จอมนางข้ามพิภพ บทที่700 เพราะจวินซื่อจื่อเอาใจนั่นแหละ
แต่ท่านจิ่งรองเอาป้ายอาญาสิทธิ์ของผู้นำได้แล้วก็ดีใจยิ่นนัก กลับไปก็เฉลิมฉลองในจวนทันที เฝ้ารอที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำในวันพรุ่งนี้ แต่กลางดึกก็ถูกคนลอบสังหารแล้ว
ครอบครัวของท่านจิ่งสามก็ไม่ได้รอดจากภัยนี้ คืนนี้ ทุกคนในตระกูลจิ่งต่างก็ถูกฆ่าทิ้งหมด เลือดไหลดั่งแม่น้ำ ศพเต็มไปทั่วลาน
เช้าวันรุ่งขึ้น หยุนถิงและคนอื่นๆ ตื่นขึ้นและรับประทานอาหารเช้าที่ชั้นหนึ่งของโรงเตี๊ยม
หน้าประตูมีคนเดินทางสองสามคนเดินเข้ามา กินของไปหน่อยแล้วนั่งคุยกัน “พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ ตระกูลจิ่งถูกคนฆ่ายกตระกูลในชั่วข้ามคืน ผู้ที่ทำเป็นซื่อจื่อเฟย เจ้าว่าซื่อจื่อเฟยนี้ก็ร้ายกาจยิ่งนัก สังหารยกตระกูลจิ่ง นั่นเป็นชีวิตคนสองร้อยกว่าเลยนะ!”
“ใช่นะสิ ได้ยินว่าเป็นเพราะซื่อจื่อเฟยช่วยลูกนอกสมรสของตระกูลจิ่ง เกิดความทะเลาะวิวาทกับฮูหยิน ความแค้นปานใดถึงกับต้องฆ่าคนสองร้อยกว่าชีวิตทิ้ง!”
“เป็นเพราะจวินซื่อจื่อเอาใจแหละ ปล่อยให้นางทำใจชอบเช่นนี้ ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา โหดเหี้ยมยิ่งนัก”
เมื่อฟังการสนทนาที่กระซิบกระซาบของกี่คนนี้ หยุนถิงก็ขมวดคิ้ว
หลงเอ้อยกดาบยากและเดินไป และโยนดาบลงบนโต๊ะ “เมื่อครู่พวกเจ้าพูดอะไรกัน พูดอีกครั้งสิ?”
พวกเขาตกตะลึง เมื่อเห็นว่าหลงเอ้อไม่ใช่เป็นคนที่จะไปยั่วได้ง่ายๆเลย ก็รีบอธิบาย “พวกข้าก็แค่ได้ยินมา เรื่องนี้ลือกันไปทั่วแล้ว รบกวนไปถึงราชการ ตอนนี้ศพของคนตระกูลจิ่งยังอยู่ในลานเลย ต่างก็บอกว่าเป็นซื่อจื่อเฟยของจวินซื่อจื่อเป็นคนทำ!”
“พูดไปเรื่อย ซื่อจื่อเฟยของข้ามิได้ไปทำอะไรคนตระกูลจิ่งเลย มีคนใส่ร้ายชัดๆ ฝีมือที่ใช้ไม่ได้เช่นนี้พวกเจ้าก็เชื่อหรือ?” หลงเอ้อคำรามด้วยความโกรธ
“ซื่อจื่อเฟยของเจ้า เจ้า เจ้าคือคนของซื่อจื่อเฟย?” หนึ่งในนั้นถามด้วยความตกใจ
“บุรุษลูกผู้ชายเดินไม่ยอมเปลี่ยนชื่อ นั่งไม่ยอมเปลี่ยนแซ่ หลงเอ้อ!”
“หลงเอ้อ องครักษ์เงามังกรไม่ใช่หรือ” ทุกคนต่างก็หันมองหยุนถิงกับจิ่งไป๋ข้างๆทันที จากนั้นต่างก็ตกใจกลัว คุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา
“ซื่อจื่อเฟยไว้ชีวิตด้วย เมื่อครู่พวกข้าก็แค่พูดไร้สาระ ท่านเป็นคนที่ใจกล้างจะไปฆ่ายกตระกูลจิ่งได้อย่างไร ได้โปรดซื่อจื่อเฟยให้อภัย ปล่อยพวกข้าไปด้วย!” ทุกคนรีบร้องขอความเมตตา
หยุนถิงมองอย่างเย็นชา “พวกเจ้าเห็นกับตาหรือ เห็นข้าฆ่าคน?”
ทุกคนรีบส่ายหัวทันที “ไม่ พวกข้าไม่เห็น”
“แล้วพวกเจ้าไปฟังมาจากที่ใด?”
“พวกข้าเดินผ่าน ได้ยินคนขายของและคนราชการที่อยู่ข้างตลอดบอก คนทั้งเมืองก็กำลังพูดถึงเรื่องนี้ มีคนเห็นคนของราชการยกศพหลายศพออกจากตระกูลจิ่ง” หนึ่งในนั้นตอบ
หยุนถิงเลิกคิ้วและมองดูพวกเขา “ปล่อยพวกเขาไป”
พวกเขากี่คนตกใจและประหลาดใจ ต่างก็รีบกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณซื่อจื่อเฟยที่ไว้ชีวิต ขอบคุณความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของซื่อจื่อเฟย”
หลังพวกเขาพูดจบก็รีบจากไป เร็วเหมือนกับว่าด้านหลังมีสิ่งน่ากลัวอะไร
“ซื่อจื่อเฟย เห็นได้ชัดว่ามีคนใส่ร้ายท่าน หากให้ข้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ ข้าจะถลอกหนังเขาทิ้งเลย!” หลงเอ้อพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“เห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้าชัดๆ ในเมื่อตระกูลจิ่งเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ คิดว่ากำลังก็คงไม่อ่อนแอเกินไป สามารถฆ่ายกทั้งตระกูลจิ่งทิ้งเพียงชั่วข้ามคืน เห็นได้ชัดว่าความสามารถนั้นแข็งแกร่งเพียงใด อาจอยู่เหนือกว่าเจ้ากับข้าก็ได้” หยุนถิงทำสีหน้าเคร่งขรึม
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในใจนางถึงได้มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“ซื่อจื่อเฟยข้าขอโทษ ข้าทำให้พวกท่านต้องเดือดร้อนไปด้วย” จิ่งไป๋กล่าวขอโทษ
“สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ต่อให้ไม่มีตระกูลจิ่ง อีกฝ่ายก็จะหาทางอื่นมาใส่ร้ายข้าแน่นอน แต่เสียดายชีวิตคนเยอะเช่นนั้น!” หยุนถิงถอนหายใจ
“แล้วต่อไปพวกข้าควรทำอย่างไร?” หลงเอ้อถาม
“กลับไป! ในเมื่ออีกฝ่ายมาอย่างเตรียมพร้อม ต่อให้พวกข้ากลับไปตระกูลจิ่งก็ไม่พบเบาะแสใดอย่างแน่นอน หากอีกฝ่ายซุ่มโจมตีอยู่ระหว่างทาง คงอันตรายมาก และกลับไปปรึกษากับจวินซื่อจื่อก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ!” หยุนถิงอธิบาย
“ฟังซื่อจื่อเฟยขอรับ”
ทั้งสามคนออกเดินทางทันทีโดยไม่หยุดพัก จนถึงเช้าตรู่ของวันที่สาม โชคดีที่ไม่มีการซุ่มโจมตีหรือแอบโจมตีระหว่างทาง
เมื่อจวินหย่วนโยวรู้ว่าตระกูลจิ่งถูกคนฆ่ายกตระกูล ก็กังวลมาก หากไม่ใช่เป็นเพราะลูกสองคน เขาต้องออกเดินทางไปหานางทันที
เขาให้หลงยีติดต่อหลงซานทันที เมื่อได้รับจดหมายนกพิราบของหลงซาน บอกว่าซื่อจื่อเฟยปลอดภัยดี และกำลังกลับมา จวินหย่วนโยวจึงค่อยโล่งใจลง
ทันทีที่เห็นหยุนถิงกลับมา จวินหย่วนโยวก็กอดนางเข้าอ้อมแขนโดยไม่พูดอะไรทันที
“กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว!”
เขากอดหยุนถิงไว้อย่างแน่น สูบดมออร่าที่คุ้นเคยบนร่างกายของนาง สัมผัสถึงอุณหภูมิร่างกายของนาง จใจที่ตีงแน่นของจวินหย่วนโยวจึงค่อยโล่งลง
หยุนถิงถูกเขากอดแน่นเกินไป อึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ผลักจวินหย่วนโยวออก
“ท่านพี่ ข้าสัญญากับท่านไวว่า ข้าจะกลับมาโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน” หยุนถิงพูดและยื่นแขนออกไปกอดเขา
“ข้ารู้ เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว”
“แต่ท่านพี่ ข้าถูกคนใส่ร้าย ข้าไม่ได้ฆ่าตระกูลจิ่ง แค่ให้พวกเขาเขียนหนังสือตัดสัมพันธ์ ให้จิ่งไป๋ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอีก ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงอยู่พักในโรงเตี๊ยมไปหนึ่งคืน และเมื่อข้าตื่นขึ้นในเช้าวันถัดไปก็ได้ยินว่าตระกูลจิ่งถูกฆ่ายกตระกูล และผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ควรประมาท” หยุนถิงอธิบาย
“ข้ารู้ เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าทำ ข้าให้หลงยีไปสืบแล้ว เชื่อว่าไม่นานก็จะมีเบาะแสแล้ว” จวินหย่วนโยวพูดปลอบโยน
“อืม มีท่านพี่นี่ดียิ่งนัก!”
“ท่านแม่!” เสียงน่ารักๆดังมา เป็นจวินเสี่ยวเทียนนั่นเอง
หยุนถิงปล่อยจวินเสี่ยวเทียนทันที “มานี่สิลูก แม่อุ้ม ช่วงนี้เสี่ยวเทียนของข้าเชื่อฟังคำพูดของพ่อ และกินข้าวดีๆหรือไม่?”
“เชื่อฟัง เป็นเด็กดี!” จวินเสี่ยวเทียนตอบ
หยุนถิงชอบยิ่งนัก ก้มหัวลงและหอมแก้มลูกชาย “ลูกชายข้าเด็กดีจังเลย เสี่ยวเหยียนล่ะ นางสบายดีหรือไม่?”
เดิมทีจวินหย่วนโยวที่ดีใจ สีหน้าก็มืดครึ้มลงทันที “หลังจากที่เจ้าจากไป เสี่ยวเหยียนก็จะหาเจ้า ข้าบอกกับนางว่าอีกไม่กี่วันเจ้าก็กลับมาแล้ว แต่เสี่ยวเหยียนก็ร้องไห้ กล่อมยังไงก็เอาไม่อยู่ ข้าใช้ทุกวิถีทาง ล้วนไม่ได้ผล เสี่ยวเหยียนก็เอาแต่ร้องไห้
บังเอิญโม่เหลิ่งเหยียนมาพอดี เสี่ยวเหยียนเห็นเขาก็หยุดร้องไห้ในทันที แถมยังเล่นกับเขาอย่างสนุกสนานด้วย ตอนโม่เหลิ่งเหยียนจากไปเสี่ยวเหยียนก็จะตามไปด้วย ไม่ให้นางตามไปนางก็ร้องไห้โวยวายไม่หยุด ไม่มีทางอื่น ข้าจึงทำได้เพียงให้ซูหลินกับยายขุยและรั่วจิ่งตามไปดูแลนาง”
หยุนถิงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า เสี่ยวเหยียนติดโม่เหลิ่งเหยียนแล้วสินะ ไม่เอาท่านผู้เป็นพ่อท่านนี้ กลับเอาเขา”
จวินหย่วนโยวรู้สึกหึงในทันที “ยัยหนูนี้ไปสนิทกับคนอื่น ไม่รู้ว่าโม่เหลิ่งเหยียนไอ้หน้าเย็นชานั้นมีอะไรดี ให้เสี่ยวเหยียนชอบเขาถึงปานนี้ หรือเขาซื้อใจเสี่ยวเหยียนไป”
“ท่านคิดว่าเสี่ยวเหยียนจะถูกซื้อใจได้หรือ?” หยุนถิงถามกลับ
“ก็ไม่อยู่แล้ว” จวินหย่วนโยวก็ยิ่งไม่เข้าใจว่า ทำไมยัยหนูนี้ถึงได้ไปชอบเขา
เสวี่ยเชียนโฉวได้ยินว่าหยุนถิงกลับมา ก็รีบมาในทันที สีหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ซื่อจื่อเฟย ขอท่านช่วยหน่อยได้หรือไม่?”
“เรื่องอะไร?” หยุนถิงไม่เข้าใจ เจ้าอุทยานเสวี่ยยังมีเรื่องที่ต้องการตัวเองช่วยด้วยหรือ
“รบกวนซื่อจื่อเฟยช่วยพูดเพราะๆต่อหน้าหยุนเฉิงเซี่ยงแทนข้าหน่อยได้หรือไม่ หยุนเฉิงเซี่ยงเหมือนจะเข้าใจข้าผิด!” เสวี่ยเชียนโฉวอธิบาย