จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 838 เจ้ายังขายขี้หน้าไม่พอรึ
“เจ้าพูดเหลวไหล ข้ามิได้ทำ ข้าไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย เจ้าทำเองทั้งนั้น เจ้าฆ่าคนพวกนี้ เจ้าอย่าคิดจะใส่ร้ายข้า!” วี่รั่วยีย้อนอย่างปฏิเสธทันที
“ท่านคิดว่าข้าเหมือนท่านหรือไง เห็นชีวิตคนเป็นของเล่น ข้ามียาสารภาพความจริงที่อาจารย์เคยปรุงขึ้นมา หากทุกคนไม่เชื่อ ให้เขากินดูสิ!” จิ่วฟ่างบอก
“ยาสารภาพความจริง?” วี่รั่วยีขมวดคิ้ว
นางแค่เคยอ่านเจอในตำราแพทย์ และเคยลองปรุง แต่ไม่เคยสำเร็จเลย ผู้อาวุโสอวี๋ช่างเก่งกาจจริงๆ
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ นางก็ไม่อนุญาตเด็ดขาด
“มียาอัศจรรย์เช่นนี้จริงรึ ให้ข้าลองหน่อยสิ!” วี่หนานเสวียนมองมาอย่างสนใจ
“อย่าฟังเขาพูดเหลวไหล จะมีของเช่นนี้ได้อย่างไร ต้องเป็นข้ออ้างของเขาแน่ๆ แค่อยากถ่วงเวลาน่ะ” วี่รั่วยีย้อนออกมาทันที
“พี่หญิงใหญ่ ลองดูก็ไม่เสียหายนี่ ข้าจะลองก่อน หากไม่ใช่ของจริง ก็ให้เขาใช้ไม่ได้” วี่หนานเสวียนปลอบ
จิ่วฟ่างยื่นขวดยามาให้ หยุนถิงที่ปลอมเป็นคนรับใช้เทยาออกมาให้วี่หนานเสวียนหนึ่งเม็ด
วี่หนานเสวียนกลืนลงไปทันที วี่รั่วยีอยากห้ามก็ไม่ทัน
หยุนถิงเห็นเขากลืนลงไปแล้ว “พูดมาสิ เจ้าเกลียดใครที่สุด เรื่องน่าละอายที่สุดที่เคยทำคืออะไร อยากจะรับตำแหน่งเจ้าทะเลต่อหรือไม่?”
คนอื่นพากันมองมา ต่างพากันสงสัย ยานี้พวกเขาเองแค่เคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เซียวหลันขมวดคิ้วมุ่น นางเองก็สงสัยในคำถามสุดท้ายที่คนรับใช้คนนี้ถามออกมา
“ข้าเกลียดพ่อบ้านของเกาะเทียนหลงที่สุด เขาบ่นพร่ำข้าต่างๆนานาข้ามาแต่เล็ก ยังไม่ให้ข้ากินโน่นกินนี่ ทำตัวหยั่งกับพวกต้มตุ๋น
เรื่องน่าละอายที่สุดที่ข้าเคยทำคือ ครั้งหนึ่งแอบออกจากเขตทะเลนิรนามไปแคว้นชางเยว่ และเผลอเข้าไปในห้องขององค์หญิงคนหนึ่ง อีกทั้งเห็นเรือนร่างนาง
ข้าไม่เคยคิดอยากรับตำแหน่งเจ้าทะเลเลย นั่นน่ะกองไฟชัดๆ ข้าไม่คิดกระโดดเข้ากองไฟอย่างโง่เขลาหรอกนะ
คนอื่นต่างคิดว่าตำแหน่งเจ้าทะเลน่ะดีมาก แต่ต้องจัดการเรื่องราวมากมายทุกวัน เผชิญหน้าคนมากมายขนาดนั้น ทั้งยังต้องคานอำนาจเมืองต่างๆ
เรื่องเล็กน้อยนิดเดียวก็ต้องมารายงาน แถมไม่สนก็ไม่ได้ ลาโง่ทำงานงกๆชัดๆ ตกหลุมพรางไปแล้วชาตินี้อย่าได้หวังปลดออก ข้าไม่โง่ขนาดนั้นหรอก!”
วี่หนานเสวียนตอบออกมาทั้งหมด ตอนพูดออกมาเขาเองยังตกตะลึงเลย “ข้าพูดเรื่องน่าอายเช่นนี้ออกไปได้อย่างไร นี่ปากข้ารึ?”
ทุกคนฟังแล้วขมวดคิ้ว สีหน้าไม่น่าดูกันทั้งนั้น
คุณชายน้อยคนนี้ดื้อด้านยิ่งนัก กล้าทำเรื่องอกตัญญูเช่นนี้ออกมา แอบดูเรือนร่างองค์หญิง เขาดันพูดออกมาได้
เขายังพูดถึงตำแหน่งเจ้าทะเลเสียย่ำแย่เพียงนั้น โดยเฉพาะที่พูดว่า พวกเขามักมาทั้งไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โต ในสายตาเขาพวกเขาเป็นคนไม่ทำงานทำการงั้นรึ ช่างชั่วร้ายนัก
เซียวหลันกลับลอบถอนหายใจโล่งอก พอใจกับคำตอบของวี่หนานเสวียนมาก ช่างไม่ได้เรื่องเสียจริง
“ครั้งนี้ทุกคนเชื่อกันแล้วกระมัง” หยุนถิงพูดเสียงเรียบออกมา เดินตรงไปหาคนรับใช้คนนั้นทันที และยัดยาใส่ปากเขาเม็ดหนึ่งทันที
การกระทำเร็วปานสายน้ำไหล เสร็จในคราวเดียว วี่รั่วยีอยากจะพูดอะไร แต่ยังไม่ทันอ้าปาก ยาเม็ดนั้นก็โดนคนรับใช้คนนั้นกลืนลงไปแล้ว
“ว่ามาสิ ใครเป็นคนวางยาฆ่าคนพวกนี้กันแน่?” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น
คนรับใช้คนนั้นหันมองวี่รั่วยีทันที กิริยานี้คนอื่นเห็นกันหมด คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว
“คนที่วางยาพิษพวกเขาคือ—“ คนรับใช้ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีอาวุธลับซัดมา
หยุนถิงรับรู้ได้ถึงอันตรายในอากาศ เข็มเงินในมือพุ่งออกไปทันที ซัดมีดบินสองชิ้นหล่นไป แต่ก็ยังมีอีกอันพุ่งเข้าหาคอหอยของคนรับใช้คนนั้นทันที
คนรับใช้ขาดใจตายคาที่ จังหวะที่ล้มลงเขายกมือชี้ไปทางวี่รั่วยี
วี่รั่วยีสายตาฉายแววพึงพอใจ องครักษ์ลับไว้ใจได้ที่สุดจริงๆด้วย
“มีนักฆ่า รีบคุ้มครองฮูหยินเร็ว!” ผู้อาวุโสโจวสีหน้าไม่น่าดู พอร้องเสียงดังออกมานี่ องครักษ์รอบข้างพากันพุ่งเข้ามาทันที
สายตาเซียวหลันฉายแววคมปลาบ “กล้ามาฆ่าคนภายใต้สายตาข้า ช่างชั่วร้ายนัก จั๋วยีเจ้ารีบให้คนตรวจสอบเร็ว ต่อให้พลิกแผ่นดินหาก็ต้องจับตัวมาให้ได้ อยู่ต้องพบคน ตายต้องพบศพ!”
“ขอรับ!” จั๋วยีรีบพาคนออกไปจัดการทันที
“คุณหนูใหญ่นี่โหดจริงนะ คนของตนเองคิดจะฆ่าก็ฆ่า ช่างเป็นหญิงใจอสรพิษจริงๆ!” จิ่วฟ่างแค่นเสียงเย็น
“จิ่วฟ่าง เจ้าพูดจาเหลวไหล คนผู้นี้ตายเกี่ยวอะไรกับข้า ข้าจะบอกว่าเจ้าเป็นคนสั่งฆ่าต่างหากสิ?” วี่รั่วยีย้อน
“ใช่หรือไม่ คุณหนูใหญ่รู้ดีแก่ใจอยู่แล้ว”
“ฮูหยิน เรื่องวันนี้จะจัดการอย่างไร?” ผู้อาวุโสหลิวถาม
ยังไม่รอเซียวหลันเอ่ยปาก จิ่วฟ่างพูดต่อทันที “ฮูหยิน ขอให้อนุญาตจิ่วฟ่างพาพวกเขากลับเรือนอวี๋ พวกเขาล้วนเป็นศิษย์ของเรือนอวี๋ ต่อให้ต้องฝังก็ต้องไปฝังที่เรือนอวี๋
หากข้าอยู่ต่อไป น่ากลัวคุณหนูใหญ่คงสงสัยฐานะ ใบหน้าและทุกอย่างของข้าอีก ข้าไม่อยากตายที่อื่นเหมือนศิษย์เหล่านี้!”
เซียวหลันกำลังเครียดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร จะลงโทษวี่รั่วยี จะอย่างไรนางก็เป็นคุณหนูใหญ่แห่งเกาะเทียนหลง หากลงโทษเบาไปคงไม่อาจกำราบทุกคนได้
แต่ชีวิตคนมากมายเพียงนี้ หากลงโทษหนักไป ทุกคนก็จะรู้สึกว่าตนใจไม้ไส้ระกำ จิ่วฟ่างก็มาให้ทางแก้กับตนพอดี
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเจ้าก็พาพวกเขากลับไปเถอะ ยังไงเรื่องนี้ก็มาเกิดขึ้นที่เกาะเทียนหลง ข้าจะต้องสืบหาตัวคนวางยาพิษออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด และคืนความยุติธรรมให้พวกเจ้าแน่!” เซียวหลันรับประกันหนักแน่น
“ขอเพียงฮูหยินสามารถตัดสินอย่างยุติธรรมได้ก็พอ” จิ่วฟ่างแค่นเสียงเย็น พลางหมุนตัวเดินจากไป
พอคนอื่นเห็นอย่างนั้น ก็แอบถอนหายใจโล่งอก จิ่วฟ่างนี่ยังถือว่ารู้หน้าที่ ไม่อย่างนั้นปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ต่อไปคงจบไม่สวยแน่
“เตรียมเรือที่ดีที่สุดให้พวกเขา ส่งพวกเขากลับไป พวกเจ้าหลายคนไปช่วยหามคนเสีย!” เซียวหลันบอก
“ขอรับ!” องครักษ์สิบกว่าคนรีบมาช่วยทันที
“ท่านแม่ จะปล่อยเขาจากไปอย่างนี้ไม่ได้นะ!” วี่รั่วยีพูดอีกครั้ง
“พอได้แล้ว ยีเอ๋อร์เจ้ายังขายขี้หน้าไม่พอรึ สำนักหมอเทวดาเองก็เป็นเกาะหนึ่งของเกาะเทียนหลงเรา ผู้อาวุโสอวี๋ยิ่งจงรักภักดีมาก เจ้าก่อเรื่องเช่นนี้จะให้ข้าบอกผู้อาวุโสอวี๋อย่างไร ใครก็ได้ นำตัวคุณหนูใหญ่ไปสำนึกผิดที่หลังเขาเสีย!” เซียวหลันเคียดแค้นนัก
“ขอรับ!” องครักษ์รีบพาคนออกไปทันที
ครั้งนี้วี่รั่วยีไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ในใจนั้นเคียดแค้นจวินหย่วนโยวยิ่งนัก ไม่ช้าก็เร็วนางต้องเอาคืนความอัปยศในวันนี้ให้เขาไปเป็นเท่าตัวแน่
จิ่วฟ่างนำศิษย์ทั้งหมดขึ้นเรือ เดิมฮูหยินเจ้าทะเลส่งคนรับใช้หลายคนมาส่งพวกเขาจากไป แต่โดนจิ่วฟ่างปฏิเสธ
เขาพาทุกคนจากไปทางเรือ ทุกคนพึ่งออกจากเกาะได้ไม่ไกล ศิษย์เหล่านั้นก็พากันฟื้นคืนชีพขึ้นมา
ก่อนหน้านี้หยุนถิงแกล้งให้พวกเขากินยาแกล้งตาย ไม่มีทั้งลมหายใจและชีพจร แต่ยังมีประสาทสัมผัส ได้ยินและสัมผัสได้
“ศิษย์พี่จิ่วฟ่าง พวกเราจะจบกันอย่างนี้รึ คุณหนูใหญ่นั่นเป็นคุณหนูใหญ่บ้าอะไร แย่เสียกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก กล้าให้ร้ายท่านครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วยังไม่รู้จักสำนึก ช่างหน้าไม่อายเสียจริง!” ศิษย์คนหนึ่งพูดอย่างเดือดดาล