จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 880 เจ้าอย่าคิดจะปฏิเสธข้าอีก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 880 เจ้าอย่าคิดจะปฏิเสธข้าอีก

“เพราะอะไร ข้าเป็นถึงจวิ้นจู่ที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในแคว้นเป่ยลี่ เสด็จอาของข้าก็คือฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยลี่ ทำไมเจ้าถึงไม่ชอบข้า?” เล่อหรันจวิ้นจู่ถามด้วยความงุนงง

จวินหย่วนโยวมองไปทางรั่วจิ่ง รั่วจิ่งรีบเข้ามารายงานทันที “ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย นี่คือเล่อหรันจวิ้นจู่แห่งแคว้นเป่ยลี่ มาพร้อมกับเป่ยเย่เหอเมื่อหลายวันก่อน

ฝ่าบาทคิดถึงซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่น้อย เรียกตัวพวกเขาเข้าวังโดยเฉพาะ ข้าน้อยนำองครักษ์เงามังกรส่งพวกเขาเข้าวังด้วยตัวเอง ทันเวลาได้พบกับเป่ยเย่เหอกับจวิ้นจู่น้อยพอดี

ตอนนั้นจวิ้นจู่น้อยคนนั้นเห็นซื่อจื่อน้อยของเรา ใบหน้าเต็มไปด้วยความยั่วยุ จะประลองกับซื่อจื่อน้อยให้ได้ แต่แล้วเล่นหนังสติ๊ก ปาลูกดอกลงเป้า ขี่ม้า ยิงธนู แม้แต่ดีดพิณฯลฯก็พ่ายแพ้ทั้งหมด

ตอนนั้นจวิ้นจู่น้อยโกรธจนร้องไห้วิ่งหนีไปพร้อม เดิมทีนึกว่าจวิ้นจู่น้อยคนนั้นจะเกลียดซื่อจื่อน้อยแล้ว ข้ายังกำชับองครักษ์ลับกับองครักษ์เงามังกรโดยเฉพาะว่าให้ปกป้องซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่น้อยให้ดีๆ แต่แล้ววันรุ่งขึ้นเล่อหรันจวิ้นจู่น้อยก็มา

นางถึงกับมาขอสงบศึก ยังบอกว่าชอบซื่อจื่อน้อยเข้าให้แล้ว ต้องการจะรับซื่อจื่อน้อยเป็นเขย แม้แต่ข้าก็ยังหมดคำพูดแล้ว เด็กสมัยนี้ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในหัวบ้าง

นี่อย่างไร เช้าตรู่วันนี้ จวิ้นจู่น้อยคนนี้ก็มาอีก เดิมทีเราต้องการจะขวางนางเอาไว้ แต่จะลงมือกับเด็กคนหนึ่ง ก็ทำไม่ลงเล็กน้อย ซื่อจื่อน้อยเป็นคนให้นางเข้าไป”

ฟังคำอธิบายของรั่วจิ่ง สีหน้าของจวินหย่วนโยวราบเรียบ “ในเมื่อเสี่ยวเทียนให้นางเข้าไป เช่นนั้นเขาจะต้องแก้ไขได้อย่างแน่นอน”

“คิดไม่ถึงว่าลูกชายข้าจะได้รับความนิยมขนาดนี้” หยุนถิงก้าวเท้าเดินเข้าไป

“ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยกลับมาแล้ว!” รั่วจิ่งจงใจตะโกนเสียงดัง

“ท่านพ่อ ท่านแม่!” จวินเสี่ยวเทียนวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจ กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของหยุนถิง

“ลูกชายคนเก่งของแม่ มาให้แม่ดูหน่อยเร็ว!” หยุนถิงเอ่ยปากอย่างมีความสุข

“อืม ท่านแม่ข้าคิดถึงท่านกับท่านพ่อมากเลย” จวินเสี่ยวเทียนกล่าวด้วยความดีใจ

“แม่ก็คิดถึงเจ้า อยู่บ้านเป็นเด็กดีเชื่อฟังหรือเปล่า?”

“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าเป็นเด็กดีที่สุดแล้ว” จวินเสี่ยวเทียนกล่าวอย่างได้ใจ

“เสี่ยวเหยียนล่ะ?” จวินหย่วนโยวไม่เห็นลูกสาว เอ่ยถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง

“นางไปเล่นที่ซวนอ๋อง”

จวินหย่วนโยวคิดไม่ตกว่าเหตุใดนังหนูน้อยคนนี้ถึงได้ชอบโม่เหลิ่งเหยียนนัก

“จวินเสี่ยวเทียน ท่านแม่ของเจ้าช่างงดงามเหลือเกิน ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงที่งดงามขนาดมาก่อน ท่านงดงามกว่าอาสะใภ้ที่เสด็จอาข้าเพิ่งแต่งงานด้วยมากนัก” เล่อหรันจ้องมองหยุนถิง อดที่จะกล่าวชมไม่ได้

หยุนถิงเลิกคิ้ว “เสด็จอาของเจ้า เป่ยหมิงฉี่?”

“ใช่แล้ว ข้าเป็นถึงจวิ้นจู่น้อยที่เสด็จอารักและเอ็นดูที่สุด ว่ากันว่าอาสะใภ้ที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วยงดงาม แต่ข้ารู้สึกว่ายังสู้หนึ่งในหมื่นของซื่อจื่อเฟยไม่ได้ ข้าไม่ชอบนางเลยสักนิด!” เล่อหรันจวิ้นจู่บ่น

“เป่ยหมิงฉี่แต่งตั้งฮองเฮาแล้ว?” หยุนถิงขมวดคิ้ว

เขาแต่งตั้งฮองเฮา แต่กลับไม่ส่งบัตรเชิญมาให้ตนเอง?

“ครั้งนี้เสด็จอาส่งข้ากับเสด็จอาสามมา ก็เพื่อส่งบัตรเชิญให้กับจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟย แต่ว่าบัตรเชิญอยู่ที่เสด็จอาสาม” เล่อหรันตอบ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”

“จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ข้าชอบจวินเสี่ยวเทียน ข้าเป็นลูกสะใภ้ให้พวกท่านเป็นเช่นไร?” เล่อหรันถามออกมาโดยไม่แม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ

มุมปากของหยุนถิงกระตุกขึ้นมา แล้วก็มองดูนางอย่างจริงจังอีกครู่หนึ่ง

“ลูกชายของข้า——-” คำพูดของจวินหย่วนโยวยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกหยุนถิงตัดบท

“จวิ้นจู่น้อยดูแล้วก็ไม่เลว แต่ว่าคนของจวนซื่อจื่อเราแต่งงานไม่ให้ความสำคัญเรื่องความเหมาะสมทางด้านฐานะการเงินและสถานะทางสังคม ยิ่งไม่ให้ความสำคัญเรื่องตำแหน่งฐานะ ขอเพียงรักชอบกันและกันด้วยความจริงใจ อยู่กับคนที่ตัวเองรักก็พอ

เจ้าก็แค่รู้สึกว่าเสี่ยวเทียนแตกต่างจากลูกท่านหลานเธอที่เจ้าเคยเจอเหล่านั้นเท่านั้น เขาไม่ได้ประจบประแจง เอาอกเอาใจเจ้าเหมือนพวกเขาเช่นนั้น แถมยังเอาชนะเจ้าอีก ดังนั้นเจ้าก็เลยรู้สึกว่าเขาแตกต่างออกไป

นี่ไม่ใช่ความชอบ มันเป็นเพียงความไม่พอใจเท่านั้น เล่อหรันจวิ้นจู่ยังเด็ก รอให้เจ้าเข้าใจว่าอะไรคือความชอบค่อยว่ากันเถอะ!” หยุนถิงตอบ

เล่อหรันถูกพูดแทงใจดำ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “เช่นนั้นท่านบอกข้ามา คืออะไรความชอบ?”

หยุนถิงไม่ได้ตอบคำถามอีก แต่จูงมือของจวินหย่วนโยวขึ้นมา “ท่านพี่ ข้าเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล เราไปพักผ่อนกันเถอะ”

“ตกลง!”

เมื่อจวินเสี่ยวเทียนเห็นว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะจากไป ก็ลนลานขึ้นมาทันที “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่สนใจข้าแล้วหรือ?”

“หาเรื่องมาเอง ก็แก้ไขเอง” หยุนถิงทิ้งคำพูดเอาไว้ประโยคหนึ่ง ก็จูงมือของจวินหย่วนโยวจากไป

จวินเสี่ยวเทียนได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง “ท่านปู่พ่อบ้าน ท่านพ่อกับท่านแม่เก็บข้ามาเลี้ยงใช่ไหม เมื่อครู่พวกเขายังบอกว่าคิดถึงข้าอยู่เลย?”

พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างเต็มไปด้วยความจนใจ “ซื่อจื่อน้อย ท่านเป็นลูกแท้ๆของซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยอย่างแน่นอน ท่านกับจวิ้นจู่น้อยเป็นแฝดชายหญิง ซื่อจื่อเฟยน่าจะหมายความว่าให้ท่านต้อนรับเล่อหรันจวิ้นจู่”

จวินเสี่ยวเทียนมองไปทางเล่อหรันด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ข้าไม่ชอบเจ้า ข้าพูดชัดเจนมากแล้ว”

“เจ้าไม่ชอบข้า เช่นนั้นเจ้าชอบใคร?” เล่อหรันถามด้วยความไม่พอใจ

“ข้าชอบผู้หญิงอย่างท่านแม่ข้า ฉลาดมีความรู้ความสามารถทั้งยังหน้าตาดี มีสติปัญญาเฉียบแหลมและมีสายตายาวไกล ไม่เพียงหาเงินเป็น ยังสามารถหาเงินเลี้ยงครอบครัว สามารถสร้างอาวุธ แถมยังทำชุดนอนให้ข้า ทำของอร่อยๆ——–” เอ่ยถึงท่านแม่ จวินเสี่ยวเทียนมีแต่คำชมไม่รู้จบ

เล่อหรันได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างแรง “ดูเหมือนนอกจากหน้าตาดีแล้ว เรื่องอื่นๆข้าไม่เป็นอะไรเลย”

“ดังนั้นจวิ้นจู่น้อย พวกเรารีบกลับไปกันเถอะ” สาวใช้ที่ติดตามนางมา เอ่ยปากเสียงเบา

“จวินเสี่ยวเทียนเจ้ารอก่อน ช้าเร็ววันหนึ่งข้าจะต้องเก่งกาจเหมือนท่านแม่ของเจ้าให้ได้ ถึงเวลานั้นเจ้าอย่าคิดที่จะปฏิเสธข้าอีก!” เล่อหรันจากไปด้วยความโมโห

จวินเสี่ยวเทียนถึงได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง หันหลังไปเล่นกับท่านพ่อท่านแม่

และทางด้านนี้ จวนหลีอ๋อง

เป่ยเย่เหอได้ยินว่าจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยไม่อยู่ ไม่ได้ไปที่จวนซื่อจื่อ แต่ไปที่จวนหลีอ๋อง

ได้ยินว่าเสด็จพี่จะแต่งตั้งฮองเฮา เป่ยตันเสวี่ยยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“เสด็จพี่แต่งตั้งฮองเฮานี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ ข้าจะต้องกลับไปร่วมพิธีแต่งตั้งฮองเฮาของเขาพร้อมกับท่านอ๋องอย่างแน่นอน!” เป่ยตันเสวี่ยเอ่ยปาก

ใบหน้าของหลีอ๋องโม่ฉือหานที่อยู่ด้านข้างกลับเต็มไปด้วยความเฉยเมยดุจน้ำแข็ง เป่ยหมิงฉี่แต่งตั้งฮองเฮาเกี่ยวอะไรกับตนเอง เขาไม่ได้ลืมว่าก่อนหน้านี้เขากับโม่หลานโจมตีแคว้นเป่ยลี่ ตัวเองถูกเป่ยหมิงฉี่จับและทำให้อับอายขายหน้าอย่างไรบ้าง

หากสามารถทำได้ โม่ฉือหานจะต้องถลกหนังเลาะเส้นเอ็นของเขา ป่นกระดูกให้กลายเป็นเถ้าถ่านแน่นอน

เขากำลังจะปฏิเสธ ก็ได้ยินเป่ยเย่เหอเอ่ยปากอีกครั้ง “ครั้งนี้ เสด็จพี่กำชับข้ามาโดยเฉพาะ ให้ข้าเชิญจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยไปชมพิธี แต่พวกเขาไม่อยู่ทั้งคู่ ข้าไม่รู้ว่าควรจะกลับไปอธิบายกับเสด็จพี่อย่างไรเลย”

โม่ฉือหานที่เดิมทีคิดจะปฏิเสธเมื่อได้ยินคำพูดนี้ จู่ๆก็เปลี่ยนคำพูดกะทันหัน “วันนี้พวกเขาเพิ่งกลับมาถึงจวนซื่อจื่อ!”

เป่ยเย่เหอตกตะลึง “ท่านอ๋องคำพูดนี้เป็นความจริงหรือ?”

“เจ้าคิดว่าข้ามีความจำเป็นต้องหลอกเจ้าหรือ?” โม่ฉือหานกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

เป่ยเย่เหอถึงได้ตระหนักขึ้นมาได้ว่าตนเองเสียมารยาทไป “ท่านอ๋องโปรดอภัย ข้าเพียงแค่ตื่นเต้นมากเกินไปเท่านั้น ในเมื่อจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยกลับมาแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่รบกวนแล้ว!” พูดจบก็หันหลังจากไป

เป่ยตันเสวี่ยมองไปทางโม่ฉือหาน กำลังคิดจะพูดอะไร ทันใดนั้นก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา ยื่นมือไปปิดปากเอาไว้โดยสัญชาตญาณ

“ข้ายังมีธุระ เจ้าพักผ่อนให้ดีๆเถอะ!” โม่ฉือหานทิ้งคำพูดเอาไว้ประโยคหนึ่ง ก็จากไปโดยตรง

ระหว่างคิ้วและตาของเป่ยตันเสวี่ยแฝงไปด้วยความผิดหวัง ตอนแต่งงานใหม่ๆหลีอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางดี ตอนนี้กลับไม่แยแสมากยิ่งขึ้น นี่ทำให้เป่ยตันเสวี่ยเกลียดชังหยุนถิงมากยิ่งขึ้น

หากว่าครั้งนี้ พวกเขาได้ไปเข้าร่วมงานแต่งงานของเสด็จพี่ที่แคว้นเป่ยลี่จริงๆ ก็ถือว่าเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง พอถึงแคว้นเป่ยลี่แล้วก็เป็นถิ่นของตัวเอง อยากจะกำจัดหยุนถิงต้องง่ายดายกว่าทำที่แคว้นต้าเยียนอย่างแน่นอน

คิดถึงตรงนี้ ดวงตาคู่สวยของเป่ยตันเสวี่ยมีความโหดเหี่ยมเล็กน้อยแว๊บผ่านไป

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท