จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 699 เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ดีๆ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่699 เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ดีๆ

ท่านจิ่งรองเขียนเอง ไม่นานก็เขียนเสร็จแล้ว แถมยังลงนามด้วย

เมื่อท่านจิ่งสามเห็นเช่นนี้ก็ลงนามตามทันที

“พี่สะใภ้ใหญ่ เร็วเข้า เจ้าไม่อยากให้ลูกชายเจ้ามีชีวิตอยู่หรือ?” ท่านจิ่งรองทำเสียงเชอะ

ผู้หญิงที่มีวิสัยทัศน์ที่คับแคบนี้งี่เง่ายิ่งนัก หากทั้งตระกูลจิ่งก็ไม่มีแล้ว ยังจะแย่งตำแหน่งผู้นำไปเพื่ออะไร

สีหน้าของจิ่งฮูหยินซีด นางเคยได้ยินเกี่ยวกับความเย่อหยิ่งและความโหดเหี้ยมของซื่อจื่อเฟย แต่คิดไม่ถึงว่าเอ่ยปากทีก็จะประหารคนทั่วทั้งตระกูลจิ่งทิ้ง

แม้ว่านางจะแค้นและโกรธ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร กำลังของหยุนถิง จิ่งฮูหยินไม่สงสัยแม้แต่นิดเลย

ผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถทำให้แคว้นเป่ยลี่กับแคว้นเทียนจิ่วเกิดความโกลาหล และจะเห็นตระกูลจิ่งอยู่ในสายตาได้อย่างไรกัน

หากตระกูลจิ่งจบลง นางกับลูกจะทำอย่างไร ระเหเร่ร่อนหรือถูกศัตรูตามฆ่า หรือถูกคนของตระกูลลั่วกับตระกูลสือหัวเราะเยาะ?——

ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ล้วนไม่ใช่ที่นางต้องการ

ในเมื่อไม่สามารถใช้ประโยชน์จิ่งไป๋ ทำไม่ไม่เหลือทางหนีทีไล่เอาไว้ให้ตัวเอง เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ แม้ว่าจิ่งฮูหยินจะไม่เต็มใจแต่ก็เดินมาลงนาม

“ซื่อจื่อเฟยท่านดูหน่อย เช่นนี้ได้หรือไม่?”ท่านจิ่งรองมอบมาให้ด้วยความเคารพ

หยุนถิงรับมาและอ่านทีละคำอย่างละเอียด “ถูกต้อง ท่านจิ่งรองเขียนได้ดีมาก ลำบากแล้ว”

“ไม่ลำบาก ไม่ลำบาก ขอแค่ซื่อจื่อเฟยพอใจก็พอแล้ว!” ท่านจิ่งรองพูดเอาใจ

หยุนถิงยื่นหนังสือตัดสัมพันธ์ให้จิ่งไป๋ “ต่อจากนี้ไป เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลจิ่งอีก!”

ถือหนังสือตัดสัมพันธ์นั้นเอาไว้ มือของจิ่งไป๋ก็สั่นเทา

ในที่สุดเขาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจิ่งสักที นี่คือสิ่งที่พวกเขารอคอยมากที่สุด และเป็นสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดในชีวิตนี้

“ขอบคุณซื่อจื่อเฟย!” จิ่งไป๋พูดอย่างซาบซึ้ง

“คนบ้านเดียวกันเกรงใจอะไร ในเมื่อเรื่องจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกข้าก็ไปกันเถอะ!” หยุนถิงกล่าว

“อืม!”

“ข้าส่งซื่อจื่อเฟย!” ท่านจิ่งรองกล่าวด้วยความเคารพ และส่งทั้งสามออกจากประตูตระกูลจิ่งด้วยตรเอง จากนั้นจึงค่อยกลับไป

สีหน้าที่ประจบสอพลอของท่านจิ่งรองเปลี่ยนไปในทันที และพูดอย่างเย็นชาและไม่เป็นมิตร “พี่สะใภ้ใหญ่ มอบป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำออกมาเถอะ มิฉะนั้นอย่างหาว่าพวกข้าสองพี่น้องไม่เกรงใจ!”

จิ่งฮูหยินโกรธมาก “ท่านรอง เจ้าขู่ข้าหรือ?”

“ข้าขู่เจ้าแล้วจะทำไม พี่สะใภ้ใหญ่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเอง ข้ากับน้องสามพูดกับเจ้าดีๆมาโดยตลอด คำพูดในเมื่อครู่ของซื่อจื่อเฟยนี้เจ้าก็ได้ยินแล้ว

ตอนนี้จิ่งฮุยเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่เจ้ายังครอบครองป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำเอาไว้อยู่มีเจตนาอะไรกันแน่? หากพี่สะใภ้ใหญ่มอบป้ายอาญาสิทธิ์นี้ออกมา พวกข้าสองพี่น้องก็ยังเรียกเจ้าว่าพี่สะใภ้ใหญ่ ให้เจ้าอยู่ดีกินดีและปกป้องเจ้าไปตลอดชีวิต ทว่าหากเจ้าไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ตระกูลจิ่งก็ไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์! ” ท่านจิ่งรองมองด้วยความโกรธ

นัยยะนอกเหนือคำพูดก็คือ หากจิ่งฮูหยินไม่มอบป้ายอาญาสิทธิ์ออกมา นางก็จะถูกไล่ออกจากตระกูลจิ่งหร้อมกับลูกชาย

“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่รองทำเช่นนี้ก็เพื่อตระกูลจิ่ง เจ้าต้องคำนึงถึงประเด็นหลักหรือภาพรวม!” ท่านจิ่งสามพูดเห็นด้วย

จิ่งฮูหยินมองดูท่านรองกับท่านสามที่พูดฉอดๆ ก็แค้นยิ่งนัก แต่ตอนนี้มีเพียงพวกเขาสองคนแม่ ผู้นำก็เสียไปแล้ว ลูกชายก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ไม่มีใครให้พึ่งพา ท่านจิ่งรองเป็นคนที่โหดเหี้ยมมาโดยตลอด เพื่อให้ถึงเป้าหมายของตนเองไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล เขาพูดได้ก็ทำได้อย่างแน่นอน

“ก็แค่ป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำเองมิใช่หรือ ข้าให้พวกเจ้าก็ได้!” จิ่งฮูหยินลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะบูชาข้างๆ และกดกลไกที่มุมโต๊ะ บนผนังก็ปรากฏกล่องลับหนึ่ง และนางก็เอากล่องนั้นมา

ท่านจิ่งรองรับมาทันที เปิดออกก็เห็นว่าเป็นป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำจริงๆด้วย ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “ป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำ ดียิ่งนัก ต่อไปข้าก็คือผู้นำของตระกูลจิ่งแล้ว!”

“ขอแสดงความยินดีกับพี่รอง!” ท่านจิ่งสามกล่าวอย่างอิจฉา

จิ่งฮูหยินมองดูท่าทางที่หยิ่งยโสของท่านจิ่งรอง ดวงตาแสนสวยนั้นมีความโหดเหี้ยมแวบผ่านไป ได้ใจไปซะ สักวันป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำนี้ก็จะกลับมาอยู่ในมือข้าอีกอย่างแน่นอน

ทางนี่ หยุนถิงพาจิ่งไป๋กับหลงเอ้อขี่ม้าเร่งกลับไป ตอนมาหยุนถิงก็เดินทางมาตลอดทั้งคืนโดยไม่ได้พักผ่อน เรื่องของจิ่งไป๋จัดการเสร็จแล้ว ฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว หยุนถิงก็เหนื่อยมาก

“ซื่อจื่อเฟย ด้านหน้าเป็นเมืองแห่งหนึ่ง มิสู้พวกข้าไปพักคืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทาง ท่านไม่ได้พักผ่อนมาสี่วันแล้ว ร่างกายจะรับไม่ไหว!” หลงเอ้อกล่าวอย่างเป็นห่วง

“อืม งั้นไปค้างคืนหนึ่ง!” หยุนถิงเห็นด้วย

นางเหนื่อยมากแล้วจริง และอยากเห็นท่านพี่กับลูกๆ และยิ่งไม่อยากเห็นจวินหย่วนโยวเห็นตาแพนด้าของตัวเอง เช่นนี้เขาจะเป็นห่วง

พวกเขาตรงไปยังเมืองข้างหน้า และหาโรงเตี๊ยมหนึ่งแล้วเข้าพัก

อาจเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทางเกินไป ไม่นานหยุนถิงก็ผล็อยหลับไป

และที่แห่งหนึ่งของโรงเตี๊ยม เหงาดำหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ ในยามค่ำคืน มองดูโรงเตี๊ยมด้วยดวงตาที่มีเล่ห์เหลี่ยม

“เจ้านาย หยุนถิงเข้าพักในโรงเตี๊ยมแล้ว จะลงมือเลยหรือไม่?” บริวารคนหนึ่งถาม

วี่อู๋เสียเขย่าพัดพับในมือเบาๆ แต่ดวงตากลับเย็นชายิ่งนัก “ลงมือกับนางน่าเบื่อไปหน่อย นางเพิ่งกลับมาจากตระกูลจิ่งไม่ใช่หรือ เจ้าพาคนไปสังหารยกทั้งตระกูลจิ่ง จากนั้นก็บอกว่าภายนอกว่าหยุนถิงเป็นคนทำ ข้าจะดูว่าหยุนถิงจะรับมืออย่างไร!”

“ขอรับ เจ้านายฉลาดยิ่งนัก!” บริวารไปทำทันที

เมื่อค่ำมากๆแล้ว คนชุดดำหลายร้อยคนอาศัยความมืดแล้วตรงไปที่ตระกูลจิ่ง เห็นคนก็ฆ่า ทั่วทั้งตระกูลจิ่งเต็มไปด้วยเลือด

ผู้เฝ้าพิทักษ์คนหนึ่งวิ่งเข้าไปลานของจิ่งฮูหยิน “ฮูหยินรีบหนีไป มีคนมาแอบโจมตี!” หลังจากพูดจบ ก็สิ้นลมหายใจในทันที

จิ่งฮูหยินตกตะลึงยิ่งนัก เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาในนอกลาน หรือว่าหยุนถิงจะฆ่าคนปิดปาก?

นางไม่มีเวลามาคิด ตรงไปที่ห้องของจิ่งฮุย ปลุกลูกชายที่หมดสติตื่น และผลักเขาลงจากทางลับใต้เตียงโดยไม่อธิบายใดๆเลย

“ลูกเอ๋ย ไม่ว่าจะได้ยินอะไร เห็นอะไร ก็ห้ามออกมา เจ้าต้องมีชีวิตอยู่อย่างดีๆนะ!” จิ่งฮูหยินกำชับ จากนั้นก็หยิบผลไม้และของว่างบนโต๊ะข้างๆ แล้วเทเข้าไปในทางลับหมด

จิ่งฮุยอยากถามให้ชัดเจน แต่ทางลับถูกแม่ปิดเอาไว้แล้ว มีเพียงช่องว่างเล็กน้อย ซึ่งอาศัยแสงเทียนในห้องก็สามารถมองเห็นได้เล็กน้อย

ทันทีที่จิ่งฮูหยินพึ่งปิดทางลับ นอกห้องก็มีคนชุดดำสองคนบุกเข้ามา

“พวกเจ้าเป็นใคร ทำไมถึงมาตระกูล—” จิ่งฮูหยินยังไม่ทันพูดจบ คนชุดดำก็บุกเข้ามาและใช้ดาบแทงหน้าอกของนาง

จิ่งฮูหยินมองดูดาบยาวบนหน้าอกของตัวเองด้วยความตกตะลึง และเลือดสีแดงสดก็ไหลลงมาตามเสื้อ เลือดไหลเป็นทาง

จิ่งฮุยที่อยู่ในทางลับเห็นฉากนี้ก็ตกใจกลัวยิ่งนัก เขาอยากบุกออกมาช่วยแม่ แต่ร่างกายของเขาอ่อนแรง ขาก็เดินไม่ได้ ขยับก็ยังขยับไม่ได้เลย ทำได้เพียงเฝ้ามองแม่เกิดเรื่อง จิ่งฮุยน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ต่อเนื่อง

เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์เช่นนี้มาก่อน เขาอยากออกมา แต่จิ่งฮูหยินที่ล้มลงใช้แรงเฮือกสุดท้ายมองไปที่ทางลับใต้เตียง และส่ายหัวให้จิ่งฮุย ตากนั้นก็สิ้นลมหายใจไป

“พวกข้าทำคำสั่งการของซื่อจื่อเฟยเรียบร้อยแล้ว ถอย!” คนชุดดำคนหนึ่งพูด

“ไป!”

เมื่อเห็นทั้งสองจากไป และแม่ที่นอนจมกองเลือด จิ่งฮุยในทางลับก็โกรธและแค้นมาก

เขาแอบสาบานในใจว่า จะแก้แค้น และให้ซื่อจื่อเฟยไม่ได้ตายดีอย่างแน่นอน เพื่อล้างแค้นให้แม่

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท