จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 546 ขอเพียงนางอย่าเป็นอันใดไป
“ขอรับ!” หลงเอ้อร์รับคำสั่ง
“อีกอย่าง บอกคนของเราในวัง ให้ลงมือตามสถานการณ์!” หยุนถิงกำชับ
“เข้าใจขอรับ!” หลงเอ้อร์รีบพุ่งไปพระราชวังด้วยความเร็วสูงสุด
จวินหย่วนโยวมองขอทานผู้นั้นด้วยสีหน้าเย็นชา “เหตุใดเจ้าต้องมาส่งข่าวด้วย?”
คำพูดเย็นชาคำเดียวทอประกายแรงกดดันไร้รูปร่างมหาศาล
ขอทานตัวสั่นทันที “ไม่กล้าปิดบังจวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ก่อนหน้านี้ข้าขอทานของ เคยแย่งทางรวยของขอทานคนอื่น ขอทานคนอื่นร่วมมือกันอัดข้าเกือบตาย
โชคดีที่คุณหนูซูผ่านมาพอดี นางช่วยข้าไว้ และมักจะให้คนนำอาหารมาให้ข้า ข้าซาบซึ้งในบุญคุณของคุณหนูซูยิ่งนัก ดังนั้นทุกวันเลยคอยเฝ้าอยู่ที่ร้านเนื้อย่าง ขอทานไปด้วยและมองร้านเนื้อย่างไปด้วย ข้าอยากตอบแทนบุญคุณ
สุดท้ายวันนี้กลับได้เห็นสาวใช้คนหนึ่งเดินเชิดคอเย่อหยิ่งไปร้านเนื้อย่าง และยังไม่ยอมให้คุณหนูซูกลับจวน กลับพานางไปเลย ข้ากลัวคุณหนูซูมีอันตราย เลยตั้งใจมาแจ้งข่าว!”
จวินหย่วนโยวมองขอทานคนนั้นอย่างเย็นชา รูปร่างธรรมดา ใบหน้าดำสกปรก มองไม่เห็นรูปโฉมที่แท้จริง แต่ดวงตากลับมุ่งมั่นแน่วแน่ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้โกหก
“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นความมีเมตตาของซูเอ๋อร์ชนะให้โอกาสตนเอง ทำได้ไม่เลว ต่อไปมีเรื่องเช่นนี้อีกมาจวนซื่อจื่อได้เลย ใครก็ได้ ให้รางวัล!” หยุนถิงบอก
ซูหลินรีบยื่นตั๋วเงินเข้ามา หนึ่งหมื่นตำลึง “รับไปสิ!”
“ขอบพระคุณซื่อจื่อเฟย แต่ข้ารับเงินนี้ไม่ได้ คิดซะว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตของคุณหนูซูแล้วกัน ข้าน้อยขอตัวก่อน!” ขอทานคารวะอย่างนอบน้อม ก่อนหมุนตัวออกไป
หยุนถิงมองตามแผ่นหลังเขา “มีอุดมการณ์ ทั้งรู้จักบุญคุณคน ไม่เลว!”
ดวงตาดำขลับของจวินหย่วนโยวหม่นหมอง “หลิงเฟิง ตรวจสอบเขา!”
หลิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกรับคำสั่งทันที “ขอรับ!”
“ซื่อจื่อ ท่านสงสัยรึ?” หยุนถิงมองมา
“ป้องกันไว้ก่อน!”
“ได้ ในเมื่อองค์หญิงห้าหาเรื่องเอง ข้าจะทำให้นางสมหวัง ท่านพี่ ตอนนี้ข้าจะเข้าวัง!” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น
เธอรับไม่ได้ที่สุดกับการที่คนอื่นแตะต้องคนในครอบครัวเธอ ถึงคนเหล่านี้จะเป็นครอบครัวของเจ้าของร่างเดิม แต่อยู่กันมาขนาดนี้ พวกเขาปฏิบัติต่อเธอด้วยใจจริง หยุนถิงเลยมองพวกเขาเป็นคนในครอบครัวจริงๆ
ตอนนี้องค์หญิงห้ากลับเพ่งเล็งมาที่ตัวหยุนซู หยุนถิงย่อมไม่ยอมอยู่แล้ว
“ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง!” จวินหย่วนโยวลุกขึ้นยืนทันที
“ได้!”
พระราชวัง
หยุนซูตามนางกำนัลคนนั้นเข้าวัง นางกำนัลแกล้งเดินไปในทางที่คนน้อย สุดท้ายเจอกับองค์ชายสี่ระหว่างทาง
“หยุนซู เจ้าเข้าวังมาทำไมน่ะ?” โม่ฉือชิงถาม
หยุนซูคารวะองค์ชายสี่ “กราบทูลองค์ชายสี่ องค์หญิงเจ็ดเรียกข้าเข้าเฝ้า!”
“องค์หญิงเจ็ด นางเป็นบ้าแล้วมิใช่รึ เหตุใดจู่ๆเรียกเจ้าเข้าเฝ้าเล่า?” โม่ฉือชิงถามอย่างไม่เข้าใจ
คำพูดเดียวทำหยุนซูสีหน้าบูดบึ้งยิ่งนัก ถึงนางจะเดาได้แล้วว่ามีคนคิดร้ายต่อนาง แต่ตอนนี้มาได้ยินองค์ชายสี่พูดออกมา หยุนซูก็ยังใจกระตุกอยู่ดี
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แม่นางท่านนี้บอกว่าองค์หญิงเจ็ดเรียกข้าเข้าเฝ้าน่ะ!” หยุนซูอธิบาย
นางกำนัลคนข้างๆรีบถวายบังคมโม่ฉือชิง “ทูลองค์ชายสี่ องค์หญิงเจ็ดไม่ได้เป็นบ้า ฝ่าบาทได้ให้หมอหลวงหลิรักษาองค์หญิงเจ็ดแล้ว
ระยะนี้องค์หญิงเจ็ดฟื้นฟูได้ดีมาก องค์หญิงห้าแวะไปเยี่ยมเยียนองค์หญิงเจ็ด องค์หญิงเจ็ดบอกว่าอยากจะอ่านหนังสือ เลยคิดถึงคุณหนูซู!”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง หยุนซูเล่าข่าวดีกับเจ้าเรื่องหนึ่งนะ ข้าได้รับแต่งตั้งเป็นท่านอ๋องแล้ว กลับไปจะไปจัดงานเลี้ยงที่ร้านเนื้อย่างของเจ้าแน่นอน!” โม่ฉือชิงบอกอย่างภูมิใจ
วันนี้เขาเข้าวังไปรายงานเสด็จพี่ถึงรายได้ทั้งหมด รายได้ครึ่งปีมานี้มากกว่าเมื่อก่อนหลายปีนัก ฮ่องเต้ดีพระทัยมาก ชมเชยว่าโม่ฉือชิงทำได้ไม่เลว เลยแต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง
โม่ฉือชิงเมื่อก่อนไม่ร่ำเรียน ไม่ทำอะไร เอาแต่ขลุกอยู่กับสตรี และยังเปิดหอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ชอบเถียงฮ่องเต้เสมอ ทำให้องค์ชายคนอื่นได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องกันหมดแล้ว พวกหลีอ๋อง ซวนอ๋องล้วนได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้คนก่อน มีเพียงเขาที่ยังคงเป็นองค์ชายสี่อยู่
ต่อมาเสด็จพี่ครองบัลลังก์ต่อ เขาก็ยังเป็นองค์ชาย ระดับเดียวกับลูกของเสด็จพี่ พูดออกไปก็ขายขี้หน้าเปล่าๆ
บัดนี้ในที่สุดเขาก็สามารถยืดอกสง่าผ่าเผยได้แล้ว โม่ฉือชิงแทบอยากวิ่งไปบอกข่าวนี้กับหยุนถิงตอนนี้จริงๆ
หากมิใช่นาง ก็ไม่มีตนในวันนี้
“เช่นนั้นยินดีกับองค์ชายสี่ด้วย ดูท่าพี่หญิงใหญ่ข้าได้ยินข่าวนี้ก็คงดีใจมากเช่นกัน รบกวนองค์ชายสี่บอกพี่หญิงใหญ่ข้าด้วยว่า วันนี้ข้าจะไปจวนซื่อจื่อช้าหน่อย” หยุนซูบอก
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง องค์ชายเช่นข้า ไม่สิ อ๋องเช่นข้าจะไปหาหยุนถิงตอนนี้เลย ไปล่ะ!” โม่ฉือชิงหมุนตัวจากไป
นางกำนัลแอบถอนหายใจโล่งอก พอคิดถึงหยุนถิงก็ตกใจหน้าซีดเผือด หากคำสั่งขององค์หญิงห้านั้น หากนางทำมิสำเร็จ คงตายอนาถแน่
“คุณหนูซู เชิญเถอะ!” นางกำนัลเร่งเร้า
“ได้” หยุนซูเดินตามไป
อีกด้านหนึ่ง อ๋องเก้ากำลังให้คนไปสืบว่าองค์หญิงคนไหนสวย สุดท้ายกลับมีสาวใช้คนหนี่งเข้ามา “ข้าน้อยคารวะอ๋องเก้า องค์หญิงเจ็ดได้ยินว่าอ๋องเก้าชอบดื่มชาหลงจิ่งที่เก็บได้ก่อนฝนแรกของปียิ่งนัก เลยให้คนเตรียมชามา ขออ๋องเก้าอย่าได้ปฏิเสธ”
อ๋องเก้าเหล่สาวใช้คนนั้น ใบหน้าสดใส หน้าตาไม่เลว ดูท่าองค์หญิงเจ็ดนั่นน่าจะไม่แย่มาก ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่แคว้นเป่ยลี่เขาเคยได้ยินมาว่า องค์หญิงเจ็ดได้รับการโปรดปรานจากฮ่องเต้ต้าเยียนหนักหนา คนที่มาหาถึงที่ อ๋องเก้าย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“ขอบคุณในความเมตตาขององค์หญิงเจ็ด ข้าซาบซึ้งใจนัก นำทางเถอะ!” อ๋องเก้าบอกอย่างภูมิใจ
“เจ้าค่ะ!”
นางกำนัลเดินนำทางอยู่ข้างหน้า ผ่านอุทยาน มาหยุดที่ห้องๆหนึ่ง “อ๋องเก้า องค์หญิงเจ็ดอยู่ด้านใน เชิญเถอะ!”
“ได้!” อ๋องเก้าผลักประตูเข้าไป
แต่เขาพึ่งเข้าไปได้สองก้าว ก็โดนนางกำนัลด้านหลังควักกระบองซัดเขาจนสลบไป
นางกำนัลรีบให้ขันทีที่ซุ่มอยู่ก่อนแล้วหามคนขึ้นเตียง และถอดเสื้อผ้าอ๋องเก้าออกจนหมด ถึงได้จากไป
อีกด้านหนึ่ง จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงพึ่งถึงทางเข้าวัง ก็เจอกับโม่ฉือชิง
“หยุนถิง จวินหย่วนโยว พวกเจ้ามาได้อย่างไรกัน ข้ากำลังจะไปหาพวกเจ้าพอดีเลย ข้าพึ่งได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้เป็นอ๋อ—-“ โม่ฉือชิงกำลังพูดอย่างภูมิใจ ก็โดนหยุนถิงตัดบท
“หยุนซูโดนพาตัวเข้าวัง นางมีอันตราย เรื่องของเจ้าไว้ค่อยพูดนะ”
“อะไรนะ มีอันตราย เมื่อครู่ข้าพึ่งเจอนางเองนะ บอกว่าองค์หญิงเจ็ดเรียกนางเข้าเฝ้า!” โม่ฉือชิงตอบ
“องค์หญิงเจ็ดเสียสตินานแล้ว จะเรียกหาหยุนซูได้ยังไง อีกอย่างองค์หญิงเจ็ดไม่รู้จักหยุนซูเลย คนที่พาตัวหยุนซูไปคือสาวใช้ขององค์หญิงห้า!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น
โม่ฉือชิงตะลึง “เสร็จกัน ข้าว่าอยู่ว่าทำไมสาวใช้เมื่อครู่หน้าตาคุ้นๆ รีบตามข้ามาเร็ว ข้าพึ่งเจอพวกนางเมื่อครู่เอง!”
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวรีบตามโม่ฉือชิงไปทันที ขอเพียงหยุนซูอย่าเป็นอันใดไป
ฮ่องเต้ได้ยินว่าหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเข้าวังมา แต่ไม่ได้ไปพบเขา กลับทำท่ารีบร้อน ดูท่าคงเกิดเรื่องใหญ่อะไรบางอย่างแน่ ฮ่องเต้รีบมาด้วยตัวเองทันที
ฮ่องเต้กับจวินหย่วนโยว หยุนถิงพบกันด้านนอกเรือนขององค์หญิงเจ็ด หยุนถิงไม่มีเวลาอธิบาย รีบพุ่งเข้าไปทันที
หยุนถิงผลักประตูเปิดออก พอเห็นภาพด้านในก็ตะลึงทันที!