จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 509 ข้าอุ้มเอง เจ้าออกไปรอก่อน

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 509 ข้าอุ้มเอง เจ้าออกไปรอก่อน

“นี่เป็นลูกลับของเจ้า?” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น

โม่เหลิ่งเหยียนเหลือบตามองบน “ลูกลับบ้านเจ้าสิ นี่เป็นหลานน้าของข้า โหวอี้หมิง!”

“อี้หมิง?” หยุนถิงมองมาทันที มิน่าเมื่อกี้เธอเหล่เด็กนั่นแล้วรู้สึกคุ้นหน้า

“เขาเป็นอะไรรึ?” หยุนถิงรีบคว้ามือของอี้หมิงน้อยมาจับชีพจรทันที

โหวอี้หมิงที่เดิมร้องไห้เสียงดัง พอเห็นหยุนถิง พลันเงียบเสียงลงทันที แต่กลับจมูกฟึดฟัด น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม ดูแล้วน่าสงสารนัก

“องค์หญิงหยุน ขอร้องท่านช่วยอี้หมิงของข้าด้วยเถอะ ขอร้องท่านล่ะ!” ฮูหยินโหวที่อยู่ห่างไปไม่ไกลพุ่งเข้ามาอย่างเป็นกังวลร้อนใจ

“องค์หญิงหยุน อี้หมิงเป็นลูกเพียงคนเดียวของข้า ขอร้องท่านต้องช่วยเขานะ ไม่ว่าต้องการสิ่งใด ตัวยาราคาแพงแค่ไหน ข้าก็จะหามาให้ได้!” แม่ทัพโหวเองก็ร้อนใจนัก

“ข้าจะพยายามรักษาเขาอย่างสุดความสามารถ เขาไม่สบายตรงไหนหรือมีอาการอะไร รีบบอกข้ามาก่อนได้หรือไม่?” หยุนถิงถาม

“ตั้งแต่เมื่อคืนอี้หมิงก็เริ่มท้องเสียแล้ว ตอนแรกถ่ายเหลว ข้าไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าเขากินของเย็นเข้าไป ปกติเขามักจะถ่ายสองถึงสามครั้งอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนกลับถ่ายไปห้าครั้ง

เมื่อคืนท่านแม่ทัพให้คนไปตามท่านหมอกลางดึก หมอบอกว่าเป็นหวัด ก็จ่ายยาให้ ตอนเช้าหลังจากให้นมอี้หมิงแล้ว ก็กรอกยาตามลงไป

ถึงเขาจะแหกปากร้องเสียงดัง อาเจียนออกมาเยอะมาก แต่ก็ดื่มเข้าไปได้บ้าง แต่พอถึงตอนเที่ยง เขากลับถ่ายไปห้าหกครั้งแล้ว ต่อมาก็ถ่ายเป็นน้ำเลย

ตอนนั้นข้าตกใจมาก รีบให้คนเตรียมรถม้าไปหาเหลิ่งเหยียน องค์หญิงหยุนขอร้องท่านต้องช่วยเขาให้ได้นะ ข้ามีลูกชายคนนี้คนเดียว” ฮูหยินโหวพูดพลางจะคุกเข่าลง

“ฮูหยินมิจำเป็นต้องทำเช่นนี้ ตอนนี้ลมปราณในตัวอี้หมิงสับสนนัก ร่างกายอ่อนแอมาก ต้องรีบเติมน้ำโดยเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นหากเด็กขาดน้ำ ต่อให้เป็นเทพเซียนก็ช่วยมิได้แล้ว ที่นี่อยู่ใกล้จวนซื่อจื่อ พวกท่านกลับไปกับข้าแล้วกัน” หยุนถิงบอก

“ดี!” โม่เหลิ่งเหยียนอุ้มอี้หมิง หมุนตัวพุ่งขึ้นรถม้าทันที

หยุนถิงรีบตามไปทันที จวินหย่วนโยวมีสีหน้าเย็นชา แต่มิได้พูดอะไร พลางเดินถามหยุนถิงไป

ทั้งสามคนล้วนเข้าไปนั่งในรถม้าของโม่เหลิ่งเหยียน พอแม่ทัพโหวและฮูหยินโหวเห็นเยี่ยงนั้น รีบขึ้นรถม้าตนเองตามไปทันที

และในรถม้า

หยุนถิงไม่ปิดบังเลยสักนิด เธอหยิบสารอาหารเหลวออกมาจากในมิติ และป้อนให้อี้หมิงน้อยกิน

โม่เหลิ่งเหยียนกับจวินหย่วนโยวต่างรู้ว่าหยุนถิงมีมิติอยู่ บัดนี้ก็ชินแล้ว

เด็กน้อยทำปากจุ๊บๆ ดวงตากลมโตดุจองุ่นดำมองมาที่หยุนถิงเขม็ง และดื่มจนหมด

“อี้หมิงชอบเจ้ามาก!” โม่เหลิ่งเหยียนบอก

“บางทีอาจเพราะข้าเป็นคนทำคลอดให้เขา เลยมักรู้สึกว่าสนิทสนมกับเด็กคนนี้อย่างประหลาด” หยุนถิงตอบ

“เด็กคนนี้เป็นอะไรกันแน่?”

เมื่อครู่อยู่ต่อหน้าพี่สาว โม่เหลิ่งเหยียนไม่กล้าถาม กลัวถ้าเกิดอี้หมิงอาการสาหัส พี่สาวจะรับไม่ไหว

“น่าจะเป็นกระเพาะลำไส้อักเสบเฉียบพลัน ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน คือกินของไม่สะอาด หรือไม่ก็เย็นเกินไป เด็กยังเล็กนัก ลำไส้ย่อยช้า รับไม่ได้กับของแสลงของเย็น ดังนั้นเลยเกิดอาการท้องเสีย

อาการนี้จะว่าหนักก็หนัก หากท้องเสียจนขาดน้ำ ต้องทำการเพิ่มน้ำให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นหากเด็กเกิดขาดน้ำไปก็จบกันเลย ขอเพียงเติมน้ำที่ขาดในร่างกายเด็กให้ทันเวลา บวกกับค่อยๆบำรุงด้วยยาไป ไม่กี่วันก็หายดีแล้ว

กลับไปท่านถามฮูหยินนะว่าเขากินอะไรเข้าไป หรือว่าแม่นมที่ให้นมอี้หมิงอาจจะไปกินอะไรที่ปกติไม่ได้กินก็ได้” หยุนถิงอธิบาย

“ได้!”

อี้หมิงน้อยดื่มสารอาหารเหลวลงไป ไม่นานก็อาการดีขึ้น เขาเหมือนจะชอบหยุนถิงมาก ปากร้องอีๆอาๆอะไร มือน้อยยังโบกไม่หยุด

หยุนถิงขันกับท่าทางเขานัก ยื่นมือไปเย้าเขาเล่น สุดท้ายมือน้อยของอี้หมิงน้อยคว้าหมับเข้ากับนิ้วหนึ่งของหยุนถิง จากนั้นก็หัวเราะร่วนออกมา

“เจ้าหนูนี่มิเคยหัวเราะให้ข้าเยี่ยงนี้มาก่อนเลย เห็นได้ชัดว่าชอบเจ้าจริงๆ!” สีหน้าตึงเครียดของโม่เหลิ่งเหยียนดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย

เจ้าหนูหัวเราะออกมาได้ น่าจะอาการดีขึ้นหน่อยแล้ว บวกกับวิชาการแพทย์ของหยุนถิง โม่เหลิ่งเหยียนวางใจ

“เขาไม่ได้หัวเราะให้กับเจ้า เพราะว่าเจ้าหน้าตาอัปลักษณ์!” จวินหย่วนโยวโพล่งออกมาหนึ่งคำ

ใบหน้าโม่เหลิ่งเหยียนใบหน้าดำทะมึนทันที “ต่อให้ข้าอัปลักษณ์เพียงใด ก็ไม่น่าเกลียดเท่าเจ้าดอก เจ้าหนูนี่ไม่สนใจเจ้าสักนิด!”

“เชอะ ข้ามิใส่ใจดอก!” จวินหย่วนโยวย้อน

“ซื่อจื่อ ท่านเบาเสียงหน่อย!” หยุนถิงบอก

จวินหย่วนโยวสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ ทำไมเขารู้สึกว่า ในใจของถิงเอ๋อร์ยังสู้เจ้าหนูนี่ไม่ได้ ตอนนี้จวินหย่วนโยวเหมือนเห็นอนาคตว่า เมื่อลูกชายตนถือกำเนิด ตนคงต้องโดนเช่นนี้กระมัง

โม่เหลิ่งเหยียนเห็นท่าทางบูดบึ้งของจวินหย่วนโยวแล้วสาแก่ใจยิ่งนัก “หยุนถิงทำดีนัก!”

สิ่งหนึ่งชนะสิ่งหนึ่งจริงๆ หยุนถิงอยู่เหนือจวินหย่วนโยวจริงๆ

“โม่เหลิ่งเหยียนเจ้าอย่ามายุแยงตะแคงรั่ว ข้าเห็นแก่หน้าถิงเอ๋อร์ดอก ถึงได้ขี้เกียจสนใจเจ้า!” จวินหย่วนโยวย้อน

“เอาล่ะพวกท่านสองคน หุบปากทั้งคู่เลย ตอนนี้อี้หมิงน้อยต้องการพักผ่อน!” หยุนถิงตัดบทคำพูดพวกเขาสองคน

จวินหย่วนโยวกับโม่เหลิ่งเหยียนพร้อมใจกันหุบปาก รถม้ามุ่งตรงไปยังจวนซื่อจื่อ

หยุนถิงให้โม่เหลิ่งเหยียนอุ้มอี้หมิงเข้าไปในเรือนไม้ไผ่เรือนหลัง นับแต่ท่านลั่วไปจวนฮูหยินเฒ่าฟู่ เรือนไม้ไผ่ก็กลายเป็นหยุนถิงที่มาใช้ตลอด

“ข้าอุ้มเอง เจ้าออกไปรอ!” จวินหย่วนโยวออกคำสั่ง

โม่เหลิ่งเหยียนอยากปฏิเสธ แต่พลันได้ยินอี้หมิงน้อยผายลมออกมา ถึงได้ยอมยกให้เขาอุ้มอย่างจำยอม “อุ้มให้ดีล่ะ หากเจ้าทำอี้หมิงเจ็บตัว ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่!”

“พล่ามมากความจริง!” จวินหย่วนโยวสบถ

โม่เหลิ่งเหยียนไม่พูดมากคำอีก หมุนตัวออกไป เพียงแต่ขาเขาข้างหนึ่งพึ่งก้าวออกไป ก็ได้ยินเสียงแพรดดังขึ้นด้านหลัง

จวินหย่วนโยวตัวแข็งเป็นหินทันที กลิ่นเหม็นรุนแรงพุ่งเข้าจมูก ในเวลาเดียวกันมือที่ประคองก้นของอี้หมิงน้อยอยู่พลันรู้สึกอุ่นร้อนขึ้นมาทันที

“ถิงเอ๋อร์ เขาเหมือนจะถ่ายแล้วนะ!” จวินหย่วนโยวหน้ามุ่ย ทำอะไรไม่ถูก

โม่เหลิ่งเหยียนที่ยืนหน้าประตูหัวเราะออกมาเสียงดัง หันมาเห็นจวินหย่วนโยวเดือดดาล หน้ามุ่ย แต่ก็ไม่กล้าขยับอะไร ช่างสาแก่ใจจริงๆ

“สารเลว เจ้าจงใจแกล้งข้า!” จวินหย่วนโยวเดือดดาลนัก

มิน่าเมื่อครู่โม่เหลิ่งเหยียนยกเด็กให้ตน เจ้านี่ช่างเจ้าเล่ห์นัก

“เจ้าร้องจะอุ้มอี้หมิงน้อยเองนะ โทษข้าไม่ได้ อีกอย่าง เขาจะถ่ายเมื่อไหร่ข้าควบคุมมิได้ดอก!” โม่เหลิ่งเหยียนย้อน

นับตั้งแต่พี่สาวให้กำเนิดอี้หมิง พอมีเวลาว่างโม่เหลิ่งเหยียนก็จะแวะไปเยี่ยม บางครั้งยังไปค้างเสียหลายคืน

ถึงโม่เหลิ่งเหยียนเองจะไม่มีลูก แต่ก็มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้อี้หมิงน้อยก็เคยถ่ายใส่เขาเช่นนี้ ดังนั้นพอได้ยินเสียงอี้หมิงน้อยผายลม โม่เหลิ่งเหยียนรู้ทันทีว่าเขากำลังจะถ่าย จวินหย่วนโยวบอกจะอุ้มพอดี ก็เลยให้เขา

“ซื่อจื่อ ท่านรีบวางเขาลงบนโต๊ะเร็ว เปิดผ้าอ้อมของเขาออก ข้าจะได้วิจัยถ่ายหนักของเขาเสียหน่อย จะได้รู้ว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบหรือไม่?” หยุนถิงรีบหยิบเครื่องมือมา

คราวนี้จวินหย่วนโยวอาการไม่ดีเลย ถิงเอ๋อรจะวิจัยถ่ายหนัก เขาไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท