จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 501 ถิงเอ๋อร์ เจ้าแช่กับข้าด้วยดีหรือไม่
ฝ่ามือเมื่อครู่จวินหย่วนโยวใช้แรงไปห้าส่วน ระยะนี้หลังจากที่ร่างกายของเขาได้รับการดูแลจากหยุนถิงก็อยู่ในสภาวะดีมาก เพียงจู่ๆใช้กำลังภายในเช่นนี้ ร่างกายรับไม่ค่อยไหว
แต่เพื่อหยุนถิง ต่อให้ต้องใช้กำลังทั้งหมด จวินหย่วนโยวก็จะปกป้องนางให้ได้ จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาเหยียดหยามนางเป็นอันขาด
ตอนนี้เห็นจี้อวี๋โจมตีเข้ามา จวินหย่วนโยวกำลังจะลงมือ แต่กลับโดนหยุนถิงห้ามปรามไว้
“ซื่อจื่อ ข้าเอง!” ระหว่างที่พูดหยุนถิงก็ดึงเข็มเงินที่แทรกกลางเส้นผมออกมาสามเข็ม และพุ่งโจมตีจุดชีพจรของจี้อวี๋ทันที
“อ๊าก!” ได้ยินเสียงจี้อวี๋ร้องขึ้น จากนั้นนางก็ไม่อาจขยับตัวได้เลย ด้วยความเคยชิน จี้อวี๋เลยล้มลงพื้นไป
“แม่ทัพหยุน ช่วยข้าด้วย!” จี้อวี๋ตะโกน
แต่ หยุนไห่เทียนกลับมิลงมือเลย อาศัยแค่ที่นางเสียมารยาทต่อถิงเอ๋อร์เมื่อครู่ ในฐานะพี่ชายอย่างหยุนไห่เทียนย่อมไม่ช่วยเหลืออยู่แล้ว
“ตุบ!” ดังขึ้น จี้อวี๋ล้มสะบักสะบอม หน้าลงพื้นดังพลั่ก กินดินเข้าไปเต็มปาก และสองแขนของนางก็อยู่ในท่ากำหมัดพร้อมโจมตี น่าขันยิ่งนัก
ผู้คนและเหล่าทหารที่ห้อมล้อมดูอยู่พากันหัวเราะเสียงดัง และชมเชยความเก่งกาจของซื่อจื่อเฟยยิ่งนัก
จี้อวี๋สำลักดินออกมาสองคำ ถลึงตามองหยุนถิงอย่างเดือดดาล “ถุยถุย หยุนถิงเจ้ามันลอบกัด รีบคลายจุดให้ข้าเร็ว ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
สายตาหยุนถิงดุดันและเย็นชา “แม่ทัพจี้พูดมากจริง ข้าล่ะเกลียดพวกปากมากที่สุด สงบเสงี่ยมหน่อยดีกว่านะ” ระหว่างพูด เข็มเงินในมือก็ทำท่าจะพุ่งไปอีก
“อย่า ข้าไม่พูดแล้ว อย่าจี้จุดใบ้ข้า ข้าไม่ขยับตัวได้ แต่ไม่ให้ข้าพูด ข้าต้องอกแตกตายแน่” จี้อวี๋ขอร้องทันที
“หากเจ้าอกแตกตาย มิกลายเป็นความผิดของต้าเยียนข้ารึ ถือว่าเจ้ารู้ตัวดี คนมา หามแม่ทัพจี้กับราชครูบ้าบออะไรนั่นกลับไปพักผ่อนซะ หากใครกล้ารบกวน โบยให้ตายได้เลย!” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น
ทุกคนพยายามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต ความปากร้ายของซื่อจื่อเฟยนี่เก่งกาจนัก เก่งมาก
ทูตคนอื่นของแคว้นเทียนจิ่วไม่มีใครกล้าขอร้องแทนเลย แต่ละคนพยายามทำให้คนอื่นลืมตนไปเลย กลัวจะกลายเป็นขยะ
“ขอรับ!” ทหารหลายคนรีบเข้ามาหามคน ทูตคนอื่นก็รีบตามไป ใครก็ไม่อยากอยู่ในสถานที่น่ากลัวเช่นนี้
หน้าประตูพื้นที่เพาะปลูกของราชวงศ์ที่กว้างใหญ่สงบเงียบลงอีกครั้ง จวินหย่วนโยวกระแอมไอสองครั้ง หยุนถิงสงสารนัก
“ซื่อจื่อ ข้าเหนื่อยแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ได้” จวินหย่วนโยวจูงมือหยุนถิง เดินกลับเรือนไปด้วยกันสองคน
พอเข้าห้อง หยุนถิงรีบช่วยจับชีพจรให้จวินหย่วนโยว “ซื่อจื่อ ต่อไปห้ามโกรธอีก องครักษ์ลับและองครักษ์เงามังกรมากมายขนาดนั้นนะ ท่านจำเป็นต้องลงมือเองด้วยรึ!”
“ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดเหยียดหยามเจ้าเป็นอันขาด!” จวินหย่วนโยวตอบอย่างทระนง
หยุนถิงซาบซึ้งใจนัก “เมื่อครู่ท่านพึ่งใช้กำลังภายใน ชีพจรยังสับสนอยู่ กินยาเสียหน่อยนะ” ระหว่างพูดก็หยิบยาจากในมิติออกมา
จวินหย่วนโยวรับมากินทันทีโดยไม่มองสักนิด
จากนั้นหยุนถิงก็สั่งหลิงเฟิงและหลงเอ้อร์ให้เฝ้าหน้าห้องไว้ หากนางกับจวินหย่วนโยวไม่ออกมา ใครก็ห้ามเข้าไปรบกวนเด็ดขาด ดังนั้นหลิงเฟิงและหลงเอ้อร์จึงทำหน้าที่เหมือนเทพเฝ้าประตู คนหนึ่งยืนเฝ้าหน้าประตู อีกคนขึ้นไปบนหลังคา มองทั่วทั้งห้องอย่างเข้มงวดชัดเจน แมลงวันสักตัวก็บินเข้าไปไม่ได้
หยุนถิงปิดประตูห้องลง จากนั้นดึงมือจวินหย่วนโยวมา “ปิดตาลง ข้าจะพาท่านเข้าไปในมิติของข้า ก่อนหน้านี้ไม่นานข้าพึ่งทำอ่างนวดที่เป็นถังยา ถือโอกาสนี้ให้ท่านลองเสียเลย!”
“ตกลง” จวินหย่วนโยวหลับตาลงอย่างยินดี
หยุนถิงแล่นความคิด ทั้งสองคนเข้าไปในมิติ
วินาทีที่จวินหย่วนโยวลืมตาขึ้น เขางงเป็นไก่ตาแตกเลย
ถึงเขาจะรู้มาตลอดว่า หยุนถิงมีมิติ และเคยเห็นนางหยิบของออกมาจากในมิติ แต่ได้เข้ามาด้วยตนเองเช่นนี้ ก็ยังอดตะลึงไม่ได้
พื้นที่ในนี้กว้างใหญ่มาก มองไม่เห็นขอบสุด รอบข้างมีแต่ตู้ตัวยา เตาหลอมยา เครื่องมือในการรักษานานาชนิด อาหารมากมาย อาวุธต่างๆ และยังมีของที่เหมือนรถ—-สรุปแล้วมีมากมายนัก และส่วนมากล้วนเป็นของที่จวินหย่วนโยวไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
จวินหย่วนโยวเหล่มองมุมหนึ่ง พลางขมวดคิ้วน้อยๆ “ถิงเอ๋อร์ ข้าเคยมาที่นี่ใช่หรือไม่?”
หยุนถิงเห็นเขามองเหม่อไปที่มุมหนึ่ง เหล่มองตามไป แก้มแดงเรื่อทันที
ที่นั่นคือที่ที่เมื่อครั้งก่อนจวินหย่วนโยวโดนซ่างกวนหรูวางยาในพระราชวัง ตอนนั้นเพื่อรักษาชื่อเสียงของซื่อจื่อ หยุนถิงเลยพาเขาเข้ามาในมิติ
แต่ตอนนั้นจวินหย่วนโยวโดนฤทธิ์ยาควบคุมอยู่ จากนั้นก็โรมรันพันตูกับหยุนถิงอย่างบ้าคลั่ง ณ ที่ตรงนั้น—-
“ถิงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าหน้าแดงเช่นนี้เล่า?” จวินหย่วนโยวมองมาอย่างไม่เข้าใจ
ในสมองผุดภาพเลือนรางขึ้นมา แต่เขาไม่แน่ใจ
“มิมีอะไร ซื่อจื่อ ท่านคิดมากไปแล้ว ท่านพึ่งมาครั้งนี้ครั้งแรก มาทางนี้เถอะ ท่านถอดเสื้อแล้วลองเข้าไปแช่ดู!” หยุนถิงเปลี่ยนเรื่อง
จวินหย่วนโยวถึงสังเกตเห็นของที่เหมือนถังเก็บน้ำสีขาวนั่น ถังเก็บน้ำเป็นลักษณะกลม แต่สิ่งนี้กลับเป็นวงรี อีกทั้งยาวมาก เพียงพอที่จะนอนลงไปได้คนหนึ่ง
“ได้!” จวินหย่วนโยวเองก็ไม่รีรอ ถอดเสื้ออย่างรวดเร็วและลองนั่งลงพลางเอนร่าง
ขนาดกำลังดี หัวเขาพิงด้านบน ขาแตะอีกข้างทันที
หยุนถิงกดปุ่มบางปุ่ม น้ำในสระพลันเดือดปุดขึ้นมาเอง จวินหย่วนโยวตกใจนัก
“ซื่อจื่อ นี่เป็นอ่างอาบน้ำนวดที่ขยับได้เองของยุคปัจจุบัน สบายมาก สามารถช่วยกระตุ้นฤทธิ์ของตัวยาในน้ำได้ ช่วยร่างกายของท่าน ท่านแช่อย่างสบายใจได้เลย” หยุนถิงอธิบาย
“ได้”
หยุนถิงลุกขึ้นเดินไปตู้ด้านข้าง หยิบยาบางตัวมาใส่เตาหลอมยา ทำยาต่อไป
จวินหย่วนดยวมองดูร่างนางสอดแทรกไปมาระหว่างตู้ยา มองดูนางทำงานวุ่นวาย หัวใจที่เย็นเยียบเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
โลกนี้ มีเพียงถิงเอ๋อร์เท่านั้นที่ดีต่อตนเช่นนี้
รักเดียวใจเดียว ทุ่มเทหมดหัวใจ
ได้ฮูหยินเช่นนี้ ชาตินี้เพียงพอแล้ว
ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม หยุนถิงก็ทำงานเสร็จพอดี รอเพียงปรุงยาเตรียมพร้อมหลอมยา เธอเองก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เลยเดินไปนั่งพักบนเก้าอี้
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าลงมาแช่กับข้าดีหรือไม่ ทำงานมานานเจ้าเองก็เหนื่อยแล้ว มาเอนร่างพักผ่อนเสียหน่อยดีหรือไม่?” น้ำเสียงน่าฟังของจวินหย่วนโยวลอยมา
พอหยุนถิงหันไปมองก็เห็นจวินหย่วนโยว ความเป็นห่วงเด่นชัดบนใบหน้า
“ไม่ต้องหรอกซื่อจื่อ ท่านแช่พวกตัวยา ฤทธิ์ยาแรงนัก ตอนนี้ข้าท้องอยู่ไม่เหมาะสม” หยุนถิงปฏิเสธ
จวินหย่วนโยวเสียดายเล็กน้อย แต่ก็รู้ว่าร่างกายหยุนถิงสำคัญที่สุด “งั้นเจ้าสามารถสร้างของในมิติได้มิใช่รึ สร้างเตียงออกมานอนพักผ่อนสิ”
“จริงด้วย ทำไมข้านึกไม่ถึงนะ!” หยุนถิงหลับตาลง แล่นความคิดไป เตียงSimmonsสีชมพูยาวสองเมตรเตียงหนึ่งปรากฏขึ้นในมิติ
หยุนถิงดีใจมาก “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน เตียงสุดที่รักของข้า!” พูดไป ก็โผเข้าหาทันที
จวินหย่วนโยวหน้าง่ำทันที ทำไมเขาไม่รู้เลยว่า เตียงใหญ่กลายเป็นสุดที่รักของถิงเอ๋อร์ตั้งแต่เมื่อใดกัน
แต่พอเห็นนางเหนื่อยแล้วจริงๆ จวินหย่วนนอนแช่ยาต่อไปอย่างไม่พูดอะไร
อาจเพราะท้อง ระยะนี้หยุนถิงชอบนอนยิ่งนัก ดังนั้นพอนอนลงบนเตียงได้ไม่เท่าไหร่ก็หลับปุ๋ย
เธอที่มึนๆงงๆเหมือนได้กลิ่นอันคุ้นเคยของซื่อจื่อ ยังมีอ้อมกอดอบอุ่นนั่นอีก หยุนถิงไม่ได้คิดมากอะไร ขดหัวเข้าไปในอ้อมกอดของจวินหย่วนโยว และหลับต่อไป