จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 797 ข้าจะไม่จากเจ้าไปไหนอีกแล้ว

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 797 ข้าจะไม่จากเจ้าไปไหนอีกแล้ว

“เพราะข้าไม่อยากโดนอาจารย์วางยาพิษตาย ข้ายังอายุน้อยนัก ไม่มีทางยอมรับชะตาชีวิตเช่นนี้ดอก ข้าน่ะตั้งใจมาเรียนวิชาแพทย์ของสำนักหมอเทวดา บัดนี้อาจารย์ให้ข้ากินยาพิษทุกวัน ข้ามีหรือจะยอมตามง่ายๆ

หากไม่อยากตาย ก็ต้องต่อต้าน หากเจ้ากล้า ก็ร่วมมือกับข้าทำลายเรือนอวี๋แห่งนี้เสีย เรือนอวี๋ที่วางยาพิษทำร้ายศิษย์ของตนเช่นนี้เก็บไว้ก็มีแต่จะเป็นภัย!” หยุนถิงพูดจุดประสงค์ตนออกมาทันที

ใช้คำว่าวิชาแพทย์มาให้ร้ายคนอื่นหรือตนเองเช่นนี้ หากไม่กำจัด มีแต่จะเป็นภัยกับคนอื่นมากขึ้น

โอจื่อโฝวหันมองหยุนถิงอย่างตะลึง เขารูปร่างเล็กบอบบาง ผอม หน้าตาก็ธรรมดามาก ดูไม่ออกเลย มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่ทอประกายเต็มเปี่ยมด้วยอำนาจ ฉายแววเด็ดขาด ทำให้อดสะท้านเยือกไม่ได้

ขนาดโอจื่อโฝวที่จองหองมาตลอด วินาทีนี้ก็ยังตกตะลึงกับออร่าของหยุนถิงเลย

“เจ้า เจ้ากล้าคิดจะทำลายเรือนอวี๋ เจ้าไม่กลัวข้าบอกอาจารย์รึ?”

“ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างนี้ ยังจะได้เจออาจารย์รึ น่ากลัวน่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้วกระมัง ต่อให้เจ้าได้เจออาจารย์ เจ้าคิดว่าอาจารย์จะยังเชื่อเจ้าอีกรึ?” หยุนถิงย้อนถาม

โอจื่อโฝวสีหน้าหม่นหมองลง พลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยันเสียดสี “ใช่สิ บัดนี้อาจารย์ให้ข้าเอาตัวรอดเอาเอง ย่อมไม่เชื่อข้าอีกแล้ว แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น ข้าก็ไม่มีทางร่วมมือกับเจ้าหรอก หากมิใช่เจ้า ข้ามีรึจะตกต่ำถึงเพียงนี้!”

“อันที่จริงเจ้าร่วมมือกับข้าหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร ข้าแค่ไม่อยากเห็นเจ้าตายไปอย่างมิรู้อะไรเลย ซ้ำยังไม่รู้ว่าตนเองตายอย่างไร

จิ่นฉิงเจ้าน่าจะรู้จักกระมัง นางเป็นคนที่สำคัญที่สุดของศิษย์พี่จิ่วฟ่าง หลายปีมานี้ศิษย์พี่จิ่วฟ่างเองก็ตามหานางมาตลอด ทุกคนคิดว่านางจากไปแล้ว แต่ข้าเจอนางเข้าโดยบังเอิญในห้องลับของอาจารย์

นางโดนอาจารย์ใช้ยาพิษและพิษกู่มาทำเป็นผู้ทดลองยา แถมหลายปีมานี้ยังปิดบังศิษย์พี่จิ่วฟ่างมาตลอดด้วย เขารู้ทั้งรู้ว่าศิษย์พี่จิ่วฟ่างให้ความสำคัญนัก แต่ก็ยังทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก

แล้วนับประสาอะไรกับศิษย์พี่อย่างท่าน ที่ควรพูดข้าก็พูดหมดแล้ว ศิษย์พี่จะตายอย่างอนาถ หรือจะล้างแค้นให้ตัวเอง ท่านเลือกเองแล้วกัน”

หยุนถิงพูดจบ ควักขวดยาหนึ่งขวดออกจากอกเสื้อ โยนไว้ตรงหน้าโอจื่อโฝวแล้วออกไป

โอจื่อโฝวมองตามแผ่นหลังหยุนถิงอย่างตะลึง อึ้งไม่ขยับตัวอยู่นาน

เขาต้องรู้จักจิ่นฉิงอยู่แล้ว นั่นน่ะเป็นเพื่อนแต่เด็กของจิ่วฟ่าง นางหน่วยก้านกระดูกพิเศษแต่เล็ก เหมาะที่จะฝึกยา ก่อนหน้านี้อาจารย์ยังเคยส่งเขาไปจับตัวจิ่นฉิงเลย

ถึงจิ่วฟ่างจะหน้าบึ้งตลอด แต่ยังไงระหว่างโอจื่อโฝวกับเขาก็ถือเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน และรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับจิ่นฉิงมากแค่ไหน ดังนั้นทั้งๆที่โอจื่อโฝวจับตัวจิ่นฉิงได้แล้ว ก็ยังใจอ่อนอย่างหาได้ยากยิ่งและปล่อยนางไป

แต่ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายนางจะโดนอาจารย์จับตัวไปจนได้

ทั้งๆที่รู้ความในใจของจิ่วฟ่าง แต่อาจารย์กลับไม่สนสายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ โอจื่อโฝวรู้สึกหนาวเหน็บในใจนัก

เหล่มองขวดยานั้นที่พื้น ความเจ็บปวดในตัวโอจื่อโฝวแล่นมาอีก เขาหยิบขวดยานั้นด้วยมือสั่นเทา

หกปีก่อน เขาใช้ชีวิตท่ามกลางการวางแผนและยาพิษมาอย่างมึนๆงๆงๆ วันเวลาที่เหลือเขาไม่อยากจะเป็นเช่นนี้อีกแล้ว

พริบตาเดียวก็มาถึงวันเกิดของฮูหยินเจ้าทะเล ผู้อาวุโสอวี๋พาเหล่าศิษย์ออกเดินทางล่วงหน้าสามวัน

หยุนถิง ฉินเจี่ย,จิ่วฟ่าง และจิ่วฟ่างในตอนนี้ก็คือจวินหย่วนโยวแปลงโฉมมา ระยะนี้จิ่วฟ่างบอกเล่าเรื่องส่วนตัวอาทิเช่นความเคยชินนิสัยความชอบของตนทั้งหมดแก่จวินหย่วนโยว บัดนี้จวินหย่วนโยวเองก็เลียนแบบได้คล้ายคลึงแล้วเจ็ดแปดส่วน ดังนั้นขนาดผู้อาวุโสอวี๋ก็ยังจับไม่ได้

ยังมีศิษย์สนิทอีกสิบกว่าคนตามติดไปด้วย แน่นอนว่าหลงยีและหลิงเฟิงที่แปลงโฉมก็อยู่ในหมู่ศิษย์เหล่านั้นด้วย

ทั้งหมดขึ้นเรือ มุ่งตรงไปเกาะเทียนหลงทันที

ส่วนในเรือนอวี๋ จิ่วฟ่างที่แท้จริงเห็นเรือของพวกเขาลอยไปไกลแล้ว ก็รีบพุ่งไปทีห้องของผู้อาวุโสอวี๋ทันที เพราะก่อนหน้านี้หยุนถิงเคยบอกเขาเรื่องกลไกและกับดักแล้ว แถมยังเหลือผงยาขับไล่หนอนกู่ไว้ให้ด้วย ดังนั้นจิ่วฟ่างเลยเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

พอเห็นหนอนพิษ กู่พิษพวกนั้นในห้องลับ จิ่วฟ่างขนหัวลุกทันที หลังเขาที่ฉินเจี่ยเฝ้าอยู่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

เขารีบไปตรวจดูที่เคาะประตูทองแดงบนกำแพงทันที และกดกลไกลงไป พอเดินเข้าไป ก็พบว่าโลงที่เคยอยู่นั้นไม่อยู่แล้ว เขารีบมองไปยังมุมหนึ่งทันที

นั่นไง เขาหาจิ่นฉิงเจอด้านหลังม่านผ้าชิ้นหนึ่ง หากมิใช่เพราะหยุนถิงบอกเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ จิ่วฟ่างคงยากจะหาเจอ เพราะม่านผ้านั่นแทบจะเหมือนกำแพงมิผิดเพี้ยนเลย

ก่อนไป ผู้อาวุโสอวี๋แค่สั่งให้พวกหยุนถิงเข้ามาช่วยยกโลง แต่มิได้เปิดโลง เขาย่อมไม่มีทางให้ศิษย์รู้อยู่แล้วว่า ของขวัญที่เขาจะมอบให้ฮูหยินเจ้าทะเลก็คือคนที่สำคัญที่สุดของจิ่วฟ่างนี่เอง

ดังนั้นหยุนถิงเลยใช้ประโยชน์จากมิติเคลื่อนย้ายคน ส่วนในโลงก็วางหินก้อนหนึ่งที่น้ำหนักพอๆกับจิ่นฉิงเอาไว้แทน ขอเพียงไม่เปิดฝาโลง ก็จะไม่มีทางโดนจับได้แน่

วินาทีที่เห็นจิ่นฉิง จิ่วฟ่างก็ตาแดงก่ำทันที ริมฝีปากบางสั่นระริก เขาตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ

เขาตามหานางมานานหลายปี หาไปทั่วทั้งสำนักหมอเทวดา หาทุกซอกทุกมุมของเรือนอวี๋ แต่ไม่คิดเลยว่านางจะอยู่ข้างกายตนนี่เอง และถูกขังอยู่ในห้องลับที่มืดไม่รู้วันและเวลานี่เอง

วินาทีนี้จิ่วฟ่างทั้งปวดใจและสงสาร เขาแค่แค้นใจตนเองที่ไม่ได้เรื่อง ทำไมไม่ค้นพบให้เร็วกว่านี้ ไม่หานางให้เจอเร็วกว่านี้

มองดูสีหน้าซีดเผือดของจิ่นฉิงแล้ว ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย นางเหมือนนอนหลับ จิ่วฟ่างยิ่งปวดใจหนักขึ้น

“จิ่นฉิง ขอโทษนะ ข้ามาช้าไป ทำให้เจ้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เป็นความผิดของข้าเอง นับจากนี้ไปข้าจะไม่จากเจ้าไปไหนอีกแล้ว!” จิ่วฟ่างพูดจบ ก็อุ้มจิ่นฉิงขึ้นมา และหมุนตัวเดินออกไปทันที

พอเขาออกมา ก็เจอกับโอจื่อโฝวที่รีบมาพอดี

โอจื่อโฝวเห็นภาพนี้เข้า เขาชะงักตัวแข็งค้างไปเลย “จิ่นฉิง เป็นนางจริงรึ?”

“หากเจ้าอยากจะขัดขวาง ก็อย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน!” จิ่วฟ่างพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ฉายแววเคียดแค้นและเดือดดาลนัก

“ขัดขวาง ทำไมข้าต้องขัดขวางเจ้าด้วย? หากมิใช่เพราะถิงหยุน จนตายข้าก็ไม่รู้หรอกว่า อาจารย์จะเป็นคนชั่วร้ายอำมหิตเช่นนี้ ไม่สนใจว่าพวกเราจะรับใช้เสี่ยงชีวิตให้เขาอย่างไร สุดท้ายก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของเขาเท่านั้น!” โอจื่อโฝวเย้ยหยันเสียดสี

หลายวันนี้ เขากินยาที่หยุนถิงให้เขาไว้ตลอด ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก และไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้ว ดังนั้นเลยถือโอกาสที่อาจารย์ไม่อยู่วันนี้ โอจื่อโฝวเลยออกมา

จิ่วฟ่างค่อนข้างแปลกใจที่ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก่อนหน้านี้โอจื่อโฝวเป็นคนเย่อหยิ่งจองหองอย่างมาก ดูท่าเขาจะรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของอาจารย์แล้ว

“ศิษย์พี่ใหญ่ท่านออกมาได้อย่างไรน่ะ รีบกลับไปหลังเขาเร็ว อาจารย์ให้ท่านไปอยู่หลังเขา!” ศิษย์หลายคนลาดตระเวนผ่านมาพอดี พอเห็นโอจื่อโฝวก็รีบบอกทันที

แต่พอเห็นจิ่วฟ่าง พวกเขาก็อึ้งเป็นไก่ตาแตกไปเลย “ศิษย์พี่จิ่วฟ่าง ท่านมิได้ไปกับอาจารย์แล้วรึ?”

“อาจารย์สั่งให้ข้ากลับมาเอาของสำคัญมากอย่างหนึ่ง!” จิ่วฟ่างตอบ

ทุกคนพากันมองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจ

“พวกเจ้ารีบไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันเร็ว ข้ามีเรื่องจะบอกทุกคน!” โอจื่อโฝวบอก

“เหอะ ตอนนี้เจ้ามิใช่ศิษย์พี่ใหญ่แล้ว ยังคิดจะสั่งพวกเราอีกรึ ฝันไปเถอะ!” ศิษย์คนหนึ่งที่เคยโดนโอจื่อโฝวรังแกพูดขึ้น

“ใช่ อาจารย์บอกให้เจ้าไปหลังเขา เอาตัวรอดเอาเอง ใครก็ได้ ไล่เขากลับไปซะ!” ศิษย์หลายคนทำท่าจะพุ่งเข้ามา

จิ่วฟ่างเพียงแค่มองอย่างเย็นชา นอกจากจิ่นฉิงแล้ว เขาไม่สนใจคนอื่นหรอก

โอจื่อโฝวสีหน้าตึงเครียด หากโดนพวกเขาไล่กลับไป เขาคงไม่มีโอกาสได้พูดอีกแน่ “หากพวกเจ้าไม่อยากตาย ก็ทำตามที่ข้าบอก อาจารย์ให้คนวางยาพิษในอาหาร พวกเจ้าทั้งหมดล้วนถูกพิษ หากไม่เชื่อก็ดูแขนตนเองสิ!”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท