จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 583 ยังไงถิงเอ๋อร์รักตนที่สุดอยู่ดี
“ไม่เพียงแค่บีบคอ เจ้ายังซัดหลงยีกระเด็น เกือบจะฟันรั่วจิ่งตายคาที่ หากมิใช่ข้ามาทันเวลา ลูกน้องคนสนิทหลายคนนี้ของเจ้าคงโดนเจ้าฆ่าไปหมดแล้ว!” โม่เหลิ่งเหยียนแค่นเสียงหยัน
หากเขามิใช่สามีของหยุนถิง เอาแค่ที่เขาบีบคอหยุนถิง โม่เหลิ่งเหยียนคงซัดหัวเขากระจุไปนานแล้ว
น้ำเสียงเย็นชาประหนึ่งกระบองใหญ่ตีหัวใจจวินหย่วนโยวอย่างแรง ในขณะเดียวกันที่สบดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธจนแดงก่ำนั่น จวินหย่วนโยวรู้ทันทีว่าเขาไม่ได้โกหก
ถึงจะไม่ชอบหน้าโม่เหลิ่งเหยียน แต่จวินหย่วนโยวรู้ดีว่าเขาไม่มีทางเอาชีวิตถิงเอ๋อร์มาล้อเล่น
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เหตุใดข้าจำไม่ได้เลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถิงเอ๋อร์ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จวินหย่วนโยวกังวลร้อนใจ
“อย่าไปปลุกนาง นางมิเป็นไร เจ้าต่างหาก เสียสติโดนคนควบคุมแล้วยังไม่รู้ตัวอีก เป็นตัวอันตรายจริง!” โม่เหลิ่งเหยียนบ่น
พอได้ยินว่าถิงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร จวินหย่วนโยวก็วางใจลง นางต้องเหนื่อยมากแน่ เป็นห่วงตนมากแน่ๆ ดังนั้นจวินหย่วนโยวมองกระโจมข้างๆแล้ว แต่ไม่ได้ไปรบกวน
“ซื่อจื่อ ครั้งนี้โชคดีที่ซวนอ๋องมาช่วยไว้” หลงเอ้อร์เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา
ทำเอาจวินหย่วนโยวคิ้วขมวดมุ่น เขาสมควรตายนัก เกือบทำร้ายถิงเอ๋อร์เข้าเสียแล้ว
“ซื่อจื่อเฟยไม่เป็นไรจริงๆแน่รึ?”
ถึงซวนอ๋องจะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ยังไม่วางใจ หากไม่ได้เห็นกับตา จวินหย่วนโยวมีหรือจะวางใจได้ แต่ก็กลัวจะรบกวนการพักผ่อนของนา
“ซื่อจื่อเฟยไม่เป็นไรจริงๆ” หลงเอ้อร์ตอบด้วยสีหน้าตึงเครียด
จวินหย่วนโยวถึงถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็สีหน้าเย็นเยียบเย็นชา เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ “รีบส่งคนไปสืบทันทีว่า ผู้ใดกล้าควบคุมข้าให้ทำร้ายซื่อจื่อเฟยกัน ไม่ว่าเป็นใคร จะละเว้นมิได้เด็ดขาด!”
“ขอรับ!” หลงเอ้อร์รีบไปจัดการทันที
รั่วจิ่งกับหลงยีเร่งรุดเข้ามา พอได้ยินว่าซื่อจื่อฟื้นแล้ว ทั้งสองคนตื่นเต้นยิ่งนัก “ซื่อจื่อท่านฟื้นแล้ว ดียิ่งนัก”
“ซื่อจื่อ ข้าน้อยทำงานมิดี ไม่อาจจับตัวคนเป่าขลุ่ยมาได้ ขอซื่อจื่อลงโทษด้วย!” หลงยีคุกเข่าลงทันที
“ลุกขึ้นเถอะ ข้าประมาทเอง พวกเจ้าสองคนจงรักภักดีเพียงนี้ ข้าดีใจนัก หากมีครั้งต่อไป ต้องคุ้มครองซื่อจื่อเฟยก่อน ไม่ต้องสนใจข้า หากข้าลงมือกับซื่อจื่อเฟยอีก พวกเจ้าไม่ต้องยั้งมือเลย!” จวินหย่วนโยวสั่งการเด็ดขาด
“ขอรับ!” หลงยีและรั่วจิ่งรับคำสั่ง
สีหน้าดำทะมึนของโม่เหลิ่งเหยียนถึงคลายลงเล็กน้อย ถือว่าจวินหย่วนโยวยังมีหัวใจ รู้ว่าต้องคุ้มครองหยุนถิง
“ข้ารู้สึกว่า จวนซื่อจื่อของเจ้าควรจะตรวจสอบสักหน่อยแล้ว พวกเจ้าออกจากเมืองหลวงมาหนองน้ำเย็นแค่สองชั่วยาม กลับโดนคนตามมาเร็วเพียงนี้ และยังมาควบคุมเจ้าได้อย่างพอเหมาะพอเจาะอย่างนี้ ดูจะบังเอิญเกินไปหน่อยแล้ว” โม่เหลิ่งเหยียนบอก
ดวงตาดำขลับดุจราตรีของจวินหย่วนโยวทะมึนขึ้น เขาย่อมฟังออกในความหมายนั้น “หลิงเฟิง เรื่องนี้ให้เจ้าจัดการ สืบหาหนอนบ่อนไส้ในจวนซื่อจื่อออกมาให้ได้!”
“ขอรับ!”
โม่เหลิ่งเหยียนยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ถึงได้ก้าวออกมาจากในหนองน้ำเย็น น้ำในหนองน้ำเย็นเสียดแทงกระดูก ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ส ลมพัดมาโดนร่างกายยิ่งทำให้หนาวเหน็บยิ่งขึ้น โม่เหลิ่งเหยียนจามออกมา
“หลิงเฟิง ไปเอาเสื้อผ้าข้ามาให้ซวนอ๋องชุดหนึ่ง!” จวินหย่วนโยวบอก
“ขอรับ!”
โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองชุดคลุมสีขาวที่หลิงเฟิงนำมาอย่างรังเกียจ และไม่ขยับรับมันมา
“ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้า แค่กลัวเจ้าไม่สบายแล้วไปติดซื่อจื่อเฟย!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงหึ
โม่เหลิ่งเหยียนรับชุดมา “ข้าไม่มีทางไม่สบายหรอก!” พูดพลางเดินไปเปลี่ยนในป่าข้างๆ
สีหน้าจวินหย่วนโยวดำทะมึนทันที ผู้ใดกันแน่ที่ชั่วร้ายเพียงนี้ กล้าทำให้ตนเกือบฆ่าถิงเอ๋อร์ จวินหย่วนโยวสาบานในใจว่าจะต้องจับมันออกมาสับเป็นหมื่นๆชิ้นให้ได้!
ไม่นานโม่เหลิ่งเหยียนก็กลับมา ใส่ชุดของจวินหย่วนโยว หยุนถิงตื่นมาพอดี เดินออกมาจากในกระโจม และเห็นโม่เหลิ่งเหยียนในชุดขาว
“ซวนอ๋อง ท่านใส่ชุดขาวแล้วหล่อเหลานัก แต่เสื้อผ้าชุดนี้ทำไมดูคุ้นตาจริง?” หยุนถิงบอก
คำพูดเดียวทำสีหน้าจวินหย่วนโยวที่อยู่ในหนองน้ำเย็นเย็นชาลงทันที “นั่นเสื้อผ้าของข้า! “
หยุนถิงได้ยินเสียงคุ้นเคย หันมองซื่อจื่ออย่างตื่นเต้นทันที พอเห็นจวินหย่วนโยวฟื้นแล้ว หยุนถิงดีใจยิ่งนัก รีบพุ่งเข้าไปหาทันที
“ท่านพี่ ท่านฟื้นแล้ว ดียิ่งนัก ไม่สบายตรงไหนหรือไม่ ข้าช่วยจับชีพจรให้ท่านนะ!”
“เดินช้าๆหน่อย ระวังเท้าด้วย!” จวินหย่วนโยวบอกอย่างเป็นห่วง
พอเห็นความยินดี ตื่นเต้น เป็นห่วง กังวลบนใบหน้านางแล้ว จวินหย่วนโยวรู้สึกอบอุ่นนัก พลางเหล่มองโม่เหลิ่งเหยียนอย่างโอ้อวด
ยังไงถิงเอ๋อร์ก็รักตนที่สุดอยู่ดี
โม่เหลิ่งเหยียนมองบนใส่เขา ไม่ได้พูดอะไร และก้มมองชุดสีขาวบนร่างตน กลับไปเขาจะให้คนทำชุดสีขาวเสียหลายชุด
หยุนถิงรีบจับชีพจรให้จวินหย่วนโยวทันที พอจับชีพจรทั้งสองมือเสร็จ เธอถึงถอนหายใจโล่งอก “ซื่อจื่อ พิษในตัวท่านโดนถอนแล้ว โดนกำจัดไปหมดแล้ว!”
จวินหย่วนโยวตื่นเต้นยิ่งนัก เขากอดหมับหยุนถิงเข้าทันที “ถิงเอ๋อร์ขอบคุณเจ้ามาก ขอบคุณ”
หมอยมบาลช่วยดูแลร่างกายเขามาหลายปี ก็ทำได้แค่ใช้ยาหิ้วชีวิตเขาไว้ หลายปีมานี้จวินหย่วนโยวทนรับความทรมานจากยาพิษมาตลอด ทรมานจนอยากตาย หากไม่ใช่เพราะเขายังต้องพยุงจวนซื่อจื่อ จวินหย่วนโยวคงทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ
ความทรมานเช่นนั้น อยู่มิสู้ตายเสียดีกว่า
เดิมเขาอยู่ได้อีกอย่างมากสามปี จวินหย่วนโยวไม่วาดหวังอะไรกับตนแล้ว อย่างไรก็อยู่ตัวคนเดียว จนตาย
จวบจนได้พบกับหยุนถิง นางโผล่เข้ามาในสายตาตน โผล่เข้ามาในชีวิตตน นำพาเรื่องน่าประหลาดใจยินดีมาให้ตนมากมาย และยังช่วยถอนพิษให้ตน
เรียกได้ว่า หยุนถิงมาช่วยต่อชีวิตให้จวินหย่วนโยว ทั้งยังเป็นแสงสว่างและความหวังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตเขาด้วย
บัดนี้เขาถอนพิษแล้ว ต่อไปก็จะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้แล้ว จวินหย่วนโยวตื่นเต้นจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
เขาสามารถอยู่ได้นานขึ้นอีกหลายปีแล้ว สามารถจูงมือหยุนถิงแก่เฒ่าไปด้วยกัน และยังสามารถมองดูลูกๆของพวกเขาเติบโต บางทีอาจจะอยู่จนได้เห็นหลานของพวกเขา—
จวินหย่วนโยวตื่นเต้นยิ่งนัก น้ำตาไหลลงมา แต่เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ความยินดี
“ซื่อจื่อ ท่านมิเป็นไรใช่ไหม?” หยุนถิงมองซื่อจื่อที่จู่ๆก็ร้องไห้อย่างกังวล พลางถาม
“ข้าดีมาก โชคดีว่ามีเจ้าถิงเอ๋อร์ เจ้าทำให้ข้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ขอบคุณเจ้ามาก หลงเอ้อร์บอกกับข้าแล้วเรื่องที่ข้าโดนเสียงขลุ่ยควบคุม ขอโทษนะ ข้าเกือบทำร้ายเจ้าเสียแล้ว!” จวินหย่วนโยวบอกอย่างรู้สึกผิด
หยุนถิงยิ้มปลอบ “ท่านไม่ได้ทำร้ายข้า ท่านพี่ ไม่ต้องรู้สึกผิดนะ ตอนนั้นท่านไม่มีสติ ทำเรื่องเช่นนั้นมิใช่ความต้องการของท่านเอง ท่านรักข้าที่สุดอยู่แล้ว เรื่องนี้ข้ารู้ดี!”
“เจ้ากอดหยุนถิงต่อไป นางต้องโดนเจ้าทำจนไม่สบายแน่!” ใม่เหลิ่งเหยียนโพล่งขึ้นมา
จวินหย่วนโยวถึงพึ่งนึกได้ และปล่อยมือทันที “ข้าลืมไปเลยว่าตนเองยังเปียกชื้นอยู่ เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ อย่าไม่สบายไปล่ะ”
“ข้าสบายดี ท่านพี่ ก็ออกมาเถอะ!” หยุนถิงบอกอย่างยินดีปรีดา
จวินหย่วนโยวเดินออกมาจากในหนองน้ำเย็น เพราะว่านั่งอยู่นานเกินไป สองขาเหน็บขาหมดแล้ว จู่ๆมายืนขึ้นก็ปวดร้าวขายิ่งนัก คิ้วจวินหย่วนโยวขมวดมุ่น
“ท่านพี่ ท่านไม่สบายตรงไหนรึ?” หยุนถิงยื่นมือเข้ามา