จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 945 ท่านพี่ ข้าอยากนอน
องครักษ์สองคนด้านหลังคุมตัวโหลวซิงเจ๋อทันที องครักษ์คนอื่นล้อมเขาไว้ คันธนูในมือเล็งไปที่เขาทั้งหมด ขอเพียงโหลวซิงเจ๋อกล้าหนี องครักษ์พวกนั้นไม่มีทางยอมออมมือให้แน่
ตอนนี้โหลวซิงเจ๋อเรียกฟ้าฟ้าไม่ขานเรียกดินดินไม่สน เขาได้แต่หันมองหยุนถิง “ถิงเอ๋อร์คนงามช่วยข้าด้วยสินะ?”
หยุนถิงทำสีหน้าเย็นชา ทำเป็นมองไม่เห็น
องค์หญิงใหญ่กลับมีสีหน้าบูดบึ้งยิ่งนัก “ถิงเอ๋อร์คนงาม เจ้าเรียกนางถิงเอ๋อร์คนงาม หรือว่าข้าไม่งดงามในสายตาเจ้ารึ?”
โหลวซิงเจ๋อพลันสำเหนียกได้ว่าตนพูดผิดไป รีบขอร้องอ้อนวอนทันที “ข้าผิดไปแล้ว ข้าอยากให้นางช่วยไง เลยพูดแบบนี้ออกไป”
“พาตัวไป!” องค์หญิงใหญ่แค่นเสียงเย็น ยกเท้าจากไปทันที
องครักษ์คุมตัวโหลวซิงเจ๋อตามไปทันที คนทั้งหมดพากันขึ้นรถม้าจากไป
“คิดไม่ถึงจริงๆว่า ดาวเด่นที่กินอยู่ในจวนเจ้าหน้าตาเฉยผู้นี้กลับโดนองค์หญิงใหญ่ควบคุมไว้เสียนี่” เริ่นเซวียนเอ๋อร์บอก
“ข้าเองก็คิดไม่ถึง ท่านพี่เก่งกาจจริงๆ” หยุนถิงบอกอย่างพอใจ ถือว่าได้ไล่เจ้าหน้าไม่อายนี่ไปได้เสียที
“ข้าแค่ไม่ชอบที่คนอื่นจะมาเกาะแกะถิงเอ๋อร์ แค่พูดแต่ปากก็ไม่ได้!” จวินหย่วนโยวบอกยอ่างไม่ปิดบังเลยสักนิด
“ไอ้โหย ไหน้ำส้มใหญ่โตเลยนะเนี่ย เรื่องสนุกดูจบแล้ว พวกเราก็ควรไปได้แล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นจวินซื่อจื่อต้องหาว่าพวกเราเกะกะอีกแน่” เริ่นเซวียนเอ๋อร์บอกพลางลากกู้จิ่วเยวียนก้าวเดินออกไป
จวินหย่วนโยวยกมือขึ้นจูงมือหยุนถิง “คนเกะกะไปแล้ว ถิงเอ๋อร์อยากทำอะไร ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้านะ”
หยุนถิงกลอกตาไปมา แสร้งยั่วเขาว่า “ท่านพี่ ข้าอยากนอนแล้ว”
จวินหย่วนโยวมองนางด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู “ยินดีอย่างยิ่ง” พูดจบ ก็อุ้มหยุนถิงขึ้นมาทันที
“ข้าแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ล้อท่านเล่นน่ะ” หยุนถิงตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางไม่อยากลงจากเตียงไม่ได้สามวันอีก
“แต่ข้าเอาจริงนี่” จวินหย่วนโยวหัวเราะน้อยๆ อุ้มนางจากไปทันที
แต่เขาไม่ได้อุ้มหยุนถิงกลับห้องจริงๆ แต่ไปเรือนข้างๆต่างหาก
ตอนนี้ที่ทางในแนวถนนรอบจวนซื่อจื่อถูกจวินหย่วนโยวซื้อไว้หมดแล้ว แต่ละเรือนก็สร้างทางเชื่อมติดกันหมดแล้ว ดังนั้นเลยเข้าออกอย่างสะดวก
พอเห็นทะเลดอกไม้ในเรือนนั้น หยุนถิงตะลึงไปเลย “ท่านพี่ ที่นี่ปลูกทะเลดอกไม้ใหญ่ขนาดนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ดอกไม้ใบหญ้าทุกต้นในนี้ก็ล้วนเป็นซื่อจื่อที่ปลูกด้วยตัวเอง บัดนี้เป็นปีที่สองแล้ว” หลิงเฟิงที่ตามมาด้วยกระซิบเสียงเบา
หยุนถิงตื้นตันใจนัก “ขอบคุณท่านพี่ ข้าชอบมากเลย”
“ถิงเอ๋อร์ชอบก็พอแล้ว” จวินหย่วนโยววางนางลง ทั้งสองคนจูงมือเดินไปยืนกลางทะเลดอกไม้อย่างช้าๆ
ลมพัดมาแผ่วเบา กลิ่นดอกหอมหมื่นลี้โชยเข้าจมูก ดอกเก๊กฮวยสีเหลืองทองยิ่งพลิ้วไหวตามลม ทั้งอบอุ่นและงดงาม
หลิงเฟิงคิดอย่างนั้นรีบถอยออกไปทันทีอย่างรู้งาน
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวจูงมือกันและกัน เดิมชมดอกไม้ “ท่านพี่ ดอกหอมหมื่นลี้เอามาทำขนมดอกหอมหมื่นลี้ให้ลูกๆได้ เสี่ยวเทียนและเสี่ยวเหยียนชอบกินที่สุดแล้ว เก็บดอกเก๊กฮวยมาชงชาเก๊กฮวย บำรุงตับและสายตาได้—-“
จวินหย่วนโยวยิ้มอย่างหน่ายใจ ยังไงซะก็ปลูกเพื่อนางอยู่แล้ว นางอยากทำอะไรก็ทำเถอะ
ห่างไปไม่ไกล ซูกงกงเดินตามคนรับใช้คนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างร้อนรน “ซื่อจื่อเฟยช่วยด้วย!”
เดิมทั้งสองคนที่อยู่ในบรรยากาศอบอุ่นพลันโดนเสียงแปดหลอดนี่รบกวนเอา
“ซูกงกง เรื่องอะไร ช่วยชีวิตใคร?” หยุนถิงมองมาทันที
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงคลอดยาก เริ่มเจ็บท้องเมื่อคืนช่วงเที่ยงคืน หมอหลวงและหมอตำแยพากันอยู่รับใช้ แต่บัดนี้ผ่านมาหนึ่งคืนกับครึ่งวันแล้ว ฮองเฮาเหนียงเหนียงยังไม่คลอดเลย เหล่าหมอหลวงก็จนปัญญา ฝ่าบาทสั่งให้ข้าน้อยรีบมาเชิญซื่อจื่อเฟยทันที” ซูกงกงอธิบายเรื่องราวอย่างร้อนใจ
“งั้นข้าจะตามท่านเข้าวัง ท่านพี่ ท่านให้คนไปเชิญหมอยาและหมอยมบาลเข้าวังด้วยนะ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา!” หยุนถิงบอก
“ได้เลย!” จวินหย่วนโยวรีบให้คนรับใช้ไปเชิญทันที
ตำหนักฮองเฮา
ฮ่องเต้ร้อนใจยิ่งนัก เดินวนเวียนไปมาหลายตลบ สีหน้าตึงเครียดยิ่งนัก และต่อหน้าเขาก็มีหมอหลวงคุกเข่าอยู่หลายสิบคน
“ขยะ ขยะทั้งนั้น ข้าสั่งให้พวกเจ้าช่วยฮองเฮาและลูกให้ได้ว่าไม่จะต้องแลกด้วยอะไร ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดหัวพวกเจ้าซะ!” ฮ่องเต้ตะคอกดังอย่างเดือดดาล
เหล่าหมอหลวงพากันตกใจแทบตาย พลางก้มหน้าลงต่ำ ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ
หมอหลวงหลิวเดินออกมาอย่างลนลานจากในนั้น มือทั้งสองเต็มไปด้วยเลือด “ฝ่าบาท แย่แล้ว ฮองเฮาเหนียงเหนียงตกเลือด ขอฝ่าบาททรงพระราชทานอภัยด้วย กระหม่อมไร้ความสามารถ บัดนี้เลือกได้เพียงผู้เดียว ขอฝ่าบาททรงตัดสินใจด้วย!”
คำพูดเดียวประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงกลางกระหม่อมของฮ่องเต้ เขาถอยหลังไปสองก้าวทันที ซูผินที่อยู่ข้างๆพยุงเขาไว้ได้ทัน
“ฝ่าบาท ทรงถนอมพระวรกายด้วย!”
“หมอหลวงหลิว ข้าขอสั่งว่า ห้ามให้ฮองเฮาและลูกเป็นอะไรไปเด็ดขาด!” ฮ่องเต้บอกอย่างเดือดดาล
“ฝ่าบาท กระหม่อมไร้ความสามารถ หากฝ่าบาทชักช้า จะรักษาไว้ไม่ได้สักคนเลย!” หมอหลวงหลิวถอนหายใจบอก
“ฝ่าบาท ทรงใจเย็นเถอะเพคะ หมอหลวงหลิวเป็นผู้นำของสำนักหมอหลวง ดูท่าจะทำเต็มที่แล้ว หม่อมฉันก็ภาวนาให้ฮองเฮาทรงปลอดภัย เพราะอย่างไรฮองเฮาเหนียงเหนียงก็ทรงตั้งครรภ์โอรสของพระองค์ไว้นี่นา” ซูผินบอกอย่างเป็นห่วง
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว หมอหลวงหลิวเคยรายงานเขาแล้วว่า ฮองเฮาตั้งครรภ์พระโอรส และเป็นลูกชายเมียเอกของเขา แต่บัดนี้กลับรักษาได้เพียงผู้เดียว—“
“หยุนถิงล่ะ ทำไมหยุนถิงยังไม่มาอีก รีบส่งคนไปเชิญหยุนถิงเร็ว เร็ว!” ฮ่องเต้ตะโกนเสียงดัง
“ฝ่าบาท น้องมาแล้ว” หมอยมบาลกับตาเฒ่าเหอมาด้วย
ฮ่องเต้ตื่นเต้นยิ่งนัก “หยุนถิง เจ้าต้องช่วยฮองเฮาและลูกของข้าให้ได้นะ ขอร้องเจ้าล่ะ”
ฮ่องเต้แคว้นหนึ่งที่สูงส่ง วินาทีนี้กลับใช้น้ำเสียงอ้อนวอนขอร้องกับหยุนถิง
“ฝ่าบาท วางใจเถอะ ข้าต้องทำเต็มที่แน่นอน” หยุนถิงพูดพลางพุ่งเข้าห้องทันที หมอยมบาลและตาเฒ่าเหอตามเข้าไปด้วย
“ฝ่าบาท ฮองเฮาเหนียงเหนียงเป็นแม่แห่งแผ่นดิน ซื่อจื่อเฟยเป็นสตรีก็ไม่เป็นไร แต่คนแก่สองคนนี้อีกทั้งเป็นบุรุษ น่ากลัวจะมิดีต่อชื่อเสียงของพระนางนะเพคะ” ซูผินรีบสกัดทันที
“เจ้ามันตัวอะไร กล้าสงสัยฝีมือการแพทย์ของหมอยมบาล?” โม่หลานที่เร่งรุดมาได้ยินคำพูดนี้ของซูผินเข้าพอดี ย้อนกลับไปทันที
“หลิงเฟิง โยนนางออกไป!” จวินหย่วนโยวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบอย่างห้ามบิดพลิ้ว
วินาทีต่อมา ซูผินยังไม่ทันรู้ตัว หลิงเฟิงปราดเข้ามาหามตัวนางอย่างรวดเร็วราวลูกธนูออกไปทันที ซูผินอยากจะขอร้องฝ่าบาท แต่กลับโดนหลิงเฟิงจี้จุดใบ้ไว้
“ฝ่าบาท กระหม่อมแค่ไม่อยากให้มีใครรบกวนการทำคลอดฮองเฮาของซื่อจื่อเฟย!” จวินหย่วนโยวยกมือถวายบังคม
“เอาเถอะ ตอนนี้ข้าหวังเพียงแค่ให้ฮองเฮาแม่ลูกปลอดภัยเท่านั้น!” ฮ่องเต้ถอนหายใจ ตอนนี้เขาไม่มีแก่ใจสนใจซูผิน
ในห้อง
หยุนถิงเห็นสีหน้าฮองเฮาซีดเผือด มีแต่เหงื่อเต็มหน้าผาก หายใจรวยริน นี่คือสลบไปแล้ว นางรีบใช้เข็มเงินลงจุดให้ฮองเฮาทันที
สิ่งต้องห้ามที่สุดในการคลอดลูกคือการสลบ แบบนี้ไม่เป็นผลดีกับการคลอด หากสาหัสจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจตายได้
หยุนถิงเห็นรอยเลือดบนเตียงนั่น รีบตรวจสอบอย่างรวดเร็วที่สุดและออกไปรายงาน
“ฝ่าบาท น้องช่วยฮองเฮาได้ ทางเดียวที่ทำได้คือผ่าท้องคลอด การผ่าท้องคลอดคือเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกมา จากนั้นก็เย็บปิดแผล” หยุนถิงบอก
ฮ่องเต้ตกตะลึงนัก แทบล้มลงพื้น ดีที่ซูกงกงมือไวพยุงเขาไว้ได้ทัน “ฝ่าบาท!”
ฮ่องเต้ถึงได้สติกลับมา “งั้น งั้นฮองเฮาไม่ตายรึ?”