จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 718 ในที่สุดพวกเราก็ตามหาเจ้าจนเจอ
ฮ่องเต้รีบสั่งให้ยกเลิกการตรวจพลทันที ให้ทหารทุกคนรีบออกตามหา เพราะลูกชายของจวินซื่อจื่อหายตัวไป เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก จะชักช้าไม่ได้เด็ดขาด
พวกหยุนไห่เทียนได้ยินว่ายกเลิกการตรวจพล ก็ตกตะลึงอย่างมาก รีบออกมาถามความ เมื่อรู้ว่าจวินเสี่ยวเทียนหายตัวไป พวกหยุนไห่เทียนต่างใจเกร็งไปหมดจนแทบหายใจไม่ออก
“เร็ว ทุกคนรีบออกตามหา ห้ามพลาดทุกซอกทุกมุม” หยุนไห่เทียนพูดสั่งขึ้นมา
“ขอรับ” พวกทหารต่างรีบออกไปตามหา
หยุนเสี่ยวลิ่วเรียกพวกงูออกมา เสี่ยวอันจื่อเรียกนกออกมา แล้วก็ให้พวกเขาทั้งหมดออกไปตามหา
พวกทหารทั่วทั้งค่าย ล้วนออกเคลื่อนไหวทั้งหมด แม้แต่ฟู่อี้เฉินที่เหนื่อยจนเดินไม่ไหวก็ออกตามหา
ทางนี้ หยุนถิงหาตั้งนานก็ตามหาจวินเสี่ยวเทียนไม่เจอ ร้อนใจอย่างมาก และก็ตกใจอย่างที่สุด
หวาดกลัวยิ่งกว่าตอนที่นางตกลงไปในเหว กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับจวินเสี่ยวเทียน เขายังตัวเล็กขนาดนั้น ยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อย
หยุนถิงเดินอย่างไม่ทันระวัง ชนกิ่งไม้สะดุดล้ม จนกลิ้งไปข้างหน้า
หลงเอ้อปรากฏตัวอย่างกะทันหัน รีบคว้าดึงนางไว้อย่างว่องไว พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อเฟย ท่านพักผ่อนก่อนไหม?”
เขาคอยปกป้องซื่อจื่อเฟยอยู่ในที่ลับตลอด ตอนนี้เกิดเรื่องกับซื่อจื่อน้อย หลงเอ้อก็ไม่สนใจที่จะต้องหลบซ่อนตัวแล้ว
“ตามหาเสี่ยวเทียนยังไม่เจอ ข้าจะพักผ่อนได้อย่างไร รีบไปตามหาต่อ” สีหน้าหยุนถิงเคร่งเครียด
คนมากมายขนาดนี้ องครักษ์เงามังกร องครักษ์ลับ แม้แต่พวกทหารในค่ายก็ออกตามหากันหมด ก็ยังตามหาไม่เจอ นี่ก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว เสี่ยวเทียนจะสามารถไปที่ไหนได้กันแน่
หยุนถิงคิดได้แบบนี้ จึงพูดขึ้นว่า “หลงเอ้อ เรารีบกลับไป”
“ขอรับ” หลงเอ้อรู้อยู่แล้วว่าซื่อจื่อเฟยเป็นห่วงซื่อจื่อน้อยขนาดไหน จึงรีบตามไป
กลับมาถึงกระโจม หยุนถิงเจอจวินหย่วนโยวพอดี เสื้อคลุมสีขาวของเขาขาดทะลุเป็นหลายรู เปื้อนไปด้วยโคลนดิน ยังมีหญ้าติดอยู่ สภาพแย่มาก
“ท่านพี่ เป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนถิงรีบถาม
จวินหย่วนโยวส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังหาไม่เจอ ใช้เสื้อผ้าของเสี่ยวเทียนให้สุนัขล่าของค่ายทหารดมกลิ่นแล้วออกตามหา บางทีอาจจะช่วยได้บ้าง”
“ข้าเองก็คิดเช่นนี้” หยุนถิงรีบเข้าไปในกระโจม หยิบเสื้อผ้าที่จวินเสี่ยวเทียนเคยใส่แล้วออกมาหลายตัว ยื่นให้กับจวินหย่วนโยวหนึ่งตัว
หยุนไห่เทียนได้สั่งให้คนจูงสุนัขล่าของค่ายทหารทั้งหมดมา สุนัขล่าห้าหกสิบตัว ยืนเรียงกันเป็นแถว ดมเสื้อผ้าทีละตัว แล้วพวกทหารก็จูงออกไปตามหา
หยุนถิงก็ไม่รีรอ หยิบขลุ่ยหยกขาวที่เหน็บเอวไว้ออกมาเป่า พริบตาเดียวงูนับไม่ถ้วนคืบคลานมา หยุนถิงวางเสื้อผ้าไว้บนพื้น ให้พวกงูต่างก็มาสูดดม
“พวกเจ้าจะต้องช่วยข้าตามหาลูกชายให้เจอ รบกวนด้วย” หยุนถิงเคร่งขรึมและจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
พวกงูเหมือนฟังรู้เรื่อง หลังจากดมแล้ว ก็คืบคลานไปทั่วทิศ
“หลงเอ้อไปบอกพวกทหาร ให้ตามพวกฝูงงูไป” หยุนถิงพูดขึ้นมา
“ขอรับ” หลงเอ้อรีบไปบอกทุกคน ระหว่างทางได้เจอกับเป่ยจิงจิง
เมื่อเป่ยจิงจิงเห็นหลงเอ้อ ก็พูดขึ้นมาอย่างดีใจว่า “หลงเอ้อ ในที่สุดข้าก็ตามหาเจ้าจนเจอ”
“ขอบคุณที่องค์หญิงสี่ระลึกถึง แต่ตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญต้องทำ ไม่รบกวนท่านแล้ว” หลงเอ้อรีบจากไป
“ตามหาจวินเสี่ยวเทียนไม่ใช่หรือ ข้าก็สามารถช่วยได้” เป่ยจิงจิงพูดขึ้นมา
หลงเอ้อมีเวลาพูดมากกับนางเสียที่ไหน รีบกระโดดจากไปทันที
เป่ยจิงจิงก็ไม่โกรธ ไม่ง่ายกว่าจะได้เจอหลงเอ้อ จึงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ นางรู้ว่าหลงเอ้อจงรักภักดีที่สุด ลูกชายของจวินหย่วนโยวหายไป เขาจะต้องร้อนใจอย่างมากแน่ ดังนั้นเป่ยจิงจิงจึงรีบกระโดดไล่ตามไป
ไม่ได้รบกวนเขา เพียงแค่คอยติดตามไปอยู่อย่างไม่ใกล้ไม่ไกล
หลงเอ้อเห็นนางทำแบบนี้ ถึงแม้จะหงุดหงิด แต่ก็ไม่สนใจ รีบออกไปตามหาคน
หยุนเสี่ยวลิ่วกับเสี่ยวอันจื่อก็กลับมาแล้ว ได้เสื้อผ้าของจวินเสี่ยวเทียน ก็สั่งให้สัตว์ในความควบคุมของตนเองทั้งหมดออกตามหา
ฮ่องเต้มองดูนกแต่ละชนิดบินเต็มบนท้องฟ้า ยังมีอินทรีทองบินวนไปมา บนพื้นเต็มไปด้วยงู หนู และมด สุนัขล่าวิ่งอย่างบ้าคลั่ง…..ภาพสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ
หากสิ่งพวกนี้ นำมาใช้ในสนามรบ มันจะไม่ง่ายที่จะยึดครองประเทศนั้นๆได้ ภายในพริบตาหรือ
เวลานี้ ฮ่องเต้ก็โล่งใจที่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยว ไม่มีความทะเยอทะยานที่จะครองโลก ไม่อย่างนั้นด้วยกำลังของพวกเขา อย่าว่าแต่ตำแหน่งฮ่องเต้ของตนเองเลย อีกสามแคว้นอื่นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
ทางด้านโม่หลานกับหยุนหลีก็พาคนออกตามหา เมื่อมองเห็นฝูงงูกับนกปรากฏ พวกนางก็รู้ว่าเป็นฝีมือของหยุนถิง รีบตามพวกฝูงงูออกไปตามหา
ส่วนโม่ฉือหานที่ถูกทรมานแทบตายอยู่ในป่า เพิ่งเดินออกมาจากป่าก็หมดสติไป หมอหลวงเห็นหลีอ๋องบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ก็รีบพาเขาไปรักษา
เป่ยตันเสวี่ยได้ยินว่าหลีอ๋องหมดสติ ก็รีบไปหา เมื่อเห็นหลีอ๋องบาดเจ็บ เป่ยตันเสวี่ยก็เป็นห่วงอย่างมาก
คนอื่นล้วนไม่ได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ทำไมถึงมีเพียงหลีอ๋องที่เป็นเช่นนี้?
ทางด้านพวกหยุนถิง ตามหามาตลอดทั้งวัน จนกระทั่งฟ้ามืดพวกฝูงงู นก และสุนัขล่า ต่างมาหยุดอยู่บนเนินหินสูงชัน
พวกจวินหย่วนโยวรีบไปดู ซึ่งนั่นคือเนินชันที่เกิดจากการทับถมของก้อนหินขนาดใหญ่ ไม่มีอะไรพิเศษ
แต่ในเมื่อฝูงงู นกมากมายต่างหยุดอยู่ที่นี่ งั้นก็แสดงว่าจวินเสี่ยวเทียนจะต้องอยู่ข้างใน
เพราะยังไงจวินเสี่ยวเทียนก็หายตัวไปเพียงพริบตาเดียว ด้วยความรวดเร็วขององครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับ หากพวกเขาหนีไปจะต้องถูกจับได้แน่นอน หามาทั้งวันก็ตามหาไม่เจอ แสดงว่าพวกเขายังอยู่ที่นี่
“ทุกคนรีบตามหาค่ายกลรอบๆ” จวินหย่วนโยวพูดสั่ง
“ขอรับ”
ทุกคนรีบแยกย้าย ออกไปตามหาบริเวณรอบๆ
หยุนถิงยื่นมือไปลูบก้อนหินพวกนั้น ไม่พลาดทุกพื้นที่ ทั้งหัวใจเกร็งไปหมดจนแทบหายใจไม่ออก
นี่ก็หนึ่งวันแล้ว เสี่ยวเทียนจะต้องหิวแล้วแน่ ตอนเช้าสวมเสื้อผ้าน้อยขนาดนั้น ไม่รู้ว่าหนาวอยู่หรือเปล่า นางอยากที่จะแหวกแยกก้อนหินพวกนี้แล้วไปตามหาจวินเสี่ยวเทียนให้เจอ
นับจากที่เกิดเสี่ยวเทียนยังไม่เคยห่างไกลตน จู่ๆก็ถูกลักพาตัวไป ไม่เห็นตนเองทั้งวัน จะต้องเสียใจทรมานหวาดกลัวแน่
ในขณะที่หยุนถิงกำลังคิดอยู่ จู่ๆ เท้าก็ลื่น แล้วก็ล้มไปข้างหน้า
“หยุนถิงระวัง” โม่เหลิ่งเหยียนตะโกนพูดขึ้น กำลังจะอุ้มจวินเสี่ยวเหยียนพร้อมวิ่งไป
จวินหย่วนโยวกลับวิ่งไปก่อน คว้าจับหยุนถิงไว้ แล้วดึงมาแนบอก หยุนถิงชนกระแทกซบอกเขา
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง พักผ่อนก่อนไหม ข้าจะรีบตามหาเสี่ยวเทียนให้เจอ” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“ข้าไม่เป็นไร รีบตามหาเถอะ ข้ากลัวเขาจะหิวจนป่วย” หยุนถิงขมวดคิ้วแน่น เป็นห่วงอย่างมาก
“ได้” จวินหย่วนโยวรู้ว่านางเป็นห่วงลูกชาย ถึงไม่พูดอะไรมาก รีบตามหากันต่อ
แต่พวกเขาหาทุกซอกทุกมุมแล้ว แทบจะหาทุกตารางนิ้ว ก็ตามหาจวินเสี่ยวเทียนไม่เจอ คราวนี้ทุกคนร้อนใจอย่างมาก
“ผิดพลาดอะไรหรือเปล่า ที่นี่มีแต่ก้อนหินก้อนใหญ่ หากมีค่ายกลก็จะต้องพบเห็น” โม่หลานพูดขึ้นมาอย่างสงสัย
“แต่งูพิษกับนกล้วนอยู่ที่นี่ แสดงว่าอยู่ที่นี่แน่นอน อาจเป็นเพราะพวกเราหายังไม่เจอ หรืออาจจะยังมีทางเข้าทางอื่น” หยุนหลีเป็นกังวลอย่างมาก
“บางทีคนที่ลักพาตัวเสี่ยวเทียนไปหยุดพักที่นี่แปบเดียว แล้วก็ค่อยจากไปล่ะ” หยุนไห่เทียนคาดเดา
หยุนถิงฟังทุกคนต่างครุ่นคิดวิเคราะห์ ลมหายใจเริ่มตึงเครียดมาก นัยน์ตาดั่งนกฟีนิกซ์กวาดมองไปที่ก้อนหินอย่างเฉียบคม แล้วก็ตัดสินใจพูดขึ้นว่า
“ท่านพี่ ระเบิดภูเขา”