จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 541 อุ่นนมให้นางด้วยตัวเอง
ฟ่านเสี่ยรั่วเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ถวายบังคมตามสมควร “คารวะจวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ท่านอ๋องของข้าวันนี้หลังจากกลับจากพระราชวังก็เป็นลมสลบไปเลย ข้าจับชีพจรให้เขาแล้วพบว่าชีพจรเขาอ่อนแรงมาก เป็นผลข้างเคียงจากยาที่ครั้งก่อนเจ้าให้ท่านอ๋องกินหรือไม่?”
หยุนถิงมองมาอย่างเย็นชา “ดังนั้นเจ้ากำลังสงสัยข้า?”
ดวงตาคมปลาบของจวินหย่วนโยวพุ่งมา “ซื่อจื่อเฟยของข้ามิเคยจ่ายยาผิด และไม่มีทางผิดพลาด!”
น้ำเสียงเย็นชา ท่าทางอหังการดุดันทำให้ฟ่านเสี่ยรั่วตกใจอึ้ง “จวินซื่อจื่อ ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น”
“งั้นเจ้าหมายความเช่นไรเล่า?” จวินหย่วนโยวย้อนถาม
เขาไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหนสงสัยถิงเอ๋อร์ทั้งนั้น และยิ่งไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหนว่าร้ายถิงเอ๋อร์ด้วย
ฟ่านเสี่ยรั่วไหนเลยจะทนรับแรงกดดันจากจวินหย่วนโยวไหว แทบล้มลงกับพื้น โชคดีที่หยุนถิงฉุดนางไว้
“เจ้าจะล้มไม่ได้นะ เกิดเด็กในท้องเจ้าเป็นอะไรไป คนนอกต้องคิดว่าข้ากับซื่อจื่อทำอะไรเจ้าแน่ พอบ้านเจ้ารีบมาพยุงหวางเฟยรองของเจ้าไปพักผ่อนเร็ว!” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น
พ่อบ้านโดนเรียก รีบพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “หวางเฟยรอง เชิญเถอะ!”
ฟ่านเสี่ยรั่วสีหน้าบูดบึ้งไม่น่าดูยิ่งนัก พ่อบ้านเชื่อฟังคนนอกเช่นหยุนถิง เชิญตนออกไป ชั่วช้านัก
แต่ติดขัดที่จวินซื่อจื่อน่ากลัวนัก ฟ่านเสี่ยรั่วไม่กล้าบังอาจ ได้แต่กัดฟันเดินจากไป
หยุนถิงรีบเข้ามาจับชีพจรให้โม่ฉือหานทันที จากนั้นสีหน้าเย็นชาลงฉับพลัน
เพราะเส้นชีพจรของเขาเหมือนกับหลายวันก่อนไม่ผิดเพี้ยน ทั้งๆที่ได้ยินว่าเขาหายดีแล้ว ทำไมถึงถูกพิษอีกได้ล่ะ
หยุนถิงหันมองรอบด้านทันที สุดท้ายก็เหล่เห็นเครื่องรางปลอดภัยที่เอวโม่ฉือหาน เธอกระชากมันมาทันที ดมฟุดฟิดที่จมูกดู สีหน้าเย็นเยียบทันที
“เจ้าโง่โม่ฉือหาน หาเรื่องตายเองแท้ๆ!” หยุนถิงตะคอกอย่างเดือดดาล
“ซื่อจื่อเฟย ท่านหมายความว่า ท่านอ๋องจงใจพกเครื่องรางปลอดภัยที่มีพิษนี้ไว้ข้างกายรึ!” พ่อบ้านที่อยู่หน้าประตูถามอย่างตกตะลึง
“สมองของหมอนี่คงโดนลาเตะกระเด็นไปแล้ว ครั้งก่อนข้าบอกเขาแล้วว่ามันมีพิษ เขากลับไม่เชื่อคำข้า ตายไปก็สมน้ำหน้า ซื่อจื่อพวกเรากลับ!” หยุนถิงหมุนตัวจะออกไป
จวินหย่วนโยวเข้ามาทันที จูงมือนางทำท่าจะเดินออกไปทั้งสองคน
พ่อบ้านคุกเข่าลงกับพื้นดังพลั่กทันที “ซื่อจื่อเฟย ขอร้องท่านช่วยท่านอ๋องด้วยเถอะ ท่านอ๋องข้าก็เป็นผู้เคราะห์ร้าย เขาไม่คิดว่าคนข้างกายจะให้ร้ายเขา รอท่านอ๋องฟื้นแล้ว ข้าน้อยต้องบอกเขาแน่ หากซื่อจื่อเฟยละทิ้งเขาแล้ว เขาต้องตายแน่ ข้าน้อยยินดีเป็นวัวเป็นควายรับใช้ท่าน ซื่อจื่อเฟยขอร้องท่านล่ะ!”
พ่อบ้านโขกศีรษะดังพลั่กๆ เขารู้ว่า ถึงหยุนถิงจะดูเหมือนไร้หัวใจ แต่ใจอ่อนที่สุด ครั้งก่อนนางก็ยอมช่วยท่านอ๋องเพราะเห็นแก่ความจงรักภักดีของตน ดังนั้นครั้งนี้เขาต้องขอร้องให้นางช่วยอีกได้แน่
เพราะนอกจากความจงรักภักดีแล้ว เขาไม่มีสิ่งอื่นเลย
หยุนถิงมองดูพ่อบ้านโขกศีรษะไม่กี่ครั้งก็หน้าผากแดงเถือก กระทั่งเริ่มมีเลือดออก สุดท้ายก็ใจแข็งต่อไม่ไหว
“โม่ฉือหานควรจะขอบใจความจงรักภักดีของเจ้า แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว หากมีครั้งต่อไป ต่อให้เจ้าโขกศีรษะจนตาย ข้าก็ไม่ช่วย!” หยุนถิงหมุนตัวเดินกลับเข้าไป
เธอลงเข็มให้โม่ฉือหาน และควักเอายาถอนพิษออกมา แต่จวินหย่วนโยวกลับก้าวเข้ามาอย่างเร็ว “ข้าทำเอง!”
จวินหย่วนโยวทนไม่ไหวที่เห็นหยุนถิงป้อนยาให้โม่ฉือหาน
“ได้ ลำบากซื่อจื่อแล้ว!” หยุนถิงยื่นเข้ามา
พ่อบ้านกำลังจะบอกขอตนทำเอง ก็ได้เห็นจวินซื่อจื่อหยิบยาถอนพิษนั่นขึ้นมา และบีบคางท่านอ๋องตนอย่างแรง จากนั้นกรอกยาลงไป
โม่ฉือหานที่สลบอยู่กัดฟันแน่น ยาถอนพิษไหลออกมาข้างนอก จวินหย่วนโยวสีหน้ารังเกียจและรำคาญ ซัดหมัดไปที่ท้องโม่ฉือหานหนึ่งหมัดทันที
จู่ๆท้องก็โดนอัดไปหนึ่งหมัด ต่อให้โม่ฉือหานจะยังสลบไสลอยู่ แต่ปากก็อ้าออกอย่างไม่รู้ตัว
จวินหย่วนโยวเลยสบโอกาสกรอกยาถอนพิษใส่ปากเขาจนหมด จากนั้นก็ยกมือตบปากล่างโม่ฉือหานกลับเข้าไป ให้เขากลืนยาลงไป
พ่อบ้านมองอย่างตะลึง จวินซื่อจื่อดุร้ายนัก แต่เขาไม่กล้าโต้แย้งแต่อย่างใด
ขอเพียงช่วยให้ท่านอ๋องฟื้นได้ จะอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น
“รอดูเถอะ” หยุนถิงแค่นเสียงเรียบ
“ลำบากถิงเอ๋อร์แล้ว” จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา บีบนวดมือให้นาง
“มิเป็นไรดอก แค่รู้สึกว่าหมอนี่ช่างโง่นัก เลยโกรธมาก” หยุนถิงตอบ
“โม่ฉือหานมิคู่ควรให้เจ้าโกรธดอก ร่างกายตนเองสำคัญกว่า!” จวินหย่วนโยวปลอบ
“ซื่อจื่อพูดถูกต้องยิ่งนัก ข้าจะโกรธเขาไปไย”
พ่อบ้านไม่กล้าแทรกคำ รีบถอยออกไปให้คนนำของว่างผลไม้เข้ามา “จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ข้าน้อยให้คนเตรียมของกินมาเล็กน้อย ขอท่านทั้งสองอย่าได้รังเกียจ”
“โม่ฉือหานยังโดนพิษ ข้าไม่กล้าให้ซื่อจื่อเฟยกินของจวนเจ้าหรอก หลิงเฟิง!” จวินหย่วนโยวรังเกียจ
“ขอรับ!” หลิงเฟิงที่อยู่หน้าประตูรับคำสั่งทันที วิ่งออกไป พอเขากลับมา มือถือกล่องอาหารมาด้วย
จากนั้นพ่อบ้านก็ได้เห็นว่า หลิงเฟิงจัดของว่าง ผลไม้ ขนมเต็มโต๊ะ อีกทั้งหลายอย่างเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
“ซื่อจื่อเฟยเชิญขอรับ!” หลิงเฟิงบอกอย่างนอบน้อม
“ขอบใจมาก!” หยุนถิงรับเนื้อแห้งมา และเริ่มกิน
จวินหย่วนโยวรับขวดนมมาเปิดฝาออก “พ่อบ้าน ไปต้มน้ำร้อนมาชามหนึ่ง!”
“ขอรับ!” พ่อบ้านรีบไปต้มน้ำร้อนมาชามหนึ่งทันที
จวินหย่วนโยววางขวดนั้นลงไป เป็นขวดที่หยุนถิงทำก่อนหน้านี้ ไว้ใช้ใส่นมวัวโดยเฉพาะ
“ซื่อจื่อ ไม่ต้องอุ่นดอก ตอนนี้พึ่งจะฤดูใบไม้ร่วงเอง มิเป็นไรดอก” หยุนถิงบอก
“นมอุ่นร้อนแล้วรสชาติดีขึ้นหน่อย ถึงเป็นฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องระวัง ร่างกายสตรีน่ะเย็นง่าย ดื่มของอุ่นร้อนหน่อยดีกว่า” จวินหย่วนโยวตอบ
“ซื่อจื่อท่านเอาใจใส่ดีแท้”
“ข้าเอาใจใส่เพียงเจ้าเท่านั้น!”
พ่อบ้านมองแล้วรู้สึกพูดลำบากนัก ทั้งอิจฉาและปวดใจ
ตอนแรกที่คุณหนูหยุนแต่งงานกับท่านอ๋อง ทั่วทั้งจวนอ๋องรวมถึงท่านอ๋องต่างเย้ยหยันเสียดสี รังเกียจเดียดฉันท์ใส่คุณหนูหยุน ท่านอ๋องยิ่งรังเกียจนางยิ่งนัก รังเกียจที่นางเป็นตัวตลกของจวนหลีอ๋อง
บัดนี้คุณหนูหยุนแต่งงานกับจวินซื่อจื่อ ได้รับการโปรดปรานรักใคร่ สนใจเพียงนี้ พ่อบ้านดีใจกับนางมาก ในที่สุดคุณหนูหยุนก็ได้พบคู่ครองที่คู่ควร
น่าเสียดายแทนท่านอ๋องของตนที่ไม่มีบุญเช่นนี้ คุณหนูหยุนบัดนี้งดงามเปี่ยมด้วยหน้าตาและความรู้ ตอนนี้ท่านอ๋องน่ากลัวจะมิคู่ควรแล้ว
“แค่กแค่ก!” เสียงไอดังแทรกขึ้นมา
พอพ่อบ้านดู ก็พุ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องท่านฟื้นแล้วรึ ดียิ่ง ดียิ่งนัก!”
โม่ฉือหานพึ่งลืมตาขึ้นมา พอเห็นคนตรงหน้าชัดเจน เขาตกใจนัก “หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“ท่านอ๋อง วันนี้หลังจากกลับมาจากพระราชวังท่านก็สลบไปเลย หวางเฟยรองก็ไร้หนทาง ข้าน้อยเลยไปขอร้องซื่อจื่อเฟย จวินซื่อจื่อมาเป็นเพื่อนซื่อจื่อเฟยมาช่วยท่านน่ะ” พ่อบ้านเล่าเรื่องออกมาอย่างง่ายๆ
โม่ฉือหานคิ้วขมวดมุ่น สีหน้าบูดบึ้งนัก หลายวันก่อนเขาพึ่งจะสงสัยฝีมือการรักษาของหยุนถิงไป และยิ่งสงสัยในคำพูดของนาง บัดนี้พึ่งผ่านไปไม่กี่วัน เขาก็โดนหักหน้าเสียแล้ว
โม่ฉือหานที่ฟื้นขึ้นมากระดากอายนัก ขยับร่างกาย “เช่นนั้นทำไมข้าถึงรู้สึกปวดที่ท้องและคางยิ่งนักเล่า?”
พ่อบ้านตัวสั่นเทา เขาไม่กล้าบอกว่า เป็นฝีมือจวินซื่อจื่อเพื่อบังคับท่านอ๋องกินยา
“หลีอ๋อง ความรู้สึกของการโดนหักหน้าเป็นอย่างไร?” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น