จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 771 หรือว่าคุณชายกลัวข้าวางยาพิษ
เพราะในร่างกายจวินหย่วนโยวมีพิษร้ายแรง ร่างกายอ่อนแอมานานหลายปี ฉะนั้นจึงสัญจรทางน้ำน้อยมาก พอมานั่งเรือนานขนาดนี้อย่างกะทันหัน เขารับไม่ไหวอยู่บ้างจริงๆ
“ทนไม่ไหวอยู่บ้างเสียจริง แต่ว่าดีที่อีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้ว” จวินหย่วนโยวไม่ได้ปิดบัง
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอวดดี จะต้องดูแลร่างกายให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีทางรู้ความสามารถของคนในเขตทะเลนิรนามทางนั้นได้ จึงต้องรับมืออย่างระมัดระวัง
โชคดีที่ก่อนหน้านี้ส่งคนติดตามวี่อู๋เสียกับคนผู้นั้นไป และมีอินทรีทองนำทางอยู่กลางอากาศ มิฉะนั้นอาศัยเพียงล่องลอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลานานปานนี้ ต้องหลงทางตั้งแต่แรกเป็นแน่
ทะเลผืนนี้ไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้าเป็นคนธรรมดาต้องแยกแยะทิศทางออกยากมาก ถ้าเกิดหลงทางผนวกกับเสบียงไม่เพียงพอ จะต้องตายอยู่กลางทะเลแน่นอน
นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมหลายปีมานี้ ไม่เคยมีใครไปถึงเขตทะเลนิรนามได้โดยแท้จริง
“อืม ท่านรีบไปพักผ่อนเถิด เมื่อถึงทางนั้นแล้วเดาว่าคงจะเป็นสงครามดุเดือดฉากหนึ่ง!” หยุนถิงกล่าว
“ได้!”
ผ่านไปอีกครึ่งเดือน จวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ จึงมาถึงที่เขตทะเลนิรนาม วินาทีนั้นที่เรือเทียบท่า ทุกคนล้วนวิ่งลงจากเรือมากันหมด
“ยังเป็นผืนดินที่ยืนแล้ววางใจกว่า!” หลงเอ้อนอนหมอบอยู่บนพื้นไปทั้งตัว
“ใช่ วันเวลาช่วงที่อยู่บนเรือแล้วส่ายไปมานี้มันแย่เสียจริง ตอนนี้มาเทียบท่า จะได้พักดีๆ แล้ว” หลิงเฟิงกล่าว
“ตอนนี้พวกเราไปดูเสียหน่อยว่าเขตทะเลนิรนามแห่งนี้มีอะไรแปลกประหลาดกันแน่!”
จวินหย่วนโยวพาหยุนถิงเดินลงมาเช่นกัน ก่อนหน้าที่หยุนถิงจะลงจากเรือได้เปลี่ยนเป็นชุดผู้ชายแล้ว ทำแบบนี้เคลื่อนไหวขึ้นมายังสะดวกกว่า
ชายหาดแห่งนี้ใหญ่มาก บริเวณไม่ไกลนักยังมีชาวประมงกำลังจับปลาและตากแห้ง เดิมทีหลิงเฟิงอยากเข้าไปสอบถามเสียหน่อย ปรากฏว่าคนเหล่านั้นหลังจากเห็นพวกเขาต่างตกใจหวาดกลัว รีบหลบไปไกลๆ
“ซื่อจื่อขอรับ หรือว่าข้าน่ากลัวปานนั้นเชียว?” หลิงเฟิงไม่เข้าใจ
“บางทีคงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่มีคนเคยมาที่นี่กระมัง ฉะนั้นพวกเขาเจอคนแปลกหน้าถึงหวาดกลัวกัน?” หยุนถิงพูดพึมพำกับตนเอง
“น่าจะเป็นเช่นนี้” จวินหย่วนโยวพูดจาคล้อยตาม
คนกลุ่มนี้เดินไปในเมืองกันต่ออีก ด้านในมีผู้คนเพิ่มมากขึ้นแล้ว ชาวบ้านเดินขวักไขว่อยู่บนถนน สองข้างทางล้วนเป็นพ่อค้าหาบเร่ เพียงแค่ขายเปลือกหอย ปลาดาว และของจากทะเลอะไรพวกนั้นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่เป็นเมืองชายฝั่ง
และเมื่อจวินหย่วนโยวและคนอื่นปรากฏตัวขึ้น จึงดึงดูดการมุงดูของชาวบ้านรอบด้านในทันที
ทุกคนมองเห็นว่ามีคนนอกกลุ่มหนึ่งโผล่มากะทันหันอย่างนี้ หนำซ้ำแต่ละคนหน้าตาดูดีมากด้วย ไม่ใช่ว่าหลงใหลและอิจฉา แต่ว่าหวาดวิตก ล้วนหลบไปที่ไกลๆ
“ไม่ใช่กระมัง พวกเราน่าตกใจปานนั้นเชียว?” หลงซานหมดคำจะพูดแล้ว
หยุนถิงชายตามองทุกคนแวบหนึ่ง ก็รู้สึกแปลกใจ ทันใดนั้นพบว่าคนขายของสองข้างทาง หรือว่าคนที่เดินผ่านไปมาล้วนเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น
“คุณชาย ท่านดูที่นี่ล้วนมีแต่ผู้หญิง ไม่มีผู้ชายสักคนเดียว หรือว่าพวกเรามาเยือนแคว้นสตรีแล้ว?” หยุนถิงพูดอย่างตกใจ
ต่อให้มีผู้ชายน้อย ก็คงไม่ถึงขั้นที่จะมองไม่เห็นผู้ชายสักคนหนึ่งบนถนนได้กระมัง
จวินหย่วนโยวหรี่ดวงตาดำขลับอันเย็นชาขึ้นเล็กน้อย และสังเกตเห็นความผิดปกติแล้วเหมือนกัน “อีกเดี๋ยวไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าต้องอยู่ข้างกายข้าเอาไว้!”
“ขอรับ!” หยุนถิงตอบ แล้วรีบใช้ความเร็วอันว่องไวที่สุดสร้างชุดผู้หญิงที่คล้ายกับของชาวบ้านที่นี่ใส่กันออกมาสิบกว่าชุดจากในมิติ จากนั้นหยิบออกมาแบ่งให้ทุกคน
ถึงแม้สีหน้าเหล่าองครักษ์เงามังกรแต่ละคนดูไม่เข้าใจ แต่ยังรับเข้ามาแล้ว แต่ละคนหาสถานที่ไปเปลี่ยนชุดผู้หญิงแล้ว
หยุนถิงก็นำเข้ามายื่นให้จวินหย่วนโยวชุดหนึ่ง “ลำบากใจเสียหน่อยเถิด”
ท่าทางจวินหย่วนโยวไม่รู้ควรร้องไห้หรือหัวเราะดี ซื่อจื่อผู้ยิ่งใหญ่เยี่ยงเขาในชีวิตนี้ไม่เคยสวมชุดผู้หญิงมาก่อน แต่ว่ายังรับเข้ามาแล้ว
ไม่ทันรอเขาหาสถานที่เพื่อเปลี่ยนชุด ขบวนกลุ่มหนึ่งจากที่ไม่ไกลนักวิ่งตรงมาทางนี้ ล้อมรอบจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ ไว้หมด
คนที่เป็นผู้นำคือชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปี หน้าตาใจดี รูปร่างอวบอ้วนเล็กน้อย ชุดหรูหราที่สวมใส่แสดงถึงสถานะของเขา
“หลายท่านนี้คงเป็นคนนอกกระมัง มาจากที่ใดกันเล่า เหตุใดถึงมาเมืองนี้ของพวกเรา?” เจ้าเมืองหวงถาม จากนั้นพินิจดูจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ
แต่ละคนดูฉลาดหลักแหลม องอาจสง่าผ่าเผย และลักษณะงดงามมาก นานมาแล้วที่เขาไม่เคยเจอผู้ชายที่หน้าตาดูดีปานนี้
หลายคนนี้แต่ละคนต่างมีเอกลักษณ์ ทำให้เขาพอใจมากนัก ก็แค่แม่เฒ่าคนนี้ หน้าตาขี้เหร่อยู่บ้าง
จวินหย่วนโยวถูกคนผู้นั้นจ้องจนรู้สึกไม่ดีมาก กำลังอยากระบายอารมณ์ กลับถูกหยุนถิงส่งสายตาห้ามปราม
“คุณชายของข้าทำการค้าทางทะเลขอรับ เพียงแค่คราวนี้ออกทะเลมาเจอพายุแล้ว ฉะนั้นจึงหลงทางอยู่กลางทะเลขอรับ เลยมาถึงที่นี่โดยบังเอิญ ขอโทษนะขอรับที่นี่คือที่ใดกัน?” หยุนถิงถามลองเชิงอย่างสุภาพ
“ที่นี่ของพวกข้าคือเมืองฉือ ข้าก็คือเจ้าเมือง พวกท่านสามารถเรียกข้าว่าเจ้าเมืองหวง ผู้มาเยือนล้วนเป็นแขก เช่นนั้นก็ตามข้าไปพักผ่อนที่จวนเจ้าเมืองเสียหน่อย หลายวันนี้กลางทะเลคลื่นลมแรง ไม่เหมาะจะออกเดินทางเสียจริง รอผ่านไปช่วงนี้ไป คลื่นลมเบาลงแล้ว ข้าจะสั่งคนส่งพวกท่านออกไป” หวงฉือพูดอย่างกระตือรือร้น
“เช่นนั้นรบกวนเจ้าเมืองแล้วนะขอรับ” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ไม่รบกวน ทุกท่านเชิญเถิด!” หวงฉือนำทางอยู่ข้างหน้าด้วยตนเอง สายตากลับจ้องใบหน้าใบนั้นของจวินหย่วนโยวไว้ตลอด
ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของหยุนถิงหรือไม่ นางมักจะรู้สึกว่าสายตาที่เจ้าเมืองผู้นี้มองสามีนางดูไม่ปกติ ประหนึ่งหมาป่ามองเห็นเหยื่อ
หลิงเฟิงและหลงเอ้อ หลงซานและยายขุยติดตามไป หลงยีและคนอื่นเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วพอเห็นซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยเดินตามขบวนนั้นออกไป จึงรีบติดตามไปจากในที่ลับ
จวนเจ้าเมือง
หวงฉือกระตือรือร้นจริงๆ สั่งคนให้จัดเตรียมที่พักแก่พวกเขา ให้คนพาจวินหย่วนโยวและคนอื่นไปพักผ่อน ยังจัดเตรียมงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับเป็นพิเศษด้วย
ในห้อง
หยุนถิงมองเข้ามา “ท่านที่ ท่านคิดว่าเจ้าเมืองคนนี้เป็นเช่นไรเจ้าคะ?”
“ใจดีเกินเหตุแล้ว!” จวินหย่วนโยวพึมพำอย่างเย็นชา
ตั้งแต่พบหน้า เขาก็มองออกว่าหวงฉือคนนี้ไม่ธรรมดา เหตุผลที่อดกลั้นไว้ไม่ได้ลงมือ คืออยากดูเสียหน่อยว่าหวงฉือคนนี้มีแผนการร้ายอะไรกันแน่
“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน ว่าตามเหตุผลแล้วเจ้าเมืองคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องต้อนรับพวกเราด้วยตัวเอง ในเมื่อที่นี่ไม่มีคนนอกเข้ามาเนิ่นนาน เช่นนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะปรากฏตัวขึ้น?” หยุนถิงพูดข้อสงสัยของตนเองออกมา
“เขาพาคนมาต้อนรับ เห็นได้ชัดว่ากลัวพวกเราหนีไป บางทีพูดได้ว่าเขารู้แต่แรกแล้วว่าพวกเราจะมากัน และรออยู่โดยเฉพาะ” จวินหย่วนโยวตอบกลับ
หลิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างตกใจ “คนของพวกเราแอบติดตามวี่อู๋เสียและคนผู้นั้น อินทรีทองย่อมไม่ผิดพลาดแน่ขอรับ หรือว่าหลงทางอยู่กลางทะเลจริงแล้ว?”
“เขตทะเลกว้างใหญ่ปานนี้ คลาดกันแล้วย่อมเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือก็ล่องมาหนึ่งเดือนแล้ว” หลงเอ้อกล่าวอย่างเห็นด้วย
จวินหย่วนโยวกลับส่ายหน้า “เหล่าองครักษ์เงามังกรที่รับหน้าที่สะกดรอยตามล้วนเป็นคนที่ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ต่อให้พวกเขาพลาดแล้ว อินทรีทองที่บินวนอยู่กลางอากาศ เมื่อเทียบกับสายตาของคนแล้วยังกว้างไกลมากกว่าย่อมไม่อาจผิดพลาดได้ อธิบายได้เพียงอย่างเดียว ก็คือวี่อู๋เสียพวกเขาสองคนนั้นพบว่าคนของพวกเราสะกดรอยตาม จึงจงใจล่อพวกเรามาที่นี่!”
“ถ้าเป็นอย่างนี้ เช่นนั้นพวกเราติดกับดักของพวกเขาแล้ว” สีหน้าของหยุนถิงตึงเครียดทันที
“ไม่ต้องห่วง เมื่อฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีอะไรมาเราก็ใช้วิธีนั้นรับมือ ข้าจะไม่ให้เจ้าเป็นอะไรเด็ดขาด!”
“อืม ข้าเชื่อความสามารถของท่านพี่”
ช่วงค่ำ จวนเจ้าเมืองคึกคักอย่างยิ่ง เจ้าเมืองจัดงานเลี้ยงต้อนรับจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ ที่สวน ยังจัดเตรียมนางระบำมาเต้นระบำด้วยแล้ว
“ทุกท่านเดินทางมาไกล เป็นเกียรติของข้า มา ดื่มให้กับโชคชะตาอันนี้กันสักแก้ว!” หวงฉือพูดอยู่ จึงยกเหล้าแก้วนั้นดื่มจนหมดแล้ว
จวินหย่วนโยวชายตามองแก้วเหล่านั้นแวบหนึ่ง ไม่ได้แตะต้อง
“เหตุใดคุณชายไม่ดื่มกันเล่า หรือว่าคุณชายกลัวข้าวางยาพิษในเหล้า?” หวงฉือเห็นจวินหย่วนโยวไม่ได้ยกแก้วเหล้า พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจอยู่บ้าง