จอมนางข้ามพิภพ บทที่814 เจ้าห้ามแอบกิน
“หลิงเฟิง เจ้าไปสืบดูหน่อย ดูว่าผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินเจ้าทะเลในครั้งนี้ มีคนที่ชื่ออูเหอหรือไม่!” จวินหย่วนโยวทำเสียงเชอะ
“ขอรับ!” หลิงเฟิงรับคำสั่ง ตาก็เหลือบไปเห็นขวดยาที่วี่รั่วยีให้พอดี “ซื่อจื่อ ยานี้ท่านจะใช้จริงหรือ?”
“ยาของถิงเอ๋อร์ดีกว่านี้เยอะเลย เอาไปทิ้งซะ!” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเหยียดหยาม
“ได้เลยขอรับ!” หลิงเฟิงรีบนำยาออกไป
สมกับเป็นซื่อจื่อจริงๆเลย ในใจมีเพียงซื่อจื่อเฟยผู้เดียว
ส่วนหยุนถิงในด้านนี้ หลังกลับไปก็หยิบวัตถุดิบสองอย่างออกมาจากมิติ และผู้คนในลานของวี่หนานเสวียนก็เห็นจนไม่รู้สึกเป็นเรื่องแปลกอะไรแล้ว
หยุนถิงไปที่ห้องครัวทำของว่างมาจานหนึ่งแล้วยกมา เมื่อเห็นคุณชายน้อยไม่อยู่ ก็ยกไปให้พ่อบ้านโดยตรง
“พ่อบ้าน นี่คือของว่างใหม่ที่ข้าทำมาให้คุณชายน้อย ตอนนี้คุณชายน้อยไม่อยู่ โปรดพ่อบ้านช่วยข้าชิมดูหน่อย!” หยุนถิงกล่าวอย่างเคารพ
เมื่อพ่อบ้านเห็นของอร่อย ก็ดีใจยิ่งนัก “ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว” จากนั้นก็หยิบมันขึ้นมาและกัดไปสองสามคำ
“รสชาติเป็นอย่างไร?”
“เยี่ยมเลย ฝีมือการทำอาหารนี้ของเจ้าสุดยอดมาก อร่อยกว่าที่พ่อครัวเหล่านั้นทำจริงด้วย ของว่างชิ้นนี้มีรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ทำให้คนอยากอาหารมาก!” พ่อบ้านพูดชมอย่างไม่หยุดยั้ง
หยุนถิงเห็นว่าเขาจะกินของว่างชิ้นหนึ่งหมดแล้ว จึงค่อยเอ่ยปากพูดว่า “ขอบเจ้าสำหรับคำชมของพ่อบ้าน ไม่ทราบว่าพ่อบ้านรู้จักอูเหอหรือไม่?”
“อูเหอก็เป็นน้องชายของเจ้าเมืองอูแห่งเขตทะเลเหนือ แต่ก่อนเขาก็คนที่หล่อเหลาและมีความสามารถ ไม่เช่นนั้นฮูหยินเจ้าทะเลก็คงไม่ให้สาวรับใช้คนสนิทของตัวเองแต่งกับเขาอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่าต่อมาตระกูลอูมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น อูตู้นเสียชีวิตอย่างอนาถ อูเหอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอูตู้น เขาเห็นพี่ใหญ่ของตัวเองตายต่อหน้า นิสัยจึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก!
ตั้งแต่นั้นมา อูเหอก็ลายเป็นคนโหดเหี้ยม ร้ายกาจ กระหายเลือดและอำมหิต ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทรมานผู้คนด้วยวิธีต่างๆ ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองอูเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เลวร้าย! “พ่อบ้านพูดอุทาน
หยุนถิงขมวดคิ้ว “สาวรับใช้คนสนิทของฮูหยินเจ้าทะเลชื่ออะไร?”
“เซียวหลัน!”
“นางก็แซ่เซียว เป็นคนฝ่ายแม่ของฮูหยินหรือ?” หยุนถิงถาม
ฮูหยินเจ้าทะเลเขียนเพียงว่าสาวใช้ของตัวเองแทนที่นาง ทรมานนางเป็นเวลาหลายปี แต่ไม่ได้เขียนตัวตนของสาวรับใช้อย่างละเอียด ดังนั้นหยุนถิงจึงจงใจสอบถามข่าวจากทางพ่อบ้าน
ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าไหร่ ถึงจะยิ่งสามารถเอาชนะนางได้
“นางเป็นคนตระกูลเซียวสักที่ไหนกันล่ะ เป็นเพียงคนน่าสงสารที่ได้รับการช่วยเหลือจากฮูหยินเท่านั้น ตอนนั้นนางสูญเสียความทรงจำ จำไม่ได้ว่าตัวเองชื่ออะไร ดังนั้นฮูหยินจึงให้นางแซ่เซียว และให้นางรับใช้อยู่เคียงข้าง
เซียวหลันผู้นี้ก็ยังถือว่ามุมานะดี กล้าหาญและละเอียดอ่อน เอาใจคนยิ่งนัก และในไม่ช้าก็กลายเป็นผู้ช่วยที่ถูกใจฮูหยิน ครั้งหนึ่งฮูหยินถูกลอบสังหาร ก็เป็นนางที่สละชีวิตช่วย
นับแต่นั้นเป็นต้นมา นางก็กลายเป็นคนสนิทของฮูหยิน และให้สิทธิต่างๆ แก่นาง ต่อมาตอนฮูหยินคลอดลูก ก็เป็นเซียวหลันที่ช่วยดูแลจัดการเรื่องของเขตทะเลนิรนาม
นางเรียนรู้เร็ว และทำได้ดี และซื่อสัตย์ต่อฮูหยิน ฮูหยินพอใจยิ่งนัก ต่อมาฉลองที่คุณชายน้อยอายุได้หนึ่งขวบ เจ้าเมืองทั่วทั้งเขตทะเลนิรนามต่างก็มาแสดงความยินดี
ในเวลานั้นเอง อูเหอก็มาร่วมงานเลี้ยงด้วย ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หน้าตาโดดเด่น เซียวหลันรักแรกพบต่อเขา ขอร้องให้ฮูหยินทรงพระราชทานงานแต่ง
หากพูดตามเหตุแล้ว เซียวหลันเป็นเพียงสาวรับใช้คนหนึ่ง ไม่คู่ควรกับอูเหอ เพราะเขาเป็นน้องชายแท้ๆของเจ้าเมือง เกิดในตระกูลใหญ่ จะยอมรับสาวรับใช้คนหนึ่งได้อย่างไร
จากนั้นฮูหยินเจ้าทะเลก็ประกาศต่อภายนอกว่ารับเซียวหลันมาเป็นน้องสาวบุญธรรม และให้นางแต่งงานในฐานะน้องสาวของฮูหยินเจ้าทะเล เช่นนี้ตระกูลอูก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก” พ่อบ้านอธิบาย
“แล้วต่อมาล่ะ เซียวหลันกลับมาเยี่ยมฮูหยินแล้วใช่หรือไม่ หรืออาจกล่าวได้ว่าหายตัวไป หรือเป็นอะไรไป?” หยุนถิงถามประเด็นสำคัญ
พ่อบ้านขมวดคิ้ว “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“ข้าแค่เดา นางมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับฮูหยิน ดังนั้นจึงควรกลับมาเยี่ยมอยู่แล้ว” หยุนถิงอธิบาย
“เจ้าเดาถูกจริงด้วย ตั้งแต่เซียวหลันแต่งงานไป ในวันเกิดของฮูหยินก็จะกลับมาเยี่ยมทุกปี น่าจะมีห้า หกปี
ต่อมาตระกูลอูเกิดเรื่อง ว่ากันว่าเซียวหลันเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนั้น และตั้งแต่นั้นมานางก็ไม่เคยมาอีกเลย
ตอนนี้อูเหอสืบถอดตำแหน่งเจ้าบ้าน ภรรยาและเมียน้อยนับไม่ถ้วน คงลืมไปนานแล้วว่ายังมีภรรยาที่ชื่อเซียวหลันอยู่ด้วย แต่เขาจะมาที่เมืองเทียนหลงทุกปี” พ่อบ้านตอบ
หยุนถิงเย้ยหยันในใจ เสียชีวิตในอุบัติเหตุเป็นเพียงข้อแก้ตัว เพราะนางเข้ามาบริหารเมืองเทียนหลงแทนเซียวหรูซื่อที่แท้จริง ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้จักนางอีกต่อไป
หยุนถิงยังอยากถามอย่างอื่น แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้า และเมื่อนางหันหลังไปก็เห็นวี่หนานเสวียนเดินเข้ามาจากข้างนอก
“นังหนู เจ้าทำของอร่อยอะไรมาอีกแล้ว?” ดวงตาทั้งสองของวี่หนานเสวียนเปล่งประกาย
ยากที่หยุนถิงหันหลัง ดีดนิ้ว และแม่บ้านก็ได้สติในทันที
“ข้าทำของว่างให้คุณชายน้อย เมื่อครู่ท่านไม่อยู่ ข้าจึงให้พ่อบ้านชิมดูก่อน” หยุนถิงตอบ
“อืม ของว่างนี้รสชาติดีจริงๆด้วย” พ่อบ้านพูดเห็นด้วย และส่ายหัวแรงๆ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเขาถึงจำอะไรไม่ได้เลย
เขาไม่รู้อยู่แล้วว่า นี่คือยาพูดความจริงเวอร์ชันอัปเกรดของหยุนถิงยาพูดความจริงในอดีตเพียงแค่ถามความจริง แต่ตอนนี้กลับเป็นแบบถามจบแล้วเจ้าตัวก็ยังจำไม่ได้
“พ่อบ้าน เจ้าแย่งของกินของข้า ต่อไปข้ายังไม่ทันกิน เจ้าห้ามแอบกินล่ะ!” วี่หนานเสวียนแสร้งทำเป็นโกรธ และวิ่งตรงไปยกของว่างนั้นมา หยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วกิน
“ขอรับ!” พ่อบ้านรับฟังคำสั่งในทันที
“ท่านแม่ให้ข้าต้อนรับเรือนเหนือ นังหนูเดี๋ยวออกไปเปิดหูเปิดตากับข้าหน่อย” วี่หนานเสวียนกล่าว
“เจ้าค่ะ!”
วี่หนานเสวียนกินของว่างจากนั้นจนหมด จากนั้นจึงค่อยพาหยุนถิงออกประตูไป
เรือนเหนือ
เมื่ออูเหอเห็นคุณชายน้อยมา แม้จะลุกขึ้นทำความเคารพ แต่ก็แค่ทำเป็นหน้าเป็นตาเท่านั้น “คำนับคุณชายน้อย!”
“ไม่อยากคำนับก็มิต้องคำนับ แสร้งทำหน้าทำตาให้ใครดู ข้ามาส่งของบางอย่างให้เจ้าตามคำสั่งของท่านแม่!” วี่หนานเสวียนกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
เขาไม่ชอบอูเหออยู่แล้ว หยิ่งยโสยิ่งนัก แต่ทุกปีเมื่อเขามา ท่านแม่ก็จะมอบอาหารแนะนำแก่เขา แถมยังให้เขามาส่งด้วยตนเอง ซึ่งทำให้วี่หนานเสวียนโกรธยิ่งนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ทำได้เพียงเชื่อฟัง
ข้างหลัง มีสาวรับใช้สิบกว่าคนยกของเข้ามา ล้วนเป็นอาหารแนะนำของเมืองเทียนหลง
อูเหอทำหน้าดีใจ “ขอบเจ้าสำหรับความเป็นห่วงของฮูหยิน ขอบคุณสำหรับการดูแลของคุณชายน้อย อูเหอซาบซึ้งยิ่งนัก!”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หยุนถิงก็ตกตะลึง เงยหน้าขึ้นมองคนคนนั้น
ใบหน้าเย็นชาและแข็งกระด้าง มีความเย่อหยิ่งของการเด็ดขาด มีเครา ซึ่งทำให้มีออร่าของผู้ชายมากยิ่งขึ้น รูปร่างสูงและอ้วนเล็กน้อย
ดูออกไม่ยากว่า อูเหอผู้นี้ตอนยังหนุ่มๆนั้นก็คงเป็นชายรูปงามคนหนึ่งอยู่
“เจ้าไม่จำเป็นแสร้งทำเป็นพูดแบบนั้นกับข้า อาหารรสเลิศส่งมาแล้ว ข้ายังมีเรื่องต้องทำไปก่อนแล้ว!” วี่หนานเสวียนหันหลังกลับและจากไปอย่างหยิ่งยโส
หยุนถิงมองดูอาหารรสเลิศเหล่านั้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในเมื่อตอนนี้ฮูหยินเจ้าทะเลก็คือเซียวหลัน ตามความเป็นจริงแล้วนางควรเกลียดอูเหอมาก คิดหาทุกวิถีทางแก้แค้นและทรมานเขา จะมอบอาหารรสเลิศให้เขาได้อย่างไร?
ทันใดนั้น หยุนถิงก็นึกถึงหนอนกู่ในห้องลับของนาง ด้วยวิธีการของเซียวหลันแล้ว คงต้องวางยาพิษหรือหนอนกู่ลงในอาหารอย่างแน่นอน
สิ่งที่นางต้องการคือไม่ใช่ให้อูเหอตาย แต่คือการไม่ได้ตายดี
“อีนังหนู ยังมัวยืนอยู่ทำไม รีบไปสิ?” วี่หนานเสวียนที่เดินห่างออกไปหลายเมตร หันกลับมาก็เห็นหยุนถิงเหม่อลอย และตะโกนด้วยความไม่พอใจ
“เจ้าค่ะ!” หยุนถิงรีบไปทันที แต่เมื่อเดินผ่านอูเหอ นางพูดว่า “ในอาหารมีพิษหรือหนอนกู่ อย่ากิน!”