จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 524 แย่แล้ว มีกับดัก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 524 แย่แล้ว มีกับดัก

“ไม่ใช่อยู่แล้ว ความเป็นความตายของเขาเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ข้าก็แค่รู้สึกว่ามันผิดปกติก็เลยพูดออกมาเท่านั้น อันที่จริงก็ไม่สมควรพูดหรอก ถ้าหากลูกในท้องของฟ่านเสี่ยรั่ว ไม่ใช่ของโม่ฉือหานจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ช่วยเลี้ยงลูกชายให้คนอื่น

รอให้เขารู้ตอนที่แก่แล้วว่าลูกชายที่ตัวเองเลี้ยงดูมาหลายสิบปี ให้ความสำคัญเช่นนี้เป็นลูกของคนอื่น โม่ฉือหานจะไม่อกแตกตายหรอกหรือ แค่คิดก็สาแก่ใจแล้ว

ซื่อจื่อ ท่านว่าข้าร้ายเกินไปหรือไม่ ข้าก็แค่พูดไปเช่นนี้นี่แหละ บางทีข้าอาจจะแค่คิดมากไปเท่านั้น” หยุนถิงตอบ

“ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ นั่นก็เป็นเพราะโม่ฉือหานหาเรื่องใส่ตัวเอง สมน้ำหน้า” จวินหย่วนโยวตอบอย่างแข็งกร้าว “องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่วเข้าวังมาแล้ว ระยะนี้เจ้าต้องระวังตัวให้มากๆ ข้ากลัวว่านางจะลงมือกับเจ้าอย่างลับๆ!”

“ตกลง ข้าจะจำเอาไว้” หยุนถิงพยักหน้า

……………………

แคว้นชางเยว่

ฮ่องเต้ออกมาส่งด้วยพระองค์เอง ชางหลันเย่พาเซียวซ่างซูและคนอื่นๆออกจากพระราชวัง มุ่งหน้าไปที่เมืองหวู่หนิง

ระหว่างทางเซียวซ่างซูสุภาพและให้เกียรติชางหลันเย่ตลอดทาง ประจบประแจงเอาใจอย่างมาก

และชางหลันเย่ก็ถ่อมตนและสุภาพมากเช่นกัน ทุกคนเข้ากันได้ดีตลอดทาง

วันนี้ ชางหลันเย่และคนอื่นๆผ่านที่พักเปลี่ยนม้าแห่งหนึ่ง ทุกคนเร่งเดินทางตลอดทั้งบ่าย ล้วนกระหายน้ำกันแล้ว จึงอยู่พักผ่อนที่นี่

เสี่ยวเอ้อกับผู้จัดการร้านกระตือรือร้นอย่างยิ่ง รีบยกชาสมุนไพรมาทันที

ชางหลันเย่กำลังจะดื่ม เจว๋เฟิงก็ขวางเขาเอาไว้ทันที “ไท่จื่อระวังด้วย!” ขณะที่กล่าวไป ก็หยิบเข็มเงินออกมาทดสอบพิษ

เมื่อเห็นว่าเข็มเงินนั่นไม่ได้เปลี่ยนสี เจว๋เฟิงถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง “ไท่จื่อ ดื่มได้แล้ว!”

“องครักษ์เจว๋เฟิงรอบคอบจริงๆ ไท่จื่อเชิญดื่มชา!” เซียวซ่างซูกล่าวด้วยความเคารพนบนอบ

“เซียวซ่างซูก็เชิญดื่มเถอะ” ชางหลันเย่กล่าวพร้อมกับยกชาสมุนไพรขึ้นและเงยหน้าดื่มลงไป

เซียวซ่างซูมองดูชางหลันเย่ดื่มลงไปจนหมด นัยน์ตามีความบรรลุผลแว๊บผ่านไปเล็กน้อย ยกน้ำชาขึ้นมาใช้แขนเสื้อบังเอาไว้ จิบเบาๆคำหนึ่งก็วางมันลง

“จู่ๆข้าก็รู้สึกไม่สบายท้อง อยากจะไปห้องน้ำ” เซียวซ่างซูเอ่ยปาก

“เช่นนั้นก็ไปเถอะ!”

“ขอรับ!” เซียวซ่างซูลุกขึ้นก็จากไป

สีหน้าของเจว๋เฟิงเคร่งขรึมทันที มองไปทางชางหลันเย่ “ซื่อจื่อ ตาแก่คนนี้ต้องรู้ว่ามีซุ่มโจมตีแน่นอน ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?”

“ใช้แผนซ้อนแผน!” ชางหลันเย่กล่าวอย่างเย็นชาประโยคหนึ่ง จากนั้นก็นอนคว่ำลงไป

เจว๋เฟิงเห็นดังนั้น ก็ส่งสายตาให้กับทุกคน จากนั้นทุกคนก็ล้มลง

เมื่อผู้จัดการและบ่าวรับใช้ชายของที่พักเปลี่ยนม้าเห็น ก็ได้ใจอย่างมาก ยังจงใจเดินเข้ามาเรียกไท่จื่อสองคำ เห็นชางหลันเย่ไม่มีปฏิกิริยา ผู้จัดการก็ส่งสัญญาณมือให้กับคนที่ดักซุ่มอยู่ในที่ลับ คนพวกนั้นก็วิ่งออกมาทันที

“เป็นถึงไท่จื่อก็แค่นี้เอง พี่น้องทั้งหลายฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!” คนที่เป็นผู้นำออกคำสั่งอย่างเย็นชา

“ขอรับ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาถือกระบี่วิ่งเข้ามาทันที

แต่พวกเขายังไม่ทันได้แตะบรรดาทหารพวกนั้น จู่ๆบรรดาทหารทั้งหมดที่นอนคว่ำอยู่ก็ลุกขึ้นมา กระบี่ยาวที่อยู่ในมือแทงไปทางคนที่ลอบโจมตีพวกนั้นอย่างแรง

คนที่ลอบโจมตีคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเช่นนี้ ทุกคนล้วนไม่ทันได้ระวัง แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ตายไปเกือบครึ่ง

“แย่แล้ว มีกับดัก ชางหลันเย่ทำไมพวกเจ้าถึงไม่เป็นไร นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?” คนที่เป็นผู้นำตกตะลึงอย่างยิ่ง

“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ ลูกไม้ตื้นๆของพวกเจ้าข้าไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ!” เสียงที่เย็นชาและดุดันของชางหลันเย่ แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม

“พี่น้องทั้งหลาย ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องตัดหัวไท่จื่อมาให้ได้ ฆ่าให้หมด!” คนที่เป็นผู้นำคำรามด้วยความโกรธ ตวัดกระบี่แทงเข้ามา

“ไท่จื่อระวัง!” เจว๋เฟิงตะโกนเสียงดัง รีบพุ่งเข้ามาทันที

แต่เขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง ถึงแม้ชางหลันเย่จะหลบเลี่ยง แต่ก็ยังถูกคนผู้นั้นแทงจนบาดเจ็บ

คนอื่นๆก็ล้วนสะดุ้งตกใจไปเช่นกัน ไท่จื่อถูกลอบสังหารพวกเขายากที่จะปัดความรับผิดชอบได้ ทุกคนล้วนหายใจกันอย่างตึงเครียด

“ใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามา ถึงแม้จะต้องตายก็ควรจะให้ข้าตายด้วยความกระจ่างใช่ไหม?” ชางหลันเย่เจ็บจนสีหน้าบิดเบี้ยวไปหมด กัดฟันถามขึ้นมา

ใบหน้าของคนที่เป็นผู้นำเต็มไปด้วยความได้ใจ “ย่อมเป็นคนที่เจ้าไม่สามารถล่วงเกินได้อยู่แล้ว จะโทษก็ต้องโทษที่เจ้ามีชีวิตรอดกลับมาที่แคว้นชางเยว่ ตายเสียเถอะ!” ขณะที่กล่าวไป ก็ใช้กระบี่แทงเข้ามาอีกครั้ง

เพียงแต่ว่ากระบี่ของเขายังไม่ทันได้แตะถูกชางหลันเย่ กระบี่ของเจว๋เฟิงก็แทงทะลุร่างกายของคนที่เป็นผู้นำจากด้านหลังโดยตรง

“อ๊าก!” คนที่เป็นผู้นำกรีดร้องขึ้นมา ก้มหน้ามองดูกระบี่ที่แทงทะลุหน้าอกของตัวเองครู่หนึ่ง ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา คนทั้งคนก็ล้มลงไปกับพื้นและเสียชีวิตทันที

บรรดาลูกน้องของเขาเห็นดังนั้น ทั้งหมดสูญเสียแกนสำคัญ ตกใจอย่างมาก

“ไท่จื่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” เจว๋เฟิงตะโกนออกมา รีบประคองชางหลันเย่เอาไว้ทันที

สีหน้าของชางหลันเย่ซีดเซียว กุมบาดแผลตรงเอวเอาไว้ เลือดสีแดงสดหยดลงมาจากนิ้วมือของเขา แค่เห็นก็ทำให้คนตกใจกลัว

“เจว๋เฟิง ข้า ข้าเกรงว่าจะไม่ไหวแล้ว——” ชางหลันเย่ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็หมดสติไป

“ไท่จื่อ ไท่จื่อท่านตื่นหน่อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนใจและเป็นห่วง

ทหารสองนายส่งสายตาให้กันและกัน “หัวหน้าเจว๋เฟิง เราสองคนจะไปตามหมอ!” กล่าวจบ ทั้งสองคนก็จากไปทันที

“ทุกคนจับเป็น จะต้องถามหาผู้อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้!” เจว๋เฟิงกล่าวอย่างเย็นชา

บรรดาทหารมีความมั่นใจขึ้นมาทันที ต่อสู้กับคนที่ลอบโจมตีพวกนั้น

และทางด้านนี้ เซียวซ่างซูที่เข้าห้องน้ำอยู่ฟังเสียงการต่อสู้และเสียงกรีดร้องด้านหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความได้ใจ

เขากระโดดข้ามกำแพงด้านหลังห้องน้ำจากไปโดยตรง เพราะรูปร่างอ้วนท้วน ในเวลาปกติก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังเท่าไหร่ คนทั้งคนของเซียวซ่างซูร่วงลงมาจากบนกำแพง

“แม่เอ้ยในที่สุดข้าก็หนีรอดจากสายตาของไท่จื่อได้สักที ถุย ไท่จื่อบ้าบออะไรกัน ล่วงเกินหยางเฟย ดูสิว่าเจ้ายังจะได้ใจอะไรอีก ผ่านวันนี้ไปแล้ว แคว้นชางเยว่ก็จะไม่มีไท่จื่ออย่างเจ้าอีก ตายที่แคว้นต้าเยียนตั้งแต่แรกดีแค่ไหน จะต้องสร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมาให้ได้ ทำให้ข้าต้องรับความลำบากไปกับเจ้าด้วย น่าชิงชังนัก!” เซียวซ่างซูบ่นพร้อมกับลุกขึ้นมาจากพื้น เดินจากไปอย่างวางมาด

เพียงแต่ว่าเขายังเดินไปไม่ถึงสิบเมตร คนชุดดำสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นมา กระบี่ยาวที่อยู่ในมือพาดอยู่บนคอของเขา

“เซียวซ่างซูกำลังจะไปไหนหรือ?” หนึ่งในนั้นถามขึ้นมาอย่างเย็นชา

เซียวซ่างซูตกใจจนสีหน้าซีดขาว เขารู้แผนการของหยางเฟยดังนั้นถึงได้หนีออกมาก่อนล่วงหน้า

“ผู้กล้าไว้ชีวิตด้วย คนกันเองทั้งนั้น อย่าได้เข้าใจผิดกันเด็ดขาด ไท่จื่ออยู่ที่โรงน้ำชาข้างหน้า เขาดื่มชาสมุนไพรที่วางยาพิษลงไปแล้ว พวกเจ้าไปตอนนี้เวลากำลังดี” เซียวซ่างซูทรยศไท่จื่อโดยตรง

“พวกเราไม่ได้หาไท่จื่อ หาเจ้าต่างหาก!” หนึ่งในคนชุดดำเอ่ยปากขึ้นมา

“หรือว่าหยางเฟยให้พวกเจ้ามารับข้ากลับไป หยางเฟยช่างเกรงใจจริงๆ คิดเพื่อข้าเช่นนี้——” คำพูดของเซียวซ่างซูยังไม่ทันได้พูดจบ กระบี่ของหนึ่งในคนชุดดำก็แทงไปที่ไหล่ของเซียวซ่างซู

“อ๊าก! บัดซบ พวกเจ้าถึงกับแทงข้า ข้าเป็นคนของหยางเฟยเชียวนะ!” เซียวซ่างซูเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ

“เหนียงเหนียงบอกแล้วว่า เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว ไท่จื่อถูกลอบสังหารแต่เจ้ากลับมีชีวิตรอด ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนสงสัย ดังนั้นเหนียงเหนียงตัดสินใจส่งเจ้าไปลงนรก ให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนกับไท่จื่อ!” คนชุดดำกล่าวพร้อมกับดึงกระบี่ยาวออกมา และแทงเข้าไปอีกครั้ง

ทีนี้เซียวซ่างซูตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง “เหนียงเหนียงถึงกับจะฆ่าข้า นางพูดจากลับกลอกเช่นนี้ได้อย่างไร นางรับปากแล้วแท้ๆว่าถ้าข้ากำจัดไท่จื่อไปได้จะให้ตำแหน่งราชการในระดับสูงเงินเดือนมากๆแก่ข้า——”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท