จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 724 เจ้าเป็นคนที่ข้าคลอดอยู่แล้ว
ตอนที่พวกหยุนถิงออกมาจากห้องเรือนไม้ ก็หลังจากผ่านไปสิบวันแล้ว
“ซื่อจื่อเฟย ซื่อจื่อเป็นอย่างไรบ้าง?” พวกหลิงเฟิงรีบมาหา พร้อมถามอย่างเป็นห่วง
“วางใจเถอะ มีหมอยมบาลกับตาเฒ่าเหอ เอาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัว” หยุนถิงพูดตอบ
ทุกคนค่อยวางใจ และตื้นตันอย่างมาก
“ซื่อจื่อเฟย หมอยมบาล ตาเฒ่าเหอ รีบไปพักผ่อนเถอะ ข้าน้อยสั่งคนเตรียมอาหาร เสื้อผ้าสำหรับใช้เปลี่ยน ยังมีสิ่งของใช้อาบน้ำ ล้วนเตรียมไว้หมดแล้ว” พ่อบ้านพูดขึ้นอย่างดูแลเอาใจใส่
“พ่อบ้านเอาใจใส่ดีที่สุด เหนื่อยมาสิบวันแล้ว ตาเฒ่าข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ” หมอยมบาลอ้าปากหาว พร้อมพูดขึ้น
“ข้าก็เหมือนกัน ง่วงจะแย่อยู่แล้ว”
“งั้นท่านทั้งสองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จากนั้นก็ทานอาหารให้อิ่ม ลำบากท่านทั้งสองแล้ว” หยุนถิงพูดขึ้นมา
หมอยมบาลกับตาเฒ่าเหอ ก็ไม่เกรงใจนางแล้ว รีบเดินตามองครักษ์ไป
“ช่วงหลายวันนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” หยุนถิงรีบถามขึ้นมา
“ฮ่องเต้ประทานพระราชโองการแต่งงาน ระหว่างซวนอ๋องกับองค์หญิงรองแคว้นเป่ยลี่ หมดจัดงานแต่งในอีกสามเดือนข้างหน้า หยุนเฉิงเซี่ยงย้ายมาอยู่ในจวนของเราแล้ว เล่นอยู่กับซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่น้อยทุกวัน”
องครักษ์ลับได้รับข่าวมาว่า ชางหลันเย่จัดการพวกคนของหยางเฟย กำจัดอำนาจของพวกเขา ตอนนี้หยางเฟยถูกสั่งขังอยู่ในวังเย็น คนของนางก็ถูกจัดการไปพอสมควรแล้ว
เหลือองค์ชายรองชางเยว่หมิง ดิ้นรนทุรนทุรายประคองชีวิตให้รอดไปวันๆ แต่ฮ่องเต้แคว้นชางเยว่ จู่ๆก็ป่วยหนัก ค่อนข้างน่าสงสัย ชางหลันเย่กำลังดูแลอยู่ข้างกาย
ส่วนไท่จื่อของแคว้นเป่ยลี่ เมื่อหลายวันก่อนได้สั่งคนนำจดหมายมาให้ บอกว่าองค์หญิงห้ากับอ๋องเก้าจะหย่ากัน สองคนทะเลาะกันอย่างดุเดือด
บอกว่าองค์หญิงห้าแต่งงานมานานหลายปี ไม่ง่ายกว่าจะตั้งครรภ์ สุดท้ายถูกเมียน้อยของอ๋องเก้ายั่วยุ ทั้งสองคนลงมือต่อสู้กัน ทำให้องค์หญิงห้าแท้งลูกในครรภ์
หลังจากอ๋องเก้ารู้เรื่อง ไม่เพียงไม่ปลอบองค์หญิงห้า ยังไม่ลงโทษเมียน้อย ยังพาเมียน้อยไปเที่ยวทะเลสาบ จนองค์หญิงห้าโกรธจัดหมดสติไป จึงโมโหจะหย่าให้ได้” หลิงเฟิงรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในหลายวันนี้ให้ฟัง
หยุนถิงขมวดคิ้ว ถามขึ้นว่า “ครั้งที่แล้ว ฮ่องเต้ประทานพระราชโองการแต่งงานแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ครั้งนี้เป็นการกำหนดวันแต่งงาน ได้ส่งหนังสือสมรสของกันและกันให้ทางด้านแคว้นเป่ยลี่ ตอนนี้แคว้นเป่ยลี่กำลังเตรียมสินสอดขององค์หญิงรอง จวนหลีอ๋องก็มีงานยุ่งกันอย่างมาก” หลิงเฟิงพูดอธิบาย
“ช่วงหลายวันนี้ ลำบากพวกเจ้าแล้ว ทุกคนก็ไปพักผ่อนเถอะ” หยุนถิงเดินไปที่เรือนด้านหน้า
มองจากไกลๆ ก็เห็นหยุนเฉิงเซี่ยงกำลังเล่นอยู่กับจวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียน เด็กทั้งสองคนไปหลบซ่อน หยุนเฉิงเซี่ยงไปตามหา มองเห็นจอนสีขาวทั้งสองข้างของหยุนเฉิงเซี่ยง หยุนถิงรู้สึกอยากร้องไห้
ในสายตาของคนแก่ วันเวลาที่มีความสุขที่สุดก็คือได้เห็นลูกหลานเต็มบ้าน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
เรียบง่ายแบบนี้ และอบอุ่นแบบนี้
“แม่” จวินเสี่ยวเทียนเห็นหยุนถิง ก็ร้องขึ้นมาอย่างดีใจพร้อมก้าวเท้าน้อยๆวิ่งมาหา
จวินเสี่ยวเหยียนได้ยิน ก็รีบวิ่งมาหา
หยุนถิงคุกเข่าลงแล้วอุ้มลูกทั้งสองคนไว้ ไม่ได้เจอสิบวัน นางคิดถึงอย่างมากจริงๆ
“เสี่ยวเทียน เสี่ยวเหยียน แม่คิดถึงพวกเจ้ามาก”
หยุนเฉิงเซี่ยงที่อยู่ไม่ไกลเห็นหยุนถิง เอาวิ่งมาหาอย่างตื้นตัน แต่เขาอายุมากแล้ว เดินก็ช้า แทนที่จะพูดว่าวิ่ง พูดว่าเดินยังจะดีกว่า ท่าทีนั้นน่าขำมาก
“ถิงเอ๋อร์ จวินซื่อจื่อเป็นไงบ้าง?” หยุนเฉิงเซี่ยงถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“พ่อวางใจ เขาพ้นขีดอันตรายแล้ว” หยุนถิงพูดตอบ
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี ลำบากเจ้าแล้ว รีบไปพักผ่อน พ่อดูแลลูกให้เจ้า” หยุนเฉิงเซี่ยงพูดขึ้นมาอย่างห่วงใย
หยุนถิงพูดขึ้นมาด้วยดวงตาแดงว่า “ขอบคุณพ่อมาก หลายวันมานี้ท่านก็ลำบากแล้ว”
ต่างพูดว่าในบ้านมีคนสูงอายุ เท่ากับมีสิ่งของล้ำค่า มีลูกแล้วค่อยพบว่า มีคนช่วยเจ้าเลี้ยงลูกนั้น เป็นการช่วยผ่อนคลายได้อย่างมากจริงๆ และก็วางใจด้วย
“ในเมื่อจวินหย่วนโยวไม่เป็นไรแล้ว ข้าก็ควรกลับไปแล้ว” โม่เหลิ่งเหยียนเดินมาพูดขึ้น
หยุนถิงอย่างสุดซาบซึ้งว่า “ขอบคุณมาก หลายวันนี้มีเจ้าอยู่ ข้าวางใจอย่างมาก ลำบากเจ้าแล้ว”
“กับข้าไม่ต้องเกรงใจ” โม่เหลิ่งเหยียนหันเดินจากไป
“ซื่อจื่อเฟย ที่จริงฮ่องเต้ส่งคนมาแล้วสองครั้ง รับสั่งให้ซวนอ๋องเข้าวัง แต่ล้วนถูกเขาปฏิเสธ เขาบอกว่ารอให้ซื่อจื่อปลอดภัยแล้ว เขาถึงจะจากไป” รั่วจิ่งอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
ที่ผ่านมาพวกเขาค่อนข้างต่อต้านโม่เหลิ่งเหยียน รู้สึกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับซื่อจื่อเฟย แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ พวกรั่วจิ่งนับถือซวนอ๋องจริงๆ
เขาไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เพียงเพื่อปกป้องจวินเสี่ยวเทียน ปกป้องจวนซื่อจื่อ หากเป็นคนอื่นไม่มีทางทำได้
หยุนถิงหันเดินกลับไปที่เรือนของตนเอง คิ้วกลับขมวดชนกันแน่น
“คุณหนูใหญ่ จวินซื่อจื่อดีขึ้นแล้ว ทำไมท่านยังดูเป็นกังวล?” ซูหลินหันมามอง
“คนของเขตทะเลนิรนาม ทำร้ายซื่อจื่อบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าคนคนนั้นมีกำลังที่แข็งแกร่งมาก ด้วยกำลังของพวกเราในตอนนี้ คนเดียวยังขนาดนี้ หากมาเป็นจำนวนมาก คงไม่มีทางต่อสู้อย่างแน่นอน เห็นทีข้าจะต้องวางแผนเสียหน่อยแล้ว” หยุนถิงพูดขึ้นมา
“คุณหนูใหญ่พูดถูก ข้าก็จะบอกกองทัพขนหงส์ ให้ฝึกฝนอย่างเข้มงวด” ซูหลินพูดขึ้นมา
“อืม” หยุนถิงหยิบกระดาษพู่กันขึ้นมา เขียนจดหมายสองฉบับยื่นให้กับซูหลิน ให้นกกางเขนสงสารไปให้ชางหลันเย่กับเป่ยหมิงฉี่
“เจ้าไปตามพ่อข้ามา ข้ามีเรื่องจะถามเขา”
“รับทราบ” ซูหลินหันเดินออกไป
ไม่นาน หยุนเฉิงเซี่ยงเดินเข้ามา ยิ้มแย้มอย่างไม่หุบพร้อมพูดขึ้นว่า “ถิงเอ๋อร์ มีเรื่องอะไรหรือ คุยกันในสวนไม่ได้หรือ ข้ายังต้องไปเล่นกับเสี่ยวเทียน”
หยุนถิงลุกเดินไปที่ประตู ปิดประตูห้อง หันมามองหยุนเฉิงเซี่ยง พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ ข้าอยากถามท่านเรื่องชาติกำเนิดของข้า หรือแม่ของข้าเป็นใคร พ่อของข้าเป็นใคร?”
คำพูดประโยคนี้เป็นเหมือนดังฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ผ่ากลางหัวหยุนเฉิงเซี่ยงอย่างรุนแรง เขาตกตะลึงจนนิ่งอึ้งไป
นานสักพัก เขาค่อยได้สติกลับมา สีหน้าค่อนข้างเหม่อลอย พร้อมพูดขึ้นว่า “ไอ้ชั่วคนไหนที่พูดจาเหลวไหลต่อหน้าเจ้า เจ้าเป็นลูกของข้า ข้าเป็นพ่อแท้ๆของเจ้า”
“ใช่จริงๆหรือ?” หยุนถิงถามกลับ ดวงตางดงามดั่งหงส์จับจ้องมองหยุนเฉิงเซี่ยง ไม่พลาดท่าทีความรู้สึกใดๆของเขา
ยายขุยก็เดินออกมาจากด้านข้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนเฉิงเซี่ยง สุขสบายดีไหม”
วินาทีที่มองเห็นยายขุย หยุนเฉิงเซี่ยงอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ยายขุย เจ้ายังมีชีวิตอยู่?”
ตอนนั้นยายขุยบาดเจ็บสาหัสแล้วจากไป ต่อมาหยุนเฉิงเซี่ยงสั่งคนไปตามหา ตามหาอยู่หลายปีก็หาไม่เจอ เขายังคิดว่ายายขุยคงตายไปแล้ว
ถึงว่าทำไมจู่ๆถิงเอ๋อร์ ถึงมาถามเรื่องชาติกำเนิดของนาง เพราะมียายขุยอยู่กับนาง แสดงว่านางรู้เรื่องแล้ว
“หยุนเฉิงเซี่ยง ไม่ได้เจอกันนาน” ยายขุยพูดขึ้นมา
สีหน้าหยุนเฉิงเซี่ยงมืดมนลงทันที พร้อมพูดขึ้นว่า “ยายขุย เจ้าหายตัวไปตั้งนานหลายปี แล้วทำไมไม่หายตัวต่อไป เจ้ามาหายัยหนูทำไม?”
“ข้าก็อยาก แต่โชคชะตาฟ้าลิขิตทำให้ข้าบังเอิญได้เจอหยุนถิง ในร่างกายจวินซื่อจื่อมีหนอนกู่ผีเสื้อโลหิตของพิษกู่ เหมือนคุณหนูในตอนนั้น ข้าต้องการตามหาฆาตกรเพื่อแก้แค้นให้กับคุณหนู ดังนั้นจึงติดตามอยู่ข้างกาย” ยายขุยพูดอธิบายสั้นๆ
หยุนเฉิงเซี่ยงนิ่งอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้า เจ้าพูดว่าคนที่ทำร้ายแม่ของถิงเอ๋อร์คนนั้น ปรากฏตัวแล้ว?”
“ไม่แน่ใจ พิษกู่ในตัวของจวินซื่อจื่อมีอายุสิบกว่าปีแล้ว ช่วงนี้เพิ่งถูกเรียก ข้าก็ไม่แน่ใจว่าคนคนนั้นยังอยู่ไหม แต่ขอเพียงมีความหวังเพียงนิดเดียว ข้าก็จะต้องตามหา นอกเสียจากข้าตายไปแล้ว” ยายขุยพูดขึ้นมายังเกลียดชัง
“นับข้าด้วย ต่อให้แลกด้วยชีวิตของข้า ก็จะต้องแก้แค้นให้กับแม่ของถิงเอ๋อร์”