จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 881 ชาตินี้จะไม่มีวันผิดต่อเจ้า
อีกด้านเป่ยเย่เหอรีบพุ่งไปจวนซื่อจื่อทันที ทหารยามรีบพาเขาเข้าไป
“คารวะจวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ครั้งนี้ข้ามามอบเทียบเชิญแทนเสด็จพี่ อีกหนึ่งเดือนให้หลังเสด็จพี่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรส เขาหวังว่าจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยจะให้เกียรติไปร่วมงานด้วย” เป่ยเย่เหอยื่นเทียบเชิญให้อย่างนอบน้อม
รั่วจิ่งรีบเข้ามารับเทียบเชิญนั้นและยื่นให้ทันที “ซื่อจื่อเฟย!”
จวินหย่วนสีหน้าเย็นชาเป็นปกติ ไม่ขยับเปลือกตาขึ้นมองเลยสักนิด รั่วจิ่งรู้ดีว่า ซื่อจื่อต้องไม่เสียเวลาไปแน่ ดังนั้นเขาเลยได้แต่ยื่นให้ซื่อจื่อเฟย
หยุนถิงรับมาเปิดดู “เขาแต่งงานกับคุณหนูบ้านไหน?”
“บุตรสาวภรรยาเอกของตระกูลรั่ว รั่วเฟิงซี!” เป่ยเย่เหอตอบ
รั่วเฟิงซี หยุนถิงรู้ดีอยู่แล้ว บุตรสาวภรรยาเอกที่เป็นตระกูลเก่าแก่อันดับหนึ่งของแคว้นเป่ยลี่ อยู่มาเป็นร้อยปี รัชราชการขุนนางมาสามสมัย ฐานะสูงส่ง รั่วเฟิงซีเฉลียวฉลาดมีไหวพริบ เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊ สง่างามมีมารยาท นับเป็นสตรีที่มากด้วยความสามารถคนหนึ่งเลย
“สายตาเขาไม่เลว เจ้ากลับไปบอกเป่ยหมิงฉี่นะว่าข้าจะไปร่วมงานด้วย” หยุนถิงตอบ
“ขอบคุณซื่อจื่อเฟย เช่นนั้นข้ามิรบกวนแล้ว!” เป่ยเย่เหอหมุนตัวจากไป
“ถิงเอ๋อร์ สถานที่ธุรกันดารเช่นนั้นไม่ไปก็ได้ เดินทางเหน็ดเหนื่อยสู้อยู่บ้านพักผ่อนไม่ได้” จวินหย่วนโยวบอกเสียงเรียบ
“มิเป็นไร ระยะนี้ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนเลย ดังนั้นข้าเลยคิดจะอาศัยโอกาสครั้งนี้พาพวกเขาสองคนไปด้วย คิดซะว่าไปเที่ยวแล้วกัน พอดีเลยข้าจะได้ไปรู้จักรั่วเฟิงซีคนนี้ด้วยเลย หากนางมิใช่แรงสนับสนุนที่ดีของเป่ยหมิงฉี่ ต่อไปเราต้องระวังนางไว้ให้ดี” หยุนถิงตอบ
“เอาตามเจ้าแล้วกัน”
“แต่ก่อนจะไปแคว้นเป่ยลี่ ต้องจัดการงานแต่งงานของรั่วจิ่งกับหลันซานให้เสร็จก่อน” หยุนถิงเสนอ
รั่วจิ่งที่ยืนข้างๆยิ้มเก้อเขิน “ซื่อจื่อเฟย อันที่จริงพวกเรามิรีบร้อนดอก”
“ไม่รีบ เมื่อคืนเจ้ายังปีนหน้าต่างห้องหลันซานอยู่เลยนะ” หยุนถิงแสร้งเย้าเขา
รั่วจิ่งหน้าแดงจนถึงคอทันที “ซื่อจื่อเฟย ข้าแค่ แค่กลัวหลันซานนอนไม่หลับ”
“ต่อไปพวกเจ้าก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเปิดเผยแล้ว!” จวินหย่วนโยวบอก
“เรือนและสินสอด สินสมรสของพวกเจ้าก่อนหน้านี้จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพแล้ว เพียงแต่ระยะนี้ล่าช้าไปเพราะเรื่องเขตทะเลนิรนาม อีกสามวันข้าจะจัดพิธีแต่งงานให้พวกเจ้านะ!” หยุนถิงเสนอ
รั่วจิ่งซาบซึ้งยิ่งนัก ยกมือคารวะ “ขอบคุณซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย!”
“แต่ฐานะของหลันซานพิเศษ จะจัดยิ่งใหญ่มากไม่ได้ กลัวว่าจะมีใครจำฐานะของหลันซานได้แล้วเอาไปโพนทะนา มีกินเลี้ยงแค่คนสนิทคุ้นเคยอย่างพวกเราแล้วกัน เพียงแต่แบบนี้จะทำให้หลันซานน้อยเนื้อต่ำใจไปสักหน่อย” หยุนถิงพูดความกังวลของตนออกมา
“ไม่น้อยใจเลย!” หลันซานเดินเข้ามาพอดี พอได้ฟังคำพูดของจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยแล้ว นางก็ซาบซึ้งใจยิ่งนัก
“หลันซาน เจ้ามาได้อย่างไรน่ะ?” รั่วจิ่งรีบถาม
“ข้าผ่านมาพอดี เดิมอยากมารายงานเรื่องร้านค้ากับซื่อจื่อเฟย สุดท้ายได้ยินบทสนทนาของพวกท่านพอดี ซื่อจื่อเฟย ข้าไม่น้อยใจหรอก ขอเพียงได้อยู่กับรั่วจิ่ง อันที่จริงไม่จัดพิธีแต่งงานพวกนี้ก็ไม่เป็นไร” หลันซานตอบ
รั่วจิ่งซาบซึ้งยิ่งนัก ยื่นมือไปกุมมือหลันซานไว้ “หลันซาน ขอบใจเจ้ามากนะ ชาตินี้ข้าไม่มีทางผิดต่อเจ้าแน่!”
“อืม ข้าเชื่อเจ้า!”
หยุนถิงเห็นพวกเขาเป็นแบบนี้แล้วยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
อีกสามวันต่อมา รั่วจิ่งในชุดแดงขี่ม้าตัวสูงใหญ่ ขบวนรับเจ้าสาวด้านหลังเอิกเกริกยิ่งใหญ่ จากเรือนใหม่อ้อมจวนซื่อจื่อพลางวนสามรอบ ถึงได้มาหยุดหน้าประตูจวนซื่อจื่อ
ซูหลินและเยว่เอ๋อร์ช่วยหลันซานสวมชุดเจ้าสาว หยุนถิงหวีผมให้นาง “เห็นเจ้ากับรั่วจิ่งสมหวังได้แต่งงานกัน ข้าล่ะดีใจกับพวกเจ้าจริงๆ”
หลันซานมองดูตนเองในกระจกที่สวมชุดเจ้าสาว ดวงตาแดงก่ำทันที ลุกขึ้นคุกเข่าให้หยุนถิง “ขอบคุณซื่อจื่อเฟยนัก หากมิใช่ท่าน ก็ไม่มีชีวิตใหม่ของข้าตอนนี้”
“รีบลุกขึ้นเถิด เกรงใจอะไรข้ากัน รั่วจิ่งน่ะคู่ควรพอให้ฝากชีวิตไว้ ข้าอวยพรพวกเจ้านะ” หยุนถิงพยุงนางลุกขึ้น
“ใช่ หลันซาน วันนี้เป็นวันมงคลของเจ้านะ มีความสุขหน่อย เจ้าบ่าวมารอหน้าประตูแล้ว ไปเถอะ พวกข้าจะส่งเจ้าออกไป” ซูหลินหยิบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้นมา
“ใช่ ข้าจะแต่งงานกับรั่วจิ่งอย่างมีความสุข”
หยุนถิงคลุมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวให้นางด้วยตัวเอง และส่งนางออกเรือน
รั่วจิ่งเห็นหลันซานออกมา ก็ดีใจยิ้มหน้าบาน ในที่สุดเขาก็รอจนถึงวันนี้จนได้
“รั่วจิ่ง เลิกยิ้มบื้อได้แล้ว รีบไปพาเจ้าสาวกลับไปกราบไหว้ฟ้าดินเสีย!” หลู่หวางเฟยที่มาช่วยงานรีบบอก
“ได้เลย!” รั่วจิ่งกระโดดขึ้นม้า คนรับใช้และแม่สือพยุงหลันซานขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว จากนั้นขบวนทั้งหมดก็จากไป
จวินหย่วนโยวเดินเข้ามาจูงมือหยุนถิง “ไปกันเถอะ!”
“ได้เลย!”
เรือนใหม่
จวินเสี่ยวเทียนและจวินเสี่ยวเหยียนใส่ชุดแดง ในมือถือตะกร้าดอกไม้ เดินนำหน้าเจ้าสาว โปรยดอกไม้ไปพลาง ร้องตะโกนว่าอยู่คู่กันปรอง
ดองเป็นร้อยปีไปพลาง ทุกคนพากันมองอย่างยินดีและตื่นเต้น
รั่วจิ่งพาเจ้าสาวเดินเข้ามา คนที่นั่งเป็นประธานคือหยุนถิง จวินหย่วนโยว และยังมีพวกฮูหยินเฒ่าฟู่ หยุนเฉิงเซี่ยงด้วย
“ในที่สุดพวกเขาสองคนก็แต่งงานกันเสียดี ดียิ่งนัก” โม่หลานบอกอย่างดีใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว จวินหย่วนโยวน่ะยกเรือนข้างๆให้รั่วิจิ่งเป็นเรือนหอ เห็นได้ชัดว่าให้ความสำคัญกับเขายิ่งนัก” เฉินอ๋องบอกอย่างเห็นด้วย
ฉิงจิ้งอี๋และจ้าวเคอที่จูงลูกมาด้วย หลู่หวางสีหน้ายินดีปรีดา หยวนเป่าถือขนมกินอยู่ พวกซูชิงโยวก็มากันหมด ล้วนเป็นคนที่ปกติสนิทสนมคุ้นเคยกันดี
“ได้เวลาฤกษ์แล้ว คู่บ่าวสาวคำนับฟ้าดินได้!” เฉินอ๋องทำหน้าที่ผู้ดำเนินการให้พวกเขาด้วยตัวเอง เกียรตินี้ไม่มีใครเหมือนนะ
รั่วจิ่งกับหลันซานกราบไหว้เสร็จ เฉินอ๋องตะโกนอีก “คำนับประธาน!”
ทั้งสองกำลังจะคำนับ พลันมีเสียงเป็ดแปดหลอดของขันทีตะโกนขึ้นว่า “ฝ่าบาทเสด็จ!”
ทุกคนตกใจมาก พากันหันไปมองด้านนอก หยุนถิงยิ่งขมวดคิ้ว ฮ่องเต้มาเวลานี้ได้อย่างไร หรือว่าเขารู้ฐานะของหลันซานแล้ว?
จวินหย่วนโยวยกมือกุมมือหยุนถิงไว้ “วางใจเถอะ มีข้าอยู่!”
“อืม!”
หลันซานที่อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าชะงักกึก เสด็จพี่มาตอนนี้ หรือว่ามาหาเรื่องกัน?
รั่วจิ่งมองออกว่าหลันซานแข็งค้าง เขยิบเข้ากระซิบปลอบว่า “อย่ากลัวไปเลย รอดูไปก่อน”
แขกเหรื่อด้านนอก ฮ่องเต้ในชุดมังกรสีเหลืองทอง ดูองอาจทรงอำนาจ บรรยากาศแข็งกล้านัก หว่างคิ้วฉายแววสุขุมนุ่มลึก เดินก้าวเท้ายาวเข้ามา
“ถวายบังคมฝ่าบาท!” ทุกคนพากันคารวะ
“ตามสบายเถิด!” ฮ่องเต้เดินไปที่ประธาน
“ฝ่าบาทวันนี้เสด็จมาด้วยเรื่องใดรึ?” จวินหย่วนโยวถาม
“ไม่มีอะไร วันนี้ข้าออกจากวังมาเดินเล่น ผ่านมาทางนี้พอดี ได้ยินว่าองครักษ์รั่วจิ่งของเจ้าแต่งงาน เลยแวะมาร่วมสนุกด้วย ทำไม ไม่ต้อนรับข้ารึ?” ฮ่องเต้ย้อนถาม
“ฝ่าบาทพูดอะไรกัน รั่วจิ่งแต่งงานมีฝ่าบาทเป็นประธานให้ มันถือเป็นบุญวาสนาของเขากับเจ้าสาวแล้ว เชิญฝ่าบาทประทับเลย คำนับประธาน พระองค์เป็นประมุขแห่งแผ่นดิน ถือเป็นเกียรติของพวกเขายิ่งนัก!” หยุนถิงรีบบอกทันที
ฮ่องเต้พอใจมาก เดินไปนั่งที่ประธาน
รั่วจิ่งถึงแอบถอนหายใจโล่งอก ร่างกายแข็งตึงของหลันซานจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพียงแต่ในใจยังแอบสงสัย เสด็จพี่แค่บังเอิญผ่านมาจริงรึ?