จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 809 หากเจ้ากล้าขัดคำสั่ง
“บ่าวอยู่ตัวคนเดียว คุณชายเจว๋กู่เป็นคนช่วยบ่าวเอาไว้ หากคุณชายน้อยอยากจะฆ่าล้างตระกูลบ่าว เกรงว่าคงต้องทำให้ท่านผิดหวังแล้ว!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา
ทุกประโยคมีแค่เจว๋กู่ ก็เพื่อจงใจกระตุ้นให้วี่หนานเสวียนโกรธ
“เจ้าสาวใช้ตัวดี นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสุนัขรับใช้ของเจว๋กู่ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าก็ติดตามข้า หากเจ้ากล้าขัดคำสั่ง ข้าจะฆ่าเจว๋กู่ซะ!” วี่หนานเสวียนข่มขู่
หยุนถิงปล่อยมือโดยสัญชาตญาณ บนใบหน้าแสร้งทำเป็นหวาดกลัว “อย่า คุณชายน้อยโปรดอย่าทำร้ายคุณชายเจว๋กู่เลย!”
ใบหน้าของวี่หนานเสวียนเต็มไปด้วยความได้ใจทันที “เมื่อครู่นี้เจ้าโอหังมากไม่ใช่หรือ ช่างสาแก่ใจจริงๆ ต่อไปหากเจ้ากล้าหายไปจากสายตาของข้า ข้าจะฆ่าเจว๋กู่ทันที!”
“บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณชายน้อยเป็นผู้ใหญ่โปรดอย่าถือโทษผู้น้อยเลย!” หยุนถิงร้องขอความเมตตาทันที
“ดูอารมณ์ของข้าแล้วกัน ยังไม่ไปอีก!” วี่หนานเสวียนกล่าวอย่างอวดดี หันหลังก็จากไป
หยุนถิงไม่มีทางเลือก ได้แต่รีบตามไปทันที
วี่หนานเสวียนกลับไปที่ลานของตัวเอง พ่อบ้านให้คนยกอาหารรสเลิศเข้ามาทันที “คุณชายน้อย นี่คือขนมอบที่เพิ่งทำเสร็จ ท่านลองชิมดู!”
วี่หนานเสวียนชำเลืองมองขนมอบพวกนั้นครู่หนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึมทันที “พ่อบ้านเจ้าโง่ใช่ไหม ข้าให้เจ้าทำอาหารใหม่ๆ นี่คือขนมกุ้ยฮวา ขนมฝูหรงไม่ใช่หรือ ก็แค่เปลี่ยนจากวงกลมเป็นสี่เหลี่ยมเท่านั้น เห็นข้าเป็นคนโง่หรือ?”
พ่อบ้านเต็มไปด้วยความลำบากใจ “คุณชายน้อย โรงครัวพยายามเต็มที่แล้ว ท่านให้พวกเขาทำอาหารใหม่ๆสิบอย่างทุกวัน ติดต่อกันมาหนึ่งปีแล้ว เหล่าพ่อครัวใช้สมองคิดทุกวิถีทางทุกวัน ก็สามารถทำได้แค่นี้เท่านั้น”
ใบหน้าของวี่หนานเสวียนเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ ทันใดนั้นสายตาชำเลืองไปทางหยุนถิงที่อยู่ด้านข้าง “เจ้าไปทำ หากเจ้าไม่สามารถทำอาหารรสเลิศที่ข้าต้องการได้ ผลที่ตามมาเจ้ารู้ดี!”
“บ่าวจะทำอย่างดีแน่นอน!” หยุนถิงแสร้งทำท่าทางหวาดกลัว
พ่อบ้านพานางไปที่โรงครัวทันที หยุนถิงถามเรื่องรสชาติต้องห้ามของคุณชายน้อยกับพ่อบ้าน จากนั้นก็เริ่มลงมือทำขึ้นมา
ไม่นานนัก อาหารรสเลิศสี่จานก็ถูกยกขึ้นโต๊ะ ขนมเกาลัดนึ่ง ปลาย่างฝูหรง พระกระโดดกำแพง แล้วก็ยังมีกุ้งทอดอีกหนึ่งจาน
“ของพวกนี้ดูแล้วก็ธรรมดามากนี่นา!” วี่หนานเสวียนกล่าวด้วยความรังเกียจ แต่ก็เดินเข้ามา
“คุณชายน้อยชิมดูก่อนค่อยวิจารณ์!” หยุนถิงกล่าวอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตนจนดูต่ำต้อย
“ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เจว๋กู่จะตายอย่างไร!” วี่หนานเสวียนหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมหนึ่งคำ
ทันทีที่ได้ชิม วี่หนานเสวียนก็ชะงักงันไป มองไปทางจานอาหารสามสี่จานนั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็มองไปทางสาวใช้ที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็กินต่อไป
คำที่สอง คำที่สาม—-ไม่นานนักก็เห็นก้นจาน
พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างตะลึงงันไปในทันที คิดไม่ถึงคุณชายน้อยจะกิน แถมยังกินได้มากมายขนาดนั้น
“อร่อย อร่อยมากจริงๆ ข้าไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน นังหนูคนนี้ไม่เลว ต่อไปอาหารของข้าเจ้าเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด!” ขณะที่กิน วี่หนานเสวียนก็กล่าวด้วยความพึงพอใจ
พ่อบ้านชะงักงัน จากนั้นก็มองไปทางหยุนถิงอย่างซาบซึ้งใจ “นังหนูน้อยขอบคุณเจ้ามาก ในที่สุดก็ช่วยเราเอาไว้ได้”
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าปีนี้ คุณชายน้อยทรมานคนมากแค่ไหน เขากับโรงครัวคิดกันจนหัวแตกทุกวันว่าจะทำอาหารอะไรมันช่างทรมานจริงๆ
หยุนถิงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ต่อไปขอฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อบ้านด้วย!”
พ่อบ้านพึงพอใจอย่างยิ่ง นังหนูคนนี้ไม่อวดเก่งหรือใจร้อน และไม่วางมาดด้วย ไม่เลวจริงๆ “เกรงใจแล้ว”
วี่หนานเสวียนกินอิ่มและดื่มจนพอใจ รู้สึกพอใจมาก พาหยุนถิงกลับไปที่ลานของตัวเองทันที
ว่ากันว่ากินอิ่มและดื่มจนพอใจก็จะง่วงนอน วี่หนานเสวียนเม้มปากด้วยความพึงพอใจ “มา ถอดเสื้อให้ข้า!”
เขาเพิ่งพูดจบ ก็รู้สึกเวียนหัว คนทั้งคนก็ล้มหมดสติไปทางเตียง
หยุนถิงมองดูเขาครู่หนึ่ง ฤทธิ์ยานี่ออกฤทธิ์ได้พอดิบพอดี อยากกินอาหารที่นางทำ ก็ควรจะรู้ผลที่ตามมา
เห็นวี่หนานเสวียนนอนหลับไปแล้ว หยุนถิงก็รีบเดินออกไปทันที ด้วยข้ออ้างที่สละสลวยคือหาวัตถุดิบทำอาหารให้กับคุณชายน้อย
คนทั่วทั้งลานต่างก็รู้ว่าคุณชายน้อยพาสาวใช้กลับมาหนึ่งคน ทำอาหารอร่อยมากเป็นพิเศษ พ่อบ้านสั่งเอาไว้โดยเฉพาะว่าต้องให้ความร่วมมือทุกอย่างกับสาวใช้คนนั้น ดังนั้นทุกคนย่อมไม่กล้าไปขวางอยู่แล้ว
หลังจากที่หยุนถิงเดินออกมาอย่างวางมาด ก็หาสถานที่ที่ไม่มีคนและเป่าขลุ่ยขึ้นมา ไม่ช้างูตัวเล็กนับไม่ถ้วนก็คลานออกมาจากทุกทิศทุกทาง
“พวกเจ้ารีบช่วยข้าตามหาจวินหย่วนโยวให้เจอ!” หยุนถิงกระซิบ
งูเล็กเหล่านั้นก็คลานจากไปทันที พริบตาเดียวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย หยุนถิงก็จากไปทันทีเช่นกัน
ทางด้านนี้ หลงยีเฝ้าจวินหย่วนโยวในห้องของวี่รั่วยีตลอด แต่อยู่ต่อไปเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง ไม่รู้ว่าซื่อจื่อเฟยเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อครู่ห้องลับนั่นถูกระเบิด ทั่วทั้งเกาะล้วนสั่นสะเทือน เขาต้องหาวิธีตามหาซื่อจื่อเฟยให้เจอ
หลงยีแบกจวินหย่วนโยวที่หมดสติขึ้นมา เดินออกจากลาน ตั้งใจหลบเลี่ยงยามรักษาการณ์ที่ค้นหาเหล่านั้น เร่งไปที่เรือนตะวันตก
แต่แล้วพวกเขาเพิ่งมาถึง ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งคุมตัวฉินเจี่ยจากไป
“ปล่อยข้านะ พวกเจ้ามีสิทธิอะไรมาจับข้า ข้าต้องการพบอาจารย์!” ฉินเจี่ยกล่าวด้วยความไม่เต็มใจ
“ฮูหยินเจ้าทะเลออกคำสั่งให้จับเจ้าด้วยตัวเอง รีบบอกที่อยู่ของถิงหยุนคนนั้นมาเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นจะให้เจ้าตายทั้งเป็น!” ยามรักษาการณ์คนหนึ่งกล่าวด้วยความโกรธแค้น
“ถิงหยุน ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ไหน?” ฉินเจี่ยโต้กลับ
ยามรักษาการณ์ตบมาหนึ่งฉาก “เด็กๆ พาเขาไปที่คุกใต้ดิน! ข้าไม่เชื่อหรอกว่า เจ้าจะไม่สารภาพ!”
ยามรักษาการณ์สองสามคนกุมตัวฉินเจี่ยจากไป ฉินเจี่ยรู้สึกน้อยใจเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร้ที่เปรียบ กรีดร้องโหยหวน แต่กลับไม่มีใครกล้าขัดขวางเลย
นั่นเป็นถึงคำสั่งของฮูหยินเจ้าทะเล นอกเสียจากว่าพวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
“ซื่อจื่อเป็นอย่างไรบ้าง?” หลิงเฟิงที่เร่งเดินเข้ามา สอบถามเสียงต่ำ
“ซื่อจื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังหมดสติอยู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าซื่อจื่อเฟยอยู่ไหน?” หลงยีรีบสอบถามทันที
ใบหน้าของหลิงเฟิงเต็มไปด้วยการตำหนิตัวเอง “เดิมทีข้าปกป้องซื่อจื่อเฟยอย่างลับๆ เกิดเหตุสุดวิสัยนิดหน่อย คลาดสายตาไป!”
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน ก็เห็นงูเล็กตัวหนึ่งคลานมาที่เท้าของพวกเขา หลงยีรู้สึกยินดีขึ้นมาทันที นี่น่าจะเป็นงูเล็กของซื่อจื่อเฟย
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ช้าหยุนถิงก็มาถึง มองเห็นหลงยีแบกจวินหย่วนโยวเอาไว้ ถึงได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง “ตามข้ามา!”
พวกเขาหาสถานที่ที่ไม่มีคนแห่งหนึ่ง หยุนถิงใช้เจตจำนงพาพวกเขาหลบเข้าไปในมิติทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่หลงยีกับหลิงเฟิงเข้ามาในมิติของซื่อจื่อเฟย ตรงหน้ากว้างสุดลูกหูลูกตา บนชั้นวางมีขวดเครื่องเคลือบมากมายหลากหลายวางเรียงกันเป็นแถวๆ ยังมีเตากลั่นยา ทุ่งยา อาหารชนิดต่างๆที่กองเป็นภูเขา อาวุธ แล้วก็เตียงนอน เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน——
“นี่ สิ่งของมากมายขนาดนี้ นี่มันกล่องสมบัติชัดๆ!” หลิงเฟิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“นี่มันยอดเยี่ยมกว่ากล่องสมบัติมากนัก เรายังสามารถเข้ามาได้ ทีนี้ถึงแม้ฮูหยินเจ้าทะเลคนนั้นจะค้นหาทั่วทั้งเกาะก็หาเราไม่เจอ!” หลงยีก็อดทอดถอนใจไม่ได้เช่นกัน
“รีบประคองซื่อจื่อไปที่เตียง เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า?” หยุนถิงรีบตามเข้ามา จับชีพจรให้จวินหย่วนโยวทันที
“ข้าพบว่าผู้อาวุโสอวี๋พาซื่อจื่อเฟยไป ก็ไปรายงานต่อซื่อจื่อ จากนั้นเราก็ติดตามงูเล็กตัวนั่น หาห้องลับจนเจอ ซื่อจื่อให้ข้าระเบิดห้องลับนั่นซะ เดิมทีข้าต้องการจะพาซื่อจื่อไปหาซื่อจื่อเฟย ระหว่างทางกลับพบกับคุณหนูใหญ่แห่งเกาะเทียนหลงเข้า!” หลงยีเล่าความเป็นมาของเหตุการณ์โดยสังเขป
หยุนถิงรู้มาจากปากผู้อาวุโสอวี๋ ทักษะทางการแพทย์ของวี่รั่วยีคุณหนูใหญ่แห่งเกาะเทียนหลงอยู่เหนือคนทั่วไป อ่อนโยนและสง่างาม เป็นกุลสตรีตระกูลใหญ่มีฐานะที่มีขึ้นชื่อ
“คิดไม่ถึงว่า คุณหนูใหญ่คนนี้จะช่วยท่านพี่ หรือไม่นางก็ดีต่อจิ่วฟ่างไม่น้อย ยาโอสถที่กินก็ใช้สำหรับฟื้นฟูกำลังภายใน ไม่ช้าท่านพี่ก็สามารถตื่นขึ้นมาแล้ว!” ขณะที่พูด หยุนถิงก็ป้อนสารอาหารเหลวและกู้หยวนตันให้กับจวินหย่วนโยวอีก
หลงยีกับหลิงเฟิงถึงได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง “ซื่อจื่อเฟย เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรต่อไป?”