จอมนางข้ามพิภพ บทที่867 ข้าแค่อยากอยู่เคียงข้างกับเจ้าจนแก่เฒ่า
ทุกคนไม่มีทางเลือกอื่น จึงตอบตกลง หลงเอ้อเรียกคนเก็บของที่พวกเขาให้ทันที จากนั้นก็ให้คนเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่จำพวกเขาจำเป็นให้ และยังให้เยอะเป็นพิเศษ
ซื่อจื่อเฟยทำงาน ไม่เคยเอาเปรียบผู้อื่น
“ทุกคนอย่ารบกวนซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยไปเลย ยากนักที่พวกเขาจะได้ออกมาเดินเล่น ทุกคนควรทำไรก็ไปซะ” หลงเอ้อกำชับทันที
ประชาชนก็เข้าใจ ต่างก็พยักหน้ากัน และกลับไปที่แผงขายของตัวเองต่อ
จวินหย่วนโยวกุมมือของหยุนถิงไว้เช่นนั้น ทั้งสองเดินเล่นตามถนน เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของพ่อค้าแม่ค้าทั้งสองข้าง หยุนถิงก็รู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง
“ถิงเอ๋อร์ เมื่อพวกข้าแก่ลง สามารถหาเกาะเล็กๆหนึ่งเกาะ แล้วใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสงบสุข” จวินหย่วนโยวเสนอแนะ
“ได้ เช่นนั้นรอพวกข้าแก่แล้วก็มาที่นี่โดยตรงเลย” หยุนถิงตอบ
“ไม่ มันเป็นเพียงของพวกข้าสองคนเท่านั้น ไม่เอาคนอื่น ข้าจะสร้างเกาะแห่งหนึ่งให้เจ้าด้วยตนเอง เกาะที่เป็นของพวกข้าสองคน!” เสียงอันไพเราะและมีเสน่ห์ของจวินหย่วนโยวดังขึ้น
แสงจันทร์สว่าง โคมไฟสีแดงที่แขวนอยู่ถนนสองข้าง สะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา ซึ่งดูหล่อเหลาและเย็นชา ราวกับงานแกะสลักที่ประณีตเหนือธรรมชาติ สมบูรณ์แบบโดยไร้จุดด่างแม้แต่น้อย
หยุนถิงมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ยิ้มอย่างมีความสุข “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอท่านพี่สร้างเกาะให้ข้า!”
ทั้งสองเดินไปข้างหน้าต่อ ภายในเกาะมีศาลากลางทะเลสาบอยู่แห่งหนึ่ง
เงียบเปลี่ยว มืด แถมยังมีอารมณ์ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป
จวินหย่วนโยวกุมมือของหยุนถิงไว้แล้วเดินไป “ที่นี่คนน้อย ไม่มีคนมารบกวนพวกข้า”
หยุนถิงเดินตามไป และทั้งสองเดินจับมือกันเดินขึ้นบันได
“ข้าได้ยินคนเขาเล่าว่า บันไดของศาลากลางทะเลสาบนี้มีทั้งหมดเก้าขั้น หมายถึงชั่วฟ้าดินสลาย ว่ากันว่าใครก็ตามที่เคยเดินที่นี่ ก็จะสามารถอยู่เคียงข้างกันไปจนถึงแก่” จวินหย่วนโยวกล่าว
“ท่านพี่ ท่านเชื่อเรื่องแบบนี้เมื่อไหร่กัน?” หยุนถิงมองดูเขาอย่างแปลกใจ
จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปาก “ข้าแค่อยากอยู่เคียงข้างกับเจ้าจนแก่เฒ่า”
หัวใจของหยุนถิงเต็มไปความซาบซึ้ง “ท่านพี่ ท่านกลายเป็นคนช่างพูดเช่นนี้เมื่อไหร่กัน”
“ข้าช่างพูดมาโดยตลอด” จวินหย่วนโยวจับมือหยุนถิงไว้อย่างแน่น ทั้งสองก็เดินขึ้นไปอย่างทีละก้าวทีละก้าว
ยืนอยู่ในศาลากลางทะเลสาบ ก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของทั่วทั้งเกาะ แสงไฟสว่างไสว ครึกครื้นเป็นอย่างมาก และยังมีฝูงชนและพ่อค้าแม่ค้าอยู่บนถนน เกาะทั้งเกาะเต็มไปด้วยความสงบสุข
“ถิงเอ๋อร์ ตอนนี้พวกเขาเป็นเช่นนี้ได้ก็ล้วนเป็นเพราะคุณงานความดีของเจ้า” จวินหย่วนโยวกล่าว
“และเป็นเพราะการช่วยเหลือของท่านพี่ และการช่วยเหลือของซวนอ๋องด้วย ข้าคนเดียวคงทำไม่ได้” หยุนถิงตอบ
จวินหย่วนโยวยื่นมือออกไปกอดนางไว้ในอ้อมแขน “ไอ้โง่ หากไม่ใช่อุปกรณ์ ความคิด และการเตรียมการของเจ้า ข้ากับซวนอ๋องก็คงไม่สามารถทำถึงเช่นนี้”
“ท่านนพูดเช่นนี้ ทำเอาข้าเขินอายยิ่งนัก” หยุนถิงพูดติดตลก
จวินหย่วนโยวจับเอวของนางและใช้วิชาตัวเบาบินตรงไปยังด้านบนศาลากลางทะเลสาบ “คืนนี้พระจันทร์ส่องแสง ข้าดูพระจันทร์กับเจ้า”
“ข้าไม่ได้ดูพระจันทร์มานานแล้วจริง” หยุนถิงนั่งลงโดยตรง และแหงนมองท้องฟ้า
ปกตินางยุ่งแทบตาย ต้องวางแผนคอยเตรียมการ และคอยข่าวจากทางเขตทะเลนิรนาม และต้องดูแลลูกทั้งสอง ดังนั้นจึงไม่มีเวลามากพอที่จะมาดูพระจันทร์จริง
นี่ไง จวินหย่วนโยวชดเชยให้นางพอดีเลย
ท้องฟ้าที่มืดมิด หนาจนไร้สีสันใดๆ และสามารถประดับด้วยดวงดาวได้ มีเพียงดวงจันทร์นั้นที่กลมมาก กลมมาก และแสงโดยรอบเหมือนเด็กที่ซุกซน ปิดตาดวงดาว พร่ามัวและลึกลับ
จวินหย่วนโยวยื่นมือมา ให้หยุนถิงพิงไหล่ตัวเอง และทั้งสองก็มองดูพระจันทร์อยู่เช่นนี้
ใครก็ไม่พูดอะไร ใจทั้งสองดวงเข้าใจซึ่งกันและกันโดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
เช้าวันรุ่งขึ้น วี่รั่วฉิงก็ตื่นขึ้น จิ่งไป๋ก็ไปแจ้งจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยทันที
หยุนถิงกลับมาทันที ก็เห็นวี่รั่วฉิงนั่งอยู่ข้างเตียงอย่างอ่อนแอ ทันทีที่นางเห็นหยุนถิง ตกตะลึงด้วยสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ
“เป็นเจ้านี่เอง แม่ข้าล่ะ เจ้าเอานางไปไว้ที่ไหน สิ่งที่เซียวหลันพูดในคืนนั้นเป็นความจริงหรือ?” วี่รั่วฉิงถามอย่างตื่นเต้น
วี่รั่วฉิงจำได้ว่าคนที่พาแม่ไปในคืนนั้น ก็คือนางนั่นเอง และนางก็เป็นคนที่เซียวหลันยังรับมือไม่ได้
“ถูกต้อง ข้าเอง นางเป็นคนวางหนอนกู่ผีเสื้อโลหิตให้แม่ข้าเอง ทำให้หล่อนตายทั้งเป็น ได้รับความทุกข์ทรมาน แถมยังสังหารคนในตระกูลฝ่ายแม่ข้าด้วย
นางความผิดโทษมหันต์ ถึงตายก็ไม่สาสมกับความผิดหรือบาปกรรมที่ทำลงไป สิ่งเหล่านี้เจ้าคงได้ยินหมดแล้ว คาดว่าก็คงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว” หยุนถิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
นาง ไม่ได้ปิดบัง
วี่รั่วฉิงทรุดลงกับพื้น แต่ไม่อาจสนความเจ็บของร่างกายได้ “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง นี่เป็นสิ่งที่เซียวหลันจงใจใส่ร้ายท่านแม่?”
ตอนนั้นวี่รั่วฉิงอยู่ในห้องลับ และได้ยินสิ่งที่เซียวหลันกับหยุนถิงพูดนั้นอย่างชัดเจน ต่อให้ตายนางก็ไม่เชื่อ ท่านแม่ผู้เมตตามาโดยตลอดนั้นจะทำสิ่งที่ชั่วร้ายและเลวทรามเช่นนี้ออกมาได้
เหตุผลที่ช่วงนี้นางดูถูกตัวเองยินยอมที่จะล้าหลัง ไม่อยากตื่นมา ก็เพราะไม่สามารถเผชิญกับแม่ที่เป็นเช่นนี้ได้ในชั่วขณะ
ท่านแม่ที่เคยสูงส่ง มีฐานะ ปกครองทั่วทั้งเกาะเทียนหลง และฮูหยินเจ้าทะเลที่ได้รับความเคารพจากทุกคนในเกาะเทียนหลงนั้น แต่ลับหลังกลับชั่วร้าย โหดร้าย สังหารชีวิตคน แถมยังวางกู่ให้คนอื่น ซึ่งทำให้วี่รั่วฉิงรับไม่ได้เลย
หยุนถิงเห็นสีหน้าการแสดงออกของนางทุกอย่าง “เรื่องในคืนนั้น เจ้าก็ได้ยินหมดแล้ว ข้าไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ หากไม่ใช่เป็นเพราะนางคิดร้ายแม่ข้า ทำไมข้าต้องจากแคว้นต้าเยียนระยะทางที่ยาวไกลมายังเขตทะเลนิรนามด้วย
ยังมีคนอีกคนที่สามารถเป็นพยานให้เจ้าได้ นั่นก็คือเซียวหลัน ฮูหยินเจ้าทะเลคนปัจจุบัน! ” หยุนถิงทำเสียงเชอะอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินชื่อของเซียวหลัน วี่รั่วฉิงดึงชายเสื้อของหยุนถิงอย่างตื่นเต้น “ใช่ เซียวหลัน บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นเซียวหลันทำก็ได้ ต้องเป็นนางแน่ที่จงใจใส่ร้ายแม่ข้า เรื่องทรยศนางยังทำออกมาได้เลย บางทีอาจเป็นนางแต่เรื่องขึ้นมาเองก็ได้”
นี่เป็นข้อแก้ตัวและเหตุผลเดียวที่นางสามารถหาได้
“แต่น่าเสียดาย ทั้งหมดนี้เซียวหรูซื่อล้วนเป็นคนทำเอง ข้าถามเซียวหลันแล้ว ใช้ยาสารภาพความจริง กินยาสารภาพความจริงเข้าไปใครก็พูดเท็จไม่ได้” หยุนถิงทำเสียงเชอะ
มือของวี่รั่วฉิงที่ดึงชายเสื้อของหยุนถิงเอาไว้ ปล่อยลงโดยไม่รู้ตัว “ไม่ แม่ไม่ใช่คนแบบนั้น ต่อให้ตายข้าก็ไม่เชื่อ”
แม้ว่านางจะบอกว่าไม่เชื่อ แต่ก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ไม่เช่นนั้นนางก็คงไม่สงบเช่นนี้
“หากเจ้าอยากรู้คำตอบ สามารถไปถามเซียวหลัน นางสามารถปลอมตัวเป็นแม่เจ้ามาตั้งหลายปี คาดว่าคงรู้การกระทำและความประพฤติของแม่เจ้าดี” หยุนถิงทำเสียงเชอะ
“ใช่ เซียวหลัน ข้าจะไปหานาง ไม่ว่าเรื่องในตอนนั้นจะจริงหรือไม่ แต่เซียวหลันก็ต้องทำความผิดโทษมหันต์อย่างแน่นอน นางกล้ากักขังแม่ข้าเป็นเวลาหกปี และทรมานหล่อนจนตายทั้งเป็น ข้าสาบาน ตราบใดที่ข้ายังใีลมหายใจอยู่ จะไม่มีวันให้อภัยนาง!” วี่รั่วฉิงพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากพื้น
นางไม่ได้เดินไปที่ประตู แต่เดินไปหาหยุนถิง “ได้โปรดช่วยข้าด้วย จัดการเซียวหลันด้วยกัน!”
“ไม่ช่วย!” หยุนถิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
“ทำไม ทำไมเจ้าถึงไม่ช่วยข้า ข้ายอมเป็นวัวเป็นม้าให้เจ้า ขอแค่เจ้าช่วยข้าแก้แค้น ข้ายอมติดตามเจ้าทั้งชีวิต รับใช้เจ้า!”