จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 714 หากข้าเป็นผู้หญิง จะต้องหลงรักเขาแน่

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 714 หากข้าเป็นผู้หญิง จะต้องหลงรักเขาแน่

“รอเมื่อคนของหลีอ๋องกับจี้อวี๋บาดเจ็บพ่ายแพ้ เราค่อยอาศัยความขัดแย้งของคนคนอื่นเพื่อตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัว” โม่หลานพูดขึ้นมา

หยุนหลีอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้กับเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้านี่ร้ายจริงๆ ถึงว่าเข้าสามารถได้เป็นแม่ทัพใหญ่”

“ข้าทำเพื่อรักษากำลัง แต่เรามีคนเยอะขนาดนี้ จะต้องหาสถานที่เอื้อต่อการเฝ้าปกป้อง ยากในการถูกโจมตี โม่หลานรีบพาทุกคนไปข้างหน้า”

“ท่านอา เราตามไปด้วย ติดตามโม่หลานมีเนื้อกิน” หยุนหลีพูดชม

“เชื่อฟังเจ้า” เสวี่ยเชียนโฉวรีบตามไป

โม่ฉือชิงถลึงตาใส่เขา ถึงแม้จะค่อนข้างโกรธโมโหเสวี่ยเชียนโฉว แต่โม่หลานตัดสินใจแล้ว เขาก็ไม่กล้าพูดว่าอะไร

พาโม่หลานเดินกันมาค่อนข้างไกล หยุดบนไหล่เขาที่สูงชันเล็กน้อย จากนั้นก็ให้ทุกคนเลือกสถานที่หลบซ่อนตัว

หยุนหลีเดินมาจนเหนื่อยมากแล้ว จึงนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

เสวี่ยเชียนโฉวรีบยื่นขวดน้ำมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ดื่มน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มื้อเช้าอยากกินอะไร?”

“ข้าอยากกินซาลาเปาข้าวโอ๊ต ยังมีไก่ทอด ดีที่สุดคือมีชานมด้วย” หยุนหลีพูดตอบ

“ได้” เสวี่ยเชียนโฉวรีบไปหาทหารที่ตามมาอยู่ด้านข้าง พร้อมแลกเปลี่ยนกับเขา

นับจากที่หยุนถิงเพิ่มกฎใหม่นี้ขึ้นมา มีทหารเป็นร้อยคนเข้ามาในป่า คอยติดตามทั้งสามทีม ขอเพียงมีคนยื่นข้อแลกเปลี่ยน พวกเขาก็จะสนองความต้องการทันที แน่นอนว่าก็ต้องรักษากฎ ห้ามเปิดเผยตำแหน่งของแต่ละทีม

ผ่านไปไม่นาน เสวี่ยเชียนโฉวก็เอาของที่แลกมาให้ แล้วรีบเอาของกินพวกนั้นมาวางตรงหน้าหยุนหลี พร้อมพูดขึ้นว่า “ขนมปังข้าวโอ๊ตยังร้อนอยู่ ค่อยๆกิน เดี๋ยวลวกปาก”

“ได้ ท่านอาท่านก็กิน” หยุนหลีพูดพร้อมยื่นให้หนึ่งอัน

ถึงแม้เสวี่ยเชียนโฉวไม่ชอบทานของหวาน แต่หยุนหลีให้เขา เขายังคงรับมากิน

คนอื่นทั้งหมดเห็นพวกเขาแสดงความรักต่อหน้าต่อตา ต่างก็แสดงท่าทีรังเกียจ

โดยเฉพาะเฉินอ๋องโม่ฉือชิง พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าบูดบึ้งว่า “พวกเจ้าสองคนไม่มีความเกรงใจเลย จะแลกของก็แลกเยอะหน่อยไม่ได้หรือ ให้พวกเขาได้แต่มองแบบนี้ เหมาะสมหรือ?”

“ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม เฉินอ๋องท่านดูแลกิจการของราชวงศ์แคว้นต้าเยียน ยังร่วมเปิดร้านกับหยุนถิง มีเงินเข้ามาเป็นกอบเป็นกำทุกวัน อยากได้อะไรก็ไปเปลี่ยนก็พอ หรือคนมีเงินต่างก็ชอบเอาเปรียบ ตระหนี่ถี่เหนียว?” เสวี่ยเชียนโฉวถามกลับ

คราวนี้ โม่ฉือชิงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “เจ้ากล้าพูดว่าข้าตระหนี่ถี่เหนียว?”

“หากไม่ใช่ ทำไมเจ้าไม่ไปแลกเอง?”

“น่าเกลียด ใครอยากได้ของเจ้า ข้าจะไปแลกเดี๋ยวนี้” โม่ฉือชิงกำลังจะเรียกคน

“เดี๋ยวก่อน ที่เจ้าเพิ่งแลกมาเมื่อกี้ยังทานไม่หมดเลย ไม่ต้องสร้างภาระให้กับทุกคนแล้ว พอกินพอใช้ก็พอ” โม่หลานพูดห้ามขึ้นมา

โม่ฉือชิงค่อยหยุด หันไปถลึงตาใส่เสวี่ยเชียนโฉว เจ้าคนนี้ไม่ถูกชะตากับตนเองแน่

หยุนหลีกินอิ่มแล้ว ก็บิดขี้เกียจ ขยับคอ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไอหยา คอของข้า”

“ทำไมหรือ?” เสวี่ยเชียนโฉวถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

“ค่อนข้างเจ็บปวด คงเพราะเมื่อคืนนอนหลับลึกเกินไป”

เสวี่ยเชียนโฉวรีบมาหา ช่วยนวดให้นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าช่วยเจ้านวด แบบนี้จะช่วยให้สบายขึ้น”

“ขอบคุณท่านอา” หยุนหลีพูดขึ้นมาอย่างตื้นตัน

“กับข้า ไม่ต้องเกรงใจ”

พวกทหารที่อยู่ด้านข้างเห็นภาพนี้ ก็รีบดึงเฉินอ๋องไปอีกด้าน พร้อมพูดขึ้นว่า “เฉินอ๋อง ท่านต้องเรียนรู้จากคนอื่นเยอะๆ ดูคนอื่นจีบสาวสิ เอาใจอย่างอ่อนโยนแค่ไหน หากข้าเป็นผู้หญิงจะต้องหลงรักเขาแน่”

โม่ฉือชิงหันมาพูดอย่างโมโหว่า “เมื่อกี้พวกเจ้าพูดว่า จะแต่งงานกับข้าคนเดียว”

ทหารคนนั้นเม้นริมฝีปาก พร้อมรีบพูดอธิบายว่า “ข้าเปลี่ยนใจง่ายไม่ได้หรือ ผู้หญิงล้วนซาบซึ้งใจง่าย หากซาบซึ้งใจไปแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง”

“พูดอย่างกับเจ้ารู้จักผู้หญิงเป็นอย่างดี เจ้ามีเมียกี่คน?”

“ข้าเป็นโสด” ทหารพูดเสร็จ พร้อมยกเท้าวิ่งหนีไปทันที

โม่ฉือชิงโกรธโมโห จนหยิบก้อนหินบนพื้นขึ้นมาแล้วโยนใส่เขา สารเลว ตนเองยังโสดอยู่ ยังกล้ามาสั่งสอนข้า

แต่คนคนนั้นรวดเร็วมาก โม่ฉือชิงโยนไม่โดนเขา

จากนั้นเสวี่ยเชียนโฉวก็ตั้งกระโจมให้หยุนหลีด้วยตนเอง ให้หยุนหลีได้พักผ่อน เขาก็เฝ้าอยู่ด้านข้าง

รอเมื่อหยุนหลีฟื้นขึ้นมา เขาก็หาอาหารเครื่องดื่มมาให้นาง ไม่เพียงกับข้าวกับขนมหวาน ยังมีผลไม้ ทานส้มยังเป็นส้มที่ปอกเปลือกแล้ว

จู่ๆโม่ฉือชิงก็รู้สึกว่า ไก่ย่างในปากของตนนั้นไม่อร่อยแล้ว ในใจนึกโกรธเสวี่ยเชียนโฉว เจ้าคนนี้ช่างทำขายขี้หน้าผู้ชายจริงๆ

แต่เมื่อเห็นหยุนหลีตื้นตันขนาดนั้น ท่าทีที่อ่อนโยน โม่ฉือชิงก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเสวี่ยเชียนโฉว

หยุนหลีเป็นคนอารมณ์ร้อน สะกิดนิดเดียวก็ระเบิด กลับถูกเจ้าคนนี้กล่อมเสียจนเหมือนดั่งลูกแมว ฝีมือสุดยอดมาก เห็นทีตนเองต้องเรียนรู้บ้าง

จากนั้นโม่ฉือชิงก็เอาองุ่นด้านข้างมาปอกเปลือก ยื่นให้กับโม่หลาน พร้อมพูดขึ้นว่า “โม่หลาน เจ้าลองชิมองุ่น หวานมากเลย”

โม่หลานกำลังใช้กิ่งไม้วาดแผนที่ทั้งป่าบนพื้น ไม่มีเวลาสนใจเขา จึงพูดขึ้นมาว่า “เจ้ากินเอง อย่ามารบกวนข้า”

ทุกคนหัวเราะเสียงดัง เฉินอ๋องก็ซวยจริงๆ ไม่ง่ายกว่าจะฉลาดขึ้น กลับมาเจอแม่ทัพกำลังยุ่งอยู่ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเห็นใจ

โม่ฉือชิงแห้วอย่างมาก กลืนกินองุ่นหลายสิบลูกเข้าไปทั้งหมด สุดท้ายจำนวนเยอะเกินไปจึงสำลัก ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง

เสวี่ยเชียนโฉวกลอกตามองบน อย่างไม่ได้สนใจเขา ยังคงเอาอกเอาใจหยุนหลีต่อไป

ส่วนทางนี้ หยุนไห่เทียนพาหยุนเสี่ยวลิ่วกับพวกเสี่ยวอันจื่อหลายสิบคน ออกไปปฏิบัติภารกิจกลับมา

เมื่อหยุนถิงเห็นพวกเขา ก็ดีใจอย่างมาก พวกเขาพูดคุยกันสักพัก หยุนถิงรีบทูลเสนอฮ่องเต้ว่า ให้พวกหยุนไห่เทียน เข้าไปเป็นทีมแอบลอบทำร้าย รับผิดชอบโจมตีคนทั้งสามทีม สร้างสถานการณ์ตื่นตระหนกตกใจให้กับพวกเขา

ฮ่องเต้กำลังหงุดหงิดไม่มีอะไรสนุกให้ทำ จึงรีบตอบตกลง จากนั้นพวกหยุนไห่เทียนก็ตรงเข้าไปในป่า

“ซื่อจื่อเฟย ท่านไม่เป็นห่วงน้องชายของตนเองหรือ เขาเพิ่งอายุน้อยขนาดนั้น?” เป่ยตันเสวี่ยถามขึ้นมา

“พวกเขาสองคนฝึกฝนอยู่กับพี่ชายใหญ่มานานขนาดนี้ ถึงเวลาแล้วที่ควรทดสอบหาประสบการณ์” หยุนถิงพูดตอบ

จวินหย่วนโยวคิดไม่ถึงว่าหยุนถิงยังมีแผนนี้ ค่อนข้างรอคอยผลการตรวจพลในครั้งนี้อย่างมาก แน่นอนว่าหน้าที่ของเขาคือดูแลลูกๆ

“ท่านพ่อ ง่วง อยากนอน” จวินเสี่ยวเทียนซบพิงแนบอกจวินหย่วนโยวพร้อมพูดขึ้น

ด้านข้าง จวินเสี่ยวเหยียนที่โม่เหลิ่งเหยียนอุ้มไว้ก็หาวอยู่อย่างต่อเนื่อง

ซูหลินกับเยว่เอ๋อร์รีบเดินมา จะพาพวกเขาไปพักผ่อน ที่ไหนได้เด็กทั้งสองคน คนหนึ่งกอดจวินหย่วนโยวไว้ คนหนึ่งกอดโม่เหลิ่งเหยียนไว้อย่างไม่ยอมปล่อย

“ท่านพี่ ซวนอ๋อง รบกวนพวกเจ้าทั้งสองพาพวกเขาไปนอนด้วย” หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างเกรงใจ

“ได้ เจ้าเองก็อย่าเหนื่อยเกินไป” จวินหย่วนโยวอุ้มจวินเสี่ยวเทียนจากไป

โม่เหลิ่งเหยียนก็อุ้มจวินเสี่ยวเหยียนจากไป หยุนถิงมองดูอย่างจนใจ

“ข้าคิดว่า ต่อไปหากโม่เหลิ่งเหยียนได้เป็นพ่อ จะต้องมีความรับผิดชอบอย่างแน่นอน” ฮ่องเต้พูดขึ้นมา

“ข้าเองก็คิดไม่ถึง เสี่ยวเหยียนจะชอบเขาขนาดนี้” หยุนถิงพูดขึ้นมา

“ในเมื่อเจ้าว่าง งั้นมาเล่นหมากรุกกับข้า”

“เพคะ”

ทางนี้ เมื่อหยุนไห่เทียนกับพวกหยุนเสี่ยวลิ่วเข้าไปในป่าแล้ว ก็ไม่ได้ลงมือแอบลอบจู่โจมทันที

“พี่ชายใหญ่ ข้าได้ยินว่าหลีอ๋องเป็นหัวหน้าทีมสาม เรากำจัดทีมพวกเขาก่อนไหม” หยุนเสี่ยวลิ่วพูดเสนอขึ้นมา

ถึงแม้ก่อนหน้านี้ที่ไปแคว้นเป่ยลี่ หยุนเสี่ยวลิ่วได้สั่งสอนหลีอ๋องแล้วไม่น้อย แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาเคยกระทำกับพี่สาวใหญ่ หยุนเสี่ยวลิ่วรู้สึกว่าสั่งสอนยังไงก็ไม่พอ ใครใช้ให้เขาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น?  

  

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท