โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 281

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.281 – กวาดล้าง

ตลอดมา ตำแหน่งที่ผู้ใช้วรยุทธโบราณควรปกป้องและให้ความสนใจมากที่สุดก็คือตันเถียน

การต่อสู้ระหว่างทั้งสอง ตันเถียนคือจุดเดียวที่ไม่ว่าฝ่ายไหนก็มิอาจฉวยโอกาสจู่โจมได้

ดังนั้นการดวลของฉินเฟิงและอีกฝ่าย นับตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นไปอย่างดุเดือด ยากจะจบลง แต่พองัดทักษะลับกลืนดาราออกมา กระแสการต่อสู้ก็เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อการต่อสู้เข้าสู่ช่วงท้าย ทักษะลับกลืนดาราย่อมสามารถบดขยี้ศัตรูได้อย่างสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้ซงหยูเหิงต้องการจะกำจัดฉินเฟิงอย่างแท้จริง หมายจะระเบิดโจมตีอย่างรุนแรง เลยเผลอละการป้องกันตันเถียนไปช่วงเวลาหนึ่ง

และเป็นฉินเฟิงที่สามารถคว้าโอกาสดังกล่าวเอาไว้ได้ ยอมแลกกับอาการบาดเจ็บเพื่อเข้าถึงตันเถียนศัตรู

แน่นอน การแลกเปลี่ยนนี้ผู้ที่บาดเจ็บมากกว่า อย่างไรก็ไม่ใช่ฉินเฟิง!

ทักษะลับกลืนดาราปะทุออก กำลังภายในตันเถียนของซงหยูเหิงหลั่งไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ในฐานะที่เป็นเลเวล D กำลังภายในทั้งหมดจึงเป็นของเหลว ฉินเฟิงดูดซับมัน เปลี่ยนให้กลายเป็นทะเลเมฆทันที

ชั่วพริบตาเดียว ภายในตันเถียนของฉินเฟิงก็มีทะเลเมฆเพิ่มขึ้นอีกชั้น

สองชั้น .. สามชั้น

ซ้อนทับกันไม่หยุด

หลังจากซ้อนทับเพิ่มขึ้นกว่า 4 ชั้น ทั้งร่างของซงหยูเหิงก็เริ่มกระตุก ผิวหนังเริ่มเหี่ยวย่นอย่างรวดเร็ว

ซงหยูเหิงจ้องมองฉินเฟิงด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ความผิดปกติของเส้นลมปราณทำเอาเขากระอักเลือดคำโต ต้องการที่จะดิ้นรนหลุดพ้น แต่ฉินเฟิงจะยอมได้อย่างไร?

เมื่อถูกใช้งานบ่อยๆ ทักษะลับกลืนดาราก็ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม พริบตาเดียว ร่างของซงหยูเหิงก็ถูกดูดซับจนหนังหุ้มกระดูก ไร้ซึ่งร่องรอยของหยาดเลือดในร่างกาย รูม่านตาของเขาขยายออก ทั้งคนทั้งร่างกลายเป็นอ่อนเปลี้ย

ฉินเฟิงชักแขนกลับคืน เขาสูบกำลังภายในจากศัตรู สูบจนมิอาจสูบมาได้อีกแล้ว

จากนั้นก็ง้างมือขึ้น และกระทุ้งหมัดเข้าใส่หน้าอกของซงหยูเหิงโดยตรง

เป๊าะ!

เสียงกระดูกหักดังกังวาน ร่างหนังหุ้มกระดูกของซงหยูเหิง พอโดนหมัดนี้เข้าไป ก็แหลกเป็นเนื้อเหลว!

–ซงหยูเหิงจบชีวิตลงโดยสิ้นเชิง!

ฝูงชนโดยรอบที่ถูกบังคับให้ถอยร่นไปกว่า 100 เมตร ทุกสายตาแทบถลนออกมา ไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า

ฝีเท้าของฉินเฟิงไม่หยุดนิ่ง หันกลับมาอีกทิศทางหนึ่ง

บนรถศึกล่องเวหาสุดหรู ผู้ดูแลตระกูลซงไร้ซึ่งกำลังจะต่อกร เมื่อเห็นฉินเฟิงตรงเข้ามา เขาก็พยายามที่จะหลบหนี ปีนขึ้นไปบนที่นั่งคนขับ แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปได้ทั้งตัว สองขาที่อยู่ข้างนอกก็ถูกฉินเฟิงคว้าจับ และกระชากลงมา

“อ๊า อย่า อย่าฆ่าฉัน!”

ชายคนนั้นกรีดร้องด้วยความสยดสยอง ร่ำร้องออกมา

ก็ต่อให้เป็นเลเวล E แล้วอย่างไร? เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย พวกเขาก็กลัวเป็นเหมือนกัน

“ทักษะลับกลืนดารา!”

ฉินเฟิงวางมือเหนืออวัยวะภายในของอีกฝ่าย เริ่มดูดซับอย่างบ้าคลั่ง

นี่เทียบไม่ได้เลยกับกำลังภายในของซงหยูเหิง ชั้นทะเลเมฆช่างอ่อนแอ เกรงว่าหลังจากกลั่นมันด้วยพลังพิเศษดูดกลืน คงเหมือนแทบจะไม่ได้อะไร

ร่างของผู้ดูแลสั่นสะท้าน ความแข็งแกร่งสูญสิ้นไปอย่างรวดเร็ว กายค่อยๆอ่อนยวบลง

เดิมเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว แต่ใช้กำลังภายในคอยรักษาอวัยวะเอาไว้ แต่บัดนี้เมื่อไร้ซึ่งกำลังภายใน เขาย่อมตายอย่างไม่ต้องสงสัย

พอสังหารตระกูลซง 2 คนต่อเนื่อง ก็เริ่มมีกลิ่นอายของเลือดติดตามร่างกายของฉินเฟิง

ฉินเฟิงยังไม่หยุดฝีเท้าเช่นเคย เขาก้าวตรงไปข้างหน้า โดยมีทิศทางคือเหล่ารุ่นเยาว์ตระกูลซง

ปัจจุบันคนเหล่านี้ ในแววตาฟุ้งไปด้วยความหวาดกลัว ฉินเฟิงก้าวเข้ามา พวกเขาก็ก้าวถอยโดยไม่รู้ตัว

ทั้งหมดหวาดกลัวจนแทบทนไม่ไหวแล้ว!

“ฉันยังไม่อยากตาย!”

“รีบหนีเร็ว!”

“วิ่ง!”

เดิมพวกตนมาที่นี่เพื่อต้องการดูโชว์ของอาวุโส ท่าทียามลงจากรถทรนงและองอาจ แต่บัดนี้ กลับแตกกระเจิงหลบหนีราวกับลูกสุนัขหลงทาง

พวกเขาไม่มีเวลามามัวคร่ำครวญถึงเหตุการณ์ที่มันเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป ในสมองคิดเพียงอยากจะเอาชีวิตรอด

ไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาวเท่านั้นที่หลบหนี แต่คนที่วิ่งไปก่อนเพื่อนและหนีได้รวดเร็วที่สุด ก็คือซงหลินฮาน

“ถึงเวลานี้ยังคิดหนีงั้นหรือ?”

กำลังภายในของฉินเฟิงอัดฉีดลงบนฝ่าเท้า พื้นถนนแข็งเบื้องล่าง ถูกย่ำเป็นที่ดีดตัว ระเบิดเป็นหลุมทันที

ฉินเฟิงว่องไวเป็นอย่างมาก!

“ตายซะ!”

หนึ่งหมัดของฉินเฟิงระเบิดออก แต่มิได้แฝงกระบวนท่าใดๆ เป็นเพียงหมัดลุ่นๆที่ห่อหุ้มด้วยกำลังภายใน พริบตาเดียวรุ่นเยาว์กว่า 4 – 5 คนถูกสังหารลง

ปุ ปุ พรวดด!

เลือดสาดกระจาย ทุกศพแตกกระจายกลายเป็นเนื้อเหลว

“กรี๊ดดดดด!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนสะท้อนไปในอากาศเป็นครั้งคราว สำหรับรุ่นเยาว์เลเวล F ของตระกูลซง ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกในสายตาของฉินเฟิง

ฉินเฟิงไม่ตั้งใจที่จะปล่อยพวกเขาไป!

เจ้าเชื้อร้ายพวกนี้ เขาแค่เคลื่อนไหวสัก 2 – 3 ท่วงท่าก็จบชีวิตพวกมันทั้งหมดลงได้

ปัจจุบัน หลงเหลือเพียงซงหลินฮานที่ยังมีชีวิตอยู่

ซงหลินฮานเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนข้างหนึ่งถูกตัดขาดโดยฉินเฟิง เลยไม่สามารถหลบหนีไปได้ไกล

ฉินเฟิงเร่งไล่ตามเขา ยื่นมือออกไป

“ทักษะลับกลืนดารา!”

ปลดปล่อยพลังดูด!

ซงหลินฮานพบว่าเบื้องหลังคล้ายกับปรากฏกระแสวังวนขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นแรงดึงดูดมหาศาล ฉุดลากความเร็วของเขาให้ดิ่งลง

“ไม่!”

แม้จะแหกปากร้องสุดเสียง แต่ก็ไม่อาจหยุดกระบวนท่าของฉินเฟิงได้เลย

ฉินเฟิงฉกคว้าเข้าที่คอของซงหลินฮาน

กริ๊ก!

บังเกิดเสียงอันคมชัด คอของซงหลินฮานบิดเบี้ยวในมุมที่ไม่อาจจินตนาการ

จบชีวิตลงโดยสิ้นเชิง!

ฉินเฟิงปลดปล่อยกลืนดารา สูบทะเลเมฆจากศัตรูอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นชักมีดออกมา ตวัดตัดศีรษะของซงหลินฮาน

ศีรษะนี้ มีรางวัลนำจับในเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล มูลค่าสูงไม่น้อยเช่นกัน

ฉินเฟิงเริ่มกวาดล้างสนามรบ

การมาของตระกูลซงในครั้งนี้ พวกเขานำอุปกรณ์ติดตัวมาด้วยมากมาย ไม่ต้องกล่าวถึง 3 คนแรกที่ตกตายลง โดยเฉพาะซงหยูเหิงที่ครอบครองความมั่งคั่งชนิดต่อต้านสวรรค์

อย่าลืมนะว่า ผู้ใช้พลังเลเวล D มีตำแหน่งเทียบเท่าได้กับเทศมนตรีเมือง

ดังนั้นวัตถุดิบในอุปกรณ์รูนของเขาเพียงแค่ ยาผสมกับเหรียญเงินพลังงาน มูลค่าก็น่าจะมากกว่า 1 หมื่นล้านแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เงินที่อยู่บนอุปกรณ์สื่อสารของอีกฝ่าย เกรงว่าจะมากยิ่งกว่า

แต่น่าเสียดาย ที่ซงหยูเหิงมิได้ต่อสู้มานานหลายสิบปี เลยไม่มีหมายจับอะไร ไม่สามารถนำไปแลกเงินได้

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงมิใช่คนที่โลภเกินไป แค่โด้ของที่ซงหยูเหิงมี ฉินเฟิงก็นับว่าได้รับโชคลาภก้อนใหญ่แล้ว

“ไม่คิดเลยว่าพอแปลงโฉมเป็นบลัดฮันเตอร์ ไม่นานก็สามารถคว้าสินทรัพย์มูลค่ากว่าหมื่นล้านมาได้” ฉินเฟิงกล่าวกับตนเองด้วยรอยยิ้ม

“หยุดยิ้มก่อนเถอะ ดูเหมือนบนตัวคุณจะมีเลือดออกนะ” ไป๋หลีลงจากหลังรถล่องเวหา และกระโดดมานั่งบนไหล่ของฉินเฟิง

ฉินเฟิงยื่นมือไปลูบไป๋หลี อืม … ขนเธอนุ่มมากจริงๆ

ไป๋หลีกลอกตาใส่ฉินเฟิง

“ขอโทษทีๆ ไปกันเถอะเสี่ยวไป๋ เอาไว้ถึงเมืองนุ่ยเหมิงแล้ว ฉันจะอาบน้ำให้เธอเอง” ขณะกล่าว ฉินเฟิงก็เรียกรถสายฟ้าสีเงินออกมา สตาร์ทมันและขับหายลับไป

หลังฉินเฟิงจากไปราวๆครึ่งชั่วโมง กองคาราวานที่รั้งอยู่เบื้องหลัง ไม่กล้าขับเข้ามาก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็มาถึงเขตสนามรบ

ไม่นาน พวกเขาก็เห็นถึงสภาพการต่อสู้โดยรอบ ถนนถูกทำลาย , รถสุดหรูที่เสียหายอยู่ข้างทาง ทั้งยังมีศพมนุษย์อีกมากมาย คนในกองคาราวานจ้องมองฉากนี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ฟุ้งไปด้วยความสยองเกล้า

สงสัยจริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่

“ไป รีบไปกันเร็ว อ้อมไปอีกทางหนึ่ง! ถึงระยะจะไกลกว่าที่นี่ถึง 3 เท่า แต่พวกเราจะไม่ผ่านเส้นทางนี้เด็ดขาด!”

การต่อสู้ระดับนี้ หากทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อย ภัยพิบัติอาจเชื่อมโยงมาถึงตัวพวกเขา

แม้ว่ารถล่องเวหาที่จอดทิ้งไว้จะมีมูลค่ามากก็ตาม และอุปกรณ์สื่อสารบนศพเหล่านั้น อาจมีมูลค่ามากถึง 100,000 เหรียญ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าหาความมั่งคั่งจากคนตาย

ณ ขณะนี้ ในตระกูลซง อุปกรณ์สื่อสารส่งเสียงเตือนอย่างบ้าคลั่ง

“ผู้ดูแล .. เสียชีวิต”

“รุ่นที่ห้า ซงหยูเหิง เสียชีวิต”

“รุ่นเยาว์รุ่นที่เจ็ด … เสียชีวิต”

“รุ่นเยาว์รุ่นที่เจ็ด … ”

“ … ”

“ทายาทรุ่นที่หก ซงหลินฮาน เสียชีวิต!”

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ทุกคนของตระกูลที่ออกไปข้างนอก ถูกล้างบางจนหมดสิ้น!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท