จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 486 ซื่อจื่อ ท่านมีความต้องการด้วยหรือ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 486 ซื่อจื่อ ท่านมีความต้องการด้วยหรือ

ในวินาทีนี้ ซูซินโหรวคิดถึงชีวิตในจวนตระกูลซูในอดีตเป็นอย่างมาก ทำไมตอนนี้นางถึงตกอับมาถึงขั้นนี้ได้?

จะต้องเป็นหยุนถิงแน่ หยุนถิงเป็นคนทำร้ายตัวเอง นางจำได้ว่าตอนนั้นพอปล่อยข่าวลือของหยุนถิงกับซวนอ๋องออกไป ต่อมาก็ถูกคนตีจนสลบไป หลังจากนั้นก็ถูกพวกค้ามนุษย์พาตัวไป แล้วขายไปหลายทอด……

พอคิดมาถึงที่นี่ ดวงตาของซูซินโหรวก็มีแววน่ากลัวและรุนแรงพาดผ่านไป นางจะต้องหนีจากชายหมูอ้วนคนนี้ไปให้ได้ หลบหนีไปจากที่ที่ต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็นแบบนี้ แล้วก็กลับไปที่บ้านตระกูลซู กลับไปคุณหนูรองแห่งตระกูลซูของนางใหม่อีกครั้ง

แน่นอนว่าชายอ้วนไม่รู้เรื่องสถานะของนาง พอผ่านลมฝนไปรอบหนึ่งแล้ว ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นออกจากตัวนางไป พอใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกไปฆ่าหมูด้านนอกต่อ

ซูซินโหรวจ้องมองแผ่นหลังของชายหมูอ้วน ยังมีมีดฆ่าหมูที่ลับสว่างวาววับของเขา ในใจจนซูซินโหรวเกิดความคิดที่ชั่วร้ายอันหนึ่งพาดผ่านขึ้นมา

นางไม่อยากใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ตลอดชีวิต ถึงตายก็ไม่อยาก

ดังนั้นในวันนั้น ซูซินโหรวจึงไปซื้อเหล้าในเมืองกลับมานิดหน่อย แล้วก็ลงมือทำกับข้าวเองกับมือ

นางเป็นคุณหนูรองของตระกูลซู แต่ว่าตั้งแต่เด็กแม่ของนางก็สอนนางทำอาหารอย่างหนึ่ง และเรียกชื่ออย่างสวยงามว่า ถ้าอยากจะได้ใจผู้ชายมา ก็ต้องจับกระเพาะของผู้ชายเอาไว้ก่อน

แล้วก็เป็นเพราะว่าเมนูหมูตุ๋นน้ำแดงนี้ นางโจวถึงสามารถจับซูโหวเย่มาได้ตั้งหลายปีขนาดนี้ ทุกครั้งที่ซูโหวเย่อยากกินหมูตุ๋นน้ำแดง ก็จะต้องให้นางโจวเป็นคนทำให้กินทุกครั้ง

ดังนั้นนางโจวจึงถ่ายทอดฝีมือนี้ให้กับซูซินโหรว ซูซินโหรวร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าฝีมือต้องดีมากอยู่แล้ว

ช่วงที่ผ่านมานี้ ชายหมูอ้วนเห็นว่าซูซินโหรวไม่ได้ขัดขืนและอยากจะหนีเท่ากับช่วงที่มาใหม่ ๆ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเรียบร้อย จึงนึกว่านางคงจะอยากชีวิตกับตัวเองดี ๆ แล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้ควบคุมความเป็นอิสระของนาง และอนุญาตให้นางเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้านได้

ที่นี่เป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญ แล้วหมู่บ้านก็ตั้งอยู่ตรงไหล่เขา ทั้งหมู่บ้านรวมแล้วมีอยู่สิบกว่าหลังคาเรือน เป็นคนรู้จักกันทั้งนั้น

ก่อนหน้านี้มีหลายครั้งที่ซูซินโหรวอยากจะหนี ก็มีคนในหมู่บ้านไปรายงานกับชายหมูอ้วนตลอด แล้วช่วยจับตัวนางกลับมา

ซูซินโหรวใช้มือทำท่าทางไปอย่างอ่อนโยน พอชายหมูอ้วนมองออกแล้ว ก็ให้เนื้อนางมาชิ้นหนึ่ง ซูซินโหรวรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ก็เลยเอาไปทำหมูตุ๋นน้ำแดงเลย

ตอนช่วงค่ำ ชายหมูอ้วนจ้องมองหมูตุ๋นน้ำแดงหอมฉุยชามหนึ่ง แล้วน้ำลายก็ไหลออกมา กินไปอย่างเอร็ดอร่อย บวกกับเหล้าที่ซูซินโหรวซื้อมาเมื่อกลางวัน มันเรียกว่าซะใจมากจริง ๆ

พอดื่มกินอิ่มแล้ว ชายหมูอ้วนก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก แล้วก็เลยลากตัวซูซินโหรวเข้ามาในอ้อมกอด มือที่อุ่นร้อนล้วงกำไลเงินอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

รูปแบบของกำไลเงินอันนั้นเป็นรูปแบบเก่า มีสีเหลืองขึ้นมาบ้างแล้วด้วย ดูไปแล้วน่าจะมีอายุมากพอสมควร

ชายหมูอ้วนอดไม่ได้ที่จะพูด แล้วก็สวมกำไลเงินอันนั้นใส่มือซูซินโหรว

ในใจซูซินโหรวเต็มไปด้วยความรังเกียจ แค่กำไลเงินเก่า ๆ อันหนึ่งเท่านั้น แถมยังมีคราบน้ำมันด้วย นางไม่มีทางชอบหรอก เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านตระกูลซูนางใส่แต่เครื่องประดับที่นิยมที่สุดในเมืองหลวงเท่านั้น

แต่ซูซินโหรวอดกลั้นความรังเกียจในใจเอาไว้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ เพราะว่าพูดไม่ได้ นางจึงยิ้มให้ชายหมูอ้วนเล็กน้อย

ชายหมูอ้วนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก รีบทับตัวนางล้มลงไปบนเตียง แล้วก็เกิดลมฝนบ้าคลั่งขึ้นมาอีกรอบ จนกระทั่งฟ้าใกล้สว่างแล้ว ถึงเฮือกเสียงต่ำออกมาคำหนึ่งอย่างพึงพอใจแล้วก็ผละจากตัวซูซินโหรวไป แล้วล้มตัวลงด้านข้าง แล้วนอนหลับไปเลย

เสียงกรนดังราวกับเสียงฟ้าร้อง ซูซินโหรวได้ยินแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนเป็นอย่างมาก

นางรอไปครู่หนึ่ง ก็เห็นชายหมูอ้วนไม่ขยับเขยื้อนแล้ว ถึงได้ย่องลงจากเตียงไปอย่างเงียบเฉียบ ตอนที่กลับมาในมือมีมีดฆ่าหมูติดมือกลับมาด้วยเล่มหนึ่ง

ซูซินโหรวผลักชายหมูอ้วนอย่างระมัดระวังทีหนึ่ง พอเห็นเขาไม่มีการตอบสนองแล้วจริง ๆ ในดวงตาเรียวก็มีแววโหดเหี้ยมและเฉียบขาดพาดผ่านไป ยกมีดฆ่าหมูขึ้นมาก็แทบไปที่ชายหมูอ้วนอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

“อ๊าก!” ชายฆ่าหมูกรีดร้องขึ้นมาคำหนึ่ง เขาที่นอนหลับอยู่ลืมตาขึ้นมากระทะหัน แล้วจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ

“อีใบ้ที่สมควรตายอย่างเจ้า กล้าลงมือฆ่าข้าเลยหรือ!” กำปั้นหนัก ๆ ของชายหมูอ้วนทุบมาอย่างแรง

ซูซินโหรวโดนทุบจนเบลอไปหมด นางอดกลั้นความหวาดกลัวและความตกตะลึงเอาไว้ แล้วรีบชักมีดเล่มนั้นออกมา แล้วใช้แรงทั้งหมดแทงลงไปอีกครั้ง

นี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวของนาง ถ้าชายหมูอ้วนนี่ไม่ตาย นางก็จะต้องถูกตีตายแน่

แต่ว่านาง ยังอยากมีชีวิตอยู่!

มีดฆ่าหมูที่เย็นเฉียบแทงเข้าไปในตัวชายฆ่าหมูครั้งแล้วครั้งเล่า เลือดสีแดงสด ๆ สาดกระเซ็นออกมา มาสาดโดนหน้าซูซินโหรวเข้าพอดี

ตอนนี้นางถูกความหวาดกลัวและความโกรธเกลียดเข้ามาบดบังสติไปแล้ว แทงเข้าไปในตัวชายฆ่าหมูครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเกลียดแค้น เอาความทรมาน ความเจ็บปวด ความโกรธเกลียดทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา มาระบายใส่ลงไปในมีด

ผ่านไปครู่ใหญ่ ซูซินโหรวก็หยุดมีดลง ชายฆ่าหมูที่อยู่บนเตียงได้กลายเป็นกองเนื้อและเลือดเละเทะไปตั้งนานแล้ว

ซูซินโหรวตกใจจนโยนมีดฆ่าหมูทิ้งไปแล้วเอาเสื้อผ้าที่อยู่ข้าง ๆ มาเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าไป แล้วก็รีบร้อนวิ่งออกจากประตูบ้าน

จากช่วงที่ผ่านมานี้ ซูซินโหรวได้สำรวจเส้นทางที่จะใช้หลบหนีไว้อย่างชัดเจนแล้ว จึงถือโอกาสตอนนี้ที่ฟ้ายังไม่สว่าง แล้วรีบพุ่งตัวไปที่หลังเขาเลย

เส้นทางหลังเขานั้นมีขวากหนามเยอะมาก ซึ่งเดินลำบากมาก ปกติแล้วชาวบ้านในหมู่บ้านมักจะไม่ค่อยเดินเข้าไป แล้วก็เป็นเพราะแบบนี้ ซูซินโหรวจึงวางใจที่จะเดินมาทางหลังเขา

ถ้าให้ชาวบ้านพวกนั้นรู้ว่าตัวเองฆ่าชายหมูอ้วนไปแล้ว ก็คงจะจับตัวเองไปใส่กรงขังหมูแล้วเอาไปถ่วงน้ำแน่

ป่าเขาที่ซับซ้อน มีขวากหนามเต็มไปหมด จนข่วนชุดผ้าหยาบ ๆ บนตัวซูซินโหรวขาดไปเลย บนน่องรวมทั้งร่างกายถูกทิ่มจนเจ็บปวดสุดหัวใจ ซูซินโหรวสีหน้าขาวซีด ขมวดคิ้วไว้แน่นแล้วเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ

ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวด แต่ก็เทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดหนึ่งในหมื่นส่วนที่ชายหมูอ้วนทำกับนางไว้เลย นางจะไม่กลับไปที่หมู่บ้านนั้นอีกแล้ว ให้ตายก็ไม่กลับไป

แต่ว่าหลังเขานั้นกว้างใหญ่เกินไป ซูซินโหรวที่เคยถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีตั้งแต่แรก ไม่เคยมาอยู่ในป่ารกร้างแบบนี้มาก่อน ไม่นานก็หลงทางขึ้นมาแล้ว

รอบตัวเป็นป่าไม้เขียวชอุ่ม กิ่งไม้ที่หนาทึบบดบังแสงแดดเอาไว้ ในป่าไม้ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก ร่างกายนางทั้งตัวใกล้จะอ่อนแรงแล้ว แต่ยังเดินต่อไปข้างหน้า

ผลปรากฏว่านางไปสะดุดกับอะไรไม่รู้เข้าโดยไม่ทันได้ระวังตัว ทั้งตัวล้มลงไปกับทางลาดชันตรงหน้า แล้วไปชนกับลำต้นของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งเข้าแล้วก็หมดสติไปเลย

……

ทางด้านนี้ ที่จวนซื่อจื่อ

หยุนถิงกำลังวาดรูปอยู่ จู่ ๆ ก็จามออกมาสองครั้ง จวินหย่วนโยวถือขนมเข้ามา ก็เห็นนางจามพอดี จึงรู้สึกเป็นกังวลมาก

“เป็นหวัดแล้วใช่หรือเปล่า? เหนื่อยก็ไปพักผ่อนได้แล้ว ไม่ต้องวาดแล้ว”

“ไม่เป็นไร คิดว่าคงจะมีคนกำลังด่าข้า ข้าอยากออกแบบอาวุธอย่างหนึ่งให้เสี่ยวลิ่วกับเสี่ยวอันจื่อ เพราะว่าในสนามรบดาบกับหอกมันไม่มีตา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะฉลาดและเรียนวิชาทางทหารมาแล้ว แต่ก็ต้องระวังตัวเอาไว้” หยุนถิงตอบกลับไป

จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา “เจ้าเนี่ยนะ ปากก็บอกว่าไม่สนใจ แต่จริง ๆ แล้วในใจเป็นห่วงพวกเขามากที่สุดเลย”

“ใครใช้ให้พวกเขาเป็นน้องชายข้าล่ะ”

“งั้นเจ้าว่างเมื่อไหร่ ก็วาดให้ข้าด้วยสักอันซิ?” จวินหย่วนโยวถามออกไป

“ซื่อจื่อต้องการด้วยหรือ?” หยุนถิงจ้องมองไปด้วยความสงสัย

ข้างกายซื่อจื่อมีองครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับอยู่นับไม่ถ้วน ไม่จำเป็นต้องลงมือเองสักนิด

“แน่นอน แต่ว่าสิ่งที่ข้าต้องการนั้นไม่ใช่พวกอาวุธป้องกันตัว แต่ว่าเป็นของที่สามารถผูกเจ้ากับข้าไว้ด้วยกัน ทางที่ดีคือห้ามจากกันแม้แต่ก้าวเดียว เป็นแบบที่ทั้งสองคนต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบนั้น!” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นมาอย่างรักใคร่

ใบหน้าของหยุนถิงแดงขึ้นมาทันที ซื่อจื่อนี่ช่างหยอกล้อเก่งจริง ๆ

พวกคำหวานนี่ มีเป็นชุด ๆ เลย

“งั้นข้าจะทำกุญแจมือให้ท่านเลยละกัน จะได้ผูกพวกเราไว้ด้วยกัน แบบที่เข้าห้องน้ำก็ต้องอยู่ด้วยกันเลย” หยุนถิงตั้งใจพูดให้เขาสะอิดสะเอียน

“ของแบบนี้มีได้นะ!”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท