จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 438 ทำไมเจ้าถึงทรยศเขาเล่า
โม่หลานแสร้าทำหน้าหวาดกลัว “อ๋องเก้า ท่านเข้ามาได้อย่างไรกัน ข้ากลัวนัก—“
คำที่พูดออกมา นางเองยังอยากอาเจียนเลย
สตรีผู้หนึ่งที่ถือกระบี่ใหญ่ วันๆเอะอะโผงผาง กลับต้องมาทำเป็นสตรีแน่งน้อยขวยอาย ทำให้อ๋องเก้ายิ่งคันคะเยอหัวใจ ทนไม่ไหวแล้ว
“อย่ากลัวไปเลยสาวน้อย ขอเพียงเจ้ายอมข้า ข้าจะดีกับเจ้าแน่นอน” อ๋องเก้าบอกกระหยิ่มยิ้มย่อง
เพียงแต่เขายังไม่ทันแตะต้องโม่หลาน โม่หลานพลันตอบโต้ คว้าแขนเขาหมับ ตวัดไขว้หลัง
อ๋องเก้าเจ็บปวดยิ่งนัก “นังหญิงน่าตายนัก เจ้ากล้าลอบกัดข้า!”
ถึงเขาจะเป็นบุรุษ หากปกติวันๆไม่ทำอะไรเอาแต่กิน ชอบไปที่อโคจร โดนสตรีสูบเลือดสูบพลังหยางในตัวไปหมดแล้ว ต่อให้โม่หลานไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน ก็ยังสลัดนางไม่ออก
หยุนเสี่ยวลิ่วและเสี่ยวอันจื่อที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูพุ่งเข้ามาทันที คนหนึ่งง้างปากของอ๋องเก้าออก อีกคนยัดเม็ดยาใส่ปากเขา
อ๋องเก้าดิ้นรนแทบตายไม่ยอมกิน พยายามอาเจียนมันออกมา
“ยังคิดอาเจียน หาเรื่องโดนอัด!” หยุนเสี่ยวลิ่วซัดกำปั้นใส่ท้องเขาหมัดใหญ่อย่างเดือดดาล
“อ๊าก!” อ๋องเก้าร้องด้วยความเจ็บปวด อ้าปากบัดดล หยุนเสี่ยวลิ่วตบปากเขาอย่างแรง ให้อ๋องเก้ากลืนยาลงไป
ภาพนี้เกิดขึ้นในแค่ชั่วพริบตา องครักษ์ที่หน้าประตูอยากจะเข้ามายับยั้งก็ไม่ทันการณ์แล้ว
“ปล่อยอ๋องเก้านะ!” องครักษ์ร้องเสียงดัง รีบพุ่งเข้ามาทันที
“รีบช่วยข้าเร็ว!” อ๋องเก้าตะโกนให้ช่วยเสียงดัง
โม่หลานถึงผลักเขาออก อ๋องเก้าที่เป็นอิสระรีบวิ่งไปหาองครักษ์ “ฆ่าพวกมันซะ ไอ้สารเลวพวกนี้กล้าลอบกัดข้า น่าตายนัก!”
หยุนเสี่ยวลิ่วเอ่ยปากเสียงเย็น “อ๋องเก้ากลืนยาพิษของข้าไปแล้ว หากมิมียาถอนพิษแล้ว ต้องเลือดไหลออกเจ็ดทวารจนตายแน่”
อ๋องเก้าตกใจจนสีหน้าซีดเผือด “ไอ้หนูเจ้ากล้าวางยาพิษข้า ตอนนี้ข้าจะหั่นเจ้าทั้งเป็น!”
“เจ้ากล้า คิดแตะต้องเจ้าหนูนี่ผ่านด่านข้าให้ได้ก่อน!” โม่หลานเข้ามาขวางหน้าหยุนเสี่ยวลิ่วในบัดดล
หยุนเสี่ยวลิ่วซาบซึ้งใจมาก “พี่หญิงโม่หลานวางใจเถิด พิษนี้พี่ใหญ่ข้าเป็นคนปรุงขึ้น มีเพียงพี่ใหญ่ข้าเท่านั้นที่ถอนพิษได้ หากข้าเป็นอะไรไป อ๋องเก้าได้แต่รอความตายเท่านั้นเอง”
ระหว่างพูด สีหน้าอ๋องเก้ามุ่นเป็นปม จากนั้นเขายกมือกุมหน้าท้อง ร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดทรมานนัก สุดท้ายเกลือกกลิ้งบนพื้นไปมา
“ยาถอนพิษ เอายาถอนพิษให้ข้าเดี๋ยวนี้!” อ๋องเก้าร้องเสียงดัง
“ข้าบอกแล้วว่าไม่มียาถอนพิษ แต่ข้าช่วยเจ้าบรรเทาความทรมานได้ เพียงแต่พวกเราไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงเลย” หยุนเสี่ยวลิ่วเบ้ปาก
“เร็ว รีบหาของกินมาให้พวกเขาซะ เร็วสิ!” อ๋องเก้าเร่งเร้า
“ขอรับ!” องครักษ์คนหนึ่งรีบไปจัดการ
“พวกเจ้าสองคนไปกราบทูลไท่จื่อซะ!” องครักษ์อีกคนบอก
“รีบไปเชิญหมอหลวงมา!” อ๋องเก้าสั่งการ
“ขอรับ!”
อ๋องเก้าโดนยาพิษมิใช่เรื่องเล็กเลย เหล่าองครักษ์ไม่กล้าชักช้า รีบไปรายงานเป่ยหมิงฉี่ทันที
ไม่นาน เหล่าคนรับใช้ก็ยกอาหารเลิศรสมาเต็มโต๊ะ โม่หลานมองตาแทบถลน รีบพุ่งเข้าไป ไม่สนใจตะเกียบสักนิด ยื่นมือดึงขาไก่มาข้างหนึ่งกัดกินคำโต
หยุนเสี่ยวลิ่วและเสี่ยวอันจื่อเองก็หิวมาก ทั้งสามคนลืมมารยาทหมดสิ้น สวาปามจัดเต็ม
อ๋องเก้ามองดูอย่างเดือดดาลนัก แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาโกรธมากยิ่งนัก
ไม่นาน เป่ยหมิงฉี่พาหมอหลวงมาด้วยตัวเอง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
พออ๋องเก้าเห็นคนมา ก็กอดเป่ยหมิงฉี่อย่างน่าสงสารพลางร้องไห้บอก “ท่านพี่ไท่จื่อ ท่านต้องช่วยข้านะ ข้าโดนไอ้เด็กบ้านี่วางยาพิษแล้ว ท่านไม่สนใจข้าไม่ได้นะ ท่านเป็นพี่ชายแท้ๆของข้านะ”
เป่ยหมิงฉี่สีหน้าเย็นเยียบ “หากเจ้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยม พวกมันจะวางยาพิษเจ้าได้รึ?”
อ๋องเก้าสีหน้ากระอักกระอ่วน “ท่านพี่ไท่จื่อ นังหญิงน่าตายนี่ยั่วยวนข้าน่ะ”
“หากมิใช่เจ้าลามกไม่เลิก ข้าจะยั่วยวนเจ้าเช่นไรก็ไม่มีประโยชน์” โม่หลานย้อน
“เจ้าหุบปากไปเลย ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ท่านพี่ไท่จื่อ ตอนนี้ท่านให้คนจับพวกมันสับเป็นหมื่นๆชิ้นเลย!” อ๋องเก้าแผดเสียงอย่างเดือดดาล
เป่ยหมิงฉี่เหล่มองหยุนเสี่ยวลิ่วด้วยสายตาคมปลาบ “ส่งยาถอนพิษออกมา ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่นอน”
“พี่ใหญ่ของข้าคือหยุนถิง หากเจ้าฆ่าข้า หรือไม่ดีต่อข้า พี่ใหญ่และพี่เขยซื่อจื่อของข้าต้องฆ่าล้างบางแคว้นเป่ยลี่แน่!” หยุนเสี่ยวลิ่วย้อนอย่างเย็นชา ไม่กลัวเลยสักนิด
เป่ยหมิงฉี่ยิ้มมุมปากอย่างไม่แยแส “เท่าที่ข้ารู้ เจ้ามิได้สนิทสนมอะไรกับหยุนถิงนัก ก่อนหน้านี้เจ้าเจอหยุนถิงแต่ละครั้งก็ทะเลาะกัน หรือกระทั่งลงไม้ลงมือต่อกัน นางไม่ชอบเจ้านัก มีหรือจะมาช่วยเจ้า”
หยุนเสี่ยวลิ่วมุมปากกระตุก “นั่นคือเมื่อก่อน ระยะนี้ข้าติดตามพี่ใหญ๋เรียนรู้วิชาแพทย์และวรยุทธ์ในจวนซื่อจื่อตลอด ครั้งนี้ข้าสามารถติดตามหลีอ๋องมาแคว้นเป่ยลี่ พี่ใหญ่ข้าเป็นคนเสนอชื่อข้าเอง ยาพิษนี้นางให้ข้ามาป้องกันตัว ไม่เชื่อเจ้าไปถามพี่ใหญ่ข้าได้เลย”
เป่ยหมิงฉี่ไม่คิดเลยว่า หยุนเสี่ยวลิ่วผู้นี้จะใจกล้าอยู่บ้าง “ข้าไม่ว่างไปหาหยุนถิง พูดมาสิ ทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมให้ยาถอนพิษ?”
“ท่านพี่ไท่จื่อ ท่านจะโดนไอ้หนูนี่หลอกไม่ได้นะ มันชั่วร้ายนัก” อ๋องเก้าเตือน
“มิเป็นไร ชีวิตของเจ้าสำคัญที่สุด”
คำพูดนี้ของเป่ยหมิงฉี่ ทำให้อ๋องเก้าตื้นตันใจนัก
“อันที่จริงข้ามิได้ต้องการสิ่งใดมาก รับรองความปลอดภัยของพวกเรา และมีเนื้อมีปลาทุกมื้อ อย่าให้น้ำชามเดียวในทุกมื้อก็พอแล้ว” หยุนเสี่ยวลิ่วตอบ
พอเป่ยหมิงฉี่ได้ยินดังนั้น ก็มองไปทางอ๋องเก้าด้วยสายตาเย็นเยียบ ก่อนหน้านี้เขาสั่งการทหารให้รับรองพวกเขาให้ดีไม่งดเว้นอาหารใดๆ เห็นได้ชัดว่าอ๋องเก้าอาศัยโอกาสนี้แก้แค้นส่วนตัว ดังนั้นพวกหยุนเสี่ยวลิ่วเลยต้องกระทำเช่นนี้
“ข้ารับปากเจ้า!”
“เป่ยหมิงฉี่ พอดีเลย ข้ามีข้อตกลงจะคุยเรื่องการร่วมมือกับท่าน” โม่หลานกัดขาหมูคำหนึ่ง พูดอุบอิบออกมา
“ร่วมมืออย่างไร?”
“พวกเราร่วมมือกัน ใช้พวกเราสามคนแลกกับหลีอ๋องดีไหม พวกเราสามคนไม่สำคัญอันใด และฐานะของหยุนเสี่ยวลิ่วก็บอกอยู่ ท่านทำอะไรเขาไม่ได้ แต่หลีอ๋องไม่เหมือนกัน เขาคือหลีอ๋องแห่งแคว้นต้าเยียน อีกทั้งยังเป็นน้องชายแท้ๆของฮ่องเต้ หากท่านจะเจรจากับแคว้นต้าเยียน หลีอ๋องเป็นตัวประกันที่ดีที่สุด!” โม่หลานเลิกคิ้วบอก
เป่ยหมิงฉี่มองมาอย่างสงสัย “ทำไมเจ้าทรยศเขาเล่า?”
“ข้าทรยศเขา โม่ฉือหานคู่ควรรึ พวกเราสามคนโดนท่านจับตัวมานานขนาดนี้แล้ว เขาไม่มาช่วยพวกเรา เห็นได้ชัดว่าเจ็บแค้นที่ข้าทำให้เขาขี้แตกราดกางเกงระหว่างทาง อยากให้พวกเราเอาตัวรอดเอาเอง” โม่หลานพูดเสียงดัง
“ขี้แตกราดกางเกง?”
หยุนเสี่ยวลิ่วเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาง่ายๆ เป่ยหมิงฉี่ที่เย็นชาเข้มงวดมาตลอดขบขันออกมา ขนาดอ๋องเก้าที่มือกุมท้องอย่างเจ็บปวดยังหัวเราะจนตัวโยน
“เป็นถึงหลีอ๋องแห่งแคว้นต้าเยียนกลับขี้แตกราดกางเกง น่าขันนัก!” อ๋องเก้าหัวเราะเสียงดัง
เป่ยหมิงฉี่มองเหล่เขา “เจ้ายังมีหน้าหัวเราะอีก!”
อ๋องเก้าหุบปากทันที ไม่กล้าหัวเราะอีก
“ข้ารับปากร่วมมือกับพวกเจ้า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การกินการอยู่ของพวกเขาต้องดีที่สุด หากใครกล้าละเลย ข้าจะไม่ละเว้นแน่ โดยเฉพาะเจ้า อ๋องเก้า!” เป่ยหมิงฉี่แค่นเสียงเย็น