โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 344

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ch.344 – ปิดล้อมปราบปราม

Provider : Muntra

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.344 – ปิดล้อมปราบปราม

ปากเหล่านี้ขยุกขยิกอยู่ใต้ท้องของมัน มีหน้าที่คอยดูดซับพลังงานจากทราย แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานของตัวเองอย่างต่อเนื่อง

และตอนนี้ เนื่องจากแมกมาโลกันต์ของฉินเฟิง ทำให้ทรายที่มันคอยสูบกินตลอดเวลา กลายเป็นเพลิงหนืดลวกปากไปทันใด

ก๊าซซซซ!

เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากปากแมลงนับไม่ถ้วนของแม่พันธุ์หนอนทรายทองที่ถูกแผดเผา

ฮืออออ!

แม่หนอนเปล่งเสียงร้องน่าเวทนา คลื่นเสียงถูกส่งผ่านออกไป พลังสมาธิของฉินเฟิงโอบเข้าปกป้องหูของเขา

ผู้ใช้พลังคนอื่นๆอ่อนแอกว่าฉินเฟิง ภายใต้เสียงร้องนี้ สมองพวกเขาอื้ออึงหึ่งหึ่ง วิงเวียนเดินไม่เป็นทรง

พวกเขาเสียการควบคุมตัว แต่กองทัพหนอนทรายทองน่ะไม่ พวกมันฉวยโอกาสนี้โจมตี ล่าสังหารผู้คนทีเผลออย่างบ้าคลั่ง

“ยิงกระหน่ำเข้าไป โจมตีตรงจุดอ่อนของแม่พันธุ์หนอนทรายทอง!”

หูเหลียงตะโกนออกคำสั่ง มือปืนที่ยืนอยู่ห่างออกไปลั่นไก สาดกระสุนอย่างเมามัน

หลินชิได้รับโอกาสแสดงฝีมืออีกครั้ง บนไหล่เขา ปรากฏกระบอกปืนขนาดยักษ์เล็งไปยังแม่พันธุ์หนอนทรายทอง

กระสุนปืนใหญ่โปร่งใสนี้ พุ่งฉีกอากาศเข้าไปในปากของมันทันที

ตูมมมมมม!

เสียงหนักทึบดังสะท้อนออกมา เพียงได้ยินก็ชวนให้ผู้คนรู้สึกถึงแรงระเบิดมหาศาล

คราวนี้ แม่พันธุ์หนอนทรายทองถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บหนัก

ยังไงก็ตาม ผลกระทบของกระสุนโปร่งใสเมื่อครู่ กลับช่วยส่งตัวแม่หนอนให้หลุดออกไปจากเสาแมกมาโลกันต์ซะอย่างนั้น

ร่างอันใหญ่โตของมันร่วงหล่นลง ในที่สุดก็กลับลงสู่ผืนทราย

เหล่าผู้ใช้พลังที่กำลังเฝ้ามองฉากนี้กลายเป็นเดือดพล่าน ร่างใหญ่ยักษ์ของมันร่วงทับกองทัพแมลง ทว่าลึกเข้าไปในบริเวณดังกล่าว มีเพียงฉินเฟิงและไป๋หลีเท่านั้นที่หาญกล้าเข้าไป

ตอนนี้แม่พันธ์หนอนถูกแรงปะทะปลิวไกลไปกว่า 100 เมตร กองทัพแมลงเบื้องหลังมันลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

เล่ยชางย่ำลงบนหนอนทรายทอง ฉวยจังหวะที่แม่พันธุ์กำลังล้ม ถีบส่งตัวเอง ทะยานผ่านอากาศเข้าหามัน ใบมีดยาวในมือเอ่อล้นไปด้วยกระแสไฟสีม่วง

“มีดสายฟ้า!”

“ทิ่มแทง!”

แสงจากใบมีดสาดออกมา ตรงเข้าใส่ร่างของแม่หนอนทรายทอง

การกระทำนี้ ส่งผลให้ร่างที่กำลังล้มกลิ้งของแม่หนอนทรายทอง พลิกกลับมาใช้เท้าแมลงนับไม่ถ้วนหยั่งพื้นได้อีกครั้ง

เคร้ง!

ร่างราวกับหยกขาวกลายเป็นดั่งศรอันแหลมคม พุ่งชนเข้าใส่เล่ยชาง ในยามที่มันเข้ามาใกล้ ท้องฟ้าราวกับถูกบดบังจนมืดมัว

ตูม ตูม ตูม!

ปราณกำลังภายในถูกทุบทำลายเป็นระลอกๆ เล่ยชางไม่รอให้ถูกโจมตีไปมากกว่านี้ ยินยอมโดนกระแทกลอยกระเด็นออกไป

ฮู้มมมม!

แม่พันธุ์หนอนร้องเสียงลากยาวนาน หนอนทรายทองนับไม่ถ้วนมุดเข้าไปใต้ท้องของมัน ตามมาด้วยเสียงเคี้ยวแจ๊บๆของฟันอันแหลมคม

กลิ่นอายของแม่พันธุ์หนอนทรายทองที่ทรุดโทรมในตอนแรก เริ่มฟื้นฟูกลับมาอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่ามันกัดกินหนอนทรายทองตัวอื่นๆ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง

“ใจเย็นเข้าไว้ อย่าเป็นไอ้โง่รีบบุ่มบ่าม!” หูเหลียงตะโกนเตือน

สีหน้าของเล่ยชางเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ ไอ้คำตะโกนเสียงดังเมื่อครู่ มันมิใช่หมายถึงเขาหรอกหรือ?

ชั่วเวลานี้ กองทัพแมลงพยายามปกป้องแม่ของพวกมัน เริ่มกลับมากระจุกตัวหนาแน่น ขยายพื้นที่รอบตัวแม่พันธุ์อย่างบ้าคลั่ง บดขยี้กัดกินชีวิตมนุษย์ บังคับให้พวกเขาถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง

แม้คนเหล่านั้นจะเป็นเลเวล D แต่ด้วยจำนวนเผ่าหนอนที่มากเกินไป เลยไม่อาจยืนยื้อเอาไว้ได้

ตูม ตูม ตูม!

ฉินเฟิงไม่เร่งร้อนที่จะไล่ตามแม่พันธุ์ไป ใบมีดที่ลุกไหม้พลันยืดขยายออก ตัดสะบั้นหนอนทรายทองโดยรอบ

“พรมโลกันต์!”

ฉินเฟิงกวัดแกว่งมีดจนสามารถบุกเข้าไปกลางดงกองทัพแมลง ฉากนี้ราวกับเรือน้อยลอยลำในท้องทะเลคลั่ง แม้ถูกซัดโคลงเคลง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะจมลง

เปลวเพลิงลุกโชนแผดเผา กินขอบเขตกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก

หลังจากต่อสู้มายาวนานกว่า 7 – 8 วัน อำนาจของพรมโลกันต์ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นถึงขีดสุด

ฉินเฟิงวาดมือ เปลวไฟลุกท่วมทั่วฟ้า จมอยู่ใต้อำนาจแผดเผา กินรัศมีกว่า 100 เมตร

พวกแมลงที่อยู่ในระยะนี้ ต่างส่งเสียงกรีดร้องน่าหวาดกลัว ท่ามกลางเปลวไฟ ไม่นานพวกมันก็ถูกเผากลายเป็นขี้เถ้า

ปีกนกยูงสยายออก นำพาฉินเฟิงโผบินไปข้างหน้า

ช่วงเวลานี้ มีเพียงฉินเฟิงเท่านั้น ที่กล้าดิ่งลึกเข้าไปในฝูงแบบนี้

ระยะห่าง 100 เมตรที่ลุกท่วมไปด้วยพรมโลกันต์ ผ่านพ้นไปในพริบตาเดียว ท่าอบิลิตี้ต่อไปถูกเปิดใช้งานทันที

“แมกมาโลกันต์!”

อีกแอ่งแมกมาผุดขึ้นใต้ร่างของแม่พันธุ์หนอนทรายทอง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางพลาดซ้ำสอง ใต้เท้าของแม่พันธุ์หนอนทรายทอง ปรากฏแสงสีทองสาดออกมาทันที สร้างกำแพงขวางลาวาปะทุเอาไว้ล่วงหน้า

“เสาแมกมา!”

พลังสมาธิของฉินเฟิงระเบิดออก พยายามทะลวงกำแพงสีทอง รูนไฟถูกระดมไปกองรวมกัน สุดท้ายเสาแมกมาพังทลายลง

แต่นั่นก็ช่วยให้แม่พันธุ์หนอนทรายทองเสียการทรงตัวอีกครั้ง

ในอีกฟากฝั่งหนึ่ง หลินชิรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เร่งเหนี่ยวไกปืนพลังงาน โจมตีแม่พันธุ์หนอนทันใด

ฮู้มมมม!

แม่หนอนเกลือกกลิ้งออกไป ม้วนตัวหลบกระสุนนัดนี้ ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่มีพลาดซ้ำสอง หากคิดจะลอบยิงมัน อย่าหวังว่าครั้งต่อไปจะทำได้ง่ายๆ

ฉินเฟิงยังคงไม่ยอมแพ้ แอ่งลาวาผุดพรายขึ้นเบื้องล่างแม่หนอนอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้ว่าการกระทำเช่นนี้ จะไม่ถึงขั้นก่อความเสียหายร้ายแรงใดๆต่ออีกฝ่ายก็ตาม แต่ก็ยังช่วยยับยั้งไม่ให้แม่หนอนดูดซับพลังงานจากทราย

ระหว่างนั้น มีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิง จู่ๆก็ถูกเก็บกลับคืนอย่างกะทันหัน

เนื่องจากพลังป้องกันทางกายภาพของแม่หนอนแข็งแกร่งมาก มันถึงขั้นอาจมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีจากรูน ถ้างั้น แล้วการโจมตีโดยอาศัยกายภาพเพียวๆเล่า?

ความว่องไวของฉินเฟิง พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เทคนิคก้าวมังกร!”

“เทคนิคต่อสู้เหิงหลง – มังกรตะปบ!”

ฉินเฟิงง้างมือข้างหนึ่ง ร่างเงากรงเล็บมังกรยักษ์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 3 เมตรก่อตัวขึ้นมา อัดฉีดไปด้วยกำลังภายในอันไร้ขอบเขต ฟาดเข้าใส่เปลือกของแม่พันธุ์

เปรี๊ยะ!

เกราะคุ้มกับสีบริสุทธิ์ราวกับหยกขาว ปริร้าว ยุบตัวเป็นหลุมทันใด

ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผล!

ร่างของฉินเฟิงกระพริบไหวอย่างต่อเนื่อง ทะยานไปตกลงบนลำตัวของแม่พันธุ์

ทักษะลับกลืนดารา ปลดปล่อยแรงผลัก!

ในเสี้ยววินาที กำลังภายในปะทุเดือดคลุ้มคลั่ง พละกำลังทางกายภาพของฉินเฟิง เพิ่มพูนขึ้นอีกหลายเท่า

ปงงงง!

หนึ่งหมัดซัดลงไป กะเทาะเปลือกของที่คอยคุ้มกันภายนอกแม่หนอนทรายทอง

ปงงงง!

อีกหนึ่งหมัดกระทุ้งลงไปอีกครั้ง

ปง ปง ปง ปง ปง ปงง ปงงงง!

ฉินเฟิงยืนหยัดทรนงอยู่บนร่างของแม่พันธุ์หนอนทรายทอง กระซวกหมัดแล้วหมัดเล่าลงไป เสียงคำรามหวีดหวิวของกำลังภายในกวาดก้องอึกทึก

เปลือกที่ปกคลุมด้านนอกของแม่พันธุ์ แปรสภาพเป็นใบมีดแหลมดั่งคราก่อน ทิ่มแทงตอบโต้ ทว่าทั้งหมดก็ถูกสกัดกั้นโดยปราณกำลังภายในของฉินเฟิง

ตรงกันข้ามกับการโจมตีของฉินเฟิง ที่สามารถเจาะทะลวงเข้าถึงเนื้อหนังของมัน!

กี๊ซซซซซซ

แม่พันธุ์หนอนทรายทองดีดดิ้นทุรนทุราย แต่อย่างไรมันไม่อาจสรรหาวิธีกำจัดฉินเฟิง

ทันใดนั้นเอง จู่ๆแสงสีทองพลันสาดสว่างออกมา

ร่างของแม่พันธุ์หนอนทรายทองเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาดใหญ่โตหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว

“ไม่ดีแน่ แม่หนอนกำลังคิดจะหลบหนี!” หูเหลียงร้องตะโกน

ไม่ว่าใครต่างก็รู้ ว่าสัตว์ร้ายในระดับราชันย์ มักจะครอบครองทักษะเปลี่ยนรูป หากกล่าวว่าขนาดใหญ่โตของแม่พันธุ์ชวนให้ผู้คนขวัญผวา งั้นขนาดเล็กจ้อยของมันย่อมไม่มีผู้ใดหาเจอ กล่าวได้ว่าอยู่ในสถานะคงกระพัน

ช่วงเวลานี้ หากไม่ทำอะไรเลย ราชันย์สัตว์ร้ายจะต้องหนีไปได้อย่างแน่นอน!

ขณะที่ฉินเฟิงกำลังจับร่องรอยของราชันย์สัตว์ร้าย เปรี้ยง! กระสุนนัดหนึ่งพลันถูกยิงลอยออกมา

–เป็นหลินชิ!

อำนาจของกระสุนนัดนี้ไม่อ่อนแอเลย มันสามารถทำร้ายแม่พันธุ์หนอนทรายทองได้ ฉะนั้นย่อมสามารถทำร้ายฉินเฟิงได้เช่นกัน

เขาจงใจ

จงใจที่จะกำจัดฉินเฟิงไปพร้อมๆกับแม่พันธุ์หนอนทรายทอง!

สายตาของฉินเฟิงก็พลันเขม็งเกร็งขึ้นทันใด

“จงสะท้อนกลับ!”

พลังสมาธิอันยิ่งใหญ่ ตัดขาดการควบคุมกระสุนของหลินชิโดยตรง

กระสุนเบนหัวไปอีกทิศทาง ตามมาด้วยระเบิดเสียงดังสนั่น

หนอนทรายทองบนพื้นถูกแรงระเบิดเป่าจนไม่เหลือซาก

สีหน้าของหลินชิกลายเป็นซีดเซียว

กระสุนปืนใหญ่ลูกเมื่อกี้ราคาแพงมาก มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต่อกรกับราชันย์สัตว์ร้ายโดยเฉพาะ

แต่ฉินเฟิงกลับควบคุมกระสุน ไปยิงเข้าใส่ตัวอ่อนหนอนทรายทอง นั่นมันไม่ทำกับใช้ปืนใหญ่ยิงยุงหรอกหรือ?

“ไอ้คนน่ารังเกียจ!” หลินชิคำราม เร่งเร้าจิตสำนึก ปลดปล่อยพลังสมาธิกระจายข้อความออกไป “อย่าปล่อยให้แม่พันธุ์หนอนทรายทองหนีไปได้! รีบไปชิงแก่นพลังงานของมันมาเร็วเข้า!”

จุดประสงค์ของหลินชิก็คือต้องการสร้างปัญหา เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามดึงฝูงชนให้ไปวุ่นวายกับฉินเฟิง

ผู้ใช้พลังคนอื่นๆผงะนิ่งงันไปในเวลาเดียวกัน จากนั้นดวงตาของพวกเราก็ลุกเป็นไฟ

พวกเขาเติบโตมาถึงจุดนี้ได้ แน่นอนย่อมไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น ไม่มีใครคิดใช้ปืนถ้าไม่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นผลประโยชน์ตรงหน้าทุกคนก็กลายเป็นตื่นเต้น ห้วงอารมณ์นี้ทำให้บางคนตั้งท่าพร้อมจะลงมือ

“ไปเลย!”

“ฆ่ามัน!”

ฝูงชนโห่ร้อง ดวงตาของพวกเขาค่อยๆถูกแทนที่ด้วยสีแดงฉานทีละน้อย ทีละน้อย

ทั้งหมดเพ่งมองตรงมายังตำแหน่งของฉินเฟิง บ้างเริ่มยกปากกระบอกปืนขึ้นเล็ง

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ ราชันย์สัตว์ร้ายไล่ล่าฉินเฟิงตลอดมา

ฉินเฟิงหัวเราะหยัน

แม่พันธุ์หนอนทรายทองซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เตรียมพร้อมที่จะนองเลือด แต่คนเหล่านี้กลับคิดว่าแม่พันธุ์เป็นลูกแกะรอคอยการถูกเชือด

และที่ไร้สาระที่สุดก็คือ พวกเขากำลังคิดแย่งชิงกับฉินเฟิง!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท