จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 740 อยากตาย ไม่ง่ายขนาดนั้น

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่740 อยากตาย ไม่ง่ายขนาดนั้น

หยุนซูซาบซึ้งมาก คิดไม่ถึงว่าซูนฟั่งทำงานจะมีประสิทธิภาพขนาดนี้ เรื่องพึ่งเกิด เขาก็ได้จับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาหมดแล้ว

“ขอบคุณ”

“กับข้ายังจะเกรงใจอะไรกัน ข้าจะไม่มีวันให้เจ้าได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจแน่นอน” ซูนฟั่งรับประกัน

หัวใจของหยุนซูรู้สึกอบอุ่น และรู้สึกสะเทือนใจมาก “อืม”

“พวกเจ้าหรือที่วางแผนใส่ร้ายน้องสาวข้า?” น้ำเสียงที่เย็นชาของหยุนถิง ทำเอาทุกคนกลัวจนตัวสั่น

หลงเอ้อปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ถือดาบและมองดูพวกเขาอย่างเย็นชา “พูด!”

เมื่อเห็นหลงเอ้อ พวกเขาก็ตกใจกลัวจนสั่นเทา คุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา

“เรียนซื่อจื่อเฟย พวกข้าไม่รู้จริงๆ พวกข้าถูกใส่ร้าย” หนึ่งในนั้นพูด

“ใช่ พวกข้าไม่มีอะไรจริงๆ” อีกคนก็ไม่ยอมรับ

หยุนถิงเห็นพวกเขายังกล้ากลับกลอก มุมปากมีความเหยียดหยาม และเดินไปหาคนเหล่านั้นทีละก้าว “ข้าเป็นคนที่เข้าข้างคนในครอบครัวมากที่สุด หากใครกล้าทำร้ายคนในครอบครัวของข้า ข้าจะให้เขาได้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน”

หลังจากสิ้นเสียงลง หยุนถิงก็ดึงดาบยาวของหลงเอ้อออกมา และฟันไปที่คนที่พูดโกหกคนแรก

“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังขึ้น แขนข้างหนึ่งของคนคนนั้นถูกตายออกทั้งเป็น

แขนที่เปื้อนเลือดตกลงสู่พื้น และนิ้วยังคงสั่นอยู่ สยดสยองทำเอาคนหวาดกลัวยิ่งนัก

คนคนนั้นร้องโหยหวนและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดขาว และกลิ้งไปมาที่พื้นทันที เพราะแตะโดนบาดแผลของแขนที่หักไป ก็ยิ่งเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวดในทันที

เมื่อคนอื่นๆ เห็น ต่างก็หวาดกลัวและตกตะลึง คนคนหนึ่งถึงกับฉี่ใส่กางเกงในจุดนั้นเลย

ดูเหมือนว่าพวกเขาลืมไปแล้วว่า หยุนถิงที่หยิ่งยโสโอ้อวด หลงระเริงยิ่งนัก แถมไร้ประโยชน์ และวิธีการทรมานคนที่มีอย่างไม่ขาดสาย บางทีอาจเป็นเพราะช่วงหลายปีมานี้หยุนถิงได้ล้างจุดบกพร่องออกเป็นอย่างดี ชื่อเสียงของนางก็แตกต่างจากเมื่อก่อนไปอย่างมาก ดังนั้นอีกฝ่ายจึงลืมฝีมือและขีดจำกัดของนางไป

คนที่มุงดูต่างก็ตกตะลึงกันหมด และถอยหลังไปหลายเมตรโดยไม่รู้ตัว กลัวว่าตัวเองจะถูกพัวพัน ตกใจกลัวจนไม่กล้าหายใจแรงเลย

ซื่อจื่อเฟยก็โหดร้ายเกินไป นั่นเป็นถึงแขนข้างหนึ่งนะ แต่นางกลับตัดทิ้งแบบนี้เลย

“ซื่อจื่อเฟยข้าสารภาพ ข้าสารภาพหมด!” คนที่พูดคนที่สองในเมื่อครู่รีบสารภาพ

“พวกเขาเป็นคนบอกให้ข้าทำด้วยเอง พวกข้าสามคนรู้จักกัน ข้ามีหน้าที่ไปซื้อหญ้าหลันซิง จากนั้นก็ให้เขากินลงไปและเข้ามาในเนื้อย่างเพื่อให้เกิดเรื่อง

พวกข้าสองคนกำลังปลุกปั่นทุกคน ให้ทุกคนคิดว่าร้านเนื้อย่างของคุณหนูซูมีปัญหา ที่เกิดเรื่องในร้านนางนั้นเป็นถึงเรื่องใหญ่ถึงแก่ชีวิตของคน เช่นนี้คุณหนูสามไม่เพียงแต่ต้องเข้าคุก ร้านเนื้อย่างก็ต้องปิดร้าน”

“ใครสั่งการเจ้า หรือใช้เงินซื้อใจเจ้า?” หลงเอ้อถามอย่างเย็นชา

คนคนนั้นหันมองสาวรับใช้คนสนิทขององค์หญิงห้าที่อยู่ข้างๆโดยไม่รู้ตัว “นางเอง นางให้เงินหนึ่งหมื่นตำลึงแก่พวกข้าให้พวกข้าทำ หากทำสำเร็จก็จะให้อีกหนึ่งหมื่นตำลึงแก่พวกข้า”

เมื่อสาวรับใช้ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็ซีดขาว และตกตะลึง “เจ้าพูดไร้สาระ ข้าไม่รู้จักพวกเจ้าเลย เจ้าอย่างใส่ร้ายข้า ข้าก็แค่คนเดินผ่านมาดูความครึกครื้นเท่านั้น”

“เจ้าพูดไร้สาระ เจ้าเป็นคนให้ตั๋วเงินแก่พวกข้าเอง ตั๋วเงินข้ายังเอาติดตัวไว้เลย ซื่อจื่อเฟยโปรดดู” คนคนนั้นหยิบตั๋วเงินออกมาจากหน้าออกทันที

หลงเอ้อรับมาแล้วยื่นให้หยุนถิง

หยุนถิงชำเลืองมอง “ตั๋วเงินนี้มีตราประทับของธนาคารไท่อานจริง ไปตรวจที่ธนาคารไท่อาน ดูว่าเงินนี้ผ่านมือใคร และใครเป็นคนนำเงินนี้ไปฝากและถอน”

“ขอรับ!” หลงเอ้อเรียกองครักษ์ลับคนหนึ่งมา และนำตั๋วเงินมอบให้เขา

องครักษ์ลับหันหลังกลับและจากไป สาวรับใช้เห็นก็เข่าทรุดลงบนพื้น คราวนี้จบแล้วจริง

หากให้พวกเขาสืบไปถึงองค์หญิง เช่นนั้นองค์หญิงคงหั่นตัวเองทั้งเป็นอย่างแน่นอน

สาวรับใช้เหลือบมองเสาข้างๆ จำใจ ลุกขึ้นกำลังจะไปชนเสา ขอแค่ตัวเองตาย ก็ไม่มีคนสามารถให้การพวกเขาได้แล้ว

เพียงแต่ว่านางยังไม่ทันได้แตะโดนเสา ก็ถูกหลงเอ้อกดจุดที่ทำให้ขยับตัวไม่ได้ไป “อยากตาย ไม่ง่ายขนาดนั้น”

สาวรับใช้พยายามดิ้นรน แต่ร่างกายขยับไม่ได้ วินาทีนี้นางอยากตายก็ตายไม่ได้

เสียนอ๋องที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจกับการกระทำของหยุนถิงเช่นกัน เมื่อก่อนรู้เพียงว่าหยุนถิงหยิ่งผยองและโอ้อวด ไม่เห็นคนอยู่ในสายตา ต่อมานางแสดงความสามารถตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้คนทั้งใต้หล้าอึ้งไปหมด เสียนอ๋องก็ไม่อาจไม่นับถือในความสามารถของนางได้

ขณะนี้เห็นแขนขาดที่ตกอยู่บนพื้น เสียนอ๋องก็ตกใจกลัวยิ่งนัก สำหรับเสียนอ๋องที่ชอบบทกวีและวรรณกรรมนั้นแล้ว ก็ต้องตกใจกลัวอยู่แล้ว

คนในร้านเนื้อย่าง ไม่มีใครจากไป แม้แต่คนที่อยู่นอกร้านก็ไม่มีใครจากไป ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและต่างก็แอบอุทานกับความโหดเหี้ยมของซื่อจื่อเฟย

หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์ลับก็กลับมา ด้านหลังตามด้วยเจ้ากรมของธนาคารไท่อาน

เจ้ากรมเห็นหยุนถิง ก็ทำความเคารพทันที “คำนับซื่อจื่อเฟย”

“บอกเกี่ยวกับตั๋วเงินนี้หน่อย” หยุนถิงเลิกคิ้วและมองมา

“เรียนซื่อจื่อเฟย ตั๋วเงินนี้ถอนมาจากธนาคารของพวกข้าจริง ผู้ที่ฝากเงินนี้คือองค์หญิงห้า คนที่มาถอนก็เป็นแม่นางคนนี้จริง ตั๋วเงินนี้พึ่งถอนออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม สิ่งที่ข้าพูดนั้นจริงทุกคำ โปรดซื่อจื่อเฟยทรงตรวจสอบอย่างกระจ่างแจ้ง!” เจ้ากรมตอบด้วยความเคารพ

หยุนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “องค์หญิงห้า?”

ดูเหมือนว่าบทเรียนในสองปีที่แล้วยังไม่มากพอ นางพึ่งกลับมาก็มาหาเรื่องแล้ว แถมยังวางแผนคิดร้ายหยุนซู

ครั้งนี้ นางจะไม่มีวันไว้หน้าอีกต่อไป

“ขอบคุณเจ้ากรม” หยุนถิงกล่าว

“ซื่อจื่อเฟยเกรงใจยิ่งนัก!” เจ้ากรมรีบจากไป และแอบพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาเพียงแค่พูดตามความจริง องค์หญิงห้าเป็นเพียงองค์หญิงที่แต่งออกไปแล้ว แต่ซื่อจื่อเฟยกับจวินซื่อจื่อ เขาล่วงเกินไม่ได้ บวกกับตระกูลหยุนอีก อันไหนสำคัญกว่าเจ้ากรมก็ยังแยกแยะออกอยู่

“ซื่อจื่อเฟย ต่อมาจะทำอย่างไร?” ซูนฟั่งถาม

หยุนถิงหันมองเขา เจ้านี่ก็ยังถือว่าใจนิ่งดี เขาไม่ได้บุกไปหาคิดบัญชีกับองค์หญิงห้า และไม่ได้ใช้อารมณ์ ไม่เลว

“ต่อมาก็มอบให้ข้า เจ้าไปยุ่งเรื่องของเจ้าเถอะ ซูเอ๋อร์เป็นน้องสาวแท้ๆของข้า ข้าจะไม่มีวันให้นางได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจแน่นอน!” หยุนถิงตอบ

“ขอบคุณซื่อจื่อเฟย” ซูนฟั่งก็จากไป

“เด็กๆ นำตัวคนพวกนี้แล้วเข้าวังกับข้า” หยุนถิงทำเสียงเชอะอย่างเผด็จการ

“ขอรับ!”เหล่าองครักษ์ลับรีบมาทันที คุมพวกเขาไว้ บวกกับคนที่แขนขาดในเมื่อครู่แล้วก็สาวรับใช้ เจ้ากรมล้วนพาไปหมด

ก่อนจากไป หยุนถิงชำเลืองมองดูแขนขาดครึ่งหนึ่งที่อยู่บนพื้นนั้น “ผู้จัดการร้าน แขวนแขนครึ่งหนึ่งนี้ไว้ที่หน้าประตูร้านเนื้อย่าง ต่อไปหาดใครกล้ามาหาเรื่องหรือใส่ร้ายร้านเนื้อย่างอีก นี่ก็คือจุดจบ!”

“ขอรับ!” ผู้จัดการร้านเชื่อฟังอย่างนอบน้อม

พระราชวัง

ฝ่าบาทได้ยินว่าหยุนถิงเข้าวัง ก็มีความสุขมาก คิดดูแล้วนางก็ไม่ได้เข้าวังมานานแล้ว ฝ่าบาทกำลังดีใจ แถมยังให้ซูกงกงไปชงชาโดยเฉพาะ

ซูกงกงก็ดีใจเช่นกัน เดิมทีเขาก็รู้สึกว่าซื่อจื่อเฟยเป็นคนที่ดี ยาที่นางให้เขาในก่อนหน้านี้นั้นก็รักษาโรคเก่าในหลายปีนั้นของเขาหาย ซูกงกงก็รู้สึกซาบซึ้งต่อหยุนถิงมากนัก  

แต่เมื่อเห็นหยุนถิงนำคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ยังเป็นสาวรับใช้ขององค์หญิงห้าอีก สีหน้าของฝ่าบาทก็เปลี่ยนไปในทันที

“หยุนถิง คนเหล่านี้คือใคร?” ฝ่าบาทถามอย่างเย็นชา

เมื่อคนอื่นๆ เห็นฝ่าบาท ต่างก็คุกเข่าลง และตกใจกลัวแทบตาย

“ทูลฝ่าบาท สาวรับใช้ขององค์หญิงห้าใช้เงินซื้อใจคนเหล่านี้ ใส่ร้ายร้านเนื้อย่างของหยุนซู และจงใจให้พวกเขาบอกว่าเป็นเพราะกินเนื้อย่างไปแล้วจึงเกิดเรื่อง เรื่องนี้ได้สืบสวนอย่างชัดเจนแล้ว เรื่องมันเกี่ยวข้องถึงองค์หญิงห้า ดังนั้นโปรดฝ่าบาททรงทำการตัดสิน!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท