โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 334

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

2/4

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.334 – ประตูอัญเชิญ

“จิ๊จิ!”

เสียงร้องสะท้อนกังวานไปทั่ว

รอบกายฉินเฟิงและไป๋หลี รายล้อมไปด้วยกิ้งก่าทรายนับร้อยตัว

พวกมันกระโจนเข้ามายังทิศทางที่ราชินีเพิ่งตกตายอย่างบ้าคลั่ง

เผ่าพันธุ์กิ้งก่า ถูกสังหารโดยฉินเฟิงและไป๋หลีไปกว่า 200 ตัวแล้ว ปัจจุบันยังเหลืออีกกว่า 300 ตัว ซึ่งนี่มากกว่าที่ฉินเฟิงคาดเดาไว้ในตอนแรก

“จงลอยมาหาฉัน!”

พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกกระตุ้น หัวของราชินีกิ้งก่าทรายระเบิดออก อะไรบางอย่างที่มีขนาดเท่ากำปั้น เหมือนว่าจะเป็นแก่นอบิลิตี้ที่สุกสกาวคล้ายดาวเคราะห์ขนาดเล็ก ลอยไปตกลงในมือฉินเฟิง

ดวงตาของเหล่ากิ้งก่าทรายกลายเป็นสีแดงฉาน

มนุษย์ผู้นี้ ไม่เพียงสังหารประมุขเผ่าของพวกมัน แต่ยังขโมยแก่นอบิลิตี้ราชันย์ที่แสนสำคัญของกิ้งก่าทรายไป

การกระทำของฉินเฟิง ทำให้พวกมันแทบกลายเป็นบ้า!

“บูชายัญอัญเชิญ!”

ท่ามกลางฝูงกิ้งก่าทราย นายพลสัตว์ร้ายที่ดูค่อนข้างชรา ตัดสินใจปลดปล่อยพลังสมาธิออกมา

ฉินเฟิงผงะตกใจ แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆเลย ในหัวใจของเขาสัมผัสได้ถึงอันตราย

ตูม!

จู่ๆกิ้งก่าทรายตัวหนึ่งพลันตัวระเบิดแตก แปรสภาพกลายเป็นเศษหินและทรายนับไม่ถ้วน

ตูม ตูม ตูม!

ราวกับปฏิกิริยาลูกโซ่ กิ้งก่าทรายตัวแล้วตัวเล่า ทยอยกันตัวระเบิดแตก เศษหินทรายจากร่างของพวกมันกวาดขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อตัวเป็นประตูขนาดยักษ์

ประตูหินปรากฏขึ้น มีขนาดความสูงกว่า 50 เมตร กว้างถึง 100 เมตร ถือว่าใหญ่โตนัก

–มันคือประตูอัญเชิญ

ประตูที่เกิดจากการสะสมของทรายและหิน ใจกลางมันสะท้อนให้เห็นถึงทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหลัง แต่ในพริบตาเดียว แสงสีเงินก็พลันสาดออกมา จากนั้น ทิวทัศน์ทุกอย่างก็กลายเป็นมืดมิด

ประตูอัญเชิญเริ่มแง้มออก รอยแยกมิติปรากฏขึ้นทันใด!

มองไปยังรอยแยกมิติใหญ่โต ชวนให้หัวใจของผู้รับชมประหวั่นไปด้วยความพรั่นพรึง

เผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาในโลกอื่น แท้จริงแล้วก็เป็นเหมือนกับมนุษย์ ที่เข้าใจถึงความลี้ลับของมิติ แต่ความรู้ของพวกมันในเรื่องนี้ เหนือกว่ามนุษย์อย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก!

อย่างน้อยในตอนนี้ มนุษย์ก็ยังไม่รู้วิธี ว่าจะส่งผ่านพลังงานธาตุอื่นๆกระตุ้นมิติได้อย่างไร หากคิดทำลายรอยแยกมิติ พวกเขานึกออกแค่วิธีการใช้อุปกรณ์รักษาเสถียรภาพ ปรับระดับให้พลังงานกลับมามั่นคง บังคับปิดรอยแยกมิติก็เท่านั้น

กิ้งก่าทรายมากมายบูชายัญตนเองเพื่อเชื่อมต่อกับต่างโลก และประตูมิติแห่งนี้ คืออุโมงค์มิติที่ใหญ่ที่สุดที่ฉินเฟิงเคยเห็นมา นับตั้งแต่เขาเกิดใหม่

สูง 50 เมตร มันเทียบเท่าได้กับตึก 20 ชั้น! ไหนจะยาวกว่า 100 เมตร ที่เกือบจะกลายเป็นถนนเส้นหนึ่งได้แล้ว!

ความกว้างและสูงขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลย ว่าสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาตนใดกัน ที่กำลังจะผ่านมันออกมา

สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนกลับกลาย

ครืนนนน!

กราว กราว กราว!

ภายในรอยแยกมิติ ปรากฏสัตว์ร้ายเลเวล E คืบคลานออกมา –ยังคงเป็นกิ้งก่าทราย!

ไม่นาน กิ้งก่าทรายเลเวล E จำนวนนับไม่ถ้วนก็คืบคลานออกมา มีกระทั่งมังกรเลื้อยคลานในเลเวล D

แม้นี่จะเป็นสัตว์ร้ายระดับสามัญ แต่ร่างกายกลับใหญ่โต ลำตัวยาวกว่า 12 เมตร เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์

สัตว์ร้ายกรีฑาทัพออกมาจากรอยแยกมิติอย่างบ้าคลั่ง

“บัดซบ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

ฉินเฟิงร้องคำราม ระเบิดอบิลิตี้อันทรงพลังออกมา

“แมกมาโลกันต์!”

เบื้องหน้ารอยแยกมิติ ผืนทรายกลายเป็นแอ่งลาวาขนาดย่อม

จ๋อม!

ก๊าซซซ!

จิจิ!

สัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนที่เพิ่งก้าวออกจากรอยแยกมิติ จมลงไปในแอ่งลาวา แผดเสียงกรีดร้องน่าสยดสยอง

“ปิดบันทึกวิดีโอซะ!” ฉินเฟิงตะโกน

ว่าจบเขาก็ปิดบันทึกของตัวเอง ไป๋หลีก็เช่นกัน

พลังสมาธิของฉินเฟิง กวาดออกไปในเวลาเดียวกัน

โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ!

เนื่องจากการต่อสู้ลุกลามใหญ่โตของฉินเฟิง โดรนตรวจตราของทะเลเหนือจึงพากันบินมาเก็บภาพในพื้นที่ และส่งภาพกลับไป ไม่รู้เหมือนกันว่ามีกี่คนแล้วที่เห็นมัน

ภายในสำนักงานใหญ่ปราการชาตง ภาพวิดีโอที่ถูกส่งมา จอแล้วจอเล่าเริ่มกลายเป็นภาพซ่า

หูเหลียงสบถเดือดดาล

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”

คนที่อยู่ข้างเขาสั่นหงิกๆราวกับลูกไก่ หวาดกลัวเสียงคำรามของหูเหลียง ไม่กล้าเอ่ยคำใด ปล่อยให้หน้าที่นี้เป็นของหนึ่งในผู้ช่วยหูเหลียง ที่กำลังปาดเหงื่อบนศีรษะตน “นายพลหู น่าจะเป็นมิสเตอร์ฉินที่ทำลายโดรน เพราะไม่อยากให้พวกเราสอดแนมเขา”

“สอดแนมงั้นหรอ? คิดเล็กคิดน้อยอะไรของมัน? ตอนนี้เกิดรอยแยกมิติขนาดใหญ่ขึ้นนะ นายไม่ได้ยินเสียงไซเรนแจ้งเตือนรึไง ถ้าสัตว์ร้ายทรงพลังหลุดออกมา จะเกิดอะไรขึ้นรู้รึเปล่า!”

ผู้ช่วยหลั่งเหงื่อเย็น ยืดหลังตรง

“นายพลหู เช่นนั้นพวกเราควรส่งโดรนออกไปเก็บภาพเพิ่มหรือไม่?”

โดรนเหล่านี้ มันก็เป็นแค่เครื่องจักรขนาดยาวครึ่งเมตรเท่านั้น และที่กระจายอยู่ทั่วทั้งทะเลทรายทะเลเหนือ อย่างน้อยก็มีมากกว่า 1,000 ลำ

“ไม่จำเป็น สถานการณ์น่าเป็นห่วงนัก รีบระดมผู้ใช้พลังเลเวล D แล้วลงไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณนั้นซะ”

“แต่ว่า … ที่นั่นคืออาณาเขตของกิ้งก่าทราย”

“สมองนายถูกลาเตะไปแล้วรึไง ยังจะมากังวลเรื่องถิ่นของพวกมันอีก ไม่เห็นหรือว่าประมุขเผ่ากิ้งก่าถูกฆ่าตายไปแล้ว เร็วเข้า รีบไปเตรียมฮอลศึกให้พร้อม ฉันเองก็จะไปด้วย!”

“รับทราบท่านนายพล!”

หูเหลียงนำผู้ใช้พลังเลเวล D กว่า 4 – 5 ที่อยู่ข้างกายติดตามไปกับเขา มุ่งหน้าสู่ส่วนลึกของทะเลทรายทะเลเหนือ!

ขณะเดียวกัน ในอาณาเขตของกิ้งก่าทราย บัดนี้ผืนทรายได้ถูกเปลี่ยนเป็นทุ่งลาวา และระหว่างที่กำลังอธิบายอยู่นี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกระดูกขาว , แก่นอบิลิตี้ , ขนสัตว์ และกรงเล็บแหลม

ล้วนไม่มีตนใดรอดชีวิตเลย!

“ไป๋หลี รีบปิดรอยแยกเร็วเข้า!”

ฉินเฟิงตะโกนเสียงดัง

ไป๋หลีพยักหน้ารับคำสั่ง ระดมอบิลิตี้ แสงสีเงินโถมเข้าปกคลุมรอยแยกมิติขนาดใหญ่เบื้องหน้า

ในพริบตาเดียว รอยแยกสีดำ ก็เปลี่ยนเป็นสีเงินสดใส

โฮกกกกก!

แต่ในตอนนั้นเอง ณ ใจกลางรอยแยกมิติ กลับปรากฏอุ้งมือใหญ่โตของสัตว์ยักษ์ยื่นออกมาอย่างกระทันหัน

ปัง!

มือนี้เต็มไปด้วยเกล็ด มีขนาดใหญ่โต ราวกับว่าเจ้าของๆมันมีขนาดเทียบเท่ากับขุนเขา

มือยักษ์เริ่มยืดยาวออกมา มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 2 เมตร เล็บของมันใหญ่โต โค้งมนราวกับตะขอ ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุที่แผดเผา มันแผ่ไอเย็นอันมืดมิดออกมา ไม่อาจทราบได้เลยว่ากรงเล็บนี้เปื้อนเลือดสิ่งมีชีวิตไปมากเท่าใด

วู้มมมม!

แสงสีเงินถูกเจาะ รอยแยกสีดำผุดขึ้นมาอีกครั้ง

ไป๋หลีโกรธเกรี้ยว

“จงตัดขาด!”

แสงสีเงินถูกเร่งเร้า ห่อหุ้มรอยแยกมิติอีกรอบในทันที ไม่เพียงแค่นั้น คราวนี้มันยังโถมเข้าปกคลุมแขนของสัตว์ร้ายต่างมิติเลเวล C ที่ยื่นออกมาเอาไว้ด้วย

“และกลับคืน!”

เปรี้ยง!

บังเกิดเสียงดังสะท้าน รอยแยกมิติขนาดใหญ่ ราวกับกระจกสีเงินที่แตกเป็นเสี่ยงๆ กระจายเป็นจุดเล็กๆ สลายหายไปในอากาศ

มองกลับเข้าไปในประตูหินขนาดใหญ่ สิ่งที่หลงเหลืออยู่เบื้องหลังมัน คือท้องฟ้าสีเหลืองอ่อนอันไร้ขอบเขตของทะเลทรายทะเลเหนือ

ไม่มีรอยแยก ไม่มีการคงอยู่ของรูนมิติอีกต่อไป

ซุ่ม!

มือยักษ์ตกลงในแอ่งลาวา แมกมานับไม่ถ้วนสาดกระเซ็นออกมา เนื้อสุกในชั่วพริบตา และกลายเป็นคาร์บอนสีเทาอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้เพียงเกล็ดและกรงเล็บของมัน

ฟู่ว …

เม็ดเหงื่อหยดย้อยลงจากหน้าผากของฉินเฟิง

การคงสภาพแอ่งลาวาขนาดใหญ่เช่นนี้ สูบพลังสมาธิของเขาไปมากโข

โชคยังดี ที่ทั้งหมดจบลงแล้ว

“จงลอยมาหาฉัน!”

ฉินเฟิงใช้งานพลังสมาธิ วัตถุดิบภายในแอ่งลาวาทั้งหมดถูกยกขึ้น มากองรวมกันอยู่ข้างกายเขา

ไป๋หลีวาดมือ เก็บรวบรวมพวกมัน

“จงกลับคืน!”

ธาตุไฟในแมกมาโลกันต์ แปรสภาพกลับเป็นรูนถูกดูดกลับคืน เปลี่ยนทุ่งลาวาแห่งนี้ ให้กลายเป็นทุ่งดินดำ

หึ่ง หึ่ง!

บนท้องฟ้าไกล ปรากฏฮอลศึกกว่าสามลำใกล้เข้ามา ฉินเฟิงเงยหน้าขึ้นมอง ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิด นั่นคงจะเป็นคนจากชาตง

และก็เป็นอย่างที่เดาจริงๆ เมื่อฮอลศึกร่อนลงจอด คนแรกที่โผล่ขึ้นในสายตา คือหูเหลียง

มองจากท้องฟ้าก่อนหน้านี้ เห็นแค่เพียงประตูหินขนาดใหญ่ผุดขึ้นเหนือทะเลทราย ทั้งยังมีดินดำลากเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร ทว่าสัตว์ร้ายกลับไม่โผล่มาให้เห็นเลยสักตัวเดียว

“เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่ามีรอยแยกมิติหรอกหรือ? รอยแยกหายไปไหนแล้ว?” หูเหลียงเอ่ยถาม

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท