จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 530 คุกเข่าขอโทษ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 530 คุกเข่าขอโทษ

สีหน้าขององค์หญิงใหญ่ดำมืด ดวงตาคู่สวยเลิกขึ้นเล็กน้อย จ้องมองไปทางหยุนถิงด้วยความโกรธ

โครงหน้าประณีต สวยพราวไปด้วยเสน่ห์ ดวงตาคู่สวยเย็นชาแต่กลับไม่แยแส จมูกสูงโด่ง ปากเล็กเชอร์รี่สีแดงชาดแม้ไม่แต่งแต้ม เป็นสาวงามที่สมบูรณ์แบบจริงๆ สวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อนทั้งชุด สง่างามเรียบง่าย เสริมกับใบหน้าเล็กที่งามล่มชาติล่มเมืองนั่นยิ่งดูห่างเหินและไม่แยแส

มองดูโครงหน้าของหยุนถิง จู่ๆองค์หญิงใหญ่ก็นึกถึงคนผู้นั้นขึ้นมา

ที่แท้นี่ก็คือลูกสาวของนาง งดงามและน่าชิงชังจริงๆ

มือที่อยู่ในแขนเสื้อขององค์หญิงใหญ่กำหมัดเอาไว้แน่น สีหน้าเย็นชาและเย่อหยิ่ง “เจ้าก็คือหยุนถิง ผู้คนต่างก็ร่ำลือว่าเจ้าน่าทึ่งไม่มีใครเทียบได้ งามล่มชาติล่มเมือง ข้าว่าเจ้าใจดำอำมหิต ต่ำช้าไร้ยางอายมากกว่า!”

“ข้าต่ำช้าไร้ยางอายนั่นก็ดูว่ากับใคร คนที่แม้แต่น้องสาวแท้ๆของตัวเองก็ยังทำร้าย มีสิทธิ์อะไรมาว่าข้าโหดเหี้ยม!” หยุนถิงกล่าวอย่างเหยียดหยาม

ดวงตาคู่สวยขององค์หญิงใหญ่มีความแหลมคมเล็กน้อยแว๊บผ่านไป มิน่าจวินหย่วนโยวถึงได้ทรมานเซียวเอ๋อร์เช่นนี้ ที่แท้เขาก็รู้เรื่องเหตุการณ์ในตอนนั้นแล้วนี่เอง

จู่ๆแคว้นเป่ยลี่ก็เกิดความวุ่นวายภายใน เป่ยจิ่วฉิงสวรรคตกะทันหัน ภายนอกร่ำลือแค่ว่าเขาป่วยกะทันหัน เป่ยหมิงฉี่ปิดข่าวทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นสายขององค์หญิงใหญ่ที่อยู่ในแคว้นเป่ยลี่ ก็สืบหาเหตุผลเฉพาะเจาะจงไม่ได้

ความจริงองค์หญิงใหญ่ก็พอจะเดาได้รางๆแล้ว ตอนนี้ได้รับการยืนยันแล้ว

“ถูกต้อง แม่ของเจ้าถูกข้าวางยาพิษจริงๆ นังแพศยาชั้นต่ำอย่างนางมีสิทธิ์อะไรมาแย่งผู้ชายกับข้า ข้าแค่แค้นที่ไม่ได้ป้อนยาพิษให้นางด้วยตัวเอง

ตอนนี้ในกล่องนี้มีของดูต่างหน้าของแม่เจ้า ปล่อยเซียวเอ๋อร์ซะ ข้าจะให้เจ้าทันที มิเช่นนั้นข้าจะทำลายมันโดยตรง!” องค์หญิงใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา หยิบกล่องผ้าออกมาและยกเอาไว้สูงๆ

“หรือองค์หญิงใหญ่คิดว่าข้าจะหลงกลเจ้า เด็กๆ ตัดแขนของเซียจิ่วเซียวข้างหนึ่ง!” เสียงของจวินหย่วนโยวเย็นชาเคร่งขรึม แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

องค์หญิงใหญ่ใจสั่นสะท้าน นางคิดไม่ถึงว่าจวินหย่วนโยวจะไม่ใส่ใจเช่นนี้ หรือว่านางจะคำนวณพลาดไป

“ขอรับ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านนอกกำลังจะจากไป

“หยุดนะ จวินหย่วนโยวหรือว่าเจ้าจะไม่สนใจของดูต่างหน้าของแม่เจ้าจริงๆ นี่เป็นสิ่งที่เสด็จพ่อของข้ามอบให้นางในตอนนั้น นางพกติดตัวทุกวัน แม้แต่ตอนใกล้ตายก็ยังสวมมันอยู่!” องค์หญิงใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา

“ในเมื่อแม่ข้าพกติดตัวทุกวัน แล้วเหตุใดถึงได้อยู่ในมือของเจ้า?” จวินหย่วนโยวถามกลับ

“เพราะในตอนที่แม่เจ้าตาย บังเอิญสายของข้าอยู่แถวนั้นพอดี ข้าเป็นคนสั่งให้เขานำสิ่งของกลับมาเอง

ในวันเกิดตอนอายุสิบขวบของข้า เสด็จพ่อแกะสลักมันด้วยความพระองค์เอง ข้ารอรับของขวัญด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความสุข แต่แล้วเสด็จพ่อกลับมอบของขวัญชิ้นนั้นให้กับแม่เจ้า

นี่คือหนามในใจของข้า ไม่เคยมีสิ่งใดที่ข้าไม่ได้มาก่อน หลายปีมานี้ทุกครั้งที่ข้าเห็นมัน ก็จะนึกถึงแม่เจ้า

ถึงแม้นางจะแต่งงานกับพ่อเจ้าแล้วอย่างไร ก็หนีการวางแผนทำร้ายของข้าไม่พ้นไม่ใช่หรือ ตอนนี้พวกเขาลงดินไปนานแล้ว ข้าถึงจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด ฮ่าๆ!” องค์หญิงใหญ่หัวเราะเสียงดัง

น้ำเสียงนั่น ช่างแสบแก้วหู และถากถางเหลือเกิน

จวินหย่วนโยวโกรธแค้นสุดขีด ลมหายใจรอบตัวลดลงจนติดลบ นัยน์ตาดำที่ดำราวกับหมึกแดงฉานโหดเหี้ยมราวกับกำลังพ่นไฟ

วินาทีต่อมา จวินหย่วนโยวก็แว๊บไปอยู่ตรงหน้าขององค์หญิงใหญ่ นิ้วมือที่ขาวเรียวยาวจับคอขององค์หญิงใหญ่เอาไว้ แล้วบีบอย่างแรง

องค์หญิงใหญ่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆจวินหย่วนโยวจะลงมือ ถูกบีบคอเอาไว้ เจ็บปวดอย่างยิ่ง ลมหายใจก็เปลี่ยนเป็นเร็วมากขึ้น นางเบิกตากว้างอย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้นมาก็จะโจมตีจวินหย่วนโยว

เข็มเงินของหยุนถิงกลับเร็วกว่าก้าวหนึ่ง แทงเข้าไปบางแห่งของนางโดยตรง ร่างกายขององค์หญิงใหญ่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ในทันใด มือที่ยกขึ้นมาก็ค้างอยู่กลางอากาศ

“บัดซบ เจ้า เจ้าทำอะไรข้า?”

“แค่สิ่งที่เจ้าทำต่อแม่ข้าในตอนนั้น แม้จะใช้วิธีห้าอาชาแยกร่างเจ้าก็ไม่ถือว่ามากเกินไป!” มือของจวินหย่วนโยวใช้แรงมากยิ่งขึ้น

สีหน้าขององค์หญิงใหญ่แดงก่ำ ทรมานอย่างยิ่ง รู้สึกแค่ว่าใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปทางจวินหย่วนโยวด้วยความโกรธและดุดัน “ถ้าหากเจ้าฆ่าข้า ฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนจิ่วไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ กองทัพสองแสนนายที่อยู่ชายแดนก็จะโจมตีแคว้นต้าเยียนทันที!”

“แค่แคว้นเทียนจิ่วเล็กๆ ข้าไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ!”

หยุนถิงที่อยู่ด้านข้างฮึอย่างเย็นชา และก็ปรบมือ

หญิงสาวที่สวมชุดพระราชวังหรูหราคนหนึ่งเดินออกมา ในตอนที่องค์หญิงใหญ่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น คนทั้งคนตกตะลึงไป

“เจ้า เจ้าถึงกับกล้าปลอมตัวเป็นข้า?”

ผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยการแสดงออกทางสีหน้า “บังอาจ ข้าคือองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่ว เจ้ากล้าปลอมตัวเป็นข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือ!”

น้ำเสียงเย็นชา โอหัง แสดงอำนาจอย่างมาก

ทีนี้สีหน้าขององค์หญิงใหญ่ก็พังทลายลงในชั่วพริบตา “เหลวไหล ข้าต่างหากที่เป็นองค์หญิงใหญ่ตัวจริง ใครให้ความกล้าเจ้าถึงกับกล้าปลอมตัวเป็นข้า รนหาที่ตาย ยังไม่ลงมืออีก!”

เมื่อเสียงที่โกรธแค้นขององค์หญิงใหญ่ดังขึ้น ด้านนอกลานก็มีคนชุดดำสิบกว่าคนลอยลงมาจากฟ้า นี่ก็คือองครักษ์ลับของนาง

เพียงแต่ว่า นางประเมินความสามารถของจวนซื่อจื่อต่ำไป

องครักษ์ลับพวกนั้นยังไม่ถึงพื้น องครักษ์เงามังกรที่อยู่ในที่ลับของจวนซื่อจื่อก็บุกเข้ามาโดยตรง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ลอบโจมตีเลย

ด้านนอกลาน องครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับขององค์หญิงใหญ่ต่อสู้อยู่ด้วยกัน แสงดาบเงากระบี่พร่างพราย ไอสังหารพลุ่งพล่าน ต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ด้านในเรือน

องค์หญิงใหญ่รอไปนานมาก ก็ได้ยินเพียงเสียงต่อสู้เท่านั้น ไม่ได้เห็นองครักษ์ลับของนางบุกเข้ามา ทีนี้นางรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยจริงๆแล้ว

ถึงแม้สี่แคว้นล้วนร่ำลือว่าองครักษ์เงามังกรมหัศจรรย์และลึกลับ แต่หลายปีมานี้องค์หญิงใหญ่ก็บ่มเพาะและฝึกฝนคนของตัวเองอยู่เช่นกัน เหมือนกับที่จัดการแม่ของจวินหย่วนโยวในตอนนั้น องค์หญิงใหญ่ไม่เห็นองครักษ์เงามังกรอยู่ในสายตาจริงๆ

ลูกชายของผู้ที่พ่ายแพ้ให้กับตัวเอง จะสามารถฝึกคนมีความสามารถแบบไหนได้

แต่ว่าเวลานี้ เสียงต่อสู้ด้านนอกลานเบาลงมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็หยุดลง

จวินหย่วนโยวเห็นนางกำลังจะหมดสติ ถึงได้สะบัดมือออกด้วยความรังเกียจ

คนทั้งคนขององค์หญิงใหญ่ล้มลงไปบนพื้น นางไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวด เพียงแค่ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้น “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ คนที่ข้าฝึกฝนมาสิบกว่าปี ทำไมถึงอ่อนแอเช่นนี้?”

“เพราะนับแต่โบราณความชอบธรรมไม่ระงับความชั่วร้าย!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา

“พวกเจ้าต้องการอะไรกันแน่?”

“คุกเข่าชดใช้ความผิดต่อหน้าป้ายวิญญาณของแม่ข้า!” เสียงที่เย็นชาของจวินหย่วนโยว ไม่อนุญาตให้มีข้อกังขา

“เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่มีทางคุกเข่าให้นางเด็ดขาด!” องค์หญิงใหญ่ปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อไปก็ให้นางแทนที่เจ้า กลายเป็นองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่ว และเจ้าก็ชดใช้ความผิดให้แม่ของซื่อจื่อตลอดชีวิต!” เสียงที่ไม่แยแสของหยุนถิง ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว

“ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้ คนของข้าจะต้องเปิดโปงนางอย่างแน่นอน ใครก็อย่าคิดจะมาแทนที่ข้า!” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยความโกรธแค้น

“ไม่มีใครที่ไม่มีคนแทนที่ได้ เพื่อที่จะจัดการเจ้า ข้าให้นางเลียนแบบเจ้าไปหนึ่งปี!” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างเหยียดหยาม

องค์หญิงใหญ่ตื่นตระหนกในทันที นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจวินหย่วนโยวยังมีกลอุบายนี้อยู่ นางจะถูกแทนที่ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อคิดว่าคนอื่นจะมาใช้ตัวตนของนาง เสพสุขทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของนาง ครอบครองอำนาจของนาง——-

ไม่ นางจะปล่อยให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อเทียบกับการขอโทษคนผู้นั้น นางอยากมีชีวิตอยู่ต่อมากกว่า หากถูกขังอยู่ที่นี่จริงๆ เช่นนั้นนางก็สูญเสียทุกอย่างไปอย่างสิ้นเชิง

“ตกลง ข้าตกลงที่จะขอโทษ!”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท