จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 851 ไม่สู้พวกข้าสองบ้านจัดหมั้นหมายกันให้เด็กๆ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่851 ไม่สู้พวกข้าสองบ้านจัดหมั้นหมายกันให้เด็กๆ

แต่เป่ยตันเสวี่ยก็ซ่อนอารมณ์ไว้ในเพียงชั่วพริบตา “ท่านอ๋อง นั่นเป็นจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยไม่ใช่หรือ พวกเขาก็ออกมาเที่ยวเล่นด้วย”

สีหน้าของโม่ฉือหานเย็นชาเหมือนเคย แต่ไม่ได้พูดอะไร

เด็กคนหนึ่งวิ่งมาและชนโดยเป่ยตันเสวี่ยอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“อ๊าก!” เป่ยตันเสวี่ยกรีดร้องและล้มลงกับพื้น

โชคดีที่โม่ฉือหานมือไวตอบโต้อย่างรวดเร็ว และดึงนางเอาไว้ “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ท่านอ๋อง หม่อมข้าไม่เป็นไรเพคะ ทว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้บุ่มบ่ามเยี่ยงนี้ นี่เป็นเด็กบ้านไหนกัน?” เป่ยตันเสวี่ยกล่าวอย่างน้อยใจ

เด็กที่ล้มลงกับพื้น ร้องไห้เสียงดังขึ้นทันที

ไม่รอโม่ฉือหานได้พูดอะไร เสียงที่เผด็จการและไม่พอใจก็ดังขึ้น “นี่เป็นเด็กบ้านข้าเอง!”

ในไม่ไกล หลู่อ๋องเดินหอบเหนื่อย ด้านหลังตามด้วยหลู่หวางเฟย “โอ้ลูกรักของพ่อ เจ้าล้มลงได้อย่างไร หลีหวางเฟยทำไมเจ้าถึงไม่ใช้ตาดูให้ดีๆ กล้าชนลูกรักของข้าล้ม หากเขาได้รับบาดเจ็บ ข้าจะไม่จบแค่นี้กับเจ้าแน่!”

หลู่อ๋องพูดและวิ่งมา รีบประคองลูกชายลุกจากพื้น “ลูกพ่อ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เจ็บตรงไหนบอกพ่อสิ พ่อจะระบายความแค้นแทนเจ้า! ”

ไม่รอหยวนเป่าได้เอ่ยปาก ความสง่างามที่เป่ยตันเสวี่ยคงไว้อย่างยากลำบากนั้นก็พังทลายลงในทันที “หลู่อ๋องทำไมเจ้าถึงได้ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ ลูกชายเจ้าต่างหากที่มาชนโดนข้า”

“เจ้าโตป่านนี้แล้ว เขายังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง จะชนเจ้าได้อย่างไร เจ้าตาบอดหรือข้าตาบอด หลีอ๋องเจ้าต้องจัดการกับหวางเฟยนี้ของเจ้าหน่อย พูดไปมั่วเช่นนี้!” หลู่อ๋องตะโกนด้วยความโกรธ

เป่ยตันเสวี่ยโกรธจนหน้าซีด และในขณะที่กำลังจะพูด ก็เห็นหลู่หวางเฟยที่วิ่งตามมากำลังจ้องมองนางด้วยความโกรธ “หลู่อ๋องของข้าพูดถูก องค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยลี่นี้ช่างไม่รู้มารยาทยิ่งนัก ถึงได้มาโต้เถียงกับได้คนหนึ่ง หน้าไม่อายยิ่งนัก เป็นถึงผู้ใหญ่แล้วก็ยังทำเช่นนี้” ความเหยียดหยามและความรังเกียจในน้ำเสียงฟังออกได้อย่างชัดเจน

เป่ยตันเสวี่ยโกรธยิ่งนัก ตัวสั่นไปทั้งตัว และจ้องมองด้วยความโกรธ “หลู่หวางเฟยเจ้ามากเกินไปแล้ว เป็นเจ้ากับหลู่อ๋องที่ไร้เหตุผลชัดๆ ยังกล้ามาโทษข้า”

“หากเป็นหวางเฟยแห่งแคว้นต้าเยียนของพวกข้า ก็คงต้องบอกว่าเป็นความผิดของตัวเองแน่นอน และเป็นห่วงว่าเด็กได้รับบาดเจ็บหรือไม่ แต่เจ้ากลับเอาแต่จับผิด” หลู่หวางเฟยกล่าวอย่างเหยียดหยาม

“เสด็จแม่เสด็จพ่อ ข้าเจ็บเหลือเกิน!” หยวนเป่าร้องไห้เสียงดังทันที

“ลูกแม่เจ้าเจ็บตรงไหน เป็นเพราะหลีหวางเฟยทั้งนั้นที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ หลู่อ๋องท่านเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเดี๋ยวนี้ และขอให้ฝ่าบาททรงลงโทษนาง!” หลู่หวางเฟยปลอบลูก และไม่ลืมกล่าว

“ท่านอ๋อง หลู่หวางเฟยพอเหมาะสมก็สมควรหยุด ความอดทนของข้าก็มีจำกัดเช่นกัน ขอแค่พวกเจ้าสองคนตาไม่บอดก็คงดูออกได้ว่า หวางเฟยของข้ายืนอยู่ที่นี้โดยไม่ขยับเขยื้อนมาโดยตลอด ลูกชายของพวกเจ้าเป็นคนชนเข้ามาเอง! ” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวอย่างเย็นชา

เป่ยตันเสวี่ยสะเทือนใจมาก ท่านอ๋องดียิ่งนัก ปกป้องนาง

เป่ยตันเสวี่ยก็เขินอายในทันที “ข้าได้ลูกตอนอายุเยอะ รีบร้อนใจไปหน่อย หากหยวนเป่าเป็นอะไรไป ก็เป็นเพราะหวางเฟยของเจ้านั่นแหละ”

“ลูกเอ๋ย เจ้ายังเจ็บตรงไหน แม่จะเข้าวังไปเชิญหมอหลวงเดียวนี้เลย?” หลู่หวางเฟยไม่มีเวลามาโกรธหลีอ๋อง รีบถาม

“เจ็บ ข้าเจ็บมากเลย!” หยวนเป่าร้องเสียงดัง

จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนที่อยู่ไม่ไกลนั้นได้ยินเสียงและมองมาทางนี้ทันที เมื่อเห็นเด็กคนหนึ่งร้องไห้ จวินเสี่ยวเหยียนก็วิ่งไปหาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“พี่ชาย เจ้าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม?” จวินเสี่ยวเหยียนถามด้วยเสียงที่น่ารัก

หยวนเป่าเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆที่เตี้ยกว่าตัวเองตรงหน้านี้ ใบหน้าที่งดงามและละเอียดอ่อน และจ้องมองตัวเองด้วยดวงตาที่ใสและใหญ่ น่ารักยิ่งนัก เขาก็หยุดร้องไห้ในทันที

“ข้า ข้าไม่เป็นไร” หยวนเป่าใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาทันที และหัวเราะคิคิ

เขาไม่เคยเห็นเด็กหญิงที่หน้าตาดีขนาดนี้มาก่อน หยวนเป่าดีใจยิ่งนัก

“ไม่เป็นไรก็ดี งั้นเจ้าไปเล่นกับพวกข้าเถอะ” จวินเสี่ยวเหยียนเชิญ

“ได้เลย!” จากนั้นหยวนเป่าก็เดินตามจวินเสี่ยวเหยียนไปเล่นที่นั่น

หลู่อ๋องกับหลู่หวางเฟยสองคนก็ตกตะลึง

“ท่านอ๋อง เมื่อกี้นั้นเป็นลูกชายของพวกข้าหรือ ปกติเขาร้องไห้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ไม่หยุด แต่วันนี้กลับหยุดร้องไห้หลังร้องไปเพียงไม่นาน?” หลู่หวางเฟยถามด้วยความตกใจ

เด็กคนนี้เป็นลูกชายที่พวกเขาได้มาตอนอายุเยอะ ปกติตามใจมากเกินไป จึงทำให้โอหังและหยิ่งยโส มีอารมณ์ร้อน แต่มีลูกชายเพียงคนเดียว ไม่ตามใจเขาตามใจใคร

“ใช่ ลูกชายพวกข้าเอง เขากลับไปกับนังหนูน้อยคนหนึ่ง โดยไม่แม้แต่หันหัวมามอง ทำไมข้าถึงมีความรู้สึกเหมือนลูกชายที่เลี้ยงเติบใหญ่มาอย่างไม่ง่ายนักถูกคนแย่งไป” หลู่อ๋องก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน สายตาที่ตามลูกชายไว้นั้นก็มองเห็นจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงที่อยู่ในไม่ไกล และมองดูเด็กสองคนนั้น ทันใดนั้นก็เข้าใจทันที และรีบวิ่งไปอย่างตื่นเต้น

“จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย นังหนูน้อยนี้เป็นลูกสาวของเจ้าหรือ?” หลู่หวางเฟยถามอย่างตื่นเต้น

ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งต้าเยียนและแม้กระทั่งทั่วสี่แคว้นต่างก็รู้ว่าจวินหย่วนโยวมีลูกคู่หนึ่ง ปกติได้รับการปกป้องไว้อย่างดี บวกกับที่เด็กทั้งสองอยู่ในจวนไม่ออกมาเป็นเวลาหลายเดือน หลู่อ๋องกับหลู่หวางเฟยไม่รู้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พอให้อภัยได้

“ใช่ วันนี้พาพวกเขาสองคนออกมาเที่ยวเล่น” หยุนถิงตอบ

“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก ข้ายังพูดอยู่เลย เจ้าหนูนี้ปกติร้องไห้ทีก็ต้องร้องครึ่งชั่วยาม แต่วันนี้กลับไม่ร้องแล้ว เจ้าดูสิพวกเขาเล่นกันดีมากเพียงใด” หลู่หวางเฟยพูดอย่างดีใจ

“ใช่ ปกติแล้วเจ้าหนูนี้เล่นกับเด็กคนอื่นไม่ได้เลย ไม่ใช่ตีคนอื่นร้องไห้ก็คือแย่งของของคนอื่น เจ้าดูเขากลับยอมให้จวิ้นจู่น้อย ข้าเกือบจะสงสัยแล้วว่าเขาเป็นตัวปลอม” หลู่อ๋องก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน

“ว่าไปแล้วต้องขอบคุณตอนนั้นที่ซื่อจื่อเฟยช่วยข้า ตอนนี้เด็กอายุห้าขวบแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก” หลู่หวางเฟยรู้สึกซาบซึ้งหยุนถิงเป็นอย่างมาก

“หวางเฟยเกรงใจเกินไปแล้ว นี่เป็นโชคของเจ้ากับหลู่อ๋องทั้งนั้น” หยุนถิงตอบ

“ซื่อจื่อเฟยพูดเก่งยิ่งนัก ดีกว่าหลีหวางเฟยมากเลย หยวนเป่าของข้าไม่ระวังไปชนโดนนาง แต่นางกลับคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กคนหนึ่ง” หลู่หวางเฟยกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม

เดิมทีนางก็เป็นคนที่พูดเสียงดังอยู่แล้ว ก็ถูกหลีอ๋องกับหลีหวางเฟยที่อยู่ในไม่ไกลได้ยินเข้าพอดี

เป่ยตันเสวี่ยโกรธมาก กำลังจะไปโต้เถียง แต่ถูกโม่ฉือหานห้ามเอาไว้ “หลู่อ๋องกับหลู่หวางเฟยได้ลูกตอนอายุเยอะ พวกเขาสองคนตามใจลูกมากเกินไป ต่อให้เจ้าเอาเหตุผลไปพูดกับพวกเขา ก็พูดไม่ไหว”

“เช่นนั้นก็มิอาจปล่อยให้พวกเขาพูดไร้สาระไปมั่วได้” เป่ยตันเสวี่ยกล่าวอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

โม่ฉือหานชำเลืองมองหลู่อ๋อง “เป็นเพียงท่านอ๋องที่ไม่มีอำนาจหรือกองกำลัง ไม่จำเป็นต้องถือสากับเขา”

เป่ยตันเสวี่ยจึงค่อยปล่อยมันไป แต่เห็นหลู่อ๋องกับหลู่หวางเฟยเครพให้เกียรติ ประจบ และพูดตลกกับจวินหย่วนโยวและหยุนถิงเช่นนั้น ก็โกรธยิ่งนัก

“จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยหากพวกเจ้าไม่รังเกียจ ไม่สู้พวกข้าสองบ้านจัดหมั้นหมายกันให้เด็กๆ ?” หลู่อ๋องเสนอแนะอย่างตรงไปตรงมา

จวินหย่วนโยวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ได้!”

“ทำไม แม้ว่าจวนหลู่อ๋องของข้าจะเทียบกับจวนซื่อจื่อไม่ได้ แต่ในอนาคตลูกชายข้าสืบทอดตำแหน่งของข้า และเป็นอ๋อง จะไม่ปฏิบัติต่อจวิ้นจู่น้อยอย่างขาดความยุติธรรมอย่างแน่นอน?” หลู่อ๋องถาม

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท