จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 613 ขอบคุณซื่อจื่อเฟยที่ให้ข้าได้เกิดใหม่

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่613 ขอบคุณซื่อจื่อเฟยที่ให้ข้าได้เกิดใหม่

ไฟลุกแรงมาก จนทำให้ฝ่าบาทตกใจ ฝ่าบาทได้ยินว่าลานขององค์หญิงซินฉิงเกิดไฟไหม้ ก็รีบสั่งให้องครักษ์ทั้งหมดไปช่วยอย่างสุดกำลังทันที ตัวเองก็ตรงไปที่ลานของซินฉิง

แต่เมื่อฝ่าบาทมาถึง บ้านทั้งหลังก็ลุกเป็นไฟไปหมดแล้ว ไฟมหึมาก็ทำเอาท้องฟ้าแดงไปครึ่งหนึ่ง

“ฝ่าบาท องค์หญิงยังอยู่ข้างใน โปรดช่วยองค์หญิงด้วย!” สาวรับใช้คนสนิทขององค์หญิงซินฉิงวิ่งเข้ามาคุกเข่าขอความช่วยเหลือ

สีหน้าของฝ่าบาทเคร่งขรึม”ทหาร ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องช่วยองค์หญิงซินฉิงออกมาให้ได้!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์ที่อยู่ข้างๆ รับคำสั่ง ต่างก็ถือถังไปตักน้ำดับไฟทันที

เมื่อไฟดับลง ก็เป็นเวลาหนึ่งก้านธูปแล้ว เหล่าองครักษ์วิ่งเข้าไปก็เห็นเพียงศพหญิงที่ไหม้เกรียมจนหน้าเละไปหมด แต่กำลังที่ใส่ไว้ในข้อมือนั้นกลับเป็นขององค์หญิงสาม

“องค์หญิง ทำไมท่านถึงเกิดเรื่องได้ องค์หญิง โปรดอย่าทิ้งบ่าวไว้ องค์หญิง——” สาวรับใช้รีบวิ่งไป และร้องไห้เสียงดังกับศพบนพื้นนั้น

เหมยเฟยที่รีบวิ่งมาเห็นภาพเช่นนี้ ก็รีบพยุงฝ่าบาทไว้ทันที”ฝ่าบาท ท่านโปรดระงับความเสียใจ!”

“โปรดระงับความเสียใจ ข้าจะโปรดระงับความเสียใจไว้ได้อย่างไร โฉมหน้าขององค์หญิงซินฉิงกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อย่างยาก ทำไมจู่ๆ ถึงเกิดไฟไหม้ได้?เจ้าเป็นสาวรับใช้คนสนิทขององค์หญิงซินฉิง ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ฝ่าบาทจ้องมองด้วยความโกรธ

“ทูลฝ่าบาท ใบหน้าขององค์หญิงหายดี ช่วงนี้มีคนมาเยี่ยมมากมาย คืนนี้องค์หญิงวางพอดี บอกว่าอยากกินบัวลอยหมักสุรา บ่าวจึงไปต้มด้วยตนเองที่ห้องพระเครื่องต้น แต่เมื่อกลับมาก็เห็นลานขององค์หญิงไฟไหม้แล้ว คงต้องมีคนอิจฉาที่องค์หญิงฟื้นคืนโฉมหน้าและวางยาพิษให้องค์หญิง โปรดฝ่าบาททรงตรวจสอบอย่างละเอียด!” สาวรับใช้พูดแล้วก็คำนับอย่างแรง

สีหน้าของฝ่าบาทเคร่งขรึม”จ๋ายขุย ข้าสั่งให้เจ้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ ต้องหาสาเหตุของเกิดไฟไหม้ให้ได้!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” จ๋ายขุยพาคนไปตรวจสอบทันที

“ฝ่าบาท องค์หญิงสามเกิดเรื่องเช่นนี้ทำให้คนน่าสะเทือนใจยิ่งนัก องค์หญิงสามมีภัยเยอะ บางทีนี่อาจเป็นการหลุดพ้นที่ดีที่สุดสำหรับนาง” ฉินเฟยเดินเข้ามาปลอบโยน

สีหน้าของฝ่าบาทเคร่งขรึม และถอนหายใจเฮือกใหญ่”เป็นความประมาทเลินเล่อของข้าเอง”

“ฝ่าบาท ดึกแล้วหม่อมฉันพยุงท่านกลับไปพักผ่อนเถอะ ทีนี้มีหัวหน้าจ๋ายคงสืบหาความจริงได้โดยเร็วอย่างแน่นอน” ฉินเฟยพูดห่วงใย

“ฝ่าบาท ท่านไปพักเถอะ หม่อมฉันจะดูแลศพขององค์หญิงสามด้วยตนเองเลย ฝ่าบาทโปรดวางใจ!” เหมยเฟยกล่าว

มีเจ้าอยู่ ข้าไว้ใจ!” ฝ่าบาทหันหลังและจากไป

ฉินเฟยตามไปทันที เหมยเฟยก็สั่งให้คนหามศพขององค์หญิงสามไปที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษ ตัวเองก็ไปเฝ้าด้วย

“เหนียงเหนียง บ่าวขอพูดคำที่ไม่น่าฟังหน่อย ในเวลานี้ฝ่าบาททรงต้องการการปลอบโยน ทำไมท่านไม่ไปอยู่เคียงข้างฝ่าบาทเจ้าค่ะ?” สาวรับใช้ถามด้วยความงุนงง

เหมยเฟยส่ายหัว”การอยู่เคียงข้างฝ่าบาทในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องดี อยู่ในศาลเจ้าบรรพบุรุษดีกว่า เช่นนี้ฝ่าบาทก็ยังจะสงสารเจ้า”

“เหนียงเหนียงทรงฉลาดยิ่งนัก!” สาวใช้กล่าวอย่างนับถือ

“แต่น่าเสียดายที่องค์หญิงสามจากไปเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย!” เหมยเฟยถอนหายใจ

พระราชวังเกิดไฟไหม้องค์หญิงสามเกิดเรื่องนั้นถูกแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงเพียงในชั่วข้ามคืน เช้าวันรุ่งขึ้น หลีอ๋อง ซวนอ๋องและคนอื่นๆต่างก็มากันหมด

“ซวนอ๋อง ข้าสั่งให้เจ้าสอบสวนเรื่องขององค์หญิงสามอย่างสุดกำลัง ให้จ๋ายขุยร่วมมือกับเจ้า ต้องหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ให้ได้ ห้ามปล่อยให้องค์หญิงสามตายไปเช่นนี้!” ฝ่าบาทสั่ง

“พ่ะย่ะค่ะ!” ซวนอ๋องรับคำสั่ง

“หลีอ๋อง เจ้าดูแลเรื่องงานศพขององค์หญิงสาม จะจัดอย่างอลังการ ข้าก็ถือว่าได้มีคำอธิบายแก่เสด็จแม่ที่เสียไปของนางแล้ว!” ฝ่าบาทตรัส

“เสด็จน้องจะไม่ทำให้ภารกิจนี้ล้มเหลวแน่นอน!” หลีอ๋องรีบไปทำทันที

บรรยากาศในวังทั้งหมดบีบคั้นยิ่งนัก เพราะองค์หญิงสามเกิดเรื่องอย่างกะทันหัน ทุกคนต่างก็ระมัดระวัง หวาดผวา วิพากษ์วิจารณ์กันว่าใครเป็นคนคิดร้ายองค์หญิงสาม

จวนซื่อจื่อ

ในขณะนี้ ซินฉิงถูกรั่วจิ่งรับกลับมา เมื่อเห็นหยุนถิง หยุนถิงก็คุกเข่าลงทันที”ขอบคุณซื่อจื่อเฟยที่ให้ข้าเกิดใหม่ ต่อไปข้าไม่ใช่องค์หญิงสามอีกต่อไป บุญคุณยิ่งใหญ่ของซื่อจื่อเฟยอยากที่จะลืมเลือน”

หยุนถิงยื่นมือออกไปพยุงนางลุกขึ้น”ไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นทางเลือกของเจ้าเอง ยินดีด้วย” จากนั้นก็ยื่นกล่องสองกล่องให้

ซินฉิงเปิดออก กล่องหนึ่งมีป้ายสีดำไว้หนึ่งอัน ส่วนอีกกล่องหนึ่งก็มีหน้ากากไว้หนึ่งใบ เพียงแต่ว่าหน้ากากนั้นดูพิเศษเล็กน้อย

“ซื่อจื่อเฟย ของพวกนี้คือ?”

“นี่คือป้ายร้านยาสมุนไพรในเมืองหลวงของข้า ร้านยาสมุนไพรทั้งหมดภายใต้ชื่อของข้าในเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าเยียนนั้น ล้วนฟังคำสั่งของเจ้า นี่คือหน้ากากหนังมนุษย์เพื่ออำนวยความสะดวกต่อเจ้า จากนี้ไปเจ้าสามารถเดินบนถนนได้อย่างสง่าผ่าเผย!” หยุนถิงตอบ

ขอบตาของซินฉิงแดง และมือที่ถือของก็สั่น”ขอบคุณสำหรับการให้ความสำคัญของซื่อจื่อเฟย แต่ของที่มีค่าเช่นนี้ข้ามิอาจรับไว้ได้?”

“หลังจากการสังเกตของข้าในช่วงเวลานี้ เจ้าศึกษาเกี่ยวกับหลักการรักษาโรครวมทั้งผลกระทบได้ดียิ่งนัก แถมจิตใจสงบ ความรู้ความมุ่งมาดปรารถนาแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงทั่วไป ข้าเชื่อว่าข้ามองคนไม่ผิด!” หยุนถิงพูดยืนยัน

น้ำตาที่ซินฉิงกลั้นเอาไว้นั้น ไหลออกมาในทันที”เพียงแค่ความเชื่อมั่นนี้ของซื่อจื่อเฟย ข้าจะบริหารร้านยาสมุนไพรสุดความสามารถอย่างแน่นอน!”

“เอาล่ะ ตั้งชื่อใหม่ให้ตัวเอง ถือเป็นการบอกลากับอดีต!”

ซินฉิงตั้งใจคิด”งั้นต่อจากนี้ไปข้าชื่อว่าหลันซาน”

“ไม่เลว เป็นชื่อที่ดี รั่วจิ่งพรุ่งนี้เจ้าพานางไปที่ร้านยาสมุนไพร กำชับลงไปต่อไปชื่อของนางที่อยู่ในจวนก็คือหลันซาน” หยุนถิงกำชับ

“ขอรับ!” รั่วจิ่งพาหลันซานจากไป

เดินออกจากลาน รั่วจิ่งก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา”ซื่อจื่อเฟยดีกับท่านยิ่งนัก มอบสิทธิ์การจัดการของร้านสมุนไพรให้ท่าน ท่านรู้หรือไม่ว่าป้ายนี้ไม่เพียงสามารถสั่งการเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังสามารถสั่งการทั่วทั้งสี่แคว้นได้”

หลันซานรู้สึกเพียงว่าป้ายในมือหนักยิ่งนัก”เจ้าหมายความว่า ซื่อจื่อเฟยมอบหมายธุรกิจของร้านยาทั่วทั้งสี่แคว้นให้ข้าบริหารงั้นหรือ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว พวกข้ายังไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนเลย แต่จะว่ามาแล้วก็มีแต่ท่านเท่านั้นที่เชี่ยวชาญหลักการรักษาโรครวมทั้งผลกระทบ ต่อให้ให้พวกข้า พวกข้าก็ไม่รู้เรื่อง” รั่วจิ่งอธิบาย

หลันซานรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และประทับใจมาก นางกับหยุนถิงพึ่งรู้จักกันไม่นาน และไม่ถือว่าความสนิทสนมกัน แต่คิดไม่ถึงว่าหยุนถิงจะไว้ใจตัวเองมากขนาดนี้ หากตัวเองเกิดคิดไม่ดีหรือทรยศ เช่นนั้นกับหยุนถิงแล้วก็ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ยิ่งนัก

แต่นางกลับไม่สนใจเลยสักนิด ซึ่งทำให้หลันซานนับถือยิ่งนัก

ไม่แปลกใจเลยที่นางสามารถทำให้จวินซื่อจื่อชอบได้ ทำให้เขาโปรดปรานเอาใจใส่นางเพียงผู้เดียว เพียงแค่ความกล้าหาญและจิตใจเช่นนนี้หลันซานเองก็รู้สึกเทียบไม่ได้แล้ว

“เหม่อลอยอะไร ไปกันเถอะ นี่ไม่ใช่งานง่ายอะไรนัก เดียวท่านคงได้เหนื่อยมาก!” รั่วจิ่งเร่ง

“ข้าไม่กลัวเหนื่อย” หลันซานรู้สึกดีใจและตั้งตารอยิ่งนัก

เช้าวันรุ่งขึ้น รั่วจิ่งพาหลันซานไปที่ร้านขายยา แม้ว่าหลันซานจะเชี่ยวชาญการรักษาโรครวมทั้งผลกระทบ แต่ไม่เคยจัดการบริหารมาก่อน ในตอนแรกก็มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้มากมาย รั่วจิ่งก็ไปเป็นเพื่อนนาง วันนี้ยุ่งและเติมเต็ม

สามวันผ่านไปในพริบตา เช้าวันนี้ ซวนอ๋องไปรายงานกับฝ่าบาท”ฝ่าบาท กระหม่อมพบเศษซากบางอย่างในลานที่ถูกเผาขององค์หญิงสาม คงมีคนทำอะไรมิดีมิร้ายกับของขวัญที่มอบให้องค์หญิงสาม!”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท