จอมนางข้ามพิภพ บทที่416 หลีอ๋องขี้ใส่เตี่ยวแล้วจริงด้วย
เหล่าทหารตกตะลึงกันหมด โม่หลานคนนี้ดุเกินไปหรือเปล่า ดีไม่ดีก็ฟันดาบ เป็นผู้หญิงที่ดุจริงๆเลย เหล่าทหารต่างก็คิดในใจว่าต่อไปห้ามล่วงเกินคุณหนูโม่โดยเด็ดขาด
ท้องที่อึดอัดของโม่ฉือหานก็ยิ่งอึดอัดไปใหญ่ หากไม่ใช่เพราะกลัวเสียหน้า เขาคงไปในป่านานแล้ว เมื่อเห็นดาบยาวที่ฟันมาของโม่หลาน โกรธจนขมวดคิ้ว และโจมตีด้วยหมัก
แต่จะยังไงโม่หลานก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่อาศัยอยู่แต่ในห้อง และยิ่งไม่ใช่กังฟูที่สวยแต่รูป พ่อของโม่หลานเป็นแม่ทัพใหญ่ และค่อยติดตามกับพี่ชายในค่ายทหารมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีอะไรทำก็แข่งกับเหล่าทหารในค่าย แถมยังคอยตามตื๊อศึกษาหาเรือกับโม่ฉีเฟิง บอกได้ว่าแรงของโม่หลานทั่วทั้งผู้หญิงของเมืองหลวงนั้นไม่มีใครสามารถเทียบได้ แม้แต่ผู้ชาย คู่ต่อสู้ก็ไม่มากนัก
ดังนั้นหมักนัั้นของโม่ฉือหานจึงไม่โดนโม่หลาน ถูกนางหลบไปได้อย่างง่ายดาย และโจมตีต่อด้วยดาบยาว
สีหน้าของโม่ฉือหานมืดครึ้ม คิดไม่ถึงว่าโม่หลานจะหลบการกโจมตีหมักนี้ของตัวเองไปได้ ดูเหมือนว่านางก็มีความสามารถที่จริง
ทั้งสองต่อสู้กันในทันที แต่ละกันโจมตีโหดเหี้ยมและอันตรายถึงชีวิต ต่างไม่ยอมแพ้ให้ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะจังหวะที่ดาบยาวของโม่หลานฟันลงบนพื้น พื้นมีรอยแผลลึกมาก
หลังจากนั้น ทั้งสองก็แข่งขันการมากกว่าสิบท่า และมีความรู้สึกที่ว่าพอๆกันเลย
เหล่าทหารต่างตกตะลึงกันไปหมด “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งคุณหนูโม่ให้เป็นรองนายพล คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธของนางจะเก่งมากเช่นนี้”
“ยังต้องพูดหรือ พ่อของนางเป็นแม่ทัพใหญ่ พี่ชายก็เป็นแม่ทัพ วิทยายุทธในตระกูลเช่นนี้จะด้อยไปถึงซะที่ไหนกันล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้ข้ายังดูถูกคุณหนูโม่ว่าเป็นผู้หญิง ตอนนี้ดูท่าแล้วข้าเป็นคนดูถูกคนอื่นไปเอง คุณหนูโม่เก่งกว่าข้ามากเลย”
“ผู้ที่สามารถรับการโจมตีของหลีอ๋องได้นั้นไม่มีกี่คน ผู้หญิงก็ยิ่งไม่มี คุณหนูโม่ตีกับท่านอ๋องนานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่พ่ายแพ้ เห็นได้ชัดว่ามีความสามารถจริง”
ทุกคนต่างนับถือโม่หลานมากในขณะนี้ และไม่มีใครกล้าดูถูกนางอีกต่อไป
ส่วนโม่ฉือหานก็คิดไม่ถึงว่าโม่หลานจะเก่งขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าไม่กี่การโจมตีก็สามารถกำจัดได้ แต่คิดไม่ถึงว่าโม่หลานยิ่งสู้ก็ยิ่งกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้ ท้องของเขาอึดอัดยิ่งนัก ออกแรง ท้องส่วนล่างแน่นขึ้นทันที
ต้องรีบทำการตัดสินอย่างรวดเร็ว เขาทนได้ไม่นานแล้ว
โม่ฉือหานมองดูที่โม่หลานกำลังโจมตีมา รีบหลบไปด้านข้าง จากนั้นก็เอามือตบไปที่ท้ายทอยของโม่หลานอย่างแรง
แต่โม่หลานก็หันกลับมาอย่างกะทันหัน หมักนั้นของโม่ฉือหานแรวยิ่งนัก ฟาดเข้าที่หน้าอกของโม่หลาน
เมื่อเห็นมือใหญ่นั้นกดอยู่บนหน้าอกของตัวเอง สีหน้าของโม่หลานก็มืดครึ้มลงในทันที “โม่ฉือหาน เจ้าเอาเปรียบข้าหรือ รนหาที่ตายชัดๆ!”
ด้วยเสียงคำรามที่ดัง โม่หลานชกหมักต่อยไปใส่บนหน้าของโม่ฉือหาน
โม่ฉือหานก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ เขินอายยิ่งนัก และยิ่งคิดไม่ถึงว่าโม่หลานจะออกมืออย่างกะทันหัน ถูกต่อยอย่างแรง ดวงตาก็แดงและบวมเหมือนหมีแพนด้าในทันที
“โม่หลาน เจ้ากำลังหาที่ตาย!” โม่ฉือหานโกรธึ้นในทันที และโจมตีด้วยหมักอย่างดุเดือด
แต่ใช้แรงมากเกินไป ทันใดนั้นก็มีเสียงปู๊ดดังขึ้นอย่างกะทันหัน สีหน้าของโม่ฉือหานแย่ลงในทันที มากพร้อมกับกลิ่นที่เหม็นเน่า
ขณะที่โม่หลานหลบการโจมตี แน่นอนว่าก็ได้ยินเสียงนั้นเช่นกัน และรู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก “หลีอ๋อง ท่านขี้ใส่เตี่ยวหรือ!”
เดิมที่นางก็เป็นคนเสียงดังอยู่แล้ว ทันทีที่คำนี้พูดออกมาเหล่าทหารที่เฝ้าดูต่างก็ได้ยินกันหมด
ทุกคนสีหน้าแข็งทื่อ เสียงในเมื่อครู่นั้นพวกเขาเองก็ได้ยินอย่างชัดเจน สีหน้าของทุกคนดูตลกมาก
สีหน้าของโม่ฉือหานเคร่งขรึมและเย็นชา อับอายอย่างมาก อายจนแทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี
ให้ตายเถอะ เขาก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะขาดหน้าขนาดนี้ โม่ฉือหานในตอนนี้จ้องมองโม่หลานด้วยความโกรธ อยากจะหั่นนางเป็นชิ้นๆ
“หลีอ๋องท่านจ้องข้าทำไม ยังไม่รีบไปความสะอาดอีก โตขนาดนี้แล้วยังขี้ใส่เตี่ยวอีก แม้แต่เด็กก็ยังเทียบมิได้ ช่างขายหน้าจริงๆเลย!” โม่หลานกล่าวด้วยความดูถูก
“หุบปาก เดี๋ยวข้าค่อยคิดบัญชีกับเจ้าในภายหลัง!” โม่ฉือหานทำเสียงเชอะด้วยความโกรธ และรีบกลับไปที่กระโจมของตัวเองทันที
จากนั้นก็เห็นองครักษ์คนสนิทของหลีอ๋องเข้าๆออกๆ ยุ่งมากนัก
โม่หลานรู้สึกสะใจยิ่งนัก โม่ฉือหานขี้ใส่เตี่ยวในที่สาธารณะ นี่เป็นข่าวใหญ่มากนัก หลังกลับไปเมืองหลวงนางจะตีกลองและกระจายข่าวให้เขา
“พี่โม่หลาน เมื่อครู่เจ้าหล่อมากเลย!” คุณชายหกพูดนับถือ
เมื่อก่อนเห็นเพียงแต่ด้านที่โม่หลานเซ้าซี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นนางใช้ดาบ คุณชายหกรู้สึกนับถือ
เป็นอย่างยิ่ง
“แน่นอนอยู่แล้ว พ่อและพี่ชายของข้าต่างก็เป็นแม่ทัพใหญ่ หากข้าไม่ได้เรื่องมากเกินไปก็ทำให้พวกเขาขายหน้าแล้วนะสิ ไปไปไป หายากนักที่เห็นหลีอ๋องขายหน้าเช่นนี้ พวกข้าไปฉลองกันหน่อย!” โม่หลานเสนอแนะ
“อืม!”
โม่หลานพาคุณชายหกและเสี่ยวอันจื่อออกไป ทั้งสามคนเดินไปด้วยหัวเราะไปด้วย เสียงหัวเราะนั้นช่างน่าประชดประชันยิ่งนัก
ทหารคนอื่นๆ ไม่กล้าหัวเราะแบบนี้ แต่พวกเขาต่างก็มีความคิดของตัวเอง เพราะหลีอ๋องที่องอาจสง่าผ่าเผยและเผด็จการเช่นนั้นกลับทำเรื่องขายหน้าเช่นนี้ออกมาได้ด้วย
โม่ฉือหานยังตั้งใจไปแช่ตัวที่แม่น้ำนอกป่าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงถึงค่อยออกมา โชคดีที่นี้มีแม่น้ำอยู่ ไม่เช่นนั้นเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
เมื่อเขากลับมา ก็รุ่งสางแล้ว
โม่ฉือหานไม่ได้กลับไปที่กระโจมของตัวเอง แต่ไปที่กระโจมของโม่หลาน วันนี้หากไม่ใช่เป็นเพราะกระโจมกับคุณชายหก ตัวเองก็คงไม่เสียหน้ามากเช่นนั้น นัยน์ตาที่แหลมคมของโม่ฉือหานฉายความมืดมนและโหดร้ายโม่ฉือหาน
เขาเป็นเทพสงครามแห่งแคว้นต้าเยียน กดดันทั่วทั้งสี่แว่นแคว้น และจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องขายหน้าในวันนี้ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างแน่นอน แน่นอนว่าทหารเหล่านั้นไม่กล้า แต่โม่หลานและเจ้าหนูตัวแสบสองตัวนี้กล้าแน่นอน
ดังนั้นหากจะปิดปากของพวกเขา ก็ต้องลงมือก่อน
ในขณะนี้โม่ฉือหานเกิดใจอาฆาตจริงๆ เขาหันไปและกำลังจะไปเรียกองครักษ์ จู่ๆองครักษ์คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมา
“หลีอ๋อง ซื่อจื่อเฟยของข้าสั่งว่า หากคุณชายหกเกิดอะไรขึ้น จวนซื่อจื่อและจวนตระกูลหยุนจะไม่มีวันยอมวางมือยุติเรื่องราวได้อย่างง่ายดายแน่นอน หลีอ๋องอาจไม่กลัว แต่ข้าขอเตือนหลีอ๋องด้วยความหวังดี ครั้งนี้เหตุผลที่แคว้นเป่ยลี่เกิดความขัดแย้งภายใน เป็นเพราะซื่อจื่อของข้าลงมือเอง
ซื่อจื่อเพียงแค่ลงมือ ก็สามารถทำให้แคว้นเป่ยลี่เกิดความขัดแย้งภายใน หากเป็นแคว้นต้าเยียนก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากตอนนั้นแคว้นต้าเยียนเกิดความขัดแย้งภายใน สาเหตุเกิดจากหลีอ๋อง เกรงว่าต่อให้ฝ่าบาทจะคำนึงถึงภราดรภาพมากเพียงใด ก็จะลงโทษหลีอ๋องอย่างรุนแรง ดังนั้นหลีอ๋องโปรดระวังตัวให้มากนัก! ” องครักษ์ลับทำเสียงเชอะอย่างเย็นชา
โม่ฉือหานโกรธมาก เส้นเลือดบนหน้าผากเต้นช้าๆ และจ้องมององครักษ์ลับคนนั้งอย่างโกรธจัด คิดไม่ถึงว่าการขัดแย้งภายในของแคว้นเป่ยลี่จะเกิดฝีมือของหย่วนโยว เขามีความสามารถมากเยี่ยงนี้ ตัวเองดูถูกเขาเกินไปแล้ว
ถูกข่มขู่ในที่สาธารณะเช่นนี้ โม่ฉือหานก็รู้สึกเสียหน้ามาก “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าด้วยหรือ?”
มุมปากขององครักษ์ลับเย้ยหยัน “หลีอ๋องสามารถลองดูได้!” จากนั้น ก็ผิวปาก
ทันใดนั้นป่าที่อยู่ใกล้เคียงก็สั่นอย่างรุนแรง แม้ว่าจะไม่มีใครปรากฏตัว แต่มีผิวปากนับไม่ถ้วนตอบกลับ
โม่ฉือหานเลิกคิ้วขึ้น โชคดีที่เมื่อครู่เขาไม่ได้หุนหันพลันแล่น องครักษ์ลับเยอะขนาดนี้มีมากถึงสิบกว่าคน หากฆ่าทิ้งทั้งหมดก็ยังดี แต่หนีออกไปได้แม้แต่หนึ่งคน เช่นนั้นเขาคงต้องขัดใจกันกับจวนซื่อจื่อและจวนตระกูลหยุนอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นมันไม่เอื้อผลต่อตัวเองจริง
“ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด แน่นอนว่าก็ต้องปกป้องผู้คนที่ออกไปรบด้วยกันอยู่แล้ว!” โม่ฉือหานทิ้งประโยคนี้ไว้ หันหลังและจากไป
เมื่อองครักษ์ลับเห็นเช่นนี้ จึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก และบินจากไปทันที