จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 765 รีบปล่อยมือ เจ็บจะตายอยู่แล้ว

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 765 รีบปล่อยมือ เจ็บจะตายอยู่แล้ว

“หลงเอ้อ หลงเอ้อ ขอซื่อจื่อเฟยโปรดช่วยหลงเอ้อด้วย!” เป่ยจิงจิงตะโกนด้วยความเป็นห่วง

“วางใจ ข้าไม่ปล่อยให้เขาเป็นอะไรแน่ ยกเขาเข้าไปในเรือนก่อน!” หยุนถิงเอ่ยปาก

องครักษ์ลับสองนายรีบยกหลงเอ้อเข้าไปทันที หยุนถิงป้อนยาเม็ดให้หลงเอ้อ จากนั้นก็ช่วยจัดการทำแผลให้เขา

เป่ยจิงจิงยืนมองดูอยู่ด้านข้าง น้ำตาไหลพรากลงมา แต่กลับไม่กล้าส่งเสียง

เวลาเช่นนี้ นางทำอะไรไม่ได้เลย และไม่สามารถช่วยอะไรได้เช่นนั้น ยิ่งไม่กล้ารบกวนหยุนถิง

ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหลงเอ้อ จวินหย่วนโยวกับหลงยี หลิงเฟิงและคนอื่นๆล้วนรีบเข้ามาทันที

“หลงเอ้อเป็นอย่างไรบ้าง?” จวินหย่วนโยวกล่าวถามด้วยสีหน้ามืดมน

“เขาไม่มีอันตรายถึงชีวิต เพียงแค่สูญเสียกำลังภายในมากเกินไป และบาดเจ็บภายนอกสองสามแห่งเท่านั้น บาดแผลไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที เสียเลือดมากไปถึงได้หมดสติไป พักผ่อนสองสามวันก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว” หยุนถิงตอบ

ทุกคนถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

“มันเป็นใครกันแน่ ถึงทำให้หลงเอ้อบาดเจ็บเช่นนี้ได้?” สีหน้าของหลิงเฟิงจริงจังเคร่งขรึมในชั่วพริบตา

จู่ๆจวินหย่วนโยวก็นึกถึงคนที่เคยประมือกับตัวเองคนนั้นขึ้นมา “หรือว่าจะเป็นคนของเขตทะเลนิรนาม?”

“ซื่อจื่อ ข้าน้อยจะไปสืบเดี๋ยวนี้!” หลิงเฟิงหันหลังก็จากไป

“รั่วจิ่ง แจ้งทุกคนให้เพิ่มกำลังการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะสายของสี่แคว้น ทำทุกวิถีทางเพื่อสืบเรื่องของเขตทะเลนิรนามให้ชัดเจน!” จวินหย่วนโยวออกคำสั่ง

อย่างไรเสีย รู้เขารู้เรา ถึงจะสามารถจัดการศัตรูได้ในคราวเดียว

“ขอรับ!” รั่วจิ่งก็จากไปเช่นกัน

ไม่นานนัก หยุนถิงก็ทำแผลให้หลงเอ้อเสร็จเรียบร้อย มองดูเป่ยจิงจิงที่น้ำตาคลออยู่ด้านข้างครู่หนึ่ง หยุนถิงถึงได้เอ่ยปากขึ้นมา

“รบกวนองค์หญิงสี่ช่วยข้าดูแลหลงเอ้อด้วย ข้ายังมีธุระต้องทำ!”

“ซื่อจื่อเฟยท่านไปจัดการธุระเถิด ข้าจะดูแลหลงเอ้อเป็นอย่างดีแน่นอน!” เป่ยจิงจิงให้คำมั่น

หยุนถิงวางใจมาก ติดตามจวินหย่วนโยวออกไป ทั้งสองคนกำลังพูดคุยเรื่องของหลงเอ้อ ก็เห็นซวนอ๋องโม่เหลิ่งเหยียนเดินเข้ามาจากด้านนอกลาน

“มีเรื่องอันใด?” จวินหย่วนโยวถาม

สีหน้าของโม่เหลิ่งเหยียนกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “เกี่ยวกับหลงเอ้อ ไปคุยกันที่ห้องหนังสือเจ้าเถอะ”

“ตกลง”

ในห้องหนังสือ โม่เหลิ่งเหยียนรีบเอ่ยปากทันที “ความจริงเมื่อคืนหลงเอ้อต่อสู้กับหมิงจิ่วซาง ทั้งคู่ต่อสู้กันเกือบทั้งคืน แล้วก็สู้กันอีกครึ่งวัน จนกระทั่งเที่ยงถึงได้หยุดลง!”

หยุนถิงตกตะลึงอย่างยิ่ง “ดังนั้นหลงเอ้อได้รับบาดเจ็บเพราะสู้กับหมิงจิ่วซาง พวกเขาสองคนต่อสู้กันได้อย่างไร?”

“ข้าก็ให้คนไปตรวจสอบตอนเที่ยงถึงได้รู้ เมื่อคืนเป่ยจิงจิงจับพลัดจับผลูไปดื่มสุราที่หอดวงจันทร์ จากนั้นหมิงจิ่วซางรู้ว่านางชอบหลงเอ้อ ก็เลยต้องการช่วยนาง

เขาหาอันธพาลสองสามคน ให้พวกเขาแกล้งทำเป็นรังแกและทำให้เป่ยจิงจิงอับอาย จากนั้นก็ส่งคนไปแจ้งหลงเอ้อเพื่อที่หลงเอ้อจะได้เป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม

หลงเอ้อช่วยเป่ยจิงจิงไปแล้วจริงๆ แถมยังพาคนมาที่จวนซื่อจื่ออีก ต่อมาหลงเอ้อสืบได้ว่าเป็นหมิงจิ่วซาง ก็เลยไล่ล่าต่อสู้กับเขาทั้งคืน

ถึงแม้หลงเอ้อจะไม่ชอบเป่ยจิงจิง แต่ก็เกลียดชังที่หมิงจิ่วซางใช้วิธีการเช่นนี้ ดังนั้นหลงเอ้อจึงลงมือโหดกับเขา

ข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะเข้าใจผิด ดังนั้นก็เลยมาบอกเรื่องนี้ มันก็เป็นความละเลยของข้าเช่นกัน หากรู้ว่าหมิงจิ่วซางใช้วิธีการแบบนี้ ข้าต้องขวางเขาเอาไว้อย่างแน่นอน” โม่เหลิ่งเหยียนทอดถอนใจ

ตอนที่หมิงจิ่วซางจากไปในตอนนั้น เขาก็ควรขวางเขาเอาไว้แล้ว โม่เหลิ่งเหยียนก็คิดเพียงว่าหมิงจิ่วซางแค่หยอกเล่นเท่านั้น ใครจะรู้ว่าเขาใช้วิธีการที่ชั่วร้ายเช่นนี้ นี่ทำให้โม่เหลิ่งเหยียนหงุดหงิดโมโหอย่างยิ่ง

“ในเมื่อเป็นหมิงจิ่วซาง แก้ไขความเข้าใจผิดก็ไม่เป็นไรแล้ว” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างราบเรียบ ในใจกลับแอบโล่งใจเงียบๆ

เขายังนึกว่าเป็นคนของเขตทะเลนิรนาม โชคดีที่ไม่ใช่พวกเขา ดูท่าตนคงต้องเร่งความเร็วแล้ว

“หยุนถิง ขอโทษด้วย” โม่เหลิ่งเหยียนตำหนิตัวเอง

อย่างไรเสีย หลงเอ้อก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหยุนถิง จู่ๆก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา มันก็ไร้เหตุผลเกินไปหน่อยจริงๆ

“ซวนอ๋องไม่ต้องขอโทษ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน ถึงแม้วิธีการของหมิงจิ่วซางจะเกินเหตุไปจริงๆ แต่ข้าว่าหลงเอ้อก็ใช่ว่าจะไร้ความรู้สึกต่อเป่ยจิงจิงซะทีเดียว บางทีอาจจะช่วยพวกเขาก็เป็นได้” หยุนถิงตอบ

นางไม่ได้ลืม คำพูดที่หลงเอ้อกล่าวก่อนที่จะหมดสติไปเมื่อครู่ ไม่ได้พูดกับตัวเอง แต่พูดกับเป่ยจิงจิง

โม่เหลิ่งเหยียนยิ่งไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว เพียงแต่ด่าว่าหมิงจิ่วซางในใจ ช่างก่อเรื่องเก่งจริงๆ

จวินหย่วนโยวก็ไม่ได้พูดอะไร หลงเอ้อเป็นคนสะเพร่า เรื่องของเขากับเป่ยจิงจิงคนทั่วทั้งสี่แคว้นล้วนรู้กันหมด ไม่ว่าทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ แต่การคาราคาซังหลายปีก็ไม่ใช่เรื่องจริงๆ หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้จะสามารถทำให้พวกเขาตัดสินใจได้

“ท่านอา!” จวินเสี่ยวเหยียนวิ่งเข้ามาจากด้านนอก และกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของโม่เหลิ่งเหยียน “คิดถึงท่าน ท่านอา!”

โม่เหลิ่งเหยียนอุ้มนางขึ้นมา “ข้าก็คิดถึงเสี่ยวเหยียน!”

“ท่านอา พรุ่งนี้มากินอาหารค่ำของคืนส่งท้ายปี!” จวินเสี่ยวเหยียนกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ

โม่เหลิ่งเหยียนตัวแข็งทื่อทันที รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นังหนูน้อยคนนี้จะรั้งตัวเองไว้ด้วย

จวินหย่วนโยวมองลูกสาวที่เกาะติดโม่เหลิ่งเหยียนครู่หนึ่ง คิดๆดูแล้วเจ้าหมอนี่ก็ค่อนข้างน่าสงสาร วันตรุษจีนทั้งทีเขาต้องฉลองคนเดียว ดังนั้นจึงเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ในเมื่อเสี่ยวเหยียนเชิญเจ้า พรุ่งนี้เจ้าก็มาที่นี่แล้วกัน”

“ตกลง!” โม่เหลิ่งเหยียนรับปากโดยตรง

จนกระทั่งฟ้ามืดหลงเอ้อถึงตื่นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาก็เห็นเป่ยจิงจิงมองดูเขาน้ำตาคลอเบ้า ทำให้หลงเอ้อสะดุ้งตกใจ

“ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่?”

“หลงเอ้อ ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้ว!” เป่ยจิงจิงกอดหลงเอ้อเอาไว้ ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา

บังเอิญแตะไปโดนบาดแผลของหลงเอ้อเข้า หลงเอ้อเจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง “รีบปล่อยมือ ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”

เป่ยจิงจิงถึงได้ตระหนักขึ้นมา รีบปล่อยมือจากเขาทันที “ขอโทษด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ข้าจะไปเรียกซื่อจื่อเฟยเดี๋ยวนี้!”

หลงเอ้อกำลังจะพูดว่าไม่ต้อง เป่ยจิงจิงก็วิ่งออกไปแล้ว ยืนตรงหน้าประตูก็ตะโกนขึ้นมา “ซื่อจื่อเฟย หลงเอ้อตื่นแล้ว ซื่อจื่อเฟย!”

นางรู้ว่า จวนซื่อจื่อมีองครักษ์ องครักษ์ลับ องครักษ์เงามังกรอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อนางตะโกนคนอื่นต้องได้ยินอย่างแน่นอน

หลงเอ้อหมดคำพูด นังหนูคนนี้โง่หรือเปล่าเนี่ย ตะโกนเช่นนี้ทั่วทั้งจวนซื่อจื่อก็จะรู้เรื่องที่ว่าเขาเกือบจะตายไปแล้ว

หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวได้ยินว่าหลงเอ้อตื่นแล้ว ก็รีบมาทันที

หยุนถิงตรวจให้เขาอีกรอบหนึ่ง “ไม่เป็นไร ฟื้นฟูได้ดีมาก บาดแผลภายนอกยังต้องพักฟื้นอีกหลายวัน”

“ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยขอโทษด้วย เพราะข้าหุนหันพลันแล่นเกินไป” หลงเอ้อตำหนิตัวเอง

ซื่อจื่อให้เขาปกป้องซื่อจื่อเฟย เขากลับไปต่อสู้กับหมิงจิ่วซางทั้งคืน โชคดีที่ซื่อจื่อเฟยไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นหลงเอ้อต้องรู้สึกตำหนิตัวเองอย่างแน่นอน

“เจ้าสามารถทำให้หมิงจิ่วซางหมดสติได้ ไม่เลว สมกับที่เป็นคนของจวนซื่อจื่อข้า” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชาเคร่งขรึม

หลงเอ้อตกตะลึง “ซื่อจื่อ นี่ท่านกำลังชมข้าอยู่หรือ?”

“รีบรักษาอาการบาดเจ็บให้หาย” จวินหย่วนโยวทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่งก็จากไป

หยุนถิงมองไปทางเป่ยจิงจิงที่เต็มไปด้วยความงุนงง “เมื่อคืนเจ้าหมอนี่ไปสั่งสอนคนที่สั่งให้อันธพาลสองสามคนนั้นมารังแกเจ้า ต่อสู้กับเขาทั้งคืน ได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย!”

เป่ยจิงจิงมองไปทางหลงเอ้ออย่างตะลึงงัน “ดังนั้น เจ้าได้รับบาดเจ็บเพราะข้า?”

สีหน้าของหลงเอ้อกระอักกระอ่วนสุดขีด “เจ้าอย่าคิดมากไป ข้าก็แค่ทนเห็นคนใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้รังแกผู้หญิงไม่ได้เท่านั้น”

ทันทีที่สิ้นเสียง เป่ยจิงจิงก็วิ่งเข้ามาในสองสามก้าว กอดหลงเอ้อเอาไว้ “หลงเอ้อขอบคุณเจ้ามาก ข้านึกว่าเจ้าจะไม่สนใจข้าอีกแล้ว ขอบคุณที่เจ้าทำเพื่อข้าเช่นนี้ หลงเอ้อ!”

หยุนถิงมองดูท่าทางที่เจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟันของหลงเอ้อ นัยน์ตามีความปลื้มใจเล็กน้อยแว๊บผ่านไป จากนั้นออกไปเช่นกัน

เวลาเช่นนี้ นางไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอหรอก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท