จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 506 รสชาตินี้ข้าชอบ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 506 รสชาตินี้ข้าชอบ

โม่ฉือชิงสีหน้ากระดากนัก ตอบเสียงสะบัดๆ “จวินหย่วนโยว เจ้าทำสายตาอะไรกันน่ะ พอข้ารู้เรื่องก็รีบมาบอกหยุนถิงเป็นคนแรกเลย ก็มันไม่ทันได้คิดนี่นา?”

“รอเจ้าคิดทัน ตระกูลเก๋อก็ไปไกลแล้ว!” จวินหย่วนโยวเปิดโปงเขาอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด

“ก็ยังมีเจ้ามิใช่รึ เจ้าคงมิถึกับทนดูร้านไก่ทอดของหยุนถิงถูกคนแย่งการค้าไปได้หรอกกระมัง!”

“แน่นอนว่าไม่ได้ หากใครกล้ารังแกถิงเอ๋อร์ ข้าจะให้มันเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้เลย!” จวินหย่วนโยวตอบกลับอย่างทรงอำนาจ

โม่ฉือชิงลืมไปได้อย่างไรว่า จวินหย่วนโยวรักหยุนถิงที่สุด ไม่อาจทนเห็นนางถูกรังแกได้แม้เพียงนิด ตนยังจะร้อนใจทำไมกัน

พอเห็นปัญหาโดนแก้ไขแล้ว โม่ฉือชิงหมุนตัวจากไปทันที

จวินหย่วนโยวพุ่งตรงไปห้องครัวทันที ตอนนี้หยุนถิงท้องอยู่ กินอาหารมันเลี่ยนไม่ได้ แต่จะขาดสารอาหารก็ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงคิดจะลงทำบะหมี่เนื้อเส้นให้หยุนถิงด้วยตัวเอง

ทุกคนในห้องครัวพอเห็นซื่อจื่อมา ก็มิได้แปลกใจอันใดแล้ว

เมื่อก่อนซื่อจื่อเกลียดกลิ่นควันหรือน้ำมันในห้องครัวที่สุดแล้ว สิบกว่าปีมานี้ไม่เคยเข้าห้องครัวเลยสักครั้ง แต่หลังจากมีซื่อจื่อเฟย ซื่อจื่อไปห้องครัวมากขึ้นเรื่อยๆ

พ่อบ้านเห็นกิริยาคล่องแคล่วของซื่อจื่อ ตื้นตันใจนัก

เขาซาบซึ้งในตัวหยุนถิงอย่างมาก ซื่อจื่อมีคนที่ทำให้เขายอมเข้าห้องครัวทำอาหารแล้ว

หากไม่ได้รักจริง ด้วยนิสัยของซื่อจื่อน่ากลัวว่าในใต้หล้านี้คงมิมีผู้ใดบังคับให้เขาเข้าครัวได้แน่

จวินหย่วนโยวยกบะหมี่เนื้อเส้นกลับมาที่เรือน หยุนถิงตื่นมาพอดีกำลังหิวเลย พอได้กลิ่นหอมนั้นแล้ว ยินดีนัก

“ลองชิมดู ถูกปากหรือไม่?” จวินหย่วนโยวยื่นตะเกียบมาให้

หยุนถิงกินไปคำหนึ่ง “รสชาติไม่เลวเลย ซื่อจื่อท่านทำเองรึ?”

“อืม!”

“ไม่เลว อร่อยมาก ข้าชอบ” หยุนถิงกินต่อ

จวินหย่วนโยวเห็นหยุนถิงกินจนเห็นก้นชาม ใบหน้าเขายิ้มละไม

…..

แคว้นเทียนจิ่ว

องค์หญิงใหญ่เริ่นชิงอิ่งได้รับจดหมายจากนกพิราบของราชครูและจี้อวี๋ ก็เป็นอีกเจ็ดแปดวันให้หลังแล้ว

พอเห็นเนื้อหาในจดหมาย เริ่นชิงอิ่งเดือดดาลนัก โกรธจนสั่นไปทั้งตัว ฉีกจดหมายฉบับนั้นเป็นชิ้นๆ

“จวินหย่วนโยวช่างน่าตายนัก กล้าโลภมาก และยังจะให้ข้าไปด้วยตัวเอง เป็นลูกสารเลวของนังนั่นจริงๆ น่าแค้นเหมือนแม่มันไม่มีผิด!” องค์หญิงใหญ่ตะคอกดังอย่างเดือดดาล

จิ่นซินสาวใช้ข้างๆรีบมาปลอบ “องค์หญิงใหญ่ ท่านอ๋องสำคัญที่สุด จัดการพวกมันไม่รีบร้อนเวลานี้ดอก!”

สายตาองค์หญิงใหญ่เริ่นชิงอิ่งฉายแววเหี้ยมโหดเย็นเยียบ “เจ้าพูดถูก ไว้รอข้าส่งคนรับเซียวเอ๋อร์กลับมาก่อน ต้องให้จวินหย่วนโยวไม่ตายดีแน่!”

“องค์หญิงทรงพระปรีชายิ่ง!”

“ข้าได้ยินมาว่า เซวียนเอ๋อร์พาเจ้าหอคนก่อนของหอเทพเซียนกลับมาด้วย?”

“กราบทูลองค์หญิง มีเรื่องเช่นนี้จริงๆ!” จิ่นซินตอบ

“ให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะไปจวนองค์หญิงสาม!” องค์หญิงใหญ่เริ่นชิงอิ่งออกคำสั่ง

“เพคะ!”

เวลานี้ ณ จวนองค์หญิงสาม

ในเรือน เริ่นเซวียนเอ๋อร์กำลังเล่นหมากล้อมกับตาเฒ่าเหอคนหนึ่ง

เริ่นเซวียนเอ๋อร์เป็นลูกศิษย์คนสุดท้องของตาเฒ่าเหอ พอได้ยินว่าตาเฒ่าเหอยังมีชีวิตอยู่ รีบไปฆ่าล้างหอเทพเซียนกับเป่ยหมิงฉี่ทันที

เป่ยหมิงฉี่เปิดโปงความผิดของมู่เทียนบาต่อหน้าทุกคน เจ้าหอคนก่อนออกมาเป็นพยาน บวกกับเริ่นเซวียนเอ๋อร์ซึ่งเป็นองค์หญิงสามแห่งแคว้นเทียนจิ่วออกมาพูด มู่เทียนบาอยากเบี่ยงเบนโกหกก็หาเหตุผลมาไม่ได้

สุดท้ายท่านลั่วใช้ยาพิษที่มู่เทียนบาให้ร้ายอาจารย์ของพวกเขาตอนนั้นมาวางยามู่เทียนบาเอง ก่อนตายมู่เทียนบาทรมานหนักหนา สมควรตายแล้ว

จากนั้นเริ่นเซวียนเอ๋อร์ก็พาตาเฒ่าเหอกลับมายังแคว้นเทียนจิ่ว ให้เขาอาศัยอยู่ในจวนองค์หญิงของตนเอง ทุกวันอยู่เป็นเพื่อนอาจารย์ ถือว่าได้กตัญญูแล้ว

ตอนนี้ตาเฒ่าเหอโกรธจนหนวดกระดิกถลึงตาว่า “นังหนู ทำไมฝีมือหมากของเจ้าไม่พัฒนาเลยแม้แต่นิดเดียว น่าขายหน้าจริงๆ!”

“ข้าจงใจอ่อนให้ท่านหรอก ไม่งั้นข้าเอาชนะท่านขึ้นมา ท่านไม่โกรธจนลมขึ้นรึ!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เบ้ปากบอก

“ไอ้หยา นังหนู ข้าไม่ต้องให้เจ้าอ่อนให้ มาเล่นอีกตา!”

ระหว่างที่ทั้งคู่คุยกัน มีคนรับใช้คนหนึ่งนำทางองค์หญิงใหญ่เริ่นชิงอิ่งและคนสนิทของนางเข้ามา

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ความหวาดระแวงในแววตาฉายชัด องค์หญิงใหญ่มาหาตนที่นี่ทำไมกัน

แต่นางยังคงรีบลุกขึ้นมาคารวะ “คารวะท่านอา มิทราบว่าท่านอาวันนี้มาหาข้าด้วยเรื่องใดรึ?”

“เซวียนเอ๋อร์มิต้องมากพิธี วันนี้ข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหอเหอ!” องค์หญิงใหญ่เริ่นชิงอิ่งพูดเปิดอก

ตาเฒ่าเหอหันไปคารวะเริ่นชิงอิ่งอย่างรู้งาน “องค์หญิงใหญ่ให้เกียรติข้าน้อยเกินไปแล้ว บัดนี้ข้าน้อยมิมีสิ่งใดเหลือแล้ว หอเทพเซียนก็ถูกทำลายไปแล้ว น่ากลัวว่าคงช่วยอะไรองค์หญิงใหญ่มิได้แล้ว”

สายตาเริ่นชิงอิ่งหรี่ลง “เจ้าหอเหอถ่อมตนเกินไปแล้ว ข้าแค่หวังให้เจ้าหอเหอช่วยข้าทำยาตัวหนึ่ง ตัวยาและกระสายยาทั้งหมดข้าเตรียมมาพร้อมแล้ว!”

คำพูดนี้พูดแล้วทำให้ตาเฒ่าเหอไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธเลย

“มิทราบว่าองค์หญิงใหญ่ต้องการให้ข้าทำยาอะไรรึ?”

“ยาเจ็ดวิญญาณ!”

คำพูดเดียวทำเอาสีหน้าตาเฒ่าเหอเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “องค์หญิงใหญ่ ยาเจ็ดวิญญาณเป็นยาพิษ ขออภัยที่ข้ามิอาจทำได้!”

“ท่านอา ท่านต้องการยาเจ็ดวิญญาณไปทำอะไรกัน?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เองก็มีสีหน้าเคร่งเครียด

ยาเจ็ดวิญญาณเป็นพิษร้ายนัก ฤทธิ์รุนแรงนัก ผู้ใดกินเข้าไปต้องทำร้ายทั้งร่างกายและวิญญาณแน่ และหลังจากกินไปสามเม็ดก็จะเสียสติ ประหนึ่งซากศพเดินได้เท่านั้น กลายเป็นหุ่นเชิด ต่อให้เทพเซียนก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นเลยถูกสี่แคว้นจัดอันดับไว้เป็นยาพิษต้องห้าม

องค์หญิงใหญ่ไม่ได้โกรธเพราะตาเฒ่าเหอปฏิเสธ เหล่มองเริ่นเซวียนเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ “ข้าย่อมได้ประโยชน์จากมัน เจ้าเสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าหอเหอกลับมา ดูท่าคงจะเป็นความรักผูกพันระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ ข้าว่าเจ้าหอเหอเองก็คงไม่อยากให้เจ้าเกิดเรื่องกระมัง!”

พอพูดจบ กองทัพหลวงกองหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก จับเริ่นเซวียนเอ๋อร์ไปขังเอาดื้อๆเลย

เริ่นเซวียนเอ๋อร์อยากจะขัดขืน ทหารองครักษ์คนหนึ่งก็พาดกระบี่ยาวไว้ที่คอนางแล้ว ทำเอานางเดือดดาลทะลุฟ้า

โลกภายนอกล้วนพูดกันว่าองค์หญิงใหญ่เย่อหยิ่งจองหอง หยิ่งผยองไม่เห็นผู้ใดในสายตา แต่นางดีกับตนไม่น้อย จู่ๆก็ชักกระบี่ข่มขู่ มันทำให้เริ่นเซวียนเอ๋อร์ยากจะรับได้

“ท่านอา ท่านทำเช่นนี้ ไม่กลัวข้าบอกเสด็จพ่อรึ?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์บอกอย่างโกรธจัด

“บัลลังก์ของเสด็จพ่อเจ้าน่ะ ตอนนั้นหากมิใช่ข้า เขาจะนั่งได้มั่นคงรึ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องเอาเสด็จพ่อของเจ้ามาขู่ข้า ขอเพียงเจ้าหอเหอทำยาที่ข้าต้องการออกมาได้ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าแม้เพียงนิด!” น้ำเสียงดุดันขององค์หญิงใหญ่ทำเอาคนขนหัวลุก

“หยุดนะ ห้ามทำร้ายเซวียนเอ๋อร์ ข้าทำก็ได้!” ตาเฒ่าเหอแค่นเสียงเย็น

เซวียนเอ๋อร์เป็นลูกศิษย์คนสุดท้องของเขา และเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวที่จริงใจต่อเขา ดังนั้นตาเฒ่าเหอไม่มีทางยอมให้เริ่นเซวียนเอ๋อร์เป็นอะไรไปแน่

“เจ้าหอเหอตรงไปตรงมาดี ถ้างั้นเชิญเถิด!”

จวนผิงหนานอ๋อง

พอเข้าจวน เริ่นเซวียนเอ๋อร์ก็โดนพาตัวไปที่ห้องพักของเรือนหลัง มีกองทัพหลวงเฝ้าอยู่เฉพาะ อนุญาตให้นางเคลื่อนไหวอย่างอิสระ หากห้ามออกจากห้อง

ตาเฒ่าเหอโดนพาตัวไปที่ห้องปรุงยา ในห้องอันกว้างใหญ่วางตู้ยาไว้มากมาย ด้านบนยังวางตัวยาราคาแพงมากมาย

“ตอนข้าทำยา ไม่ชอบให้มีคนอื่นมายืนเฝ้า!” ตาเฒ่าเหอพูดเสียงเย็น

“ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวัน หากสามวันทำออกมาไม่ได้ ท่านรอรับศพเริ่นเซวียนเอ๋อร์เถอะ!” องค์หญิงใหญ่ทิ้งไว้หนึ่งคำ จากนั้นหมุนตัวจากไป

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท