จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 628 จวินหย่วนโยวกับลูกชายเจอกัน
“ข้าไม่รู้ เป็นพี่ชายข้าที่พาตัวไป” เหอหลี่เก๋อตอบกลับ
หน้าตาลุงเหอเต็มไปด้วยความละอายใจ “เจ้ายัยเด็กคนนี้เหตุใดถึงทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ เสี่ยวเทียนยังเป็นเด็กน้อยอยู่แท้ๆ!”
ยังไม่รอให้หยุนถิงพูดจา ฮูเอ๋อเลี่ยเย็นเยือกไปทั้งตัว โมโหเดือดดาล รีบให้คนจับตัวเหอจาหลัยเข้ามา
หยุนถิงไม่พูดพร่ำทำเพลงเข้ามาหักแขนเหอจาหลัยข้างหนึ่งโดยตรง ชั่วขณะนั้นเหอจาหลัยร้องโหยหวนดังสนั่น ร้องคำรามอย่างเจ็บปวด
“ข้ายอมพูดแล้ว พวกข้าเอาเจ้าเด็กนั้นไปทิ้งไว้ในป่ารกร้างแห่งหนึ่ง แต่ว่าอยู่ที่ใดกันแน่พวกข้าก็บอกไม่ถูก” เหอจาหลัยรีบขอความเมตตา
“รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้!” เสียงของหยุนถิงเย็นเฉียบ จริงแท้อย่างมิต้องสงสัย
เหอจาหลัยตกใจแทบแย่ อดกลั้นความเจ็บปวดไว้แล้วนำทางไปอย่างชำนาญ
จวินเสี่ยวเหยียนรู้ว่าพี่ชายเกิดเรื่องขึ้น ยังรู้ภาษาอย่างยิ่ง ไม่พูดจาอะไรมาตลอดทาง นั่งเบียดหยุนถิงอยู่นิ่งๆ
ฮูเอ๋อเลี่ยติดตามไป และให้ผู้กล้าเจ็ดแปดคนตามไปด้วยกัน คนกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงไปยังป่ารกร้าง
ส่วนจวินเสี่ยวเทียนทางนี้ระหว่างที่สะลึมสะลือก็ตื่นขึ้นมาแล้ว พบว่าตรงหน้ามืดมิดไปหมด ตกใจจนร้องไห้งอแงขึ้นมา
“ท่านแม่ ท่านแม่——” จวินเสี่ยวเทียนร้องไห้ตะโกน แล้วเดินไปยังด้านนอก แต่ว่าเจ้าหนูน้อยเด็กเกินไป สะดุดหญ้าใต้เท้าหกล้มอยู่หลายหน เจ็บจนเขาร้องโอดโอย
โจรกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา ได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อยเข้าพอดี “ลูกพี่ สถานที่ห่างไกลเยี่ยงนี้เหตุใดถึงมีเด็กร้องไห้ได้เล่า?”
“เจ้าถามข้า จะให้ข้าถามผู้ใดเล่า พวกเจ้าสองคนเข้าไปดูเสียหน่อย” โจรที่เป็นพี่ใหญ่ทำเสียงหงุดหงิด
ลูกสมุนสองคนรีบเข้าไปทันที เดินไปตามเสียงร้องก็หาจวินเสี่ยวเทียนที่อยู่ในป่าเจอ จึงอุ้มเขาออกมาพร้อม
“ลูกพี่ เป็นเด็กคนหนึ่ง ผู้ใดกันคาดไม่ถึงมาทิ้งเด็กไว้ในป่านี้ นี่มันยังไร้คุณธรรมมากกว่าโจรเยี่ยงพวกเราเสียอีก!” โจรคนหนึ่งตำหนิ
ทันใดนั้นจวินเสี่ยวเทียนมองเห็นคนแปลกหน้ามากปานนี้ หนำซ้ำบนใบหน้ายังมีรอยแผล ลักษณะดูเหมือนดุร้ายมาก ชั่วขณะหนึ่งเสียงร้องไห้ดังกว่าเดิมแล้ว
“คนไม่ดี คนไม่ดี ท่านแม่ ท่านแม่——”
“ไอ้เด็กนี่ร้องหาอะไร แม่เจ้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว ถึงทิ้งเจ้าไว้ที่นี่ เจ้ายังกล้ามาว่าพวกข้าเป็นคนไม่ดี ไปจัดการเจ้าเด็กผีนี่ทิ้งเสีย ร้องไห้น่ารำคาญ!” โจรที่เป็นพี่ใหญ่ออกคำสั่ง
“ลูกพี่ ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเราเอาเจ้าเด็กนี่กลับไปหมู่บ้านบนภูเขาด้วยกันดีหรือไม่?” โจรคนหนึ่งเอ่ยปากเสียงเบาๆ
“ข้าเลี้ยงดูพวกเจ้าก็ไม่ง่ายแล้ว ยังให้ข้าเลี้ยงเด็กน้อยอีกคน เจ้าจะเลี้ยงหรือ!”
“เช่นนั้นก็ช่างเถิด เจ้าหนูคงได้แต่โทษที่โชคเจ้าไม่ดีแล้ว ชาติหน้าไปเกิดในท้องคนดีๆ เถิด!” โจรคนนั้นหมุนตัวอุ้มจวินเสี่ยวเทียนไปในป่าแล้ว ล้วงกริชออกมาอยากฆ่าเขาทิ้ง
ทันใดนั้นไม่ไกลมากนักมีภาพคนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ ถีบโจรทีเดียวกระเด็นออกไป พร้อมถือโอกาสอุ้มจวินเสี่ยวเทียนเอาไว้ในอ้อมอก
“อ่า ไอ้สารเลวคนใดลอบโจมตีข้า?” โจรร้องโหยหวน
“เด็กคนหนึ่งพวกเจ้ายังไม่ยอมปล่อยไป ช่างน่ารังเกียจ!” หลิงเฟิงตวาดใส่
เขามาตามหาซื่อจื่อเฟยที่ชายแดนด้วยกันกับซื่อจื่อ ช่วงที่เข้ามาสำรวจเส้นทางก็เจอโจรกลุ่มหนึ่งอยากทำร้ายเด็กน้อยคนหนึ่งเข้า หลิงเฟิงทนดูได้ที่ใดเล่า ย่อมต้องลงมือเป็นธรรมดา
โจรที่เป็นพี่ใหญ่จ้องตาเขม็ง “เจ้าเป็นผู้ใดกันเล่า คาดมิถึงกล้ามายุ่งเรื่องข้า เข้ามากันสิ ฟันมันทิ้งเป็นแปดท่อนให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
“ขอรับ!” โจรคนอื่นรีบเข้าไปล้อมหลิงเฟิงไว้
เพียงแต่พวกเขายังไม่ได้ลงมือ ก็ถูกหลิงเฟิงโจมตีจนกระเด็นออกไป
ร้องคำรามโหยหวน เจ็บปวดรวดร้าว พวกโจรรีบคุกเข่าอ้อนวอน
“ไสหัวไป! อย่าให้ข้าเห็นหน้าพวกเจ้าอีก!” หลิงเฟิงตวาดใส่
พวกโจรตกใจจนรีบหนีไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน ความเร็วนั้นไวดุจดังมีภัยพิบัติใหญ่หลวงไล่ตามหลัง
เวลานี้หลิงเฟิงถึงโล่งอกไปทีหนึ่ง มองเด็กน้อยในอ้อมอกแวบหนึ่ง เด็กน้อยที่เดิมทีร้องไห้เสียงดังลั่นก็หยุดร้องทันใด
ท้องฟ้ามืดมิดไปหมด หลิงเฟิงมองใบหน้าของเด็กน้อยไม่ชัด อยู่ในสถานที่รกร้างเปล่าเปลี่ยวแห่งนี้ ให้เขาดูแลเด็กน้อยคนหนึ่งก็ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี หลิงเฟิงจึงรีบย้อนกลับทางเดิมไปหาซื่อจื่อแล้ว
บนรถม้า
จวินหย่วนโยวหายใจอย่างเคร่งตึงไปทั้งตัว พอนึกถึงว่าอีกไม่นานจะได้เจอหน้าถิงเอ๋อร์แล้ว จวินหย่วนโยวก็ตื่นเต้นจนแทบไม่ไหว แต่กลับประหม่ามากเช่นกัน
สองปีแล้ว เขากับหยุนถิงไม่ได้พบหน้ากันมาสองปีแล้ว และไม่รู้ว่าตอนนี้หยุนถิงเปลี่ยนไปเป็นเยี่ยงไรบ้าง เด็กๆ หน้าตาเหมือนผู้ใด พวกเขาจะยอมรับตนเองหรือไม่——
จวินหย่วนโยวที่กำลังคิดอยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กน้อย
“จะต้องเป็นภาพหลอนของข้าแน่!” จวินหย่วนโยวพึมพำเสียงเบาๆ ค่ำคืนนี้เขาบ้าไปแล้วจริงๆ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงของหลิงเฟิงลอยมา “ซื่อจื่อขอรับ กระหม่อมเข้าไปสำรวจทางมา พบโจรกลุ่มหนึ่งกำลังจะฆ่าเด็กน้อยคนหนึ่ง กระหม่อมจึงช่วยเด็กน้อยกลับมา ไม่ทราบว่าต้องจัดการเด็กน้อยผู้นี้เช่นไรขอรับ?”
“หลิงเฟิงเจ้าเก็บเด็กน้อยมาทำอะไร ตอนนี้พวกเรารีบร้อนไปรับซื่อจื่อเฟย” รั่วจิ่งตำหนิ
วินาทีนี้จวินหย่วนโยวคิดเพียงว่าอยากเจอหน้าหยุนถิงกับลูกให้ไวหน่อย มีจิตใจไปสนใจเรื่องอื่นที่ใดเล่า “อยู่ต่อสักคนหนึ่ง นำเด็กผู้นี้ไปส่งให้ชาวบ้านใกล้ๆ——”
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ!” ทันใดนั้นจวินเสี่ยวเทียนเรียกออกมา
จวินหย่วนโยวที่เดิมทีรีบร้อนอยู่บ้างพอได้ยินคำว่าท่านพ่อนี้ เลือดทั่วตัวแข็งค้างไปหมด เสียงเด็กน้อยนั้นทำให้เขาตกตะลึงฉับพลัน
บางทีเป็นเพราะรู้ข่าวว่าหยุนถิงมีลูกแล้ว หรือบางทีรู้ว่าตนเองเป็นพ่อคนแล้ว เมื่อถูกเด็กเรียกขึ้นกะทันหัน จวินหย่วนโยวจึงอดใจไม่ไหวอยู่บ้าง
“อุ้มเด็กเข้ามาเถิด!”
“ขอรับ!” หลิงเฟิงยื่นเข้าไป
จวินหย่วนโยวรับเข้ามา ภายในรถม้ามีไข่มุกราตรี ส่องสว่างทั่วทั้งรถม้าราวกับเป็นช่วงกลางวัน ตอนที่มองเห็นใบหน้าของเด็กน้อยแจ่มชัดจวินหย่วนโยวแข็งทื่อถึงที่สุด
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ หึๆ หึๆ——” จวินเสี่ยวเทียนส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมา
“ท่านลั่วท่านรีบมาดูเร็ว เด็กคนนี้เหมือนข้าหรือไม่?” เสียงของจวินหย่วนโยวดูตื่นเต้นพอสมควร
ท่านลั่วที่ถูกบีบให้ติดตามมาด้วย ไม่ได้พักผ่อนดีๆ มาครึ่งเดือน อยู่บนรถม้ามาตลอด เวลานี้ง่วงจนสะลึมสะลือย่อมไม่พอใจที่ถูกรบกวน
“เจ้าหนูจวินเจ้ามีผีบังตาหรือไร ต่อให้หยุนถิงคลอดลูกแล้ว เจ้าก็ไม่อาจเก็บเด็กข้างทางมาแล้วคิดว่าเป็นลูกชายเจ้าได้เชียว” ท่านลั่วตำหนิ แต่ว่ายังหันหน้าชายตามองแวบหนึ่ง
พอมองคราวนี้ ท่านลั่วมึนงงถึงที่สุด “เจ้าหนูคนนี้เหมือนเจ้าเสียจริงเชียว เหมือนเจ้าตอนเด็กยิ่งนัก”
พอพูดออกมา รั่วจิ่งและคนอื่นที่อยู่นอกรถม้ารีบวิ่งเข้ามาทันใด โดยเฉพาะมีองครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับที่อายุมากส่วนหนึ่งวิ่งเข้ามาหมดแล้ว พวกเขาล้วนเคยเห็นลักษณะของซื่อจื่อสมัยเด็ก จึงรีบเข้ามายืนยัน
“ซื่อจื่อขอรับ เด็กผู้นี้เหมือนท่านตอนเด็กมากจริงๆ”
“คงไม่มีวาสนาต่อกันปานนี้กระมัง นี่ช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน”
“พวกท่านดูเชือกแดงที่เขาใส่บนมือ ข้าจำได้ว่าข้าเห็นซื่อจื่อเคยถักมัน ก็คือวิธีถักอย่างนี้!” รั่วจิ่งรีบพูดเรื่องสำคัญออกมา
จวินหย่วนโยวมองเชือกแดงตรงข้อมือของจวินเสี่ยวเทียนแวบหนึ่ง ตื่นเต้นไปทั้งตัวจนพูดไม่ออกแล้ว เพราะนั่นเป็นวิธีการถักแบบดั้งเดิม เขายังเคยเรียนจากนางมาโดยเฉพาะ
“ลูก นี่คือลูกของข้า นี่ก็คือเชือกที่ถิงเอ๋อร์ถัก ฮาๆ นี่คือลูกชายข้า!” จวินหย่วนโยวฮึกเหิมขึ้นจนพูดจาสับสน ชั่วขณะนั้นเบ้าตาก็แดงแล้ว
“ท่านพ่อ ท่านพ่อไม่ร้อง ฮู้ๆ——” จวินเสี่ยวเทียนพูดด้วยเสียงเด็กน้อย
จวินหย่วนโยวทั้งประทับใจทั้งปลื้มปีติ ชั่วพริบตาเดียวหัวใจที่รัดตึงดวงนั้นถูกคลี่คลายแล้ว เด็กที่เล็กเพียงนี้คาดมิถึงรู้จักปลอบใจตนเองด้วย
“พ่อไม่ร้องไห้ พ่อดีใจ ช่างดีเหลือเกิน ในที่สุดพ่อก็หาเจ้าเจอแล้ว” จวินหย่วนโยวดีใจจนน้ำตานองหน้า
“ซื่อจื่อขอรับ ลูกชายท่านเกือบโดนโจรฆ่าทิ้ง เช่นนั้นซื่อจื่อเฟยไม่ใช่ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันหรือขอรับ?” รั่วจิ่งถามขึ้น