้ว่านางฟื้นฟูได้ดีมากแล้ว

“ใช่ ข้าสัญญากับฝ่าบาทว่าจะมาคุมสอบ” หยุนถิงตอบ จากนั้นก็เหลือบมองหลีอ๋อง

“ไม่กี่วันก่อน ขอบคุณที่หลีอ๋องออกมือช่วย”

แม้จะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงช่วยตัวเอง แต่ก็เป็นเพราะโม่ฉือหานออกมือช่วย มิฉะนั้นตัวเองคงไม่สามารถหลบหนีการตามฆ่าของเหล่านักฆ่านั้นได้อย่างแน่นอน

“ข้าก็แค่บังเอิญเท่านั้น” โม่ฉือหานทำเสียงเชอะ

“พี่รองเจ้าช่วยหยุนถิงไว้ ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่ สมองของเจ้าถูกลาถีบหรือ เจ้าจะช่วยหยุนถิงได้อย่างไร?” องค์ชายสี่ตกตะลึงยิ่งนัก

ต่อให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ พี่รองที่เกลียดหยุนถิงแทบตายนั้น กลับช่วยนางเอาไว้

โม่ฉือหานกลอกตาใส่เขา “ข้าบอกแล้วว่า บังเอิญ แค่นี้แหละ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือ?”

มุมปากของโม่ฉือชิงกระตุกเล็กน้อย “พี่รองเจ้าพูดดีๆไม่ได้หรือ ทำไมต้องโมโหด้วย”

“ข้าเป็นคนไม่ชอบติดบุญคุณคนอื่น ในเมื่อหลีอ๋องเคยช่วยข้าไว้ครั้งหนึ่ง เช่นนั้นข้าก็จะตอบแทนบุญคุณท่าน” หยุนถิงตอบอย่างเฉยชา

“บุญคุณของข้าไม่ได้ตอบแทนได้อย่างง่ายดายนัก” โม่ฉือหานกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

เขาสามารถใช้ประโยชน์บุญคุณนี้ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น

“หลีอ๋องนกเขาไม่ขันไม่ใช่หรือ ข้าช่วยท่านรักษา ไม่รู้ว่าบุญคุณนี้เพียงพอหรือไม่?” หยุนถิงถามกลับ

คำเดียว ทำเอาหลีอ๋องเดิมทีที่ยังภาคภูมิใจในตัวเองอยู่นั้นสีหน้ามืดครึ้มลงในทันที แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่ทุกคนรู้ แต่ถูกหยุนถิงพูดออกมาต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ ใบหน้าของ โม่ฉือหานก็รู้สึกอายยิ่งนัก

“หากหลีอ๋องไม่พอใจ ก็ถือว่าซื่อจื่อเฟยของข้าไม่ได้พูด แขนของซื่อจื่อเฟยยังฟื้นฟูไม่ดี ไม่เหมาะที่จะทำกิจกรรมต่างๆ จำเป็นต้องพักผ่อน” จวินหย่วนโยวทำเสียงเชอะ

“ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าไม่พอใจ ในเมื่อหยุนถิงได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นข้าเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เพียงแต่ว่าตรงนี้เป็นสนามสอบ ไม่ค่อยสะดวก” โม่ฉือหานจ้องมองจวินหย่วนโยวอย่างแรง แล้วทำเสียงเชอะ

นกเขาไม่ขันเป็นเรื่องที่รบกวนเขามานานแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดที่จะให้หยุนถิงช่วย เพียงแต่ว่าหยุนถิงหัวแข็งฟังอะไรไม่เข้าเลย แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองแค่บังเอิญช่วยนางไว้ นางกลับเป็นคนเสนอขึ้นมาเอง โอกาสที่ดีเช่นนี้โม่ฉือหานจะยอมพลาดไปได้อย่างไร

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท