จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 933 ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 933 ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า

“หลายวันมานี้เด็กคนนี้ร้องไห้งอแงอยู่ตลอด นอนหลับไปแล้วก็ยังร้องไห้จนตื่น กินก็น้อยลงไปกว่าแต่ก่อนมาก หมอหลวงในโรงหมอหลวงก็หาหมดแล้ว หมอก็ไปหาแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังตรวจไม่พบปัญหาใดๆ ข้าจนหนทางแล้วจริงๆได้แต่มาหาเจ้าเท่านั้น!” โม่ฉือหานลดท่าทีลงมาตอบ

อย่างไรเสียก่อนหน้านี้เขากับหยุนถิงก็ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงมาก่อน ความจริงเขาก็ไม่แน่ใจว่าหยุนถิงจะช่วยตัวเองหรือไม่

“อุ้มเด็กมาให้ข้าดูหน่อย” หยุนถิงเอ่ยปากทันที

โม่ฉือหานชะงักงัน คิดไม่ถึงว่าหยุนถิงจะรับปากอย่างง่ายดายเช่นนี้ รีบอุ้มเด็กเข้ามาทันที

หยุนถิงจับชีพจรให้เด็ก แล้วก็ตรวจสอบอีกครั้ง ก็ไม่ได้พบว่าเด็กมีความผิดปกติตรงไหน

“เป็นอย่างไรบ้าง เด็กคนนี้เป็นอะไรกันแน่?” โม่ฉือหานถามด้วยความเป็นห่วง

“ตอนนี้ยังไม่เห็นความผิดปกติ ข้าต้องกลับไปตรวจให้เขาอย่างละเอียดที่จวนซื่อจื่อ ท่านตามข้าไปที่จวนซื่อจื่อเถอะ” หยุนถิงตอบ

“ตกลง ขอบคุณมาก” โม่ฉือหานกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ

จวินหย่วนโยวก็ไม่ได้พูดอะไร อย่างไรเสียเด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์ “หลิงเฟิง รีบกลับไปเร็ว”

“ขอรับ!”

จวนซื่อจื่อ

เมื่อรถม้าหยุดลง หยุนถิงก็อุ้มเด็กลงจากรถม้าทันที “เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนไปเล่นกันท่านพ่อก่อน แม่จะตรวจรักษาให้น้องชายน้อยคนนี้ก่อน”

“ขอรับท่านแม่ ท่านไปทำธุระเถอะ ต้องรักษาน้องชายน้อยให้หายดีให้ได้นะ” จวินเสี่ยวเทียนเอ่ยปาก

“ใช่แล้วท่านแม่ รอให้เขาหายดีแล้วยังสามารถเล่นกับเราอีกด้วย” จวินเสี่ยวเหยียนคล้อยตาม

โม่ฉือหานได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก มองดูท่าทางที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ของเด็กน้อยสองคน รู้สึกละอายใจไม่สิ้นสุด

หากพวกเขารู้ว่า ตนเองเคยทำเรื่องเช่นนั้นกับท่านแม่ของพวกเขามาก่อน ไม่รู้ว่ายังจะพูดเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่

“ตกลง แม่จะทำอย่างสุดความสามารถ” หยุนถิงพูดจบ ก็อุ้มเด็กเดินตรงไปทางลานหลัง

โม่ฉือหานก้าวเท้าเดินตามไป จวินหย่วนโยวมองดูครู่หนึ่ง ให้ซูหลินกับเยว่เอ๋อร์พาเด็กสองคนไปพักผ่อน ตัวเองก็ตามไปเช่นกัน เขาไม่ไว้ใจโม่ฉือหานหรอก ถ้าหากเขามาหาเรื่องล่ะ

หยุนถิงกลับไปที่เรือนไผ่ อุ้มเด็กเข้าไปในห้องผ่าตัด และหยิบอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกมาตรวจให้เด็กทันที

และกู้จิ่วเยวียนก็ย้ายจากเตียงผ่าตัดเข้าไปในห้องนั่งเล่นด้านในแล้ว เริ่นเซวียนเอ๋อร์ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็เดินออกมาทันที ทันทีที่เห็นหยุนถิงอุ้มเด็กสองคนเข้ามา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“หยุนถิง เด็กคนนี้คงจะไม่ใช่ลูกของเจ้ากับจวินหย่วนโยวใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ เขาเป็นลูกชายของโม่ฉือหาน!” หยุนถิงตอบ

“อะไรนะ เจ้าถึงกับช่วยรักษาลูกชายของโม่ฉือหาน เจ้าลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาทำให้เจ้าอับอายอย่างไร?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถามขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ

เพราะกลัวรบกวนการพักผ่อนของกู้จิ่วเยวียน ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งคนเฝ้ารักษาการณ์ที่เรือนไผ่ โม่ฉือหานที่เดินมาถึงหน้าประตูได้ยินคำพูดของเริ่นเซวียนเอ๋อร์เข้าพอดี

เท้าที่ยกขึ้นมาของเขาค้างอยู่กลางอากาศ อยากจะรู้คำตอบของหยุนถิงเช่นกัน

“บุญคุณความแค้นระหว่างผู้ใหญ่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ ตอนนี้ลูกของเขามีความผิดปกติ คนอื่นๆไม่สามารถรักษาได้ ในเมื่อมาขอร้องข้า ข้าย่อมไม่สามารถนั่งดูเฉยๆได้อยู่แล้ว

ตอนนั้นเขาปฏิบัติต่อข้าเช่นนั้น มันเกินไปจริงๆ แต่ข้าก็ไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่ายๆ ข้าก็แก้แค้นไปแล้ว ดังนั้นระหว่างข้ากับเขาไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว

ชีวิตหนึ่งของคนเราก็ยืนยาวได้แค่นี้ ข้าไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับความเกลียดชังในอดีตไปตลอด ตอนนี้ข้ามีท่านพี่ที่รักและทะนุถนอมข้า ยังมีลูกสองคน ข้าพอใจมากแล้ว” ขณะที่ตอบ หยุนถิงก็ตรวจรักษาให้เจ้าเด็กน้อยไปด้วยทันที

“ที่พูดมาก็ถูก เอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในความโกรธแค้นและความเจ็บปวดในอดีตมันเสียเวลาชีวิตจริงๆ เจ้าเป็นคนที่เปิดใจได้กว้างจริงๆ” เริ่นเซวียนเอ๋อร์กล่าวด้วยความนับถือ

“มีลูกแล้วเจ้าก็จะพบว่า เรื่องอื่นๆไม่มีอะไรสำคัญเลย กำลังกายกำลังใจทั้งหมดของเจ้าจะไปอยู่ที่ลูก ไม่มีเวลาและพลังไปคิดเรื่องอื่นเลยด้วยซ้ำ” หยุนถิงกล่าว

“ข้ายังไม่มีลูก ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ว่าเสด็จอาเก้าของข้าบอกแล้วว่า ต่อไปเขาจะพยายามให้มาก ให้กำเนิดหลายๆคนไม่ให้น้อยกว่าเจ้าและจวินหย่วนโยว” เริ่นเซวียนเอ๋อร์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

นางเพิ่งจะพูดจบ ด้านในก็มีเสียงไอเบาๆของกู้จิ่วเยวียนดังมา ทันทีที่เริ่นเซวียนเอ๋อร์ได้ยิน ก็หันหลังเข้าไปดูกู้จิ่วเยวียนทันที

และโม่ฉือหานที่อยู่ด้านนอกประตูความคิดวกไปวนมาเป็นพันๆครั้ง ชาตินี้เขาคนที่ทำผิดด้วยมากที่สุดก็คือหยุนถิง

จวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านหลังก็ได้ยินคำพูดของหยุนถิงเช่นกัน มุมปากยกสูงขึ้นมา

“หลีอ๋อง ท่านเข้ามา!” หยุนถิงเรียกออกมาเบาๆ

โม่ฉือหานสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง รีบเดินเข้าไปทันที ก็เห็นหยุนถิงกำลังใช้มือนวดท้องให้เด็กเบาๆ

“ผลตรวจร่างกายของเจ้าหนูคนนี้ล้วนไม่มีปัญหาอะไร น่าจะเป็นอาการจุกเสียดในช่องท้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน เพียงแต่ว่าเด็กบางคนปวดรุนแรง บางคนปวดน้อยหน่อยเท่านั้น

ท่านดูวิธีนวดของข้าให้ดี ช่วยเด็กนวดหน้าท้องไปตามเข็มนาฬิกา แรงนวดต้องเบา ทุกครั้งหลังดื่มนมรอให้เด็กย่อยระยะเวลาหนึ่งก่อนก็สามารถนวดได้แล้ว วันหนึ่งนวดกี่ครั้งก็ได้

ข้าจะให้จุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายกับท่าน อันนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อเด็กที่มีอาการจุกเสียดในช่องท้อง ตอนนี้ให้แม่นมบีบนมใส่ช้อน แล้วผสมจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายจากนั้นค่อยป้อนให้เด็ก

อีกหน่อยหากสามารถดื่มน้ำได้แล้ว ค่อยผสมน้ำให้ดื่ม สามารถกินจนถึงสองสามขวบ อันนี้สามารถปรับสมดุลลำไส้และกระเพาะอาหาร เด็กท้องเสียหรือท้องผูกล้วนได้ทั้งนั้น” หยุนถิงกล่าวอย่างอดทน

โม่ฉือหานฟังอย่างตั้งใจ จดวิธีการนวดของหยุนถิงเอาไว้ ก็เห็นลูกชายหยุดร้องไห้แล้วจริงๆ “เขาหยุดร้องไห้แล้วจริงๆ”

“ต่อไปหากเด็กไม่สบายตรงไหน ท่านก็พาเขามาหาข้าได้เลย” ขณะที่พูด หยุนถิงก็หยิบจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายให้กับโม่ฉือหาน บอกปริมาณและวิธีใช้ให้กับเขา

“ขอบคุณมาก ข้ากลับไปแล้วจะให้คนส่งตั๋วเงินมาให้” โม่ฉือหานรับมา

“ไม่ต้อง ถือว่าข้ามอบให้กับเด็ก นี่คือปริมาณสำหรับหนึ่งเดือน ต่อไปทุกๆต้นเดือนมาเอาที่จวนซื่อจื่อก็พอ” หยุนถิงเอ่ยปาก

มือที่จับยาเอาไว้ของโม่ฉือหานสั่นเทาขึ้นมาอย่างรุนแรง หยุนถิงไม่เพียงรักษาให้เด็กโดยไม่ถือสาเรื่องในอดีต แถมยังมอบยาให้อีก โม่ฉือหานพยายามระงับการตำหนิตัวเอง ละอายใจ เสียใจภายหลังและรู้สึกผิดในใจเอาไว้ เดินเข้ามาอุ้มลูกแล้วก็ก้าวเท้าจากไป

ในตอนที่เดินไปถึงหน้าประตู โม่ฉือหานก็หยุดฝีเท้าลง หันหลังให้กับหยุนถิงและกล่าวขึ้นมาคำหนึ่ง “หยุนถิงขอโทษด้วย เรื่องในตอนนั้นข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”

ทิ้งคำพูดประโยคนี้เอาไว้ โม่ฉือหานก็อุ้มลูกจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลย

มองดูแผ่นหลังของเขา มุมปากของหยุนถิงยกขึ้นมาอย่างปลื้มใจเล็กน้อย

หลีอ๋องผู้หยิ่งทะนงขนาดนั้น ถึงกับขอโทษตัวเองแล้ว นาทีนี้หยุนถิงกลับรู้สึกไม่สมจริงเล็กน้อย

“ถิงเอ๋อร์ เจ้าได้ยินไม่ผิด เมื่อครู่นี้โม่ฉือหานเพิ่งจะขอโทษเจ้า” จวินหย่วนโยวเดินเข้ามากล่าว

“โม่ฉือหานเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”

“หากรู้ก่อนว่าจะเป็นอย่างเช่นตอนนี้ ก็คงไม่ทำตั้งแต่แรก แต่ก็ต้องขอบคุณที่เขาทำเช่นนั้นในตอนนั้น มิเช่นนั้นข้าจะได้แต่งงานกับเจ้าได้อย่างไร” จวินหย่วนโยวกล่าวเย้าแหย่

หยุนถิงยิ้มอย่างจนใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก

ห้องนั่งเล่นด้านใน กู้จิ่วเยวียนปั้นหน้าเคร่งขรึมกล่าวขึ้นมาว่า “คำพูดเมื่อครู่นี้ห้ามพูดส่งเดชอีก โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น ไม่รู้จักอายเสียบ้าง”

“หยุนถิงไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย เสด็จอาเก้าท่านอย่าโกรธไปเลย หยุนถิงบอกแล้วว่าหากท่านโกรธจะส่งผลเสียต่อบาดแผล จะทำให้อกแตกตายได้” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ทำหน้าไร้เดียงสา

กู้จิ่วเยวียนไอขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้รบกวนไปถึงหยุนถิงที่อยู่ด้านนอก นางเดินเข้ามาจับชีพจรให้กู้จิ่วเยวียนทันที “ไม่สบายตรงไหนใช่ไหม?”

“เสด็จอาเก้าของข้าโกรธที่ข้าบอกว่าต่อไปจะมีลูกเยอะๆ” เริ่นเซวียนเอ๋อร์อธิบายโดยตรง

หยุนถิงยังรู้สึกขบขันไปกับนาง “เซ่อเจิ้งอ๋องอยู่กับเริ่นเซวียนเอ๋อร์ ต้องเตรียมพร้อมถูกทำให้อกแตกจนตาย”

“ไม่เป็นไร นังหนูคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมาเช่นนี้แหละ” ถึงแม้น้ำเสียงของกู้จิ่วเยวียนจะตำหนิเล็กน้อย แต่เสียงกลับตามใจอย่างมาก

“ใช่แล้วหยุนถิง งานแต่งงานของข้ากับเสด็จอาเก้าข้าอยากได้งานแต่งงานที่แตกต่างออกไป เจ้ามีความคิดดีๆหรือไม่?”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท