โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 32

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.32 – สั่งทำอุปกรณ์

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.32 – สั่งทำอุปกรณ์

หากประเมินตามเกณฑ์เดียวกันกับสัตว์ร้ายทั่วๆไป ตั้งแต่เกิดมา เสี่ยวไป๋ก็มีระดับเป็นถึงทหารสัตว์ร้ายอยู่แล้ว ดังนั้นในปัจจุบัน จึงเป็นการยกระดับไปสู่นายพลสัตว์ร้าย

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ฉินเฟิงยังรู้สึกได้รางๆ ว่าในพื้นที่มิติของเสี่ยวไป๋ มันเกิดการเปลี่ยนแปลง ขยายกว้างเพิ่มขึ้นเป็นสิบเมตรอย่างกระทันหัน!

เดิมที พื้นที่มิติของเสี่ยวไป๋มีขนาดประมาณหนึ่งเมตร หรือกล่าวได้ว่ามันคือหนึ่งลูกบาศก์เมตร

แต่ตอนนี้ ทั้งในแนวกว้างและแนวยาว มันกลายเป็นสิบเมตร ส่งผลให้มันมีขนาดเท่ากับ 1,000 ลูกบาศก์เมตร หรือเทียบได้กับบ้านหลังหนึ่ง!

-มีพื้นที่เพิ่มขึ้น 1,000 เท่า!

ฉินเฟิงบังเกิดความรู้สึกว่า พลังที่เสี่ยวไป๋ครอบครองนี้ มันช่างเป็นอะไรที่ต่อต้านฟ้าดินเสียจริงๆ

นอกจากนี้ ภายในพื้นที่มิติขนาดเท่าตัวบ้าน ยังมีสิ่งต่างๆวางอยู่ภายใน

นั่นคือสองฟันจอบของราชันย์หนู , อุ้งเท้าหนึ่งข้าง และกองขนที่ม้วนเข้าด้วยกัน

แน่นอน ว่ามันมีเนื้อของราชันย์หนูอยู่เช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ เพียงยัดเนื้อลงไปมันก็แทบจะเต็มพื้นที่มิติแล้ว แต่ในปัจจุบัน ต่อให้มีเนื้อมากกว่านี้อีกเป็นสิบเท่า ก็ยังเหลือพื้นที่ไว้ใช้สอยอีกมากมาย

มองไปยังวัตถุดิบเหล่านี้ ฉินเองก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคิดในหัวใจ

ชุดต่อสู้T3 ที่เขาใช้งานเป็นของดีจริงๆ มันทำมาจากขนสัตว์และเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถทนความร้อนและความหนาวเย็นได้ ราคาเองก็ยุติธรรม

แต่ฉินเฟิงก็ยังไม่ลืม ว่าในตอนที่ลู่เหมิงถูกกรงเล็บระดับนายพลของหมาป่ามาสติฟฟาดใส่ ชุดต่อสู้ภายนอกของเธอฉีกขาดออกทันที ทว่ายังมีชุดเกราะชั้นในที่ช่วยป้องกันการโจมตีร้ายแรงนี้เอาไว้

ชุดเกราะในของลู่หมิงที่เผยโฉมออกมาในตอนนั้น มันเรียกกันว่า ‘อุปกรณ์รูน’

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าอุปกรณ์รูนชนิดนี้ มันทำมาจากขนของสัตว์ร้าย และเนื่องจากขนของสัตว์ร้ายแต่ละชนิดน่ะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นเทคโนโลยีที่ใช้จึงย่อมแตกต่างกัน สำหรับลู่เหมิง แสงสีเงินที่สาดประกายออกมาในตอนนั้น มันเป็นตัวบ่งบอกถึงขนของราชันย์สัตว์ร้าย

ตามปกติ อุปกรณ์รูนพวกนี้มักจะถูกสวมทับไว้ภายในอีกที เพราะมันจะส่องแสงประจำตนออกมา ทว่าแน่นอน เนื่องจากมันถูกย้อมด้วยกรรมวิธีพิเศษ ดังนั้นรังสีแสงที่เปล่งออกมา จึงแตกต่างไปจากสีขนดั้งเดิม

สำหรับทหารสัตว์ร้าย มันจะเป็นแสงสีฟ้า , นายพลสัตว์ร้าย มันจะเป็นแสงสีม่วง , ราชันย์สัตว์ร้ายมันจะเป็นแสงสีเงิน ส่วนจักรพรรดิสัตว์ร้ายจะเป็นแสงสีทอง!

“วัตถุดิบเหล่านี้ น่าจะเหมาะเอาไปทำเป็นอุปกรณ์รูน!”

ฉินเฟิงหันไปดูข้อมูลบัญชีในอุปกรณ์สื่อสารของเขา

ช่วงก่อนหน้านี้ที่ออกล่างูชายแดน ฉินเฟิงสามารถทำเงินมาได้ราวๆ 1.2 ล้านเหรียญ

และหลังจากต่อสู้กับกองทัพหนูยักษ์กินพืชเมื่อวานนี้ เขาก็ได้มาอีก 6.73 ล้าน รวมกับเงินเดิมพัน อีก 900,00 ทำให้ปัจจุบัน ในบัญชีเขามีอยู่ทั้งสิ้น 8.8 ล้านเหรียญ

เงินก้อนนี้ มากพอที่จะใช้ซื้ออุปกรณ์รูนได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณเตรียมวัตถุดิบไป และให้พวกเขาช่วยทำอุปกรณ์สำหรับตัวเอง ราคาก็จะถูกลงกว่ามาก

เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉินเฟิงก็เริ่มจัดกำหนดการในหัวใจ

….

วันถัดมา เขาออกเดินทางไปยังใจกลางชุมชนทางตอนเหนือ

เข้าไปยังร้านขายอุปกรณ์ป้องกันของกลุ่มหวันซ่ง

ผ่านไปตั้งครึ่งเดือนแล้ว ที่ฉินเฟิงมาซื้อชุดต่อสู้ T3 ที่นี่

ฉินเฟิงเดินเข้าไป พนักงานร้านก็เอ่ยต้อนรับเขาด้วยความสุภาพทันที แตกต่างจากที่ถูกมองเหยียดตั้งแต่แรกเหมือนครั้งก่อน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ภาพลักษณ์ของฉินเฟิงน่ะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน ต่อให้เขาไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ก็ยังแลดูน่าเกรงขามอยู่ดี

ฉินเฟิงมองเข้าไป และพบว่าคนที่มาต้อนรับเขาคือซุนน้อย คนเดิมกับที่เคยขายชุดต่อสู้ให้เขานั่นเอง

“ไอหย๋า ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง วันนี้มีอะไรให้ฉันรับใช้?”

ฉินเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย แม้ไม่เจอกันครึ่งเดือน แต่ซุนน้อยก็ยังจดจำตนได้

“อืม .. ฉันต้องการสั่งทำอุปกรณ์ แต่ก็ต้องการเก็บมันเป็นความลับเช่นกัน คุณพอที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ไหม?” ฉินเฟิงถาม

ซุนน้อยบังเกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

‘สั่งทำอุปกรณ์!’

หมายถึงอุปกรณ์รูนที่ต้องใช้ขนสัตว์ร้ายในการผลิต!

และราคาของอุปกรณ์รูนนี้ก็สูงมากเช่นกัน มันไม่ใช่สิ่งที่ชุดต่อสู้ T3 จะสามารถเทียบเปรียบได้โดยสิ้นเชิง ซุนน้อยพอได้ยินเลยอดพลุ่งพล่านไม่ได้

“แน่นอน ฉันสามารถรับผิดชอบมันได้ มิสเตอร์ เชิญทางนี้!” ซุนน้อยเร่งพาฉินเฟิงไปยังห้องรับรอง

ภายในห้อง มันไม่มีใครอยู่เลย ฉินเฟิงกวาดตามอง เมื่อเห็นว่าไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งเอาไว้ เขาก็พยักหน้าด้วยความพอใจ และนำเอาวัตถุดิบที่จะสั่งทำจากกระเป๋าเป้สะพายหลังออกมา

“เอ้านี่ ลองเอาพวกมันไปตรวจดู”

ในหัวใจของซุนน้อยสั่นสะท้าน!

เขาเป็นคนค่อนข้างฉลาด แม้ว่าจะยังเยาว์วัย หากแต่ก็ได้รับความรู้มามากมาย หลังจากที่ได้ทำงานในร้านนี้

ร้านขายอุปกรณ์ของกลุ่มหวันซ่ง ไม่ได้มีแค่ชั้นเดียว หากแต่มีสามชั้น ชั้นแรกจะขายอุปกรณ์ต่อสู้ซึ่งสอดคคล้องกับตลาดในสถานที่ชุมชนทางตอนเหนือ

ส่วนในชั้นสองและสาม จะมีไว้ซื้อขายสินค้าคุณภาพดี ซึ่งมีอุปกรณ์รูนรวมอยู่ด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นเพียงเลเวล G แต่มูลค่าของมันก็เทียบได้กับอุปกรณ์อื่นๆหลายพันชิ้นรวมกัน

“มิสเตอร์ ถ้าฉันคาดเดาไม่ผิด นี่สมควรจะเป็นขนของราชันย์สัตว์ร้าย และคิดตามขนาดร่างกายของคุณ มันสามารถใช้ทำเสื้อคุณภาพสูงได้! นอกจากนี้ เศษขนที่เหลือยังพอสามารถนำไปถักเป็นถุงมือ , ปลอกแขน ฯลฯ แน่นอนว่าทางเรามีวิธีการตัดแบบเฉพาะเป็นของตัวเอง ดังนั้นไว้วางใจได้เลยในเรื่องความปลอดภัย!”

ซุนน้อยกล่าวอย่างระมัดระวัง เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลย ที่เขาได้รับมอบหมายให้ทำธุรกิจใหญ่ -สั่งทำอุปกรณ์ระดับราชันย์สัตว์ร้าย!

ฉินเฟิงพยักหน้า “งั้นก็เปลี่ยนมันเป็นเสื้อซะ! ส่วนเขี้ยวของมัน ฉันอยากให้สร้างเป็นมีดต่อสู้ แน่นอนว่าเนื่องจากวัสดุมีน้อย ฉะนั้นไม่สมควรที่จะทำให้มีขนาดใหญ่เกินไป แต่ถึงจะเล็ก ฉันก็ขอให้เล็กแบบมีคุณภาพ!”

“ไม่มีปัญหา!” ซุนน้อยตอบตกลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เรียกฟังก์ชั่นคำนวณจากอุปกรณ์สื่อสาร ป้อนตัวเลขลงไป “มิสเตอร์ ราคาในการสั่งทำอุปกรณ์จากวัตถุดิบทั้งสองสิ่งนี้ ประมาณคร่าวๆสัก 3 ล้าน และคุณจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้า 3 แสน หลังจากนั้นสิบวันก็สามารถเข้ามารับของได้!”

“ตกลง!”

ฉินเฟิงกับซุนน้อยทำสัญญากัน พร้อมวางเงินมัดจำ 3 แสน

ซุนน้อยนำกล่องล็อครหัสเข้ามา ใส่วัตถุดิบต่างๆเข้าไปต่อหน้าฉินเฟิง พวกมันถูกเก็บเอาไว้ภายในอย่างระมัดระวัง ซึ่งกล่องนี้จะถูกส่งไปยังโรงงานผลิตโดยตรง และทุกขั้นตอนการผลิตจะมีวิดีโอให้รับชม เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าจะไม่เกิดการสูญเสียหรือสูญหาย

เสร็จธุระก็ออกจากร้านกลุ่มหวันซ่ง ฉินเฟิงก้าวไปตามท้องถนน และบังเอิญหันไปเห็นโฆษณารถบนตึกข้างๆ

ในหัวใจของฉินเฟิงเริ่มกระตุกไหว

ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงคงไม่คิดจะซื้อยานพาหนะไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่ในเมื่อพื้นที่มิติของเสี่ยวไป๋เองก็ขยายขึ้นมามากแล้ว ฉินเฟิงเลยเริ่มคิดอยากจะซื้อรถศึกมาใช้เองบ้างเหมือนกัน

“เอาเถอะ ลองไปดูซักหน่อยก็ไม่เสียหาย!” ฉินเฟิงคิด ตัดสินใจก้าวเข้าไปในศูนย์จัดแสดงรถ

ในชีวิตก่อนหน้า พาหนะของฉินเฟิงเป็นอะไรที่หรูหรามาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาคือผู้ใช้พลังพิเศษระดับ A * ที่ทรงอำนาจและแข็งแกร่ง มักต้องขับรถเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ดังนั้นหากเป็นรถที่มีฟังก์ชั่นไม่ดี ก็ไม่ต้องเก็บมาพิจารณา

*(ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยนะครับ จากนี้ให้เข้าใจว่าชีวิตก่อนฉินเฟิงคือเลเวล A ขออภัยด้วยครับ)

แต่ตอนนี้ เงินทุนของเขายังมีจำกัด และประโยชน์ของรถพวกนี้ก็ยังน้อย ดังนั้นตัวเลือกของฉินเฟิงจึงน้อยตาม

แต่ไม่นาน ฉินเฟิงก็พบกับเป้าหมายที่ถูกใจ

เป็นรถศึกซีรี่ย์เงา!

รถศึกคันนี้ ภายนอกดูไม่แตกต่างไปจากรถสปอร์ต ตัวถังแทบจะติดกับพื้น ล้อก็เผยออกมาให้เห็นเพียงครึ่งเดียวจากด้านนอก แต่หากคุณคิดว่ารถแบบนี้น่ะหรอจะใช้ขับไปในทุ่งล่าได้? นั่นนับว่าเป็นความคิดที่ผิดอย่างใหญ่หลวง!

เพราะมันครอบครองความสามารถพิเศษที่ช่วยให้ลอยตัวได้นั่นเอง!

รถศึกซีรีย์เงา คือหนึ่งในเทคโนโลยีแห่งยุคใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบแก่นพลังงานรูน ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้รถทั้งคันสามารถลอยสูงเหนือพื้นได้กว่า 3 เมตร สามารถข้ามผ่านเส้นทางทุรกันดารได้โดยไม่เป็นอุปสรรคใดๆ

แน่นอน ว่าเฉพาะเพียงฟังก์ชั่นลอยตัวของมัน ก็ทำให้รถศึกคันนี้มีราคาพุ่งขึ้นสูงถึง 8 ล้านเหรียญ!

เป็นราคาที่น่าสยองขวัญมากสำหรับคนทั่วไป

ทว่าสำหรับผู้ใช้อบิลิตี้และผู้ใช้วรยุทธโบราณ ถึงบางกลุ่มจะมีเงินมากพอที่จะซื้อรถแบบนี้มาใช้ได้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะมองข้ามมันไป เพราะแม้เรื่องการลอยตัวจะดี แต่กลับสามารถบรรทุกได้น้อย ประสิทธิภาพการป้องกันของมันไม่ได้ดีสมราคานัก

หากจะให้กล่าวตรงๆ ต้องบอกว่ารถแบบนี้ มักจะถูกซื้อไปขับขี่โดยพวกกลุ่มคนร่ำรวย เพื่ออวดอ้างความมั่งคั่งของพวกเขาไปในตัวเองซะมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงน่ะมิติส่วนตัวไว้ในครอบครอง ดังนั้นเรื่องการบรรทุกไม่ใช่ปัญหา นอกจากนี้ รถสปอร์ตซีรี่ย์เงาเบื้องหน้า มันคือรถล่องเวหาที่มีราคาถูกที่สุดแล้ว!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท