จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 820 หลับให้สบายใจ ข้าอยู่ตรงนี้

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่820 หลับให้สบายใจ ข้าอยู่ตรงนี้

“ไม่เป็นไร ข้าแค่เหนื่อยเกินไป คาดว่าคงต้องนอนสักสองสามวัน” หลังจากหยุนถิงพูดจบ ก็หมดสติไป

มือของจวินหย่วนโยวที่อุ้มหยุนถิงไว้นั้นแน่นขึ้น อุ้มหยุนถิงในแนวนอน ยกเท้าและเดินตรงไปที่เรือ จากนั้นทั้งสองก็จากไป

เมื่อโอจื่อโฝวกับจิ่วฟ่างตื่นขึ้น ก็เป็นเวลาเที่ยงของวันถัดไปแล้ว

เมื่อมองดูทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทั้งสองก็ตกตะลึงไปหมด

“จิ่วฟ่าง เจ้าหยิกข้าหน่อย ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม หรือพวกข้าสองคนตายแล้ว ทำไมถึงได้มีบ้านเยอะขนาดนี้?” โอจื่อโฝวพูดพลางขยี้ตา ปิดและเปิดออก และพบว่าบ้านยังคงอยู่

จิ่วฟ่างก็มึนงงเช่นกัน รูม่านตาสีดำที่เฉียบคมเหลือบมองดูบ้านที่อยู่ตรงหน้า บ้านเหล่านี้มีรูปร่างแปลกประหลาด ล้วนเป็นแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และมีหลายหลังที่โปร่งใส สามารถมองเห็นการตกแต่งภายในได้ในทันที

“เจ้ายังไม่ตาย และไม่ได้ฝันไป ข้าก็เห็นเหมือนกัน!” จิ่วฟ่างทำเสียงเชอะ

“หรือเทพเจ้าแห่งท้องทะเลมาช่วย เห็นเจ้ากับข้าน่าสงสารเกินไป จึงได้ประทานของพวกนี้แด่พวกข้า?” โอจื่อโฝวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก

“ไอ้โง่ แผ่นดินนี้ไม่มีเทพแห่งท้องทะเล!” จิ่วฟ่างพูดด้วยความรังเกียจ

“แล้วเจ้าว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในชั่วข้ามคืนก็มีบ้านเยอะขนาดนี้ปรากฏขึ้น” โอจื่อโฝวพูด ลุกขึ้นและเดินไปที่บ้านเหล่านั้น

แน่นอนว่าจิ่วฟ่างเองก็ไม่สามารถพูดอะไรออกได้ อุ้มจิ่นฉิงไว้แล้วตามไป

“โอ้คุณพระช่วย ด้านในนี่มีอาหารหลายอย่าง หลายชนิด ที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ใครกันแน่ที่ใจดีเยี่ยงนี้?” โอจื่อโฝวตื่นเต้นมาก และไปบ้านหลังอื่น

อาวุธ ผ้าห่ม อาหาร เรือ และของตกแต่ง——โดยรวมแล้วทำเอาโอจื่อโฝวตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออกเลย

จิ่วฟ่างขมวดคิ้วเล็กน้อย “หรือว่าเมื่อคืนนี้ถิงหยุน?”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด โอจื่อโฝวก็จำเมื่อคืนนี้ได้ “จะเป็นถิงหยุนไม่ได้ เขาอยู่ที่เมืองเทียนหลง เมื่อคืนข้าเห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งชัดๆ หรือจะเป็นนางฟ้า?”

“ไอ้โง่ นั่นเป็นพี่ใหญ่ข้า!” เสียงที่น่ารังเกียจดังมาจากนอกห้อง

หยุนหลีกับเสวี่ยเชียนโฉวพาทุกคนขึ้นเกาะ และตกตะลึงกับบ้านเรือนบนเกาะนี้เช่นกัน

ก่อนที่พวกเขาจะมา ซวนอ๋องบอกสถานการณ์โดยรวมของเมืองฉือให้พวกเขา ในชั่วข้ามคืน จากซากปรักหักพังกลายเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง น่าทึ่งยิ่งนัก ดังนั้นหยุนหลีจึงคาดเดาว่าต้องเป็นพี่ใหญ่ใช้มิติสร้างขึ้นมาแน่เลย

“พี่ใหญ่เจ้าเป็นใคร พวกเจ้าเป็นใคร?” โอจื่อโฝวหันมองมา

“พี่ใหญ่ข้าก็คือคนที่ช่วยพวกเจ้า ข้าเป็นน้องสี่ของนาง ข้ากับท่านอาก็คือคนที่มาสนับสนุนพวกเจ้า!” หยุนหลีตอบสั้น ๆ

“คนที่ช่วยพวกข้าคือถิงหยุน ไม่ใช่พี่ใหญ่เจ้า” โอจื่อโฝวโต้กลับ

จิ่วฟ่างขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถิงหยุนเป็นผู้หญิง?”

“พี่คนนี้ฉลาดยิ่งนัก” หยุนหลีพูดชมเชย

โอจื่อโฝวก็ไม่มีเวลามาโกรธ จ้องมองด้วยตกตะลึง “เจ้าหมายความว่าถิงหยุนเป็นผู้หญิง เป็นไปได้มาก ข้าจับตาดูนางไปตั้งนานก็ยังไม่รู้เลย?”

“เจ้าก็ไม่รู้ไม่ใช่หรือว่าอาจารย์เจ้าวางยาพิษให้เจ้า คิดร้ายเจ้า” หยุนหลีถามกลับ

ก่อนมา ซวนอ๋องเล่าเรื่องคนเหล่านี้ให้พวกเขาฟัง

โอจื่อโฝวทำหน้าเขินอาย “อีนังหนู เจ้าพูดอะไรนี่ นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้ระวังตัวต่างหาก”

“รอเจ้าระวังตัวนะ คงตายไปนานแล้ว” หยุนหลีกล่าวอย่างเหยียดหยาม

“บ้าเอ๊ย ยัยหนูบ้า ข้าจะสั่งสอนเจ้าเดียวนี้เลย!” กำปั้นของโอจื่อโฝวชกมา

แต่เขายังไม่ทันแตะโดนหยุนหลี เสวี่ยเชียนโฉวก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา “มีข้าอยู่ ใครกล้าทำร้ายหยุนหลี!”

ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นเย็นชาและแข็งกระด้าง ออร่ารอบกายแข็งแกร่ง ทำให้คนไม่กล้าดูถูก

โดยเฉพาะโอจื่อโฝวที่เพิ่งลดไข้ ร่างกายยังอ่อนแอมาก เมื่อเห็นออร่าที่แข็งแกร่งมากนี้ของเสวี่ยเชียนโฉว ก็กลัวในทันที

“ข้าก็แค่พูดไปงั้น ในเมื่อเป็นคนกันเอง แน่นอนว่าข้าก็ไม่ลงมืออยู่แล้ว ถิงหยุนช่วยข้า เป็นผู้มีพระคุณของข้า ต่อไปพวกข้าก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”

จิ่วฟ่างมองเขาด้วยความรังเกียจ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโอจื่อโฝวยังมีความสามารถในด้านประจบสอพลอเช่นนี้ด้วย

“ได้!” เสวี่ยเชียนโฉวกล่าว

เขาให้คนไปตรวจนับสิ่งของในห้องทันที หยุนถิงคิดได้รอบคอบยิ่งนัก มีของเหล่านี้แล้ว แค่ให้ซวนอ๋องส่งคนมาอีกก็ได้แล้ว

“ท่านอา งั้นพวกข้าหาบ้านพักอาศัยอยู่ละกัน!” หยุนหลีเดินไปรอบ ๆ เกาะ ก็ถูกใจกับบ้านกระจกโปร่งแสงหลังหนึ่งพอดี

“ที่นี่สวย ข้าอยากอยู่ที่นี่”

เสวี่ยเชียนโฉวชำเลืองมองและขมวดคิ้วเล็กน้อย “ที่นี่สามารถมองเห็นภายในได้อย่างชัดเจนจากภายนอก หากเจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้านนอกมองเห็น”

เมื่อหยุนหลีได้ยินเช่นนี้ ก็เขินอายยิ่งนัก จึงเลือกห้องข้างๆที่มองไม่เห็นเลยทีเดียว

เสวี่ยเชียนโฉวยิ้มมุมปาก และอยู่ห้องเดียวกับนางโดยตรง ด้านในมีห้องสองห้อง พูดน่าฟังหน่อยคือปกป้องหยุนหลี หยุนหลีเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เมื่อโอจื่อโฝวเห็น ก็ไปเลือกห้องทันที จิ่วฟ่างอุ้มจิ่นฉิงไว้และเลือกไปห้องหนึ่ง เมื่อมองดูการตกแต่งในห้อง เขาก็รู้สึกประหลาดใจกับถิงหยุนมากขึ้น

สามารถสร้างเกาะร้างให้เป็นเช่นนี้ได้เพียงในชั่วข้ามคืน มีครอบทุกอย่างทั้งอาหาร เสื้อผ้า และของใช้ นางต้องมีความสามารถมากเพียงใด?

ทางนี่ จวินหย่วนโยวพาหยุนถิงกลับไปที่เมืองเทียนหลง และจงใจอยู่บนเรือจนถึงกลางคืน และฉวยโอกาสในความมืดอุ้มหยุนถิงไว้แล้วใช้วิชาตัวเบาบินกลับห้องนอน

จวินหย่วนโยววางหยุนถิงลงบนเตียง ห่มผ้านวมให้นาง และมองดูใบหน้าที่ซีดของนาง ก็รู้สึกทุกข์ใจมาก

เมื่อนางใช้มิติมากเกินไป ร่างกายก็จะอ่อนแอ หากใช้มากเกินไปก็จะตกอยู่ในภาวะหมดสติ เมื่อนึกถึงเสบียงในเมืองฉือกับเมืองฉือในคืนนี้ มือของ มือของจวินหย่วนโยวที่จับหยุนถิงไว้ก็กำแน่นขึ้น

“ถิงเอ๋อร์ หลับให้สบายเถอะ ข้าอยู่นี่” จวินหย่วนโยวนอนลงข้างหยุนถิง และหลับตา

ในชั่วพริบตา สามวันผ่านไป ถึงวันเกิดของฮูหยินเจ้าทะเล

ตั้งแต่เช้า ลูกศิษย์ทั้งหมดเมืองเทียนหลงก็ยุ่งยิ่งนัก สาวรับใช้และครอบครัวก็ยุ่งอย่างเป็นระเบียบ มีโคมไฟและงานรื่นเริง ผ้าไหมสีแดงแขวนไว้บนสูง เต็มไปด้วยความสุขความปลื้มปีติยินดี

ทุกคนที่มาอวยพรวันเกิดให้ฮูหยินเจ้าทะเล ต่างก็ส่งของขวัญมาให้แต่เช้าตรู่

วี่รั่วยีสวมชุดชมพูโดยเฉพาะเลย แต่งตัวอย่างตั้งอกตั้งใจ และตรงไปที่ลานของจิ่วฟ่าง

จวินหย่วนโยวได้ยินศิษย์คนอื่นพูดว่าวี่รั่วยีมาแล้ว สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย เหลือบมองหยุนถิงที่ยังอยู่ในภาวะหมดสติ ลุกขึ้นและเดินออกไป

“จิ่วฟ่าง วันนี้เป็นวันเกิดของแม่ข้า และตอนนี้เจ้าเป็นศิษย์ที่อาวุโสที่สุดของเรือนอวี๋ ก็สามารถไปเข้าร่วมในฐานะตัวแทนของเรือนอวี๋ได้พอดี พวกข้าไปพร้อมกันเถอะ” วี่รั่วยีเสนอแนะ

“ไม่แล้ว อาจารย์ได้นำของขวัญมอบให้แด่ฮูหยินแล้ว ข้าจะไปหรือไม่ไปก็ไม่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ยังหาไม่เจอ ข้าคิดว่าฮูหยินเจ้าทะเลก็คงไม่อยากเห็นข้า!” จวินหย่วนโยวปลอมตัวเป็นจิ่วฟ่าง และปฏิเสธอย่างเย็นชา

สีหน้าของวี่รั่วยีแย่เล็กน้อย แต่ก็ยังคงพูดอย่างอดทน “เรื่องของผู้อาวุโสอวี๋ไม่เกี่ยวกับเจ้า ท่านแม่ก็คงไม่โทษเจ้า หากลูกศิษย์ในเรือนอวี๋ของพวกเจ้าไม่มีใครไปเลยสักคน คงถูกผู้อื่นเข้าใจผิดอย่างแน่นอน”

“เข้าใจผิดก็เข้าใจผิด ยึดมั่นคุณธรรม ซื่อตรงสุจริต ย่อมไม่กลัวคำครหา ข้ายังต้องไปตามหาอาจารย์ ก็ไม่ขออยู่คุยกับคุณหนูใหญ่แล้ว” จิ่วฟ่างออกคำขับไล่แขกโดยตรง

“ในเมื่อเช่นนี้ เป็นข้าที่ล่วงเกินไปแล้ว” วี่รั่วยีรู้สึกขอโทษ หันหลังและจากไป

จวินหย่วนโยวเห็นนางจากไป ยกเท้าและเดินตรงไปที่ห้อง ปิดประตู

วี่รั่วยีที่เดินออกไปไกล สีหน้าซีด มือทั้งสองบิดผ้าเช็ดหน้าอย่างแรงด้วยความโกรธ

“คุณหนูใหญ่ จิ่วฟ่างก็ให้หน้าไม่เอาหน้าเกินไปแล้ว ท่านไปหาเขาเป็นเพราะให้เกียรติเขา แต่เขากลับกล้าปฏิเสธท่าน ให้บ่าวเรียกคนไปสั่งสองเขาหน่อยหรือไม่เจ้าค่ะ!” สาวรับใช้หรงเอ๋อร์โกรธมาก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท