โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 24

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.24 – กองทัพหนู 3

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.24 – กองทัพหนู 3

“กำลังสนับสนุน .. กองหนุนมาถึงแล้ว!”

“เร็วเข้า! พวกกองทัพหนูกำลังจะบุกเข้าไปในพื้นที่เพาะปลูก ต้องกวาดล้างพวกมันก่อนจะถูกฝ่าเข้ามาให้จงได้ ไม่อย่างนั้น พวกมันจะทำลายอาหารของพวกเราทั้งหมด!”

“รีบลงจากรถ แล้วออกไปสู้ซะ!”

หลายสิบรถทหารขนาดใหญ่ขับเข้ามาอย่างเร่งร้อน และหลังจากที่หยุดรถ เหล่าผู้ใช้พลังพิเศษมากมายก็ทยอยกันลงมา กระจายตัวไปตามรั้วฝั่งในของพื้นที่เพาะปลูก

นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่กองทัพหนูยักษ์บุกเข้ามา พวกมันก็จะทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้าอย่างรวดเร็ว มีกระทั่งหนูยักษ์บางตัวที่ฉลาด พวกมันขุดดิน มุดลงไปซ่อนอยู่ในทุ่งนา ทำให้ยากต่อการไล่ล่าสังหาร ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงต้องเร่งกวาดล้างมันโดยเร็ว มิฉะนั้นผลที่จะตามมา คงไม่อาจจินตนาการได้

เมื่อพื้นที่เพาะปลูกถูกทำลาย สถานที่ชุมชนตลอดทั้งตอนเหนือคงมิแคล้วต้องเผชิญกับความอดอยาก ถึงเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะมีคนล้มตายมากมายขนาดไหน!

ผู้คนทยอยกันลงจากรถ และในกลุ่มคนเหล่านั้น มีบางส่วนเห็นได้ชัดว่ายังเป็นนักเรียนอยู่

คนเหล่านี้ คือนักเรียนจากสถาบันระดับสูงทางตอนเหนือ!

“คลิ๊ก คลิ๊ก!” ลู่เหมิงจัดเตรียมจักรกลรบ เฝ้ารอให้พวกหนูยักษ์มาถึง จะได้สาดกระสุนให้พวกมันรับประทาน

“เหมิงเหมิงระวังตัวด้วย!” หลี่เหยาเหยามองลู่เหมิงด้วยความเป็นห่วง คราวนี้ หลี่เหยาเหยาถูกเรียกตัวมาประจำตำแหน่งทีมแพทย์ ไม่อาจเข้าร่วมในแนวหน้าได้

“ไม่เป็นไรหรอกน่า วางใจเถอะ ที่นี่มีคนตั้งมากมาย และฉันจะไม่ยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด!”

“หลี่เหยา มากับฉัน พวกเราจะต้องไปรายตัวกันที่สำนักงานใหญ่ก่อน!” เสียงของครูฝึกสอนดังขึ้น

“ไปเถอะเหยาเหยา”

“อื้อ เธอก็ระวังตัวด้วยล่ะ!”

หลี่เหยาเหยาวิ่งตามครูฝึกสอนไป ในเวลานี้ ทุกเหตุการณ์ของภาพต่างๆในแนวหน้ากำลังปรากฏชัดขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่

จังหวะนั้นเอง ร่างผอมกะหร่องร่างหนึ่งก็ได้ดึงดูดความสนใจของหลี่เหยาเหยา

ชายคนนั้นคือฉินเฟิง!

“อย่างน้อยเขาก็ครอบครองอาวุธปืนระดับสูง ไหนจะเรื่องการตัดสินสถานการณ์ก่อนหน้านี้อีก เขาจะต้องเป็นมือปืนที่ดีแน่นอน!”

“มือปืนอย่างงั้นหรอ? ฉันว่าเขาน่าจะปลุกพลังวรยุทธโบราณได้แล้วนะ ดูจากพละกำลังและความเร็วก็รู้แล้ว ไหนจะเรื่องที่ฝึกฝนกำลังภายในแล้วปลดปล่อยมันออกมาได้อีก!”

“ต้นกล้าที่ดี! ต้นกล้าอันยอดเยี่ยม! พวกเราจะต้องชักชวนเขาให้มาเข้าร่วมกับกองทัพให้จงได้!”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างเอ่ยปากชมเชย และแน่นอน ว่าเป้าหมายของพวกเขา ก็คือฉินเฟิง

เมื่อเห็นถึงฉากนี้ หลี่เหยาเหยาก็บังเกิดความรู้สึกว้าวุ่น เพราะวัยรุ่นคนที่ว่า คือคนๆเดียวกับที่ช่วยชีวิตตนเอาไว้นั่นเอง

เพียงแต่หลี่เหยาเหยายังไม่ทราบถึงชื่อของเขาเลย

“พบข้อมูลการตรวจสอบ!”

“คนๆนี้ เรียกว่าฉินเฟิง แต่ว่า … ”

“แต่อะไร? มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับข้อมูลอย่างงั้นหรือ?”

“ที่จริงแล้ว เขาคือหนึ่งในกลุ่มคนที่เพิ่งจะถูกฉีดยากระตุ้นเข้าไปในปีนี้ ซึ่งหมายความว่า เขาปลุกพลังให้ตื่นขึ้นได้อย่างมากที่สุดก็คือเมื่อ 14 วันก่อนเท่านั้น!”

“ว่าไงนะ!?”

“อัจฉริยะ! เขาต้องเป็นอัจฉริยะแน่นอน!”

หลี่เหยาเหยาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ในสมองเริ่มขบคิด

“เขาเรียกว่าฉินเฟิงงั้นหรอ? … ”

การดำรงอยู่ที่สามารถสำแดงพลังได้มากมายขนาดนี้ทั้งๆที่ได้รับยากระตุ้นเพียงไม่นาน นับว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง

เพียงแต่เธอยังไม่รู้ ว่าต่อจากนี้ไป เขาจะเลือกเข้าร่วมกับทางทหารเลย หรือว่าจะไปเรียนต่อกับสถาบันระดับที่สูงกันแน่!

แต่เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะเข้าร่วมกับทางสถาบัน เพราะในกรณีนี้ เขาจะได้กลายเป็นรุ่นน้องในสถาบันของเธอ

“เหยาเหยา นั่นเธอกำลังเหม่ออะไรอยู่?” เสียงของนักบวชเต๋าดังขึ้นในหูของหลี่เหยา เรียกเธอตื่นจากความฟุ้งซ่าน

“อ๊ะ ขอโทษค่ะ!”

“แต่ก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่หรอกที่เธอจะตกใจ เพราะเพิ่งจะเคยเห็นฉากแบบนี้เป็นครั้งแรกใช่ไหม? แต่ก็ดีแล้วนะ เพราะต่อไปในอนาคตเธอจะได้ชินกับยมันยังไงล่ะ!”

“ค่ะ อาจารย์”

ทว่าในเวลานั้นเอง เสียงสัญญาณเตือนในฐานก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ฉินเฟิงที่อยู่ในแนวหน้าของสนามรบ ไม่ทราบว่าเขาได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก แต่เขาก็ทราบดี ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ จะต้องมีคนจากทางกองทัพเปิดใช้งานกล้องในสำนักงานใหญ่แน่นอน

ในกรณีนี้เอง ฉินเฟิงเลยต้องแสดงออกไปให้เป็นธรรมชาติ อย่างน้อยเขาก็ไม่เปิดเผยอบิลิตี้ธาตุมืดของตัวเอง กระทั่งพลังพิเศษที่สอง ‘ซ่อนเงา’ ของเขา แม้จะเหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ฉินเฟิงก็ไม่คิดจะใช้มัน

“วี้ .. วี้— คำเตือน! คำเตือน!! สิ่งมีชีวิตระดับราชันย์สัตว์ร้ายปรากฏตัวขึ้น ห่างจากตำแหน่งในปัจจุบันของคุณ 721 เมตร ได้โปรดหลีกเลี่ยงมัน โปรดหลีกเลี่ยง!”

ฉินเฟิงก้มลงมองอุปกรณ์สื่อสารในมือของเขา เครือข่ายระดับภูมิภาคได้ออกประกาศข้อความ ว่าราชันย์สัตว์ร้ายได้ปรากฏตัวขึ้น

ในช่วงเวลานี้ ผู้ใช้พลังพิเศษรอบตัวเขาพลันตกตะลึง เริ่มทยอยถอนตัวกลับมา ยืนอยู่หน้ารั้ว รวมกลุ่มกันต่อกรกับเหล่ากองทัพหนูยักษ์

“ขีปนาวุธถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว!”

“ยิงได้!”

เสียงหึ่งๆดังออกมาจากภายในฐาน สามขีปนาวุธขนาดใหญ่พุ่งผ่านช่องว่างมิติ และโค้งลงตรงพื้นดินที่ห่างไกลออกไป

“ตูม!”

“ตูม!!”

“ตูม!!!”

สามขีปนาวุธระเบิดออก บนหน้าจอห้องสำนักงานใหญ่ฟุ้งไปด้วยควันขาว มิอาจมองเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในระหว่างการตรวจสอบ ประกาศแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“คำเตือน! คำเตือน! สิ่งมีชีวิตระดับราชันย์สัตว์ร้าย ได้อยู่ห่างจากตำแหน่งในปัจจุบันของคุณ 572 เมตร ได้โปรดหลีกเลี่ยงมัน โปรดหลีกเลี่ยง! ”

มันประชิดเข้ามาแล้ว!

“ไปเตรียมปืนใหญ่เลเซอร์เดี๋ยวนี้!”

เสียงของหลี่เหวินตะโกนมาจากประตูกลาง วินาทีนั้น ได้ยินถึงเสียงของจักรกลดังกึกกอง ปรากฏป้อมปืนเลเซอร์ขนาดสูงใหญ่กว่า 5 เมตร จากนั้นเป้าหมายก็ถูกล็อค

ปืนใหญ่เลเซอร์นี้ทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ข้อเสียของมัน เห็นได้ชัดว่าก็คือ เป็นไปไม่ได้ที่จะฝืนลากเพื่อหลบเลี่ยงอุปสรรค์ตรงหน้า , ไม่สามารถยิงเป็นเส้นโค้งได้ จำต้องยิงเป็นเส้นตรงเท่านั้น

ในระยะห่างออกไปไกลกว่า 500 เมตร แม้สายหมอกและสายฝนจะบดบังวิสัยทัศน์ หากแต่คุณก็ยังสามารถมองเห็นร่างของหนูยักษ์ที่มีขนาดตัวสูงถึง2-3เมตร และยาวกว่า4-5 เมตรได้อย่างง่ายดายอยู่ดี

ขนของหนูยักษ์ตัวนี้คล้ายสีของเหล็กกล้า แต่ส่วนหนึ่งของมันปรากฏร่องรอยถูกเผาไหม้เป็นสีดำคล้ำ เผยให้เห็นถึงผิวหนังบางส่วน ดวงตาของมันสาดประกายสีแดงเลือด

เห็นได้ชัดว่าสภาพของมันในปัจจุบัน เกิดจากอำนาจทำลายของขีปนาวุธเมื่อครู่นี้

อย่างไรก็ตาม ขีปนาวุธทั้งสามนั้นเป็นการระเบิดโจมตีแบบกระจาย เลยไม่สามารถหยุดฝีเท้าของศัตรูได้ ตรงกันข้าม กลับทำได้แค่เผาขนของหนูยักษ์ระดับราชันย์เท่านั้น

เท่านี้ก็ชัดเจนแล้ว ว่าความแข็งแกร่งของหนูยักษ์ทรงพลังขนาดไหน

“หึ่ง … วี้—”

จากป้อมปืน เสียงหวีดเแหลมดังขึ้น บังเกิดประกายรังสีแสงสีขาวปะทุออกมา พุ่งระเบิดเป็นเส้นใยแสง ปะทะเข้าใส่หนูยักษ์ราชันย์ที่อยู่ห่างออกไปไกลกว่า 300 เมตร

วินาทีต่อมา ก็เกิดเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น

ผู้ใช้พลังพิเศษที่อ่อนแอบางคน รู้สึกได้แค่เพียงว่าหูของพวกเขาอื้ออึง ได้รับผลกระทบจากรังสีความร้อน ในหูคล้ายถูกเขย่าจนมีเลือดไหลซึมออกมาอย่างกระทันหัน

สักพักหนึ่ง เส้นใยแสงก็เริ่มหดหาย บ่งบอกชัดว่าปืนใหญ่เลเซอร์หมดพลังงานลง และหากจะใช้งานมันอีกครั้ง จะต้องให้เวลาสะสมพลังอย่างน้อยครึ่งนาที ทว่าขณะเดียวกัน ราชันย์หนูที่อยู่ไกลออกไป ก็เริ่มมุ่งตรงบุกตรงเข้ามาอีกครั้งแล้ว!

ไม่ถึง 10 วินาทีต่อมา ราชันย์หนูก็ย่นระยะ ใกล้เข้ามาจนสามารถเห็นถึงร่างของมันได้อย่างชัดเจน

ในเวลานี้ อุ้งเท้าหน้าของมันไม่มีหลงเหลืออยู่อีกต่อไป ตามตัวส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่ายิ่งสัตว์ร้ายได้รับบาดเจ็บเท่าใด มันก็ยิ่งคลุ้มคลั่ง ระเบิดความดุร้ายออกมาได้มากเท่านั้น

ฉินเฟิงอยู่ห่างจากราชันย์หนูออกไปเพียง 30 เมตร

“จี๊ด จี๊ด จี๊ด!” ราชันย์หนูเหมือนกับจะตระหนักได้ว่าบางสิ่งที่ทำร้ายมัน ซ่อนอยู่เบื้องหลังรั้วไร้ มันจึงเริ่มวิ่งเข้าไปกระแทกประตูอย่างแรง

“รีบหยุดมันไว้!”

“ปัง ปัง ปัง ปัง!”

เครื่องจักรพ่นกระสุนไม่หยุดยั้ง หากแต่เมื่อยิงออกไปกระทบกับขนของหนูยักษ์ ทุกกระสุนล้วนกระดอนออก มิอาจสร้างความเสียหายให้แก่มัน ตรงกันข้าม กลับกระเด็นไปโดนฝ่ายเดียวกัน สร้างบาดแผลให้แก่คนอื่นๆแทน

“มือปืนทุกคนหยุดยิง!”

หลี่เหวินตะโกน แต่หลังจากมือปืนหยุดยิงแล้ว แท้จริงกลับไม่มีผู้ใดเลยที่กล้าจะก้าวออกมาข้างหน้า

เพราะอำนาจและแรงกดดันของราชันย์สัตว์ร้าย มันมหาศาลเกินไป

“ปัง!”

ราชันย์หนูกระแทกประตูทางเข้าเสียงสนั่น กระทั่งหอรักษาการณ์ที่อยู่ใกล้เคียงกับพลอยโดนลูกหลง พังทลายลงไปด้วย

ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังหมดหวัง กำแพงดินหนาสูงสองเมตรก็ผลุบขึ้นมาหน้าประตูอย่างกระทันหัน ปิดกั้นราชันย์หนูเอาไว้

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีลูกไฟขนาดเท่าอ่างล้างหน้าปรากฏขึ้นเช่นกัน ลูกไฟทุ่มเข้าใส่บาดแผลเดิมที่เกิดจากขีปนาวุธบนร่างกายของราชันย์หนู

ด้วยการโจมตีนี้ ถึงกับทำให้ราชันย์หนูซวนเซโดยตรง

“จี้—”

ราชันย์หนูโกรธจัด มันหันขวับไปเบื้องหลัง หันเหทิศทาง พรวดตรงเข้าหาตำแหน่งที่ลูกไฟลอยมา

ในความเป็นจริงแล้ว มิใช่แค่เพียงราชันย์สัตว์ร้ายเท่านั้นที่ถูกดึงดูดความสนใจ แต่ฝูงชนทั้งหมด ต่างก็มองไปตามทิศทางดังกล่าวเป็นสายตาเดียวเช่นกัน

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท