จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 453 ผู้หญิงของตัวเองก็ดูแลเองสิ
“ไม่ใช่ความฝัน เป็นเรื่องจริง ข้าจะต้องช่วยท่านออกไปให้ได้!” จวินหย่วนโยวปลอบโยน
“เจ้าช่างมีมโนธรรมจริงๆ ถึงกับมาช่วยข้าด้วยตัวเอง แต่ว่าที่นี่อันตรายมาก เจ้ารีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า” ท่านลั่วกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“ฮูหยินเฒ่าฟู่ยังรอท่านอยู่ ข้าบอกกับนางว่าจะช่วยท่านออกไปให้ได้ ท่านต้องอดทนยืนหยัดเอาไว้นะ” จวินหย่วนโยวปลอบโยน
ได้ยินชื่อฮูหยินเฒ่าฟู่ ดวงตาที่พร่ามัวไร้ชีวิตชีวาของท่านลั่วค่อยๆรวมแสงที่จุดหนึ่งช้าๆ เบ้าตาถึงกับแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย
“ข้าผิดต่อนางเอง ชาตินี้เกรงว่าคงต้องผิดคำพูดแล้ว หากข้าเป็นอะไรไป เจ้าหนูจวินเห็นแก่ที่ข้าดูแลเจ้ามานานหลายปี รบกวนเจ้าดูแลฮูหยินเฒ่าฟู่ให้มากๆด้วย” ท่านลั่วกล่าวกำชับ
“ไม่ได้ ข้าต้องดูแลถิงเอ๋อร์ ไม่มีเวลาสนใจคนอื่น ผู้หญิงของตัวเองก็ดูแลเองสิ!” จวินหย่วนโยวปฏิเสธโดยตรง
ท่านลั่วที่เดิมทีทำตัวอนาถเรียกร้องความสนใจ จู่ๆก็โมโหเพราะความอับอายทันที “เจ้าเด็กบ้ายังกลัวเมียเหมือนเดิมเลยนะ ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดจริงๆ อีกอย่าง ฮูหยินเฒ่าฟู่เป็นผู้หญิงของข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
กล่าวถึงตอนท้าย ใบหูของท่านลั่วแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย
“ก่อนที่ข้าจะมา ฮูหยินเฒ่าฟู่บอกว่าหากท่านตาย ก็ให้ข้าฝังท่านกับนางเอาไว้ด้วยกัน!”
คำพูดประโยคเดียวเพียงพอจะแสดงให้เห็นถึงความรักและความทุ่มเทที่ฮูหยินเฒ่าฟู่มีต่อท่านลั่ว ท่านลั่วฟังแล้วก็ยิ่งประทับใจอย่างมาก
จวินหย่วนโยวปลอบโยนไปอีกสองสามคำ ทิ้งสารอาหารเหลวและยาถอนพิษเอาไว้เล็กน้อย ถึงได้จากไป
ตอนที่เขาออกไป ซ่างกวนหรูยังไม่ตื่น คิ้วที่เย็นชาดุร้ายของจวินหย่วนโยวขมวดขึ้นมา สั่งให้หลงซื่อเข้ามาประคองซ่างกวนหรูไปบนเตียง
ช่วยท่านลั่วออกไปไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะเก็บหอเทพเซียนเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นจวินหย่วนโยวต้องการจะกำจัดให้สิ้นซากในคราวเดียว!
ก่อนจะมาหยุนถิงเคยบอกไว้ว่า ถ้าหากมีความจำเป็นสามารถหามู่ว่านว่าน ตอนนี้ในหอเทพเซียนแห่งนี้ ก็พึ่งได้แค่นางเท่านั้นแล้ว
เพียงแต่ตอนนี้จวินหย่วนโยวเป็นลูกศิษย์ของหอเทพเซียน ย่อมไม่สามารถสอบถามที่พำนักของคุณหนูรองอยู่แล้ว ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงให้องครักษ์เงามังกรทั้งหมดแยกย้ายกันตามหาทันที
“หลังจากที่คุณหนูรองของเรากลับมาแล้วก็อยู่ในลานตลอดไม่ออกไปไหนเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยของคุณหนูรองเลยนะ เจ้าว่าคุณหนูรองคงจะไม่โดนอาคมหรอกใช่ไหม” ไม่ไกลออกไปลูกศิษย์คนหนึ่งกล่าวขึ้นมาขณะที่กำลังเดินอยู่
“เมื่อก่อนคุณหนูรองเอาแต่ตามติดคุณหนูใหญ่ตลอด กินข้าวก็ยังไม่แยกจากกัน หลังจากที่กลับมาครั้งนี้ข้ารู้สึกว่าคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองของเราห่างเหินไปมาก ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของสองคนนี้ จวินหย่วนโยวมองไปทางทิศทางที่พวกเขามา หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป จวินหย่วนโยวก็เดินเข้าไปทันที
เพียงแต่ว่าหอเทพเซียนใหญ่เกินไป จวินหย่วนโยวได้แต่เดินไปตามความรู้สึก แต่แล้วยิ่งเดินคนก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็เดินไปถึงข้างสระน้ำพุร้อนแห่งหนึ่ง
ภายในสระน้ำพุร้อนมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังแช่น้ำพุร้อนอยู่ ควันหนาทึบลอยวนเวียน ผิวขาวเนียนยิ่งกว่าหิมะ เย้ายวนมีเสน่ห์ เวลานี้นางกำลังหันหลังให้กับจวินหย่วนโยว
จวินหย่วนโยวหลบไปด้านหลังภูเขาเทียมโดยสัญชาตญาณ ก้าวเท้ากำลังจะจากไป แต่แล้วก็ไปเหยียบกิ่งไม้แห้งโดยไม่ทันได้ระวัง ทำให้เกิดเสียงขึ้นมา
“ใครอยู่ตรงนั้น?” มู่เซียวเซียวมองมาด้วยสายตาเฉียบคม
จวินหย่วนโยวรู้ตัวว่าไม่สามารถออกไปได้แล้ว กำลังจะเอ่ยปาก ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน
“พี่ใหญ่ ข้าเอง!” มู่ว่านว่านเดินเข้ามา
“น้องหญิงรอง ทำไมถึงเป็นเจ้าได้?”
ตั้งแต่กลับมาจากแคว้นต้าเยียน มู่ว่านว่านก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถึงแม้จะยังเคารพนบนอบต่อตนเองอย่างยิ่ง แต่กลับไม่สนิทสนมและเป็นธรรมชาติเหมือนในอดีต ตรงกันข้ามกลับแฝงไปด้วยความห่างเหิน
มู่เซียวเซียวคาดเดาอะไรได้รางๆ แต่กลับไม่มีหลักฐาน ยิ่งไปกว่านั้นมู่ว่านว่านก็ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อนางได้เลย ดังนั้นมู่เซียวเซียวจึงไม่ได้สนใจ
“ข้าเดินผ่านทางนี้ ได้ยินเสียงก็เลยเข้ามาดูหน่อย คิดไม่ถึงว่าเป็นพี่ใหญ่ ข้ารบกวนพี่ใหญ่ใช่ไหม?” มู่ว่านว่านถาม
“จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ข้าเพียงแต่ได้ยินเสียงกะทันหัน ดังนั้นก็เลยถามขึ้นมาเท่านั้น น้องสาวเจ้าจะแช่พร้อมข้าหรือไม่?” มู่เซียวเซียวแสร้งทำเป็นใจกว้าง
“ไม่ต้องแล้ว ข้าอยากจะไปเดินเล่นหน่อย พี่ใหญ่ท่านค่อยๆแช่ไปเถอะ” มู่ว่านว่านหันหลังจากไป
มู่เซียวเซียวมองดูแผ่นหลังของนาง ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ แต่กลับไม่ได้ขัดขวาง
เพราะมีภูเขาเทียมกั้นอยู่ ดังนั้นมู่เซียวเซียวจึงไม่เห็นจวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านหลังภูเขาเทียม และมู่ว่านว่านเดินเข้าไป ทำสัญญาณมือให้กับจวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านหลังภูเขา จวินหย่วนโยวติดตามนางจากไปทันที
หลังจากที่เดินออกไปไกลมากแล้ว มู่ว่านว่านถึงได้หยุดลงมา “เอาล่ะ เจ้ารีบจากไปเถอะ หากพี่ใหญ่ข้ารู้ว่าเจ้าแอบดูนางอาบน้ำ นางจะต้องควักลูกตาทั้งคู่ของเจ้าแน่นอน”
จวินหย่วนโยวมองพิจารณามู่ว่านว่านที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีความยโสโอหัง ใช้อำนาจบาตรใหญ่เหมือนตอนที่แคว้นต้าเยียนครั้งก่อน ดูสุขุมและไม่แยแสเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ดูท่าหลังจากผ่านการทรยศของญาติสนิทแล้วก็เติบโตขึ้นมาไม่น้อย
“มู่ว่านว่าน ข้าเอง!” จวินหย่วนโยวส่งเสียงออกมากะทันหัน
มู่ว่านว่านมองไปทางเขาด้วยความตกตะลึง เสียงที่เย็นยะเยือกนี่ทำให้นางรู้สึกคุ้นหูอย่างอธิบายไม่ถูก “ท่าน ท่านคือ?”
“จวินหย่วนโยว!”
“ทำไมท่านถึง?” มู่ว่านว่านเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ข้ามาเพื่อช่วยท่านลั่ว ถิงเอ๋อร์บอกว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าได้ ตอนนี้ข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้า!” จวินหย่วนโยวกล่าวขึ้นมาอย่างตรงประเด็น
มู่ว่านว่านถึงได้สงบนิ่งลงมาเล็กน้อย หมอยมบาลช่วยดูแลสุขภาพของจวินหย่วนโยวมาโดยตลอด หลายวันก่อนเขาถูกท่านพ่อจับตัวมา จวินหย่วนโยวย่อมต้องมาช่วยคนอยู่แล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความสามารถเช่นนี้ ถึงกับปลอมตัวเป็นลูกศิษย์ของหอเทพเซียน
นึกถึงการตัดขาดไมตรีและไม่คำนึงถึงความเป็นความตายที่ท่านพ่อมีต่อตนเอง ตลอดจนการหลอกใช้และทำร้ายที่พี่ใหญ่มีต่อนาง มู่ว่านว่านสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความแน่วแน่และเย็นชา
“ตกลง ข้าช่วยท่าน!”
…………..
แคว้นต้าเยียน
หยุนถิงกำลังตากแดดอยู่ในลาน มองดูจดหมายที่จวินหย่วนโยวเขียนให้นาง อารมณ์ดีอย่างยิ่ง
บ่าวรับใช้ชายคนหนึ่งพาซูชิงโยวเดินเข้ามา “ซื่อจื่อเฟย คุณหนูซูขอพบ!”
“หยุนถิง ครั้งนี้ข้ามาเพื่อขอให้เจ้าช่วย” ซูชิงโยวเอ่ยปาก
“หาข้ามีเรื่องอะไร?” หยุนถิงถาม
“น้องสาวข้าซูซินโหรวหายตัวไป ถึงแม้นางมักจะวางกลอุบายต่อหน้าข้าเสมอ ข้าก็ไม่ชอบนางเช่นกัน แต่พ่อข้าจะให้ข้ามาขอร้องเจ้าให้ได้ เจ้าจะช่วยส่งคนออกไปตามหาหน่อยได้ไหม นางไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้ว” ซูชิงโยวเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์
ทันใดนั้นหยุนถิงก็นึกถึงเมื่อสองวันก่อน จู่ๆก็มีข่าวลือของนางกับซวนอ๋องแพร่สะพัดไปตามถนน ตอนนั้นองครักษ์ลับกลับมารายงาน บอกว่าซูซินโหรวโต้แย้งกับชาวบ้านกลางถนน ด่าตัวเองว่าไร้ยางอาย
ยังไม่ทันที่หยุนถิงจะลงมือ นางก็หายตัวไปแล้ว ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นการกระทำของซวนอ๋อง
“ชิงโยว ข้าเห็นเจ้าเป็นพี่น้องที่สนิทกันเลยบอกความจริงกับเจ้า น้องสาวของเจ้าไม่ถึงกับตายหรอก น่าจะตายทั้งเป็นมากกว่า นางกระจายข่าวลือของข้ากับซวนอ๋อง เจ้าคิดว่าด้วยวิธีการของซวนอ๋องจะปล่อยนางไปง่ายๆได้หรือ!” หยุนถิงบอกไปตามความจริง
สีหน้าของซูชิงโยวตึงเครียดเล็กน้อย กล่าวด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณที่เจ้าบอกความจริงกับข้า นางฉลาดแกมโกงในเวลาปกติก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ถึงกับกล้ากุข่าวลือของเจ้ากับซวนอ๋อง เช่นนั้นนางก็รับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นเองแล้ว!”
“ซื่อจื่อเฟย แม่ทัพหยุนสั่งให้ข้าน้อยมาแจ้งว่าเขานำกำลังคนฝึกซ้อมยุทธวิธีการรบชุดใหม่ หากท่านมีเวลาสามารถไปชี้แนะได้” ทหารนายหนึ่งเข้ามารายงาน
ซูชิงโยวได้ยินคำว่าแม่ทัพหยุน หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก
“เลือกวันสู้วันที่เหมาะสมไม่ได้ วันนี้ข้ามีเวลาว่างพอดี ข้าเก็บของครู่หนึ่งก็จะไปที่ค่ายทหารเดี๋ยวนี้ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ขอรับ” ทหารรีบจากไปทันที
“หยุนถิง ข้าไปพร้อมกับเจ้าได้ไหม?” ซูชิงโยวถาม