จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 723 จวินหย่วนโยวได้รับบาดเจ็บ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 723 จวินหย่วนโยวได้รับบาดเจ็บ

“เขาเป็นใคร?” หยุนถิงหันมามองอย่างสงสัย

“ซื่อจื่อเฟย เขาคือวี่อู๋เสีย เจ้าสำนักของสำนักสิ้นรัก เขาคือคนที่สั่งคนมาลักพาตัวซื่อจื่อน้อยไป หลงยีให้เราสองคนพาตัวกลับมาให้ซื่อจื่อเฟยจัดการ” หลงซานพูดตอบ

สีหน้าหยุนถิงโกรธเกลียดขึ้นมาทันที พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาเยือกเย็นว่า “เจ้าคนสารเลวคนนี้จับตัวเสี่ยวเทียนของข้าไป ดนหาที่ตาย”

หยุนถิงเอื้อมมือหยิบเข็มเงินบนผมออกมา แล้วแทงตรงตำแหน่งสะกดจุดของวี่อู๋เสีย

“ซื่อจื่อเฟย ซื่อจื่อได้ทำร้ายเขาจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว” หลงซื่อพูดเตือน

เขาไม่อยากให้ซื่อจื่อเฟย ทำให้คนเลวคนนี้ตายในทันที แบบนั้นจะเป็นการง่ายไปสำหรับเขา

“อืม” หยุนถิงรีบยกมือวี่อู๋เสียขึ้นมา ตรวจดูชีพจรของเขา สีหน้าที่เยือกเย็นค่อยอ่อนโยนลงบ้าง

ซื่อจื่อลงมือรุนแรงขนาดนี้ คิดก็รู้ว่าเขาเห็นเสี่ยวเทียนสำคัญขนาดไหน

หยุนถิงเอาขวดยามาจากในมิติหลายอย่าง แล้วพูดขึ้นว่า “เอาให้เขาทานอย่างละหนึ่งเม็ด แล้วก็เอาไปโยนทิ้งในคอกหมู ส่งคนคอยจับตาดูเขาไว้ อย่าให้เขาตาย หรือหนีไปเด็ดขาด”

“คอกหมู ทำไมถึงไม่ใช่คุกใต้ดิน?” หลงซานถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ

“ในคุกมีเขาเพียงคนเดียว เขาจะไม่สบายเกินไปหรือ เดรัจฉานยิ่งกว่าหมูหมาเช่นนี้ กล้าลงมือทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็ก จะปล่อยเขาไปง่ายๆไม่ได้ ข้าจะทำให้เขารู้ถึงผลที่กล้าแตะต้องลูกชายของข้า” หยุนถิงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนคนฟังรู้สึกขนลุก

“ซื่อจื่อเฟยเฉลียวฉลาด” หลงซื่อรับเอาขวดยามา

หลงซานตรงไปแหกปากวี่อู๋เสีย หลงซื่อเอายาโอสถยัดเข้าไปในปากของเขา กระทำอย่างหยาบกระด้างมาก

องครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับคนอื่นๆเกลียดชังจนกัดฟันกรอด ต่างพากันมาต่อยเตะวี่อู๋เสีย เจ้าคนชั่วที่สมควรตาย กล้าลักพาตัวซื่อจื่อน้อยของพวกเขาไป

“เบาเท้าหน่อย อย่าเตะเขาจนตาย เวลายังอีกยาวไกล” หยุนถิงพูดขึ้นมา

“ขอรับ งั้นวันนี้พวกเราลงมือก่อน วันต่อถัดไปพวกเจ้าลงมือ แต่ละคนผลัดกันเตะ” หลงเอ้อพูดขึ้นมาอย่างสะใจ

“แบบนี้สามารถทำได้”

หยุนถิงหันไปพูดกับโม่เหลิ่งเหยียนว่า “ครั้งนี้ขอบคุณซวนอ๋องมาก เจ้าก็เหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“ไม่ต้องเกรงใจ” โม่เหลิ่งเหยียนหันเดินจากไป

ในเมื่อช่วยจวินเสี่ยวเทียนกลับมาได้แล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว จวินหย่วนโยวตัวโตขนาดนั้น ยังมีองครักษ์เงามังกรมากมาย คิดว่าคงไม่เป็นอะไร

แต่โม่เหลิ่งเหยียนเพิ่งออกมาจากหน้าประตู ก็เห็นพวกหลงยีหามจวินหย่วนโยวกลับมา

“เขาได้รับบาดเจ็บ?” สีหน้าโม่เหลิ่งเหยียนเปลี่ยนไปทันที

“ซื่อจื่อต่อสู้กับคนชุดดำคนนั้น ต่างฝ่ายต่างก็ถูกตบด้วยฝ่ามือของอีกฝ่าย คนคนนั้นหนีไปแล้ว ซื่อจื่อก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ” หลงยีพูดอธิบาย

คนอื่นรีบหามตัวเขาเข้าไป มุ่งตรงไปยังเรือนของซื่อจื่อเฟย

เดิมโม่เหลิ่งเหยียนที่จะกลับไปแล้ว ก็ย้อนกลับมาอีก

หากจวินหย่วนโยวกลับมาอย่างปลอดภัย เขาสามารถจากไปได้ แต่อีกฝ่ายทำให้จวินหย่วนโยวบาดเจ็บสาหัส โม่เหลิ่งเหยียนกลัวว่าคนคนนั้นจะพาคนกลับมาลอบทำร้ายจวนซื่อจื่อ เป็นตามเข้ากลับมา

หยุนถิงได้ยินว่าจวินหย่วนโยวบาดเจ็บ ก็รีบวิ่งออกมา มองดูสีหน้าขาวซีดของจวินหย่วนโยว ยังมีรอยเลือดตรงมุมปาก หยุนถิงรู้สึกเกร็งไปทั้งหัวใจ แล้วก็รีบดูตรวจชีพจรของเขา

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลงยีเล่าเรื่องที่จวินหย่วนโยวกับคนชุดดำคนนั้น ต่อสู้กันออกมาให้ฟัง หยุนถิงฟังอยู่อย่างขมวดคิ้ว

“ซื่อจื่อบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสมาก สถานการณ์ค่อนข้างแย่ ต้องรีบรักษาโดยเร็ว รีบพาเขาไปยังห้องเรือนไม้ด้านหลัง ซูหลิน หลงเอ้อ เฝ้าพวกเด็กๆไว้ให้ดี หลงซานเจ้าไปตามหมอยมบาลที่จวนตระกูลฟู่มา” หยุนถิงพูดขึ้น

“ขอรับ” พวกหลงยีรับไปทำตามคำสั่งทันที

เห็นโม่เหลิ่งเหยียนก็เดินกลับมา หยุนถิงถามขึ้นมาอย่างค่อนข้างแปลกใจว่า “ซวนอ๋อง เจ้า?”

“ข้าไม่วางใจ จวินหย่วนโยวบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ จวนซื่อจื่อต้องมีคน”

หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างซาบซึ้งใจว่า “ขอบคุณมาก งั้นข้าก็ไม่เกรงใจเจ้าแล้ว ช่วยข้าดูแลพวกเด็กๆให้ดี”

มีโม่เหลิ่งเหยียนอยู่ หยุนถิงก็วางใจ

“ได้ วางใจเถอะ มีข้าอยู่ที่นี่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเด็กๆได้” โม่เหลิ่งเหยียนพูดรับประกัน

หยุนถิงก้าวเท้าเดินตามไป องครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับคนอื่นๆ ต่างตื่นตัวขึ้นมาทั้งหมด ปกป้องจวนซื่อจื่อไว้ให้ดีที่สุด

ภายในห้องเรือนไม้ หยุนถิงให้หลิงเฟิงถอดเสื้อผ้าจวินหย่วนโยว ช่วยฝังเข็มให้เขา แล้วให้หลิงเฟิงป้อนยาให้เขา

ถึงแม้หยุนถิงจะมีฝีมือทางการแพทย์สูงส่ง แต่จวินหย่วนโยวบาดเจ็บภายในอย่างสาหัส นางเป็นคนยุคปัจจุบัน ไม่ค่อยรู้เรื่องกับบาดแผลภายใน

ไม่นาน หมอยมบาลพาตาเฒ่าเหอมายังจวนซื่อจื่อพร้อมกัน รั่วจิ่งพาพวกเขาไปด้วยตนเอง

เมื่อเห็นจวินหย่วนโยว หมอยมบาลรีบไปตรวจดูชีพจร เมื่อตรวจดูแล้วก็ตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่ นี่เป็นฝ่ามือสายฟ้าของเขตทะเลนิรนาม?”

“เขตทะเลนิรนาม?” ตาเฒ่าเหอก็รีบมาตรวจดูชีพจร แล้วก็หันไปมองตรงหน้าอกของจวินหย่วนโยว

ตรงนั้น มีร่องรอยฝ่ามือสีดำ

“ใช่จริงๆด้วย เป็นไปได้อย่างไร คนของเขตทะเลนิรนามมาจริงๆหรือ ทำไมเขาจะต้องทำร้ายเจ้าหนูจวิน?” ท่านลั่วพูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ

“หมอยมบาล เขตทะเลนิรนามคืออะไรกันแน่ สามารถช่วยซื่อจื่อได้ไหม?” หยุนถิงถามขึ้นมาอย่างเป็นกังวล

“เขตทะเลนิรนาม เป็นสถานที่ลึกลับที่สุดในต่างแดน ผู้คนที่นั่นเป็นเหมือนอมตะ ว่ากันว่าไม่มีใครทราบตำแหน่งที่แน่นอนของมัน ยิ่งไม่มีใครเคยเห็นคนที่นั่น ลึกลับเร้นลับ ฝีมือไม่ธรรมดา

ข้าตกอยู่ในอันตรายเมื่อตอนเป็นเด็ก โชคดีที่มีคนคนหนึ่งช่วยไว้ ต่อมารู้ว่าเขาเป็นคนในดินแดนนั้น ต่อมา สามสิบกว่าปีไม่เคยได้เห็นคนคนนั้นอีก” หมอยมบาลพูดอธิบาย

“ใครที่ถูกฝ่ามือนี้ทำร้าย เป็นเหมือนดั่งถูกฟ้าผ่า เจ็บปวดอย่างที่สุด ราวกับตายทั้งเป็น ต้องรักษาอย่างยุ่งยากวุ่นวาย ต่อให้เราทั้งสองรวมพลังกัน เกรงว่าจวินซื่อจื่อก็ต้องพักรักษาตัวเป็นปี” ตาเฒ่าเหอถอนหายใจ

หยุนถิงคิดไม่ถึงว่า ฝ่ามือสายฟ้าจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ จึงพูดขึ้นว่า “ขอผู้อาวุโสทั้งสองช่วยเหลือด้วย”

“ยัยหนูไม่ต้องขอร้อง ข้าจะต้องช่วยเจ้าหนูจวินอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เริ่มกันเถอะ” หมอยมบาลพูดขึ้นมา

“ขอบคุณผู้อาวุโส”

หลิงเฟิงถอยออกไป ภายในห้องมีเพียงหมอยมบาล ตาเฒ่าเหอกับหยุนถิง ด้านนอกมีองครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับ เฝ้าอยู่ด้านนอกป่าไผ่มากกว่าร้อยคน ไม่ให้ใครมารบกวนทั้งนั้น

เมื่อรอ ก็ผ่านไปแล้วสิบวัน ระหว่างนั้นพ่อบ้านสั่งคนนำอาหารมาให้ พวกหยุนถิงไม่ได้ออกมา

พวกหยุนหลีได้ยินว่าตามหาเจอจวินเสี่ยวเทียนแล้ว ก็เป็นกังวล รีบมาเยี่ยมดู เมื่อเห็นเด็กไม่เป็นอะไร จึงค่อยวางใจ

“ซวนอ๋อง พี่สาวใหญ่ข้าล่ะ ทำไมถึงไม่เห็นพี่สาวใหญ่กับพี่เขยซื่อจื่อ?” หยุนถิงถามอย่างเป็นห่วง

“พวกเขาสองคนไม่สะดวกพบแขก หากเจ้าไม่มีอะไรแล้วก็สามารถกลับไปได้” โม่เหลิ่งเหยียนพูดตอบ

หลายวันมานี้ เขาเฝ้าอยู่ในจวนซื่อจื่อตลอดไม่ไปไหน จวินหย่วนโยวยังไม่ฟื้นขึ้นมา เขาไม่วางใจ พ่อบ้านไม่ได้บอกว่าจวินหย่วนโยวหมดสติ พูดเพียงว่าซื่อจื่อเฟยกับซื่อจื่อไม่สะดวกพบแขก

“ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ งั้นข้าก็จะรออยู่ที่นี่ ข้าเป็นห่วงพี่สาวใหญ่” หยุนหลีนั่งลงแล้วพูดขึ้นมา

เสวี่ยเชียนโฉวแสดงสีหน้าเป็นห่วง แต่ก็รู้ว่าเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวง จึงนั่งลงพร้อมกับหยุนหลี

หยุนเฉิงเซี่ยงสิ สั่งคนขนของมาอยู่ในจวนซื่อจื่อเลย ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับเสี่ยวเทียน เขาเป็นห่วงอย่างมาก ตอนนี้เสี่ยวเทียนกลับมาแล้ว หยุนเฉิงเซี่ยงพูดว่ายังไงก็จะอยู่เฝ้าด้วยตนเอง

พวกพ่อบ้านรีบสั่งคนเก็บห้องให้กับหยุนเฉิงเซี่ยง ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

ส่วนจวนหลีอ๋อง หลังจากหลีอ๋องกลับไปรักษาตัวอยู่หลายวันก็ฟื้นตัวดีขึ้นมา ได้ยินว่าตามหาจวินเสี่ยวเทียนเจอแล้ว ก็ค่อยแอบโล่งอก

ตอนที่เขาบาดเจ็บสาหัส เป่ยตันเสวี่ยคอยดูแลอยู่ข้างกายตลอด ทำให้โม่ฉือหานซาบซึ้งใจอย่างมาก จึงขอให้ฮ่องเต้ประทานพระราชโองการแต่งงาน

ฮ่องเต้ยินดีดีใจ มีพระราชโองการแต่งงานระหว่างหลีอ๋องกับองค์หญิงรองแคว้นเป่ยลี่ กำหนดวันแต่งงานในอีกสามเดือนข้างหน้า

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท