โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 444

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.444 – โจมตีก่อนได้เปรียบ

“เสร็จสักที”

ในหัวใจของฉินเฟิงเต้นครึกโครม ที่บังเกิดความรู้สึกตื่นเต้นที่ไม่มีมานาน

ในชีวิตก่อน หากคิดครอบครองอาวุธระดับเทวะ เป็นได้แค่ความฝัน แต่ตอนนี้ เขาสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยมือของตัวเอง!

หากไม่มีรูบิควิเศษ หากไม่มีสมบัติจากบันไดเทียนไต้ ทุกอย่างย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น!

พลังสมาธิของฉินเฟิงไหลเข้าไปรวมอยู่กับรูบิควิเศษ ทําการควบคุมมีดกษัตริย์คราม แสงไสวสีม่วงค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆ สุดท้ายจมหายเข้าไปบนใบมีด

ฉินเฟิงสั่งการพลังสมาธิ นํามีดกษัตริย์ครามออกจากรูบิควิเศษ

เนื่องจากมีดกษัตริย์ครามถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษโดยรูบิควิเศษ ดังนั้นมันจะไม่มีการเรืองแสงเหมือนกับอุปกรณ์รุนที่ผลิตโดยพันธมิตรมนุษย์ กระทั่งสีทองที่สมควรเปล่งประกายในช่วงที่มันอยู่ในระดับจักรพรรดิ ก็ยังไม่มี

รูปลักษณ์ของมีดกษัตริย์ครามมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ใบมีดกว้างขึ้น และยาวขึ้นเปลว ไฟสีฟ้าได้หายไป แต่ที่ถูกเพิ่มเข้ามา คือสีแดงอมม่วง

เมื่อกําลังภายในของฉินเฟิงถ่ายเทลงไป เปลวไฟลุกไหม้บนใบมีดทันที

ไม่สิ นี่ไม่ใช่แค่เปลวไฟ หากแต่เป็นลําแสง! (นึกภาพไลท์เซเบอร์)

เป็นลําแสงสีม่วงบานเย็นอันน่าสยองขวัญ เพียงสะบัดเบาๆ ศิลาทดสอบในห้องฝึกฝนของหลุยางก็ถูกตัดเป็นสองซีกทันที!

ต้องทราบนะว่า ศิลาทดสอบนี้เป็นดั่งชื่อของมัน คือมีไว้ใช้ทดสอบกําลังภายใน มิอาจทําลายได้

ทว่าลําแสงจากมีดกษัตริย์คราม กลับสะบั้นมันได้ในดาบเดียว!

“เป็นมีดที่ดี!”

คู่ควรแก่การขนานนามว่าอาวุธเทวะ!

พอได้กุมมีดเล่มใหม่ ฉินเฟิงก็เริ่มร้อนใจ อยากจะทดสอบมันให้มากกว่านี้

“มีดดีๆแบบนี้ถือกําเนิดขึ้น คงต้องเลี้ยงฉลองมันด้วยเลือดมนุษย์!”

ดวงตาของฉินเฟิงสาดประกายสังหาร

ฉินเฟิงตระหนักดีว่าเรื่องที่จีนเฟยพูดในวันนี้ ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล หากคุณสามารถทํากําไรมหาศาลได้ในเมืองหวัง นั่นเท่ากับต้องเตรียมรับมือจากสงครามทั้งสิบทิศ! วิธีที่ดีที่สุดคือรีบหลบหนีไป

ไหนจะเรื่องที่เขาทําให้เลเวล C ทั้งหมดเกิดความไม่พอใจ บางทีคนเหล่านี้ อาจจะกําลังหาทางกําจัดฉินเฟิงก็ได้

แน่นอน ขณะเดียวกันฉินเฟิงก็หาทางกําจัดพวกเขาเช่นกัน

ใครโจมตีก่อนได้เปรียบ ใครเริ่มช้า คนนั้นเตรียมพบเผชิญกับหายนะ!

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ฉินเฟิงยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งแล้วจากในช่วงเช้า ด้วยทักษะลับกลิ่นดารา!

ยามอาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของพันธมิตรมนุษยชาติ ฉินเพิงมักมีความขลาดกลัวอยู่ลึกๆในใจแม้คนที่ตนสังหาร จะผู้ไม่บริสุทธิ์ก็ตาม ทว่ายามอยู่ใต้ร่มเงาพันธมิตรองค์กรมืดฉินเฟิงไม่จําเป็นต้องกังวลใดๆ!

เขาจะฆ่าแม่งให้หมด!

“ไปหลี เธอรอที่บ้านนะ ถ้ามีใครสะเออะมาเคาะประตู ก็ฆ่ามันซะ!”

“อื้อ ไม่มีปัญหา!” ไปหลีหาวหวอด เมล็ดผลไม้หงเหมิงมีพลังมาก ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงดูดซับพลังงานจากมันอยู่ เลยดูอ่อนเพลียไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม แม้ไปหลีจะอยู่ในสภาพนี้ แต่หากต้องกําจัดเลเวล C ไม่กี่คน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

รูนมืดปกคลุมทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิง หายวับไปท่ามกลางความมืดมิดยามค่ําคืน

เมืองหวังแม้จะกว้างขวาง แต่พื้นที่วิลล่า อยู่ติดกันเป็นแถบเดียว ดังนั้นภายใต้พลังสมาธิของฉินเพิงไม่มีสิ่งใดหลุดรอดไปจากมัน

เพราะพลังสมาธิของฉินเฟิง แข็งแกร่งในระดับจักรพรรดิ

หากเทียบกันในด้านพิสัย มันไกลยิ่งกว่าผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล C เสียอีก

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงกระจายพลังสมาธิออกไป และค้นพบเป้าหมายของตนเองอย่างรวดเร็ว

เป้าหมายแรกคือบอสเฉิงที่ส่งคนมากวนประสาทเขาเมื่อวาน

และในตอนมิติเทียนไต้ เป็นบอสเฉิงที่ส่งลูกน้องอย่างน้อย 5 คนเข้าไปสังหารฉินเฟิง แต่สุดท้าย ผลที่ตามมากลับกลายเป็นฝ่ายตนถูกกวาดเรียบ

เจ็บปวดถึงขนาดนี้ แล้วบอสเฉิงจะไม่โกรธได้อย่างไร? หากเทียบกันเรื่องเจตนาสังหารเป็นเขานี่แหละที่อยากฆ่าฉินเฟิงมากที่สุด!

เจ้าตัวถึงขั้นเรียกคนอื่นๆมาหารือ เพื่อวางแผนสังหารฉินเฟิง!

อย่างไรก็ตาม ผลการหารือ คือทุกคนตกลงกันว่าจะนัดรวมตัว โจมตีพร้อมกันตอนรุ่งสาง

ปัจจุบันบอสเฉิงกําลังฝึกยุทธ ตระเตรียมการอยู่ในห้องฝึกฝนภายในวิลล่า

ที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมาฝึกยุทธ เป็นเพราะความแข็งแกร่งของฉินเพิง มันทําให้บอสเฉิงรู้สึกกังวลเล็กน้อยดังนั้นมิกล้าหย่อนยาน ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่วิลล่าของตนอยู่ใกล้กับฉินเฟิงมากที่สุด

ฉินเฟิงมุ่งหน้าตรงไปยังวิลล่าของบอสเฉิงอย่างรวดเร็ว หน้าทางเข้ามีลูกน้องของบอสเฉิงเฝ้าประตูอยู่ก็จริง แต่คนเหล่านี้ สําหรับฉินเฟิง มันไม่ต่างจากไก่กา

“ซ่อนเงา!”

ในชั่วพริบตา ร่างของอินเฟิงพลันเปลี่ยนเป็นรูนมืด ไร้ซึ่งตัวตน ก่อนจะผลุบกายขึ้นเบื้องหลังผู้ใช้วรยุทธเลเวล D โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันระวังตัว

ฝ่ายตรงข้ามไร้ซึ่งการป้องกัน ปราณกําลังภายในยังไม่ทันถูกปล่อยออกมา

ฉินเฟิงมิได้อัดฉีดกําลังภายในลงบนมีดกษัตริย์คราม เพียงโบกสะบัดด้วยพละกําลังเพียวๆของตน

ฉัวะ!

บังเกิดเสียงสะท้อนเบาๆ เลเวล D ที่คอยเฝ้าประตู จบชีวิตลงด้วยมือของฉินเฟิง

“ทักษะลับกลืนดารา!”

กําลังภายในของศัตรู ถูกดูดซับเข้าสู่ตันเถียนของฉินเฟิงในพริบตา

“กรดยมทูต!”

อบิลิตี้มืดถูกปลดปล่อยออกมา ศพศัตรูส่งเสียงฉ่า ฉ่า เล็กน้อย ถูกย่อยสลายกลายเป็นของเหลวและหายไปไม่เหลือร่องรอยอีกเลย

ฉินเฟิงเก็บแหวนรูนมิติมา และเริ่มดําเนินการต่อ

กําลังรบของบอสเฉิง มากกว่าหลุยตงเยอะ อย่างน้อยไม่ต่ํากว่า 30 คน แต่ตายไปแล้ว 5 คนในมิติเทียนไต้ บางคนออกไปทําธุระ ดังนั้นในวิลล่า จึงเหลือแค่ 10 คน แต่แน่นอนว่าตอนนี้เห ลือแค่ 9 คนแล้ว!

ฉินเฟิงเก็บงกลิ่นอายตน วูบไหวใต้เงามืด หนึ่งศพหนึ่งคมมีด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เขาก็สามารถสังหารลูกน้องเลเวล D จนหมดสิ้น

ภายในวิลล่า พวกคนรับใช้ธรรมดาๆ ไม่อาจรับรู้ได้ถึงการปรากฏตัวของฉินเฟิง

ขณะนี้ ฉินเฟิงได้บุกมาถึงหน้าประตูห้องฝึกฝนของบอสเฉิงแล้ว

อบิลิตี้มีดกระจายเข้าไป ภายในห้อง บอสเฉิงเริ่มสิ้นเรี่ยวแรงทันใด

ขณะนั้นเอง ประตูห้องฝึกฝนก็เปิดตัวะ!

ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น ยกคมมีดยาวในมือ จ้งวแทงเข้าใส่บอสเฉิง

บอสเฉิงสะดุ้งได้สติอย่างกะทันหัน ดวงตาเบิกกว้าง จิตใต้สํานึกระเบิดกําลังภายในออกมาโดยอัตโนมัติ

หึ่ง หึ่ง

ปราณกําลังภายในก่อร่างขึ้นทันใด

เพล้งงง!

อย่างไรก็ตาม ปราณกําลังภายในของเลเวล C กลับแหลกสลายเป็นชิ้นๆด้วยมีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิง!

“เป็นแก … !!” บอสเฉิงตะลึงงัน!

เพราะเดิมที เขาวางแผนกับคนอื่นๆว่าจะสังหารฉินเพิงอยู่แล้ว แต่ไม่คาดหวังเลย ว่าฉินเฟิงจะชิงลงมือสังหารเขาเสียก่อน!

“ประหลาดใจมากล่ะสิ” ฉินเฟิงแสยะยิ้ม มีดในมือยังคงจ้วงลึกเข้าไป

มีดกษัตริย์ครามระเบิดแสงจรัส พุ่งไปข้างหน้าเป็นประกายสีม่วง

ฉัวะ!!

ลําแสงสีม่วงทะลุอก ทิมเข้าตรงตําแหน่งหัวใจของบอสเฉิง

หากบอสเฉิงมีความแข็งแกร่งทางกายภาพเหมือนกับฉินเฟิง กระบวนท่านี้คงเจาะทําลายได้แค่ผิวหนังของเขาเท่านั้น ทว่าอีกฝ่ายมิได้ครอบครองความแข็งแกร่งทางกายเช่นนั้นสุดท้ายเลย ต้องจบชีวิตลง ไม่ต่างจากพวกไก่กาหน้าทางเข้า!

นี่แหละ คืออานุภาพของอาวุธเทวะล่ะ!!

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า วางฝ่ามือลงบนตันเถียนอีกฝ่าย

ทักษะลับกลืนดารา!

กําลังภายในถูกสูบเข้าสู่ร่างกายของฉินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง

บอสเฉิงคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล C2 กําลังภายในของเขาอย่างน้อยก็ 2 สระน้ํา เมื่อเปลี่ยนเป็นมวลน้ํากําลังภายในแล้ว จะเท่ากับ 20 แอ่งน้ํา

ภายในตันเถียนของฉินเพิง ถูกเติมเต็มอีกครั้ง

โครม!

บอสเฉิงล้มลงกับพื้น ตกตายอย่างไม่ยุติธรรม

ฉินเฟิงดีดนิ้วดังเป๊าะ เพลิงโลกันต์ตกลงบนร่างอีกฝ่าย ทําลายศพไม่เหลือซาก

อุปกรณ์รูนมิติถูกหยิบขึ้นมา ฉินเฟิงยังไม่ออกไปทันที แต่นั่งขัดสมาธิลง

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

กําลังภายใน ในตันเถียนถูกส่งออกไปกลั่น และไหลกลับมาอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่ง

หลังจากจัดการกําลังภายในเรียบร้อย ฉินเฟิงก็ออกจากวิลล่าของบอสเฉิง

เป้าหมายต่อไปของเขา ยืม สมควรเป็นบอสเหริน

เพราะลูกน้องของอีกฝ่ายถูกสังหารลงโดยสิ้นเชิงในวันนี้ ซึ่งหากลูกน้องคนนั้นกลับมาได้บอสเหรินจะได้รับเงินเดิมพัเป็นจํานวนนับล้านล้าน!

ด้วยเหตุนี้ บอสเหรินจึงกลายเป็นคนที่สอง ที่เกลียดฉินเฟิงมากที่สุด

กลางดึก ฉินเฟิงดําเนินกระบวนการตามรูปแบบเดิม และจบลงด้วยบอสเหรินถูกสังหารลงภายใต้คมมีดของฉินเฟิง

จากนั้น บอสเลเวล C ก็ทยอยกันตกตายลงไปอย่างเงียบๆ

ภายในค่ําคืนเดียว ฉินเฟิงสังหารเลเวล C ลงกว่า 10 คน!

เสร็จธุระ เจ้าตัวก็กลับวิลล่าไปพักผ่อนทันที

รุ่งสาง ผู้ใช้พลังเลเวล C สองคนได้มาดักรออยู่หน้าวิลล่าของฉินเฟิง

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท