จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 704 ท่านพี่ ยังมีคนอยู่นะ?
“องค์หญิงรองเกรงใจแล้ว” หยุนถิงตอบ
จวินหย่วนโยวแค่ปรายตามองมา มิได้สนใจเลยสักนิด
เป่ยตันเสวี่ยกระดากอายเล็กน้อย แต่ก็รู้ดีว่า จวินหย่วนโยวเย็นชายิ่งนัก ไม่สนใจใครและไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เขาไม่ไล่ตนออกไปก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว
เป่ยจิงจิงกระโดดขึ้นเรือจวินหย่วนโยวอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด “ซื่อจื่อเฟย เมื่อครู่ข้าเห็นหลงเอ้อร์ เขาล่ะ?”
หยุนถิงมุมปากกระตุก ไม่คิดว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เป่ยจิงจิงยังไม่ยอมแพ้อีก
“เมื่อครู่เขามีเรื่องต้องไปทำ เลยจากไปแล้วล่ะ!”
“เขาคงมิใช่เห็นข้า เลยจงใจหลบหน้าข้ากระมัง หลงเอ้อร์ เจ้าออกมานะ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า” เป่ยจิงจิงบอก เดินเข้าไปอีกทางหนึ่งของเรือทันที เดินวนหาทั่วเรือรอบหนึ่ง ก็ไม่เจอตัวหลงเอ้อร์เลย
“หากซื่อจื่อเฟยไม่รังเกียจ พวกเราร่วมล่องเรือด้วยได้หรือไม่?” เป่ยตันเสวี่ยเสนอ
นางอยากจะดูสักหน่อยว่า หญิงงามเลิศล้ำที่ท่านพี่ไท่จื่อพูดถึงเป็นอย่างไรกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้นางเคยแต่งงานกับหลีอ๋อง มันยิ่งทำให้เป่ยตันเสวี่ยสงสัยหนักขึ้น
“ได้สิ” หยุนถิงบอก
คนเขามาขอร่วมล่องเรือด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จะปฏิเสธคงไม่ได้กระมัง
“ขอบคุณซื่อจื่อเฟยมาก” เป่ยตันเสวี่ยพูดจบ หันมองโม่ฉือหาน “ท่านอ๋อง พวกเราไปด้วยกันเถอะ”
โม่ฉือหานเหล่มองใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของจวินหย่วนโยว ทั้งๆที่เขาไม่ชอบหน้าจวินหย่วนโยวที่สุด แต่เขายังคงยกเท้าก้าวข้ามเรือไป
“ซื่อจื่อเฟย หลงเอ้อร์ไปไหนกันแน่ ข้าไปหาเขาได้ไหม?” เป่ยจิงจิงถาม
“ภารกิจของเขาเป็นความลับ ข้าเองก็ไม่แน่ใจ เจ้าลองถามซื่อจื่อดูสิ” หยุนถิงโยนเรื่องไปให้
เป่ยจิงจิงมองไปทางจวินหย่วนโยว ตัวเขาเย็นเยียบดุจภูเขาน้ำแข็ง สีหน้าเหี้ยมโหดกระหายเลือด ต่อให้นางใจกล้าแค่ไหน ก้ไม่กล้าถามจวินหย่วนโยวหรอก
ยังไงซะหากตนอยู่กับจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟย ต้องได้เจอหลงเอ้อร์แน่ไม่ช้าก็เร็ว
“เมื่อครู่โชคดีได้ฟังจวินซื่อจื่อดีดพิณ คิดไม่ถึงว่าฝีมือการดีดพิณของจวินซื่อจื่อจะเยี่ยมยอดเช่นนี้ ตันเสวี่ยเลื่อมใสนัก” เป่ยตันเสวี่ยบอก
“เช่นนั้นรบกวนจวินซื่อจื่อดีดพิณอีกสักเพลง ให้ทุกคนหน่อยสิ!” โม่ฉือหานแค่นเสียงเย็น
จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ลุกขึ้นจากพิณโบราณเดินมา “ข้าดีดพิณให้ถิงเอ๋อร์ฟังเท่านั้น คนอื่นไม่คู่ควรสักนิด”
สีหน้าโม่ฉือหานดำทะมึน เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ “จวินหย่วนโยว เจ้า!”
“ข้าทำไมรึ หากหลีอ๋องไม่พอใจก็กลับไปเรือตนเองสิ” จวินหย่วนโยวเลิกคิ้วแค่นเสียงเย็น
“ข้ามาเป็นเพื่อนองค์หญิงรอง องค์หญิงรองอยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ที่นั่น!” โม่ฉือหานโกรธแทบตาย แต่อดทนไม่ไป
หรือพูดอีกอย่างคือ เขาไม่อยากไป อยากมองดูหนุนถิงใกล้ๆเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว
พอเป่ยตันเสวี่ยได้ยินคำนี้ แก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันที
หยุนถิงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด “นานทีองค์หญิงรองจะมาแคว้นต้าเยียนเรา ลองชิมชานี้ดูสิ” พูดพลาง เทให้นางหนึ่งจอก
“ขอบคุณซื่อจื่อเฟยมาก!” เป่ยตันเสวี่ยหยิบถ้วยชามาจิบสักคำ “รสชาติอ่อนบาง กลมกล่อม เป็นชาดีจริงๆ”
ทั้งสี่คน มีเพียงโม่ฉือหานที่ไม่มีชา เขาหันมองกาน้ำชาฉับพลัน จากนั้นก็มองหยุนถิง ความหมายในสายตาชัดเจนนัก
“ข้าไม่เคยบังคับให้ซื่อจื่อเฟยทำเรื่องอะไร และยิ่งไม่ให้นางรับใช้ใครด้วย” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงหึ จากนั้นยกกาน้ำชามาเทน้ำชาให้หยุนถิงหนึ่งจอก และก็ยกถ้วยชาขึ้นยื่นให้ถึงปากหยุนถิง
“ถิงเอ๋อร์ ลองชิมดูสิ”
หยุนถิงจิบไปหนึ่งคำ “ชาที่ท่านพี่เท อร่อยมาก”
“เช่นนั้นก็ดื่มมากหน่อย แต่ต้องกินขนมก่อนสักหน่อย ดื่มชาตอนท้องว่างไม่ดีกับร่างกาย” จวินหย่วนโยวหยิบขนมจากในถาดมาให้อย่างเอาใจใส่
ไม่ได้ยื่นให้หยุนถิง แต่ป้อนให้นางเลย
มองดูท่าทางหวานเลี่ยนของพวกเขาแล้ว มือที่อยู่ในแขนเสื้อของโม่ฉือหานกำหมัดแน่น
จวินหย่วนโยวน่าตายนัก ต้องจงใจแน่ๆ จงใจแสดงความรักต่อกัน ช่างขัดตายิ่งนัก
เป่ยตันเสวี่ยพูดด้วยสีหน้าอิจฉา “ว่ากันว่าจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยรักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง วันนี้มาเห็น ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก”
“สามีข้าค่อนข้างติดข้า ไม่เจอข้าครู่หนึ่งก็คิดถึงข้า ช่วยไม่ได้พวกเราเลยต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน ต่อไปองค์หญิงรองก็จะเจอคนผู้นั้นของท่านเอง” หยุนถิงตอบ
เป่ยตันเสวี่ยหันมองโม่ฉือหานฉับพลัน เห็นสีหน้าเขาดำทะมึนราวกับก้นหม้อ บรรยากาศรอบตัวยิ่งเย็นเยียบยิ่งนัก เป่ยตันเสวี่ยเริ่มรู้สึกเสียใจที่ข้ามมาเรือลำนี้แล้ว
หยุนถิงกินขนมหมดชิ้นหนึ่ง มุมปากมีเศษขนมติดอยู่ โม่ฉือหานเห็นจะเอ่ยเตือนหยุนถิง
จวินหย่วนโยวยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตมุมปากหยุนถิงทันทีเลย
หยุนถิงอึ้ง ใช้มือผลักไสจวินหย่วนโยวฉับพลัน “ท่านพี่ มีคนอื่นอยู่ด้วยนะ”
จวินหย่วนโยวยิ้มพลางดึงหน้าออก “ข้าแค่ช่วยเจ้าเช็ดเศษขนมที่มุมปากออกเท่านั้น คิดอะไรน่ะ”
หยุนถิงกระดากอายนัก แก้มแดงเรื่อฉับพลัน “ใครเขาเช็ดแบบท่านกัน?”
“ก่อนหน้านี้ข้าก็ช่วยเจ้าเช็ดเช่นนี้มาตลอด ทำไมยังอายอีกเล่า แต่ก็จริง ก่อนหน้านี้มีพวกเราแค่สองคน จู่ๆมีคนนอกเพิ่มมาหลายคน ถิงเอ๋อร์รู้สึกเขินอายก็ไม่แปลก รอกลับไปข้าค่อยช่วยเช็ดให้เจ้าดีๆนะ” จวินหย่วนโยวแสร้งลากเสียงยาว
โม่ฉือหานแทบระเบิดด้วยความโกรธ ถ้วยชาที่หยิบมาเมื่อครู่โดนเขาบีบจนแตกคามือเลย
“พลั่ก!”ดังขึ้น ถ้วยชาแตกละเอียด
“ถ้วยชาที่สลักจากหินหยกน้ำแข็งพันปีอันหายากยิ่งใต้ทะเลลึกของทะเลใต้ หนึ่งหมื่นตำลึง หลีอ๋องจะให้ตั๋วเงินหรือลงสัญญาหนี้ไว้ก่อน!” จวินหย่วนโยวประกาศกร้าว
โม่ฉือหานดวงตาแดงก่ำ ประหนึ่งอสูรร้ายที่กำลังเดือดดาล ถลึงตาใส่จวินหย่วนโยวอย่างเดือดดาล หากสายตาฆ่าคนได้ ตอนนี้จวินหย่วนโยวคงตายไปหลายร้อยครั้งแล้ว
“จวินหย่วนโยว เจ้าแน่มาก!” โม่ฉือหานแค่นเสียงเย็น หมุนตัวก้าวเท้ายาวไปที่เรือตนเองทันที
เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ถึงมาขึ้นเรือโจรของจวินหย่วนโยว หมอนี่เป็นพวกใจดำอำมหิตนัก ไม่เพียงแกล้งแสดงความรักต่อหน้าตน ยังหลอกเอาเงินอีก ชั่วร้ายนัก
เป่ยตันเสวี่ยเห็นหลีอ๋องโกรธ ก็ตกใจนัก รีบขอโทษทันที “ซื่อจื่อเฟย จวินซื่อจื่อขออภัยด้วย ขอทั้งสองอย่าได้ถือสาเลย” พูดจบ ก็รีบลุกขึ้นไล่ตามหลีอ๋องไป
แต่เป่ยจิงจิงยังไม่ไป นางวนรอบเรืออีกสามรอบ ค้นหาทุกซอกมุมของเรือ ขนาดหลังคาเรือก็หาแล้ว ไม่เจอตัวหลงเอ้อร์เลย ถึงได้จากไปอย่างจำยอม
นายเรือของหลีอ๋องพายเรือออกไปอย่างเหน็ดเหนื่อย ไม่นานเรือของพวกเขาก็แล่นหายไป
จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ ฝีมือแค่นี้ยังคิดจะสู้กับตน สมน้ำหน้า
“ท่านพี่ เมื่อครู่ท่านจงใจนี่นา” หยุนถิงพูดขึ้น
“อืม ข้าอยากให้โม่ฉือหานดูสักหน่อยว่า คนที่เขาเคยไม่แยแสนั้น กลับเป็นคนที่ข้ารักใคร่เชิดชู ประหนึ่งสมบัติล้ำค่า” จวินหย่วนโยวอธิบาย
หยุนถิงซาบซึ้งใจนัก ยื่นมือไปกอดจวินหย่วนโยวไว้ “ชาตินี้ข้าทำบุญอะไรมานะถึงได้เจอท่านพี่”
จวินหย่วนโยวยกมือกอดกลับหยุนถิง “เด็กโง่ เจ้าต่างหากเป็นความโชคดีที่สุดของข้าในชาตินี้”
หลิงเฟิงที่อยู่นอกห้องบนเรือได้ยินยังซาบซึ้งยิ่งนัก
“ฮัดเช้ย!” เสียงดังโพล่งขึ้นมา ทำลายบรรยากาศดีๆนี้ หลงเอ้อร์ปีนขึ้นมาจากน้ำ
ตอนนี้เข้าหน้าหนาวแล้ว น้ำในแม่น้ำเย็นเสียดกระดูก หลงเอ้อร์แช่น้ำนานขนาดนี้ เขาตัวสั่นงันงก
“หลงเอ้อร์รีบไปในห้องบนเรือเร็ว ในนี้อุ่น เจ้าเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของซื่อจื่อก่อนนะ ระวังเป็นหวัดล่ะ แต่เจ้าก็จริงๆเล้ย ไปซ่อนอยู่ในน้ำเสียได้ ในสายตาเจ้าเป่ยจิงจิงน่ากลัวเพียงนี้เชียวรึ?” หยุนถิงถาม