จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 811 ข้าเอาเจ้านั่นแหละ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่811 ข้าเอาเจ้านั่นแหละ

“ข้าเอง!” จวินหย่วนโยวที่ปลอมตัวเป็นจิ่วฟ่างเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเย็นชาและออร่ารอบกายแข็งกร้าว ทำให้คนมิกล้าดูถูก

จั๋วยีเห็นเช่นนี้ สีหน้าก็มืดครึ้มลงทันที “จิ่วฟ่าง เจ้าหยิ่งยโสเกินไปแล้ว!”

“พวกเจ้าต่างหากที่มากเกินไป พวกข้าตามอาจารย์มายังเมืองเทียนหลง เป็นความเคารพที่มีต่อฮูหยินเจ้าทะเล แต่พวกเจ้าถือพวกข้าเป็นคนอะไรกัน หัวขโมยหรือคนทรยศ!

ตอนนี้อาจารย์สูญหายไร้ร่องรอย ทว่าพวกเจ้ากลับทำกับพวกข้าเยี่ยงนี้ คิดว่าพวกข้ารังแกง่ายนักหรือไง! ” ”จิ่วฟ่างตะคอกด้วยความโกรธ

เมื่อลูกศิษย์อื่นๆของเรือนอวี๋เห็นศิษย์พี่จิ่วฟ่างพูดสิ่งที่พวกเขาอยากพูดแต่ไม่กล้าพูดนั้นออกมา ต่างก็รู้สึกนับถือจิ่วฟ่างยิ่งนัก

“ศิษย์พี่จิ่วฟ่างพูดถูก หากพวกเข้าไม่ต้อนรับพวกข้า ก็ให้พวกข้าจากไปโดยตรงก็ได้แล้ว!” ลูกศิษย์คนหนึ่งกล่าว

“ก่อนหน้านี้พวกเจ้าบอกว่าอาจารย์กับถิงหยุนมีปัญหา จากนั้นก็สอบสวนพวกข้าอย่างละเอียด พวกข้าต่างก็ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อฮูหยินเจ้าทะเล!”

“พวกข้าล้วนฟังศิษย์พี่จิ่วฟ่าง พวกข้าในฐานะศิษย์ของเรือนอวี๋นั้นจะปล่อยให้พวกเจ้าใส่ร้ายเช่นนี้ไม่ได้”

เดิมทีจั๋วยีที่อยากออกมือ เห็นลูกศิษย์ทั้งหมดของเรือนอวี๋ต่างก็เห็นด้วยกับจิ่วฟ่างมาก ก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม

“จิ่วฟ่าง เจ้ากล้าปลุกปั่นลูกศิษย์ให้ก่อเรื่องหรือ ข้าว่าเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ!” จั๋วยีจ้องมองมาอย่างโกรธจัด

“เจ้าตาบอดหรือหูหนวก พวกเขาถูกเจ้าบีบบังคับต่างหาก แต่เจ้ากลับมาใส่ร้ายข้า ไม่เอาไหนเลยจริงๆ!” จิ่วฟ่างคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

“หาที่ตายชัดๆ!” จั๋วยีโจมตีมา

จวินหย่วนโยวรีบหลบและโจรตีกลับทันที และทั้งสองก็ต่อสู้กันในทันที

ผู้เฝ้าพิทักษ์คนหนึ่งเห็นเช่นนี้ ก็รีบไปแจ้งให้ฮูหยินเจ้าทะเลทันที

เซียวหรูซื่อได้ยินว่าจั๋วยีกับจิ่วฟ่างตีกัน สีหน้าก็เย็นชายิ่งนัก “จิ่วฟ่างนี้กล้ายิ่งนัก กล้าออกมือกับคนของข้า!”

“ฮูหยิน ให้บ่าวพูดคำที่ไม่ควรพูดคำหนึ่ง หลายปีมานี้จิ่วฟ่างล้วนมาอวยพรวันเกิดให้กับฮูหยินพร้อมผู้อาวุโสอวี๋ทุกปี เขาเป็นคนนิสัยเย็นชาและสันโดษเยี่ยงนั้นแหละ ฮูหยินมิต้องไปโกรธเพราะเขาเลย

แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าปีนี้จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น บ่าวรู้สึกว่าจะยังไงฮูหยินก็ต้องไปดูสักหน่อย มิฉะนั้นสำนักอื่นคงเข้าใจผิดอย่างแน่นอน! หรูกูพูดเกลี้ยกล่อม

“เจ้าพูดถูก ข้าก็ต้องไปเผชิญกับจิ่วฟ่างนี้ดูสักหน่อยแล้ว!” ฮูหยินเจ้าทะเลพาคนไปทันที

จากระยะไกลก็เห็นจิ่วฟ่างกับจั๋วยีกำลังต่อสู้กัน แต่เซียวหรูซื่อไม่ได้ให้คนไปห้าม จนเห็นว่าจั๋วยีตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบและถูกจิ่วฟ่างใช้หมักต่อยจนบินออกไป จึงค่อยเดินมา

“หยุดเดี๋ยวนี้!” เซียวหรูซื่อทำเสียงเชอะ

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ต่างก็หันมองมา เมื่อเห็นว่าเป็นฮูหยินเจ้าทะเล ต่างก็รีบคำนับอย่างเคารพทันที

จวินหย่วนโยวหันมองฮูหยินเจ้าทะเล แสร้งทำเป็นไม่เต็มใจ แต่ก็คำนับอยู่

“พวกเจ้าสองคนเป็นอะไรกันแน่?” เซียวหรูซื่อจ้องมองจิ่วฟ่างอย่างเย็นชา

“เรียนฮูหยิน เมื่อครู่ข้าน้อยได้พาคนไปสอบสวน แต่จิ่วฟ่างไม่ได้อยู่ในห้องเลย แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบในภายหลัง เขากลับออกมา แถมยังตีข้าน้อยบาดเจ็บด้วย ข้าน้อยกำลังจะพูดคุยด้วยเหตุผลกับเขา แต่เขากลับปลุกปั่นลูกศิษย์เหล่านี้ให้ก่อเรื่อง!” จั๋วยีเอ่ยขึ้นก่อน

ลูกศิษย์ที่ถูกตีจนกระเด็นออกไปนั้น คลานมาอย่างยากลำบาก “ฮูหยิน ข้าน้อยตรวจสอบแล้วจริง เขาไม่อยู่ในห้อง!”

เซียวหรูซื่อหันมองจิ่วฟ่าง เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ใบหน้าที่เย็นชาและแข็งกระด้างเหมือนผลักคนให้ออกห่างออกไปหลายพันไมล์ แต่ออร่าของเขาแข็งแกร่งกว่าปีที่แล้ว

“ฮูหยินโปรดตรวจสอบอย่างชัดเจน ข้าอยู่ในห้องมาโดยตลอด แต่ศิษย์ผู้นี้มิได้ทันสังเกต และข้าก็มิได้ปลุกปั่นลูกศิษย์ให้ก่อเรื่อง จั๋วยีต่างหากที่หาว่าข้าเป็นสายลับหรือคนทรยศ ทุกคนต่างก็ไม่พอใจ จึงได้คัดค้าน

พวกข้ามาเพื่ออวยพรวันเกิดให้กับฮูหยิน ตอนนี้อาจารย์สูญหายไร้ร่องรอย และเหล่าลูกศิษย์ก็ถูกสอบสวน มิทราบว่ามีที่ใดหรือที่ทำให้ฮูหยินทรงโกรธ

หากฮูหยินไม่ชอบพวกข้าลูกศิษย์แห่งเรือนอวี๋ ข้าพาทุกคนจากไปก็ได้ และต่อไปก็จะไม่มาอีกเลย! ” เสียงของ จิ่วฟ่างเย็นชา ไม่มีความอบอุ่นใดๆ

ดวงตาที่เย็นชาและลึกล้ำนั้น สบตรงมายังเซียวหรูซื่อ โดยไม่มีคลื่นใดๆ ไม่มีร่องรอยของความตื่นตระหนกหรือความหวาดกลัว

ซึ่งทำให้เซียวหรูซื่อประหลาดใจ “ไม่นานมานี้ ผู้อาวุโสอวี๋พาถิงหยุนมาพบข้า แต่ถิงหยุนกลับจะลอบสังหารข้า แถมยังระเบิดห้องทิ้งด้วย

ดังนั้นข้าจึงสั่งให้พวกเขาไปสอบสวน ในเมื่อเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด จั๋วยีเช่นนี้เรื่องนี้ก็ไม่ต้องสืบแล้ว ข้าเชื่อในความจงรักภักดีของเรือนอวี๋! ”

“ขอรับ!” แม้ว่าจั๋วยีจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังเชื่อฟังคำสั่งอยู่

เมื่อมองฮูหยินเจ้าทะเลจากไป จวินหย่วนโยวก็ไม่ได้รู้สึกชื่นชมยินดี ฉลาดเยี่ยงเขาก็ต้องดูออกอยู่แล้วว่าฮูหยินเจ้าทะเลกำลังใช้วิธีการถอยเป็นการเดินหน้า

“จิ่วฟ่างเจ้าเก่งยิ่งนัก!” ศิษย์อื่นๆต่างก็เดินเข้ามา และรู้สึกนับถือจิ่วฟ่างยิ่งนัก

“แต่ถิงหยุนแอบโจมตีฮูหยินเจ้าทะเลจริงหรือ ข้าไม่เชื่อ!”

“เขาเป็นคนที่อาจารย์ให้ความสำคัญมากที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่เป็นเขา”

“เอาล่ะ ทุกคนกลับไปพักผ่อนกันเถอะ!” หลังจากพูดจบ จิ่วฟ่างก็หันกลับไปเข้าห้องไปแล้วปิดประตู

หยุนถิงที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องก็เดินมาทันที “ท่านพี่ เผด็จการและความหยิ่งยโสของท่านเปิดเผยออกมาเยี่ยงนี้ ฮูหยินเจ้าทะเลจะไม่สงสัยหรือ?”

“ก่อนหน้านี้ข้าได้ให้คนไปสืบมาแล้ว จิ่วฟ่างเป็นคนนิสัยเย็นชาและสันโดษอยู่แล้ว เมื่อเจอเรื่องอะไรเข้าก็ยิ่งไม่มีวันยอมถอย และยิ่งไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา วันนี้ข้าจงใจทำเช่นนี้แหละ ฮูหยินเจ้าทะเลน่าจะบอกให้จั๋วยีมาทดสอบข้าดู!” จวินหย่วนโยวอธิบาย

“ที่แท้อย่างงี้นี่เอง ท่านพี่เก่งยิ่งนัก แต่ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ช่วงนี้ฮูหยินเจ้าทะเลคงให้คนมาจับตามองท่านไว้ให้ดีอย่างแน่นอน!” หยุนถิงพูดอย่างเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะปกป้องเจ้าให้ดีอย่างแน่นอน หรือไม่เจ้าไปซ่อนไว้ในมิติ?” จวินหย่วนโยวเสนอแนะ

“แม้การซ่อนตัวในมิตินั้นจะปลอดภัย แต่ก็ไม่สะดวกต่อในการสืบสวน ตอนนี้ข้ามีวิธีที่ดีในการซ่อนตัว แถมยังไม่สามารถถูกใครรู้เข้าด้วย ไว้ใจเถอะ” หยุนถิงเล่าเรื่องที่ทำอาหารให้วี่หนานเสวียนออกมา

“แม้ข้าจะไม่ค่อยเต็มใจให้เจ้าไปรับใช้คน แต่หากเจ้าอยาก ก็ไปทำเถอะ มีเรื่องอะไรก็ให้หลงยีกับหลิงเฟิงไปทำ!” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยเป็นห่วง

วันนี้เขากับฮูหยินเจ้าทะเลได้หักหน้ากันอย่างเปิดเผยแล้ว หยุนถิงก็ไม่ควรอยู่ข้างเขาต่อจริง

“อืม!” หยุนถิงออกมาจากลานหลังและจากไปอย่างเงียบๆ

เมื่อเห็นว่าจะไปถึงที่ลานของวี่หนานเสวียนแล้ว หยุนถิงก็หยิบวัตถุดิบไม่กี่อย่างออกมาจากมิติ และจงใจฉีกเสื้อผ้าให้ขาด และทำให้ผมยุ่ง จากนั้นแล้วค่อยเข้าไป

แต่พึ่งเข้าลาน ก็ได้ยินเสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยว “นังเด็กเวร เจ้ายังรู้จักกลับมาด้วยหรือ บอกมา เจ้าใส่อะไรลงไปในอาหารของข้า!” วี่หนานเสวียนจ้องมาที่นางอย่างโกรธ

หลังจากกินอาหารที่นางปรุง วี่หนานเสวียนก็หลับไปสามวัน และเพิ่งตื่นในวันนี้ แต่ทำเอาพ่อบ้านและคนอื่นตกใจกลัวกันหมด จึงได้เชิญหมอมาตรวจร่างกายให้เขา แต่ก็ตรวจอะไรไม่เจอเลย

ดังนั้นวี่หนานเสวียนจึงสงสัยว่า หยุนถิงได้วางยาลงอาหารพวกนี้

หยุนถิงเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็โยนวัตถุดิบในมือลงบนพื้นด้วยความโกรธ “หากข้าเล่นลูกไม้อะไรในอาหารของคุณชายน้อยจริง ตอนนี้ท่านยังจะมีชีวิตมานั่งด่าข้าได้หรือ?

น่าเสียดายที่ข้ายังไปหาวัตถุดิบมาที่หลังเขามาให้ท่าน แต่ท่านกลับใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ท่านนอนหลับสบายจนปลุกไม่ตื่นเอง เกี่ยวไรกับข้า!

ในเมื่อคุณชายน้อยสงสัยข้าเช่นนี้ ก็ปล่อยให้ข้ากลับไปรับใช้คุณชายเจว๋กู่ดีกว่า คุณชายเจว๋กู่ไม่เคยสงสัยข้าเช่นนี้เลย! ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ วี่หนานเสวียนก็โกรธมาก “ไอ๊หยา อีนังหนูตัวแสบ นี่เจ้าหมายความว่าข้าเทียบกับเจว๋กู่ไม่ได้หรือ ข้าจะเอาเจ้านั่นแหละ ชาตินี้เจ้าอย่าได้คิดที่จะกลับไปรับใช้เจว๋กู่อีกเลย!?”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท