โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 115

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

1/4

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.115 – กำจัดแม่พันธุ์แมงมุม

กระบวนท่ามีดผลาญสวรรค์ เป็นกระบวนท่าวรยุทธที่ถูกประเมินว่าอยู่ในระดับ A แต่มันพิเศษตรงที่ยิ่งกำลังภายในแข็งแกร่งเท่าใด ก็ยิ่งระเบิดพลังได้มากเท่านั้น

ว่ากันว่าหากกระบวนท่านี้ถูกใช้ออกโดยผู้ที่ครอบครองกำลังภายในอันทรงพลัง มันจะสามารถระเบิดอำนาจออกไปได้ถึงระดับ S เลยทีเดียว

ฉินเฟิงตอนนี้แม้จะเรียนรู้กระบวนท่ามีดผลาญสวรรค์แล้วก็จริง แต่กำลังภายในของเขาก็ยังไม่มากพอ สามารถระเบิดอำนาจที่แท้จริงของมันออกมาได้เพียง 1 % จากทั้งหมดเท่านั้น

อย่างไรก็ตามกระบวนท่าพื้นฐานที่สามของมีดผลาญสวรรค์ : พลุไฟสงครามที่ปะทุขึ้นไปถึงชั้นฟ้าในปัจจุบัน แม้จะสำแดงพลังออกมาได้เพียง 1 % แต่มันก็ยังให้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจ

วิซ!

ร่างสองร่างปรากฏขึ้นอีกครั้งในสถานที่ห่างไกล —เป็นฉินเฟิงกับไป๋หลี

ส่วนแม่พันธุ์แมงมุมซวนเซไปข้างหน้าหลายก้าว ช่วงเวลาต่อมา มันก็เกิดความรู้สึกล่องลอย คล้ายกับช่วงลำตัวส่วนหลังของมันเบาขึ้น

นั่นเพราะก่อนจะเทเลพอร์ตจากไป ฉินเฟิงอาศัยช่วงที่พลุไฟพวยพุ่งออกจากมีด ตัดสะบั้น ช่วงหลังแมงมุมแม่พันธุ์กลายเป็นขาดครึ่ง!

อย่างไรก็ตาม เผ่าพันธุ์แมลงเป็นตัวตนที่ครอบครองพลังชีวิตสูงมหาศาล ดังนั้นแม่พันธุ์แมงมุมเลยไม่ตายทันที

ทางฝั่งฉินเฟิง เวลานี้ใบหน้าของเขาซีดเผือด ในตันเถียนว่างเปล่า แม้ปริมาณกลุ่มหมอกกำลังภายในของเขาจะมีอยู่กว่า 40 ก้อน มากกว่าผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F9 ถึง 4 เท่า แต่ปัจจุบัน มันถูกสูบไปจนเกลี้ยง เท่านี้ก็พอจะบอกได้ว่าพลุไฟสงครามทรงพลังขนาดไหน

โชคยังดี ที่ฉินเฟิงยังคงเหลือพลังสมาธิ!

“ลำแสงแห่งความมืด!”

เส้นแสงสีดำพลันตกลงบนหัวของแม่พันธุ์แมงมุม พรากพลังชีวิตเฮือกสุดท้ายไปจากมัน

โครม!

ร่างใหญ่ร่วงแน่นิ่งลงกับพื้น แม่พันธุ์แมงมุมเลือดแขนเหล็ก — จบชีวิตลงแล้ว!

แก่นอบิลิตี้ของฉินเฟิงเริ่มโคจรโดยอัตโนมัติ พลังที่มองไม่เห็นถูกถ่ายเทออกมาจากภายในศพของแมงมุมระดับราชันย์

ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของแมงมุมระดับราชันย์ตัวนี้คือการสืบพันธุ์ แม้ฉินเฟิงจะดูดกลืนมา ใช่ว่ามันจะช่วยให้เขาสืบพันธุ์อึดทนแต่อย่างใด หากแต่ความสามารถนี้คือตัวแทนของพลังชีวิตอันแข็งแกร่งต่างหาก

ฉินเฟิงรู้สึกได้เพียงเลือดในกายของเขากำลังเดือดพล่าน ความยืดหยุ่นว่องไวเพิ่มขึ้นมหาศาล เพิ่มขึ้นไปจนถึงจุดที่น่าเหลือเชื่อ

อาการบาดเจ็บที่ได้รับก่อนหน้านี้ของฉินเฟิงฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่นั้น ถึงแม้ว่ากำลังภายในของเขาตอนนี้จะว่างเปล่า แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงได้กลับคืนมาสู่สภาวะสูงสุดอีกครั้ง กลับมาไร้ซึ่งร่องรอยใดๆของความเหนื่อยล้า!

“ยอดเยี่ยม!”

ฉินเฟิงทดลองบีบคลายกำปั้นของเขา ตนสัมผัสได้ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพได้พัฒนาไปถึงเลเวล F5

แต่ในตอนนั้นเอง ก็เริ่มปรากฏเสียงดังกรอบแกรบขึ้นโดยรอบ ท่ามกลางความมืดมิด ในสถานที่ซึ่งไกลออกไปจนมิอาจมองเห็นด้วยตาเปล่า พวกแมลงสัตว์ร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา

ระหว่างที่ราชันย์สัตว์ร้ายกำลังต่อสู้ พวกแมลงตนอื่นๆจะไม่คิดเข้าร่วม เพราะจะเป็นการขัดแข้งขัดขา และเป็นเหตุผลมากพอให้ราชันย์สัตว์ร้ายจะตัดสินใจลงมือสังหารพวกมัน

พวกมันเลยจำต้องยับยั้งชั่งใจด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่ว่าใครก็ไม่สามารถแย่งอาหารไปจากราชันย์สัตว์ร้ายได้

แต่ตอนนี้ เนื่องจากความตายของราชันย์สัตว์ร้าย ทำให้ความหวาดกลัวในตัวแม่พันธุ์แมงมุมมลายไปสิ้น และเป้าหมายอาหารของพวกมันก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน

จากเดิมเป้าหมายคือฉินเฟิง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นซากศพของแม่พันธุ์แมงมุม –สำหรับเผ่าพันธุ์แมลงแล้ว เนื้อของสัตว์ร้ายระดับสูงกว่า นับเป็นยาบำรุงกำลังชั้นยอด!

“ความมืดเอ๋ย จงช่วยฉันบดบังทุกสรรพสิ่ง โอบกอดทมิฬ!”

ศิลานรกเริ่มสำแดงพลังอีกครั้ง หมอกมืดพลันปรากฏขึ้น หมอกนี้ปกคลุมฉินเฟิง , ไป๋หลี และซากศพของแม่พันธุ์แมงมุม คล้ายเป็นโลกใบเล็กๆที่ถูกแยกออกมา

ส่งผลให้ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งพวกแมลง หรือกระทั่งผู้ใช้พลังบางคนที่สังเกตการณ์อยู่ ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้

“เร่งมือเลยเสี่ยวไป๋ รีบเก็บรวบรวมพวกสินสงครามอย่างกรงเล็บตรงปลายเท้าแมงมุม และแก่นพลังงานของมันเร็วเข้า”

ที่ฉินเฟิงใช้ความมืดบดบังทุกสายตาแบบนี้ แน่นอนว่าย่อมเพราะไม่ต้องการหลบหนีโดยทิ้งสินสงครามไปอย่างเปล่าประโยชน์

นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยอบิลิตี้ของไป๋หลีอีกด้วย กล่าวได้ว่าแม้การต่อสู้ในครั้งนี้จะกินพื้นที่เป็นวงกว้าง แต่คนอื่นๆก็ไม่ได้เห็นไป๋หลีลงมือเลย ดังนั้นหากจู่ๆซากแมงมุมยักษ์หายไป ทั้งหมดคงได้แต่สันนิษฐานว่า อาจเป็นฝีมือของอุปกรณ์มิติขนาดใหญ่เท่านั้น

ไป๋หลีเริ่มทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็ว ใบมีดมิติปะทุขึ้นในอากาศ ขาทั้งแปดข้างของแม่พันธุ์แมงมุมถูกตัดขาดทันที และมีอยู่สามขาในนั้นที่ขาดครึ่งไปก่อนแล้ว เนื่องจากฝีมือของฉินเฟิง

ไป๋หลีเก็บรวบรวมพวกมันลงในพื้นที่มิติทันที จากนั้น เธอก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง ช่องว่างมิติผุดออกมา และแก่นพลังงานขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลก็ปรากฏขึ้นในมือเธอ

—เป็นแก่นพลังงานของแม่พันธุ์แมงมุม

ตรงในส่วนบริเวณที่ฉินเฟิงใช้เปลวเพลิงสงครามพวยพุ่งไปสู่ชั้นฟ้า ถูกแผดเผาจนเปลี่ยนเป็นสีโค้ก ฉินเฟิงมองหาตำแหน่งดีๆสักพักหนึ่ง ก่อนจะใช้มีดกษัตริย์ครามเฉือนเนื้อของมัน

ปุด …

เลือดสีเขียวเข้มไหลทะลักออกมา ส่วนฉินเฟิงยังคงหั่นลึกเข้าไป

ไม่นานนัก เขาก็ค้นพบถุงกักเก็บเส้นใยของแม่พันธุ์แมงมุม

ถุงเก็บใยมีขนาดใหญ่ทีเดียว มันยาวกว่า 3 เมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1 เมตร

“ช่วยเก็บเจ้านี่ด้วยนะ”

ฉินเฟิงโยนถุงเก็บใยไปทางไป๋หลี

ไป๋หลีเก็บมันลงในพื้นที่มิติอย่างรวดเร็ว จากนั้น ฉินเฟิงก็เริ่มปลดปล่อยเพลิงโลกันต์อีกครั้ง

เปลวเพลิงโถมปกคลุมร่างมหึมาของแม่พันธุ์แมงมุม เริ่มแผดเผามัน

เมื่อไร้ซึ่งแก่นพลังงานคอยสนับสนุน ซากศพของแม่พันธุ์แมงมุมก็กลายเป็นอ่อนแอ และถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้าอย่างรวดเร็วโดยฉินเฟิง

ถึงเวลานี้ ดวงอาทิตย์ก็เริ่มลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังพื้นดิน ปัดเป่าความมืดมิดให้จางหายไป

ฉินเฟิงกระโดดขึ้นไปควบม้าศึก เสี่ยวไป๋กระโดดขึ้นตาม พากันวิ่งออกจากหมอกมืดไป

“ความมืดเอ๋ย จงกลับคืน!”

รูนจำนวนมากสลายไป เปิดเผยถึงฉากภายใน ซากศพแม่พันธุ์แมงมุมได้หายไปแล้ว หลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง

กองทัพแมลงเมื่อเข้ามาประชิดถึงจุดที่แม่พันธุ์แมงมุมเสียชีวิต ก็พบว่ามันหลงเหลือเพียงกองขี้เถ้าบนพื้นเท่านั้น พวกมันไม่อาจตามหาสิ่งที่ตนต้องการได้

แต่ก็ยังมีฝูงแมลงกลุ่มหนึ่งพบเจอฉินเฟิงกับไป๋หลีระหว่างทางพอดีเหมือนกัน

แต่นี่ไม่นับเป็นอุปสรรคแต่อย่างใดสำหรับม้าศึก มันยังคงควบทะยานต่อไป เหยียบย่ำพุ่งชนฝูงแมลง แหวกเปิดเส้นทางด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ

พริบตาเดียว ฉินเฟิงก็สามารถออกจากย่านการค้าของเมืองหาน มุ่งหน้าขึ้นสู่ถนนหลัก

พวกแมลงที่ยังไม่ตาย และบางส่วนที่บริเวณใกล้เคียงเริ่มไล่ตามล่าเขา จำนวนเริ่มมากขึ้นจนท้องถนนยุบยับ ปกคลุมไปด้วยพวกมัน

หึ่ง หึ่ง

ด้วงกระหายเลือดที่ครอบครองความรวดเร็วเป็นพิเศษ บินไล่ล่าฉินเฟิง

วิซ!

มีดกษัตริย์ครามถูกกวัดแกว่งออกไป สะบั้นหัวด้วงสองตัวที่ตามมาจนขาดเป็นสองท่อน

แม้กระดองภายนอกของพวกมันจะแข็งทนทาน แต่ก็ไม่อาจเทียบเปรียบกับคมกล้าของมีดกษัตริย์ครามได้

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังยังคงคราคร่ำไปด้วยกองทัพแมลงที่ไล่ตามมา

“หาที่ตาย!”

ฉินเฟิงเหลียวหลัง สบถโกรธเกรี้ยว กระตุ้นพลังสมาธิอย่างเดือดพาล

“เพลิงโลกันต์!”

รูนไฟพรั่งพรูออกมาในพริบตา ตามเส้นถนนที่ฉินเฟิงใช้หลบหนี เกิดการปะทุของเปลวเพลิงทรงอำนาจขึ้นทันที

ตูม ตูม ตูมมมม!

ท่ามกลางเปลวเพลิง ถังน้ำมันในรถยนต์หลายคันถูกจุดชนวน เกิดการระเบิดขึ้นอย่างกระทันหัน

ถนนเป็นเส้นยาวกว่า 50 เมตร และกองทัพแมลงอีกกว่าหลายพันตัวที่ออกไล่ล่า ถูกระเบิดไฟสังหารตกตายโดยสิ้นเชิง!

ถนนหลักได้กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง หากไม่นับเสียงปะทุของเปลวเพลิง

“ไปเถอะ”

ฉินเฟิงกระตุ้นม้าศึกอีกคราว ควบไปข้างหน้า เนื่องจากเพลิงโลกันต์ยังไม่มอดดับลง พวกแมลงที่ยังไม่ตาย และไล่ตามมาจากเบื้องหลังเลยไม่สามารถติดตามเขาต่อได้ ถูกสลัดหลุดโดยฉินเฟิง

ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ตลอดทั้งเมืองหานถูกปกคลุมด้วยกองทัพแมลง ไม่มีผู้คนอยู่ตามท้องถนน แต่ฉินเฟิงไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย เขาควบม้าศึกไปตามถนน จนมาถึงอาคารหลังหนึ่งอย่างรวดเร็ว

และบนตึกของอาคารที่ว่า มันก็คือรังแมงมุมที่แม่พันธุ์ถักทอใยสร้างเอาไว้นั่นเอง

“อ๊า!”

“ฆ่าฉันเถอะ ฆ่าฉันที”

“มันเจ็บ! ปวดเหลือเกิน!”

เสียงกรีดร้องดังระงมขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งหมดล้วนดังออกมาจากรังไหม —ใช่แล้ว มนุษย์ที่อยู่ในรังไหมยังไม่ตาย!

แม่พันธุ์แมงมุมเลือดแขนเหล็กยังไม่ปล่อยให้พวกเขาตายลงในทันที แต่มันฉีดไข่เข้าไปในร่างของมนุษย์เหล่านี้ เพื่อใช้เลือดและเนื้อของพวกเขา เป็นสารอาหารในการฟักไข่ลูกแมงมุม หลังจากลูกแมงมุมฟักเป็นตัวแล้ว ก็จะได้กลืนกินเนื้อสดๆของมนุษย์ นั่นแหละถึงจะเป็นเวลาตายของพวกเขา

ปัจจุบัน ทั้งหมดกำลังถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม!

“เพลิงโลกันต์!”

สะเก็ดเปลวไฟกระจายออกไป เริ่มเผาไหม้ตามใยแมงมุม

แม้จะเป็นใยระดับราชันย์ แต่ก็เกรงกลัวไฟเหมือนกัน ยิ่งเป็นไฟของฉินเฟิงที่ได้รับการกลายพันธุ์จากศิลานรก คงไม่ต้องกล่าวถึง

เปลวไฟยังคงแผดเผาไม่หยุดยั้ง ลุกลามไปทั่วรังแมงมุม มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

ใยแมงมุมเริ่มร่วงหล่น มนุษย์ในรังไหมก็เริ่มถูกกลืนกินโดยเปลวเพลิง

ฉินเฟิงยืนอยู่ใต้อาคาร เฝ้ามองดูทุกคนในใยแมงมุมถูกเผาไหม้จนกลายเป็นขี้เถ้าด้วยสีหน้าเย็นชาและแข็งกระด้าง

ช่วงสิบปีก่อนที่เขาจะถือกำเนิดใหม่ เจ้าตัวผ่านเรื่องราวมามากมายเกินไป ดังนั้นย่อมไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ แล้วอีกอย่าง การทำเช่นนี้ ถือเป็นการมอบจุดจบที่ดีที่สุดให้กับพวกเขาแล้ว …

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท