จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 777 นางกับเจ้าทะเลคือรักแรกพบ
“เจว๋กู๋!”
“วี่อู๋เสีย!” ทั้งสองคนเอ่ยปากพร้อมกัน
เพิ่งพูดจบ ชางเอ่อและตาเฒ่าตื่นตกใจยิ่งนัก “เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?”
ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่อาจพูดได้ ทำไมถึงพูดออกมาง่ายดายอย่างนี้แล้ว ราวกับปากของตนเองควบคุมไม่ได้
“เพราะเมื่อครู่สิ่งที่พวกเจ้ากินเป็นยาพูดความจริงของเจ้านายข้าไงเล่า ต่อให้เป็นหมาแมวกินแล้วล้วนจะพูดความจริงทั้งสิ้น นับประสาอะไรกับแมลงสาบเยี่ยงพวกเจ้าสองคน!” หลงเอ้อพูดอย่างรังเกียจ
จวินหย่วนโยวเข้าใจแจ่มแจ้ง เหมือนกับที่เขาคาดเดาไม่มีผิด “ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ที่ใด?”
“พวกเขาอยู่ในเรือนสักหลังหนึ่งบนเกาะนี้!” ตาเฒ่าตอบ
พอพูดออกมา ชั่วขณะหนึ่งใบหน้าของจวินหย่วนโยวดูหนาวเย็นเพิ่มขึ้น “เจ้าเวรสมควรตายสองคนนี้ หลงเอ้อเจ้าพาคนไปเดี๋ยวนี้ เผาเรือนพวกนั้นให้หมด ขอเพียงมีคนออกมา ฆ่าทิ้งทันที!”
“ขอรับ!”
หยุนถิงออกไปตามเขา รีบสร้างเชื้อเพลิงและตะบันไฟมากมายออกจากในมิติ “นำของพวกนี้ไป!”
“ขอบพระคุณซื่อจื่อเฟยมากขอรับ!” หลงยีรีบเรียกคนอื่นมาทั้งหมด ถือของไว้แล้วออกไป
ในห้องมีเสียงทุกข์ทรมานสองเสียงลอยมา ชางเอ่อกับตาเฒ่าร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด เส้นลมปราณและเลือดเนื้อทั่วทั้งตัวเหมือนถูกไฟไหม้ เจ็บจนอยากจะตาย
“เจว๋กู๋คือผู้ใด มีความสัมพันธ์อะไรกับวี่อู๋เสีย พวกเขากับเมืองเทียนหลงที่อยู่ใจกลางเขตทะเลนิรนามเกี่ยวข้องอะไรกัน เจ้าทะเลของเขตทะเลผืนนั้นคือผู้ใด คนที่ผิงหนานอ๋องแห่งแคว้นเทียนจิ่วจงรักภักดีด้วยคือผู้ใด?” จวินหย่วนโยวถามอย่างต่อเนื่อง
“เจว๋กู๋เป็นเจ้านายของพวกเรา และเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งข้างกายเซียวหรูซื่อเขาเชื่อฟังเพียงเซียวหรูซื่อ ส่วนเซียวหรูซื่อก็คือฮูหยินเจ้าทะเลของเขตทะเลตรงกลาง
เจ้านายกับวี่อู๋เสียเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ทั้งสองคนเป็นประเภทไม่ลงรอยกัน ประลองฝีมือกันอย่างโจ่งแจ้งและลับหลังมาตลอด ต่อสู้ซึ่งกันและกัน แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตก็ไม่ใช่ อย่างไรเสียคือไม่มีผู้ใดยอมกัน
ผิงหนานอ๋องแห่งแคว้นเทียนจิ่วจงรักภักดีต่อเซียวหรูซื่อเป็นฮูหยินเจ้าทะเล ว่ากันว่าเขารวบรวมกำลังคน ฝึกฝนกองกำลังเพื่อฮูหยินเจ้าทะเล และยังส่งของล้ำค่าหายากมาให้ด้วย
เจ้าทะเลปลีกวิเวกมาหลายปี หลายสิบปีก่อน ข้ามีโอกาสเจอเจ้าทะเลอยู่ครั้งหนึ่ง จากนั้นมาก็ไม่เคยเจอเจ้าทะเลอีกเลย ตอนนี้ผู้คนมากมายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าทะเลหน้าตาเป็นเช่นไร
ว่ากันว่าเพราะเจ้าทะเลสูญเสียหญิงอันเป็นที่รักไป ฉะนั้นถึงปลีกวิเวกไม่ออกมา แม้ว่าเป็นฮูหยินเจ้าทะเลก็ไม่เคยสนใจ” ตาเฒ่าเล่าสิ่งที่รู้ออกมา
เขาทำหน้าทุกข์ระทมและเคียดแค้น เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นความลับของเขตทะเลนิรนาม เขาก็บอกคนกลุ่มนี้เยี่ยงนี้แล้ว ถ้าเจ้านายรู้จะต้องฆ่าเขาแน่
แม้ว่าเขาจะเป็นหน่วยกล้าตาย เจ็บปวดทั่วทั้งตัวปานนี้ เส้นลมปราณประหนึ่งบิดเบี้ยวไปหมด ทุกข์ระทมยิ่งกว่าการฝึกฝนการลงโทษก่อนหน้านี้ของเขาเป็นพันเท่าหมื่นเท่า เขาเหมือนตายทั้งเป็นจริงๆ
หยุนถิงที่เดินเข้ามาได้ยินชัดเจนแจ่มแจ้ง รีบถามประเด็นสำคัญออกมา “คนที่เจ้าทะเลรักคือผู้ใด เหตุใดถึงตาย?”
ตาเฒ่าเบิกดวงตาโตฉับพลัน เขาอยากพูดว่าตนเองไม่รู้ แต่อ้าปากกลับพูดสาเหตุแล้ว
“ข้าก็ไม่เคยพบมาก่อน ว่ากันว่าเป็นผู้หญิงของเผ่าเลือดคนหนึ่ง เลือดของนางสามารถทำให้อายุยืนยาวได้ หนำซ้ำนางกับเจ้าทะเลเป็นรักแรกพบ
แต่ฮูหยินเจ้าทะเลในตอนนี้ก็รักเจ้าทะเลมากเช่นกัน ฉะนั้นหญิงสองคนแย่งชายหนึ่งคน สุดท้ายยังเป็นฮูหยินเจ้าทะเลชนะแล้ว ผู้ใดก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไปที่ใดแล้ว
ราวกับหายตัวไปกะทันหัน ส่วนเจ้าทะเลหลังจากที่นางหายไป เล่าลือว่าเป็นบ้าแล้ว เป็นบ้ามาเนิ่นนาน ทุกคนรู้เพียงว่าเจ้าทะเลปลีกวิเวก กลับมีน้อยคนที่จะรู้ว่าความจริงเจ้าทะเลเป็นบ้าแล้ว”
“เจ้ารู้ได้เยี่ยงไรกัน?” ดวงตาอันงดงามของหยุนถิงเปลี่ยนไปดุร้าย
“มีครั้งหนึ่งข้าติดตามเจ้านายไปที่เมืองเทียนหลง ได้ยินการพูดคุยของเจ้านายกับฮูหยินเจ้าทะเลโดยบังเอิญ เรื่องนี้ข้าไม่กล้าพูดกับผู้ใดทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความลับเยี่ยงนี้ถูกคนรู้เข้ามีเพียงจะตายสถานเดียว!” ตาเฒ่าพูดจบ ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
เขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็รู้ว่าตนเองอยู่ใกล้ความตายจริงๆ แล้ว
หยุนถิงถามเกี่ยวกับเรื่องของเขตทะเลนิรนามมากมาย จนกระทั่งตาเฒ่าและชางเอ่อเจ็บจนหมดสติไป ถึงหยุดถาม
“ซื่อจื่อเฟย สองคนนี้จะให้จัดการเช่นไรขอรับ?” หลงเอ้อถาม
“ป้อนยาถอนพิษครึ่งหนึ่งให้พวกเขา ยังต้องเก็บพวกเขาไว้พาพวกเราไปที่เมืองเทียนหลงอีก!” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ขอรับ!” หลงเอ้อรีบทำตามทันที จากนั้นหิ้วสองคนออกไป ถือโอกาสหาสักห้องหนึ่งโยนเข้าไป
ตอนนี้ทั้งสองมีสภาพปานนี้ ย่อมไม่กลัวพวกเขาหลบหนีได้
“ท่านพี่ ท่านว่าท่านแม่ข้าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นที่เจ้าทะเลชอบหรือไม่ เพราะเซียวหรูซื่อก็ชอบเจ้าทะเลเช่นกัน ฉะนั้นท่านแม่ข้าถูกนางวางพิษกู่ใส่แล้ว ก่อนหน้านี้วี่อู๋เสียเคยพูดว่า วิชาควบคุมหนอนกู่ของเซียวหรูซื่อเป็นวิชาที่ร้ายกาจที่สุดในเขตทะเลนิรนาม ฉะนั้นนางน่าสงสัยมากที่สุด!” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ข้าเห็นว่ามีเหตุผล ไม่ว่าเป็นผู้ใดทำร้ายท่านแม่ของเจ้า ย่อมคือศัตรูของข้า ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ เด็ดขาด!” จวินหย่วนโยวพูดรับรอง
หยุนถิงพยักหน้าเบาๆ ดูประทับใจมาก
กลิ่นควันหนาระลอกหนึ่งลอยมา หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวรีบเดินออกมาจากห้อง ก็มองเห็นควันหนาทึบลอยขึ้นอยู่ไม่ไกลนัก เปลวไฟลุกโชน แต่งแต้มขอบฟ้าดำมืดเป็นสีแดงแล้ว
หลงยีและคนอื่นเผาเรือนบนเกาะทั้งหมดแล้ว เปลวไฟพวยพุ่ง มองไปไกลๆ ทั่วทั้งเกาะดุจดังทะเลเพลิง
ฮวาเชียนจั่นที่อยู่บนหลังคาเดิมทียังเป็นห่วงหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว ถึงแม้ปากบอกว่ารอดู แต่เขายังเป็นห่วงว่าสองคนนี้จะจบชีวิตลงที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาตามหาทั่วทั้งเขตทะเลนิรนามยังมีที่สี่แคว้นอีก หยุนถิงเป็นเพียงคนเดียวที่เหมาะสมจะร่วมมือกับเขา
ปรากฏฮวาเชียนจั่นมองเห็นว่า หลงยีพาคนไปเริ่มวางเพลิง ตรงมุมปากเผยรอยยิ้มขึ้นมา
“ยังมีเวลาวางเพลิง เช่นนั้นก็อธิบายว่าพวกเขาปลอดภัยกันดี ไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวังตามคาด!”
“นายท่าน พวกเขาวางเพลิงทำไมกันเจ้าคะ?” อี้ชิวไม่เข้าใจ
คนปกติถูกลอบฆ่าแล้วไม่ได้เป็นอะไร ไม่ใช่ว่าพยายามรีบหนีกันไปถึงจะถูกหรือ
ในแววตาลึกของฮวาเชียนจั่นเผยการครุ่นคิดนิดๆ ออกมา “เดาว่าคิดจะบีบผู้บงการเบื้องหลังออกมา!”
“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราควรทำอะไร ถ้าเกิดถูกพวกเขาเห็นเป็นผู้บงการ ไม่ใช่ว่าเป็นอันตรายหรือ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ท่านยังล่วงเกินหยุนถิงอีกด้วย?” อี้ชิวอดหายใจอย่างบีบรัดไม่ได้
“เกาะนี้ล้วนถูกเผาหมด ไม่มีที่หลบซ่อนจริงๆ ในเมื่อพวกเขาผ่านการทดสอบแล้ว เทียบกับหลบซ่อนไม่สู้เผชิญหน้าอย่างสุขุมเยือกเย็น ไปเถิด ไปพบพวกเขาเสียหน่อย” ฮวาเชียนจั่นพูดอยู่ ลอยตัวลงมา
องครักษ์เงามังกรที่กำลังเข้ามาก็มองเห็นพวกเขาพอดี หลงยีพาคนไปล้อมรอบฮวาเชียนจั่นกับอี้ชิวไว้ทันใด “จับพวกเขาเอาไว้!”
“เฮ้อ เดี๋ยวก่อน พวกเราไม่ใช่ผู้บงการเบื้องหลัง ข้ามาเจรจาร่วมมือกับซื่อจื่อเฟยและซื่อจื่อของพวกเจ้า เพื่อแสดงความจริงใจของข้า ข้าสามารถพาพวกเจ้าไปจับวี่อู๋เสียและเจว๋กู๋ผู้บงการเบื้องหลังที่สั่งลอบฆ่าพวกเจ้าในคืนนี้ได้!” ฮวาเชียนจั่นรีบเอ่ยปากทันที
หลงยีขมวดคิ้ว ย่อมไม่เชื่อเป็นธรรมดา
“แถวสุดท้าย เรือนหลังที่สามทางซ้ายก็คือสถานที่ซ่อนของเจว๋กู๋กับวี่อู๋เสีย ถ้าที่นั่นไม่มี พวกเขาก็ไปชายฝั่งด้านหลังแล้ว ส่วนเรือที่พวกเขาซ่อนไว้ที่นั่นโดนข้าเผาทิ้งไปแล้ว หากไม่เชื่อข้าสามารถพาพวกเจ้าเข้าไปได้!” ฮวาเชียนจั่นรีบนำทางไป
“หลงยี อย่าเชื่อพวกเขา!” หลิงเฟิงเอ่ยปาก
“ข้ารู้ แต่ว่าไปดูเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย พวกเจ้าอยู่ค้นหาต่อไป คนอื่นเข้าไปดูกับข้าเสียหน่อย!” หลงยีกล่าว