จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 798 เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของมัน

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 798 เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของมัน

พอคำนี้ออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง รีบถลกแขนเสื้อออกมาดูทันที และเห็นว่าที่ข้อศอกมีรอยเส้นบางมากเส้นหนึ่ง เท่ากับเส้นผมเลย มองออกได้ยากมาก

“นั่นก็คือพิษ หากเส้นยาวจนถึงข้อมือ เท่ากับว่าพิษเข้ากระดูกแล้ว ต่อให้เป็นเทพเซียนก็ช่วยไม่ได้แล้ว!” โอจื่อโฝวแค่นเสียงเย็น เขาเองก็พึ่งค้นพบหลังจากถูกหยุนถิงเตือน

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?”

“เขาหลอกพวกเราหรือไม่ อาจารย์จะวางยาพิษพวกเราได้อย่างไรกัน?”

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ต้องเป็นแผนของเขาแน่ๆ?”

“อาจารย์ไม่มีทางทำเช่นนี้กับพวกเราแน่” ทุกคนย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว

“ข้าติดตามอาจารย์มาหกปี และเป็นเพราะข้ารู้แผนการร้ายของเขา ดังนั้นเขาถึงได้ทำกับข้าแบบนั้นต่อหน้าทุกคน เพราะกลัวว่าวันหนึ่งข้าจะเปิดโปงเขา

เพราะอาจารย์จะรอพวกเจ้าพิษกำเริบก่อน และใช้พวกเจ้ามาฝึกกู่พิษ ทำเป็นผู้ทดลองยา สุดท้ายก็สูญเสียสติกลายเป็นหุ่นเชิด กลายเป็นเครื่องมือฆ่าคนของอาจารย์

ที่จิ่วฟ่างอุ้มอยู่คือเพื่อนวัยเด็กของเขา และเป็นผู้ทดลองยาที่อาจารย์ฝึกขึ้นด้วย!” โอจื่อโฝวพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด

ทุกคนหันมองคนในอ้อมกอดของจิ่วฟ่างทันที คนทั้งเรือนอวี๋ต่างรู้กันดีว่า หลายปีมานี้ศิษย์พี่จิ่วฟ่างตามหาผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด ตอนนี้มาเห็นเขาอุ้มสตรีหมดสติคนหนึ่ง เหล่าศิษย์ก็พากันเชื่อทันที

เพราะปกติจิ่วฟ่างเย็นชามาตลอด ไม่สุงสิงกับใคร ไม่เคยมีศิษย์คนไหนกล้าเข้าใกล้เขาเลย เขามักสันโดษไปไหนมาไหนคนเดียว คนที่สามารถทำให้เขาอุ้มได้แบบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ อีกทั้งยังเป็นสตรี ทุกคนเลยนึกไปถึงคนที่ศิษย์พี่จิ่วฟ่างตามหามาตลอด

“ได้ ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง หากมิได้เหมือนที่เจ้าพูด ข้าจะไล่เจ้าไปที่ถ้ำหลังเขาเอง!” ศิษย์คนหนึ่งบอก พลางหมุนตัวไปเรียกคนมา

อีกคนเห็นท่าไม่ดี ลูบของในแขนเสื้อ จะส่งสัญญาณขึ้นกลางฟ้าทันที

จิ่วฟ่างเห็นเข้าพอดี มือหนึ่งวางจิ่นฉิงลง มีดสั้นในอีกมือสะบัดไปอย่างแรง โดนหน้าอกคนผู้นั้นทันที

“อ๊าก!” สัญญาณในมือคนผู้นั้นยังไม่ทันออกไป ก็ตายคาที่แล้ว

ศิษย์คนอื่นตะลึงตกใจ สีหน้าซีดเผือดไปตามๆกัน

“หากใครคิดกล้าส่งสัญญาณอีก ข้าจะไม่ให้มันตายดีแน่!” น้ำเสียงเย็นเยียบของจิ่วฟ่าง ทำทุกคนตกตะลึง

ทุกคนไม่กล้าคิดทำอะไรอีก ได้แต่ไปเรียกคนอย่างว่าง่าย

โอจื่อโฝวหันมองจิ่วฟ่าง “ขอบคุณมาก!”

“ข้าไม่ได้ช่วยเจ้า ข้าต้องการเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของมันต่างหาก!” จิ่วฟ่างพูดเสียงเย็นออกมา

“ไม่ว่าเป็นอย่างไร ก็ต้องขอบคุณเจ้า!” โอจื่อโฝวบอก

ไม่นาน ศิษย์ทั้งหมดของเรือนอวี๋โดนเรียกมารวมตัวกันอยู่หมดแล้ว รวมถึงผางซิงและโจวปู้ด้วย

ทุกคนต่างสงสัยกันว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เหตุใดศิษย์พี่ใหญ่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ส่วนศิษย์พี่จิ่วฟ่างก็ไปแล้วกลับมาพร้อมอุ้มสตรีนางหนึ่งมาด้วย

“ทุกคนคงต้องสงสัยมากแน่ๆ ว่าทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่ เพราะข้ามาเพื่อบอกพวกเจ้าว่า พวกเจ้าทั้งหมดถูกพิษแล้ว

นับตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกเจ้าก้าวเท้าเข้ามายังเรือนอวี๋ นับตั้งแต่ข้าวคำแรกที่พวกเจ้าได้กินที่นี่ ก็ถูกพิษแล้ว เพราะมียาพิษอยู่ในอาหาร

ทุกคนมองดูแขนตนเองได้ จากตรงข้อศอกนั้นมีเส้นพิษเส้นหนึ่งอยู่ พอพิษคืบยาวไปถึงข้อมือ ก็จะตายแน่นอน

และการที่อาจารย์วางยาพิษในอาหาร ก็เพื่อรอวันที่ทุกคนพิษกำเริบ และใช้ร่างกายพวกเจ้ามาฝึกกู่ ฝึกพิษ

ก่อนหน้านี้ที่ทุกปีมีศิษย์หลายสิบคนหายสาบสูญไป ข้าไปรายงานอาจารย์ทุกครั้ง เขาจะพูดแค่ว่าส่งออกไปทำภารกิจ บัดนี้ดูท่าจะโดนเขาฝึกพิษไปแล้ว

หากพวกเจ้าไม่เชื่อ ถามจิ่วฟ่างได้ เขาอยู่ในเรือนอวี๋มาหลายปีขนาดนี้ รู้ถึงวิธีการของอาจารย์ชัดเจนยิ่งกว่าข้า และคนที่เขารักก็โดนอาจารย์ฝึกกู่แล้ว!” โอจื่อโฝวพูดเสียงดัง

ทุกคนก้มหน้ามองแขนตนเองทันที นั่นไง หลายคนพบพิษเส้นเล็กนั้น การค้นพบนี้เสมือนระเบิดควันกระจายไปทั่วเลย

“ทำไมอาจารย์ต้องวางยาพิษพวกเราด้วย?”

“เขาเป็นอาจารย์ของพวกเรามิใช่รึ?”

“วางยาพิษในอาหาร ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก”

“หรือว่าจะเป็นเหมือนที่ศิษย์พี่ใหญ่พูดจริงๆว่า เขาจะใช้พวกเราฝึกกู่?”

ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์ พากันตกตะลึงหมด พลันแตกตื่นฮือฮาไปตามๆกันทันที

มีเพียงผางซิงและโจวปู้เท่านั้น ทั้งสองคนก้มมองแขนตนเอง และสงสัยมาก “บนแขนของพวกเราไม่มี นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

น้ำเสียงโพล่งขึ้นมานั้นทำให้ทุกคนรอบข้างตกตะลึง ทุกคนพากันมองมา และเห็นว่าแขนของผางซิงและโจวปู้ไม่มีจริงๆ

“ทำไมพวกเจ้าไม่มีล่ะ พวกเจ้าก็กินอาหารเหมือนกัน แถมผางซิงมื้อหนึ่งกินหมั่นโถวสามอันไม่ใช่รึ?” ศิษย์คนหนึ่งถามออกมา

โอจื่อโฝวและจิ่วฟ่างเองก็มองมาทางนี้เช่นกัน คนทั้งสำนักโดนกันหมด รวมถึงพวกเขาเอง เหตใดศิษย์ชั้นรองสองคนนี้ถึงไม่เป็นไรเลย

“ถิงหยุนเคยให้พวกเจ้ากินอะไรหรือไม่?” จิ่วฟ่างถามเสียงเย็น

เขาจำได้ว่า ทั้งสองคนนี้ดูจะสนิทสนมกับถิงหยุน

ผางซิงคิดๆดูพลางว่า “สหายถิงหยุนเคยให้ยาพวกข้ากิน บอกว่าช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เขาฝึกทำขึ้นมาน่ะ”

“เจ้าโง่รึ สหายถิงหยุนบอกว่าห้ามพูดไง” โจวปู้เตือนเสียงเบา

“งั้นก็ถูกละ ถิงหยุนเป็นคนค้นพบพิษในกายของทุกคน ยาที่เขาให้พวกเจ้าคงจะเป็นยาถอนพิษ!” จิ่วฟ่างตอบ

พอทุกคนได้ยินอย่างนั้นก็พากันมองมา “สหายผางซิง สหายโจวปู้ พวกเจ้ายังมียาถอนพิษอีกหรือไม่ รีบนำออกมาเถิด พวกเราไม่อยากตายกันนะ?”

ผางซิงกำลังจะตอบ แต่โจวปู้แย่งพูดก่อน “สหายถิงหยุนให้พวกเราคนละสามเม็ดเอง กินหมดไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเราไม่รู้ว่าเป็นยาถอนพิษ และไม่รู้เลยว่าถูกพิษน่ะ!”

“ถิงหยุนไปกับอาจารย์แล้ว ไม่อยู่ที่นี่นะ แล้วพวกเราถูกพิษจะทำอย่างไรล่ะ รอความตายรึ?” ทุกคนพากันลนลานขึ้นมาทันที

“ข้าสามารถพาพวกเจ้าไปหายาถอนพิษได้ ไปเถอะ!” โอจื่อโฝวแค่นเสียงเย็น หมุนตัวเดินออกไปทันที

ตอนนี้ใครเลยจะยังสงสัยเขาอีก เรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตาย รีบตามเขาไปทันที

มองตามทิศทางที่โอจื่อโฝวไป ดวงตาดำขลับเย็นชาของจิ่วฟ่างหรี่ลงเล็กน้อย เขาเองก็อุ้มจิ่นฉิงตามไปเช่นกัน

โอจื่อโฝวพาทุกคนไปที่เขตหวงห้ามหลังเขา ก่อนหน้านี้ที่นี่มีไอพิษปกคลุมอยู่ไปทั่ว แต่หลายวันนี้โอจื่อโฝวอาศัยตอนฟ้ามืดทำไอพิษคลายไป ดังนั้นพอถึงวันนี้ไอพิษของหลังเขานี่น้อยลงไปเยอะมาก

ทุกคนตามโอจื่อโฝวเข้าไปในคุกของหลังเขาอย่างราบรื่นมาก พอเห็นทุกคนที่โดนคุมขังอยู่ในคุก เหล่าศิษย์พากันตะลึงอึ้งตาแตก

มีหลายคนถูกมัดห้อยโหนอยู่ เนื้อตัวเลือดเนื้อเปรอะเปื้อน หนอนคลานเต็มตัว และยังมีอีกหลายคนโดนตัดมือและเท้าจับยัดโอ่งทำเป็นมนุษย์หมู ในคุกยิ่งมีแต่ซากศพนอนแออัดกันไปหมด—-

สิ่งเดียวที่พวกเขามีเหมือนกันคือ ทั้งร่างมีร่องรอยโดนทารุณ และมีหนอนคลานเต็มไปหมด

คนในคุกพอเห็นคนเข้ามามากมายขนาดนี้ ต่างตื่นเต้นกันนัก พยายามดิ้นรนขัดขืนกันสุดแรง แต่กลับส่งเสียงไม่ได้เลย ได้แต่มองคนที่มาด้วยแววตาอ้อนวอนลนลาน

เหล่าศิษย์ไหนเลยจะเคยเจอเหตุการณ์โหดร้ายนองเลือดเช่นนี้มาก่อน คนมากมายตกใจเป็นลมคาที่ไปเลย หรือไม่ก็อาเจียนออกมาเลย

“ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อแล้วกระมัง นี่คือวิชาฝึกพิษและฝึกกู่ที่อาจารย์ว่า รอพิษบนแขนพวกเจ้ายาวไปจนถึงข้อมือ ก็จะถูกอาจารย์ส่งตัวมาที่นี่

การที่พวกเขาพูดไม่ได้ร้องไม่ได้ เป็นเพราะบางคนโดนตัดลิ้น บ้างถูกวางยาพิษให้เป็นใบ้ ไม่อย่างนั้นได้ร้องไห้คร่ำครวญกันหมด มิโดนคนพบเจอรึ

ที่นี่ต่างหากคือโฉมหน้าที่แท้จริงของเรือนอวี๋ เป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอาจารย์ และพวกเขาก็คือจุดจบของพวกเจ้าในภายภาคหน้า!” โอจื่อโฝวเน้นย้ำแต่ละคำ เปิดโปงออกมาหมดต่อหน้าทุกคนเลย

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท