The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1231 – องค์หญิงองค์ชายจู่โจม

　　นี่มันอะไรกัน?
ทันใดนั้นก็มีเทพพันธมิตรหนึ่งคนถูกโจมตีจนร่างกายแตกสลายเหลือเพียงแต่ดวงวิญญาณที่หนีขึ้นเรือ
เหล่าเทพมิอาจต่อต้านการรวมพลังขององค์หญิงและองค์ชายอสูรได้
เทพพ่อค้าตะโกน
“เจ้าไปก่อน!ข้าจะรั้งพวกมันไว้เอง!”
หากขืนช้าไปกว่านี้จะไม่มีใครรอดชีวิตเลยถ้าหากมีเทพพ่อค้า เขาอาจจะถ่วงเวลาได้เล็กน้อย ต่อให้เทพพ่อค้าตาย มันก็ยังดีกว่าที่ทุกคนจะตายกันหมด
เทพพ่อค้าผู้เป็นรองผู้นำแห่งพันธมิตรเตรียมใจมาก่อนที่จะถึงวันนี้แล้ว
เทพเจิ้งกัดฟัน
“ตามข้ามา!” 　　เทพที่เหลือโศกเศร้าและรีบออกจากสนามรบไปยังเรือกระดูกเทพ
องค์ชายเจ็ดหน้านิ่งองค์หญิงหกยิ้มแย้ม
“ดีมาก…”
นางหัวเราะ
“สมกับที่เจ้าต่อสู้กับอสูรในจักรวาลมาหลายปีเจ้าน่าจะถ่วงเวลาได้บ้าง”
แสงสว่างวาบโลหิตขององค์หญิงหกกลายเป็นสีครึ่งดำครึ่งทอง มันกลายเป็นหมอกขาวดำพุ่งเข้าใส่เทพพ่อค้า
โลหิตสีทองคึ่งหนึ่งระเบิดที่ลำตัวเทพพ่อค้าเทพพ่อค้าร่างเปลี่ยนสีไปด้วยหมอกพลังอสูร มีเขางอกออกมาจากหัวของเขา มันคือสัญญาณการกลายเป็นอสูร
“พวกมันจะเปลี่ยนข้าให้เป็นอสูร!เทพเจิ้ง หลังกลับไปแล้ว จงบอกเทพพันธมิตรว่าข้าทำให้พวกเจ้าผิดหวัง!”
เทพพ่อค้ายิ้มด้วยความโศกเศร้าอสูรตระกูลหลักนั้นมีพลังพิเศษในการเปลี่ยนเทพเป็นอสูร
แม้จะเป็นเทพก็มิอาจต้านทานพลังของอสูรว่าที่เทพได้หลังจากถูกเปลี่ยนเป็นอสูรเทพมากมายถูกเปลี่ยนเป็นอสูรด้วยวิธีนี้มาตั้งแต่โบราณ
หลังจากเปลี่ยนเป็นอสูรเทพคนนั้นจะภักดีต่อผู้ที่เปลี่ยนพวกเขาให้เป็นอสูรและจะเป็นศัตรูกับพันธมิตร
นี่เป็นสิ่งที่เทพพ่อค้ามิอาจรับได้เขาฉีกยิ้ม พลังเทพในร่างเดือดพล่านก่อนที่เขาจะกลายเป็นเทพอสูร เขากำลังจะระเบิดตัวเอง
องค์หญิงหกโมโห
“เจ้านี่ไม่รู้เลยว่ากำลังจะได้รับอะไร!ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่คิดติดตามข้าอีก! หา!”
องค์ชายเจ็ดหัวเราะโดยไม่พูดอะไรและไม่หยุดการระเบิดตัวเองของเทพพ่อค้า
นอกจากเขาคิดจะหยุดมันก็ยากที่คนนอกจะหยุดเขา
“เทพพ่อค้า!” 　　เทพเจิ้งและคนที่เหลือบนเรือร่ำไห้ด้วยความเศร้า
ความเป็นและการจากตายเกิดขึ้นเร็วเกินไปมันถาโถมอย่างรวดเร็วเข้าใส่พวกเขาที่ไม่ได้เตรียมใจ
สถานที่อันตรายอย่างโลกเสี้ยววิญญาณถูกทำลายได้สำเร็จแต่พวกเขากลับเสียเทพพ่อค้าไปในจังหวะสุดท้าย!
“ไม่ต้องห่วงข้า!ข้าจะระเบิดตัวเองเพื่อขวางมันเอาไว้!”
เทพพ่อค้าตะโกนดวงวิญญาณของเขาเดือดพล่านถึงขีดสุด
แต่ในตอนนั้นเองเงาหนึ่งบนเรือได้ทะยานขึ้นฟ้ามาที่ด้านหลังเทพพ่อค้า
“หยุดเดี๋ยวนี้การเปลี่ยนเป็นอสูรสามารถแก้ไขได้!”
เทพพ่อค้าตกใจ
“ซือหยูเจ้าบ้าไปแล้ว! หนีไปที่เรือเดี๋ยวนี้!” 　　แม้ซือหยูจะบอกว่าการเปลี่ยนเป็นอสูรสามารถกลับคืนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะศัตรูตรงหน้า!
“ยังไม่ถึงขั้นสุดท้ายเสียหน่อยใยต้องสละตัวเองเล่า?”
ทรายดาราทางช้างเผือกของซือหยูสามารถดูดซับพลังของเทพได้
โลหิตขององค์หญิงหกเองก็เป็นพลังที่ดูดซับได้เช่นกัน
“หืม!”
องค์หญิงหกไม่สนใจคนที่เป็นอสูรเนรมิตรมากนักแต่นางก็ตกใจที่พบว่าโลหิตของเทพพ่อค้าถูกแยกกันเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นอสูรกลับกลายเป็นภาวะปกติ
องค์ชายเจ็ดพูดเบาๆ
“เจ้ามนุษย์คนนั้นน่าสนใจยิ่งนักเอาล่ะ ข้าจะให้เทพพ่อค้ากับจักรพรรดิ ส่วนเจ้าเด็กมนุษย์คนนั้นจะถูกข้าเปลี่ยนเป็นอสูร”
“ไม่!ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าอยากได้เขาด้วย!”
องค์หญิงหกกระพริบตาสดใส
ต่อให้เทพพ่อค้ามิอาจหวนคืนเป็นมนุษย์ได้อีกทั้งสองก็มองเห็นค่าของซือหยูแล้ว ซือหยูมีค่าเหนือกว่าเทพพ่อค้าเสียอีก องค์หญิงหกไม่ใช่คนโง่
“ก็คอยดูว่าใครจะได้ตัวมันก่อน”
องค์ชายเจ็ดหัวเราะร่างเงาก้าวพริบตาไปที่ซือหยูแต่ก็เกิดเสียงปะทะที่กลางทาง องค์หญิงหกเข้ามาถึงตัวเขา นางคว้าตัวซือหยูและหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์
องค์ชายเจ็ดไม่อยากถูกเอาชนะและขวางทางนางที่กลางอากาศ
องค์หญิงและองค์ชายตั้งใจมาที่นี่เพื่อจับพวกเขาแต่ทั้งสองกำลังแย่งกันเพื่อจับตัวซือหยูคนเดียว
เทพพ่อค้าเห็นโอกาสจึงรีบพาซือหยูกลับไปที่เรือ
เมื่อเทพเจิ้งเห็นนางก็แล่นเรือออกไปยังจักรวาลทันที
องค์ชายเจ็ดกับองค์หญิงหกต้องหยุด
“ฮื่มข้าจะจัดการพวกแมลงวันนั่นก่อนทะเลาะกับเจ้า!”
องค์หญิงหกพูด้วยความโมโหนางไปถึงเรือรบทันทีด้วยสีหน้าเย็นชา
องค์ชายเจ็ดพยักหน้าและก็ไปที่เรือรบเช่นกัน
เมื่อหนีไม่ได้เรือรบจึงกลายเป็นสนามรบ
“พูดให้เจ้ายอมแพ้ก็ไร้ประโยชน์ข้าจะยกเลิกสถานะเทพของเจ้าก่อนพูดคุยไปมากกว่านี้!”
องค์หญิงหกถอนหายใจแรงการต่อสู้เริ่มขึ้น
องค์ชายเจ็ดหยักหน้าและขึ้นเรือทันที
หากทั้งสองร่วมมือกันฆ่าทุกคนมันก็เป็นเรื่องง่าย!
ในยามวิกฤติซือหยูขมวดคิ้ว เขาพูดเบาๆ
“เทพแห่งความตายรอช้าไม่ได้อีกแล้ว เจ้ารออะไรอยู่?”
ซือหยูพูดอย่างไม่สบายใจนัก
องค์ชายเจ็ดและองค์หญิงหกที่ได้เห็นซือหยูต้องหยุดมือ
“เทพแห่งความตายเรอะ?”
นักบวชคนหนึ่งก้าวออกมามือของเขาประกบกันและจ้องที่เรือ
“องค์ชายเจ็ดและองค์หญิงหกแห่งโลกอสูรพวกท่านจะเห็นแก่ข้าและปล่อยพวกเขาไปได้หรือไม่?”
เทพแห่งความตายพูดด้วยความอ่อนโยน
องค์ชายเจ็ดจ้องเทพแห่งความตายโดยไม่พูดอะไรองค์หญิงหกเลิกคิ้ว
“เทพแห่งความตายเจ้าคือผู้คุ้มครองโลกเสี้ยววิญญาณ นอกจากเจ้าจะปล่อยให้โลกเสี้ยววิญญาณถูกทำลายแล้วเจ้ายังช่วยให้พวกมันหนีอีก! เจ้าอยากจะเป็นศัตรูกับเผ่าอสูรเรอะ?”
เทพแห่งความตายยังคงไร้อารมณ์
“องค์หญิงหกข้ามีข้อตกลงกับพวกเขา พวกเขามิอาจตายได้ก่อนที่การแลกเปลี่ยนจะจบลง”
การแลกเปลี่ยนรึ?องค์ชายเจ็ดกับองค์หญิงหกขมวดคิ้วแน่น
การแลกเปลี่ยนของเทพแห่งความตายคือสัญญาอันเลื่องชื่อเมื่อเกิดการตกลงกันแล้ว แม้ว่าจะสูงค่าเพียงใด เทพแห่งความตายจะทำตามสัญญาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ต่อให้เป็นองค์ชายหรือองค์หญิงอสูรหรือแม้แต่จักรพรรดิอสูรเองก็มิอาจเปลี่ยนใจเทพแห่งความตายได้
ทั้งเทพเจิ้งและเทพพ่อค้าตาเป็นประกายการแลกเปลี่ยนรึ? พวกเขาไปทำข้อตกลงกับเทพแห่งความตายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
จะต้องเป็นซือหยู!
พวกเขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่พวกเขาจะทำลายโลกเสี้ยววิญญาณเทพแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดกลับไม่ทำอะไร พวกเขารู้ว่ามันจะต้องมีเหตุผล
แต่ซือหยูไปตกลงกับเทพแห่งความตายตั้งแต่ตอนไหน?
องค์หญิงหกพยักหน้าเบาๆ
“ก็ได้หากเทพแห่งความตายมาด้วยตัวเอง เราจะไม่ทำให้ใครยุ่งยากอีก เราจะกลับ!”
องค์ชายเจ็ดและองค์หญิงหกกลับสู่วายุในแหวนผนึกเก้าเทพ
เทพจากพันธมิตรถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นทั้งสองจากไปแต่อารมณ์ของพวกเขายังคงคุกรุ่น
แม้อสูรจะไปแล้วแต่ตรงหน้าพวกขเาคือเทพแห่งความตาย!
เขาเป็นรองเพียงจักรพรรดิอสูร…ราชาแห่งจักรวาล!
ซือหยูทำอะไรกับเทพแห่งความตายกันแน่มันหนักหนาเสียจนเทพแห่งความตายสามารถมองโลกเสี้ยววิญญาณถูกทำลายได้อย่างไม่ลังเลงั้นหรือ?
“อย่าลืมการแลกเปลี่ยนของเจ้าล่ะ…”
เทพแห่งความตายพูดอย่างไร้อารมณ์และกลับสู่โลกของตัวเอง
เทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งแอบตกใจการที่เทพแห่งความตายมาเพื่อปกป้องพวกเขามิใช่ข้อตกลงหรอกหรือ?
“ซือหยูเจ้าตกลงอะไรกับเทพแห่งความตายกันแน่? เขาไม่ลังเลที่จะมาขวาง เจ้าจะแลกสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อหรือ?”
เทพพ่อค้าถาม
ซือหยูโค้งคำนับ
“ใช่แล้วการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ใหญ่หลวง หากข้าพูด ข้าจะกลายเป็นศัตรูกับพันธมิตรบูรพาในทันที แต่ข้าเชื่อว่าข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!”
หลังจากผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาด้วยกันจะมีเทพที่นี่คนใดที่ไม่เชื่อใจซือหยู? 　　“เจ้าบอกพวกเรามาเลยพวกเราพร้อมสนับสนุนเจ้า!”
เทพพ่อค้ากลบ่าวเขาเชื่อว่าซือหยูจะไม่ทำอะไรที่เป็นเรื่องร้ายต่อพันธมิตร
ซือหยูหายใจเข้าลึก
“การแลกเปลี่ยนก็คือ…”
ทันใดนั้นเองการระเบิดของพลังวิเศษได้เกิดขึ้นจากแหวนผนึกเก้าเทพอสูร พลังขององค์หญิงหกและองค์ชายเจ็ดกลับมาอีกครั้ง
ทั้งสองเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าจับตัวซือหยูและกลับไปที่แหวนผนึกเก้าเทพอสูรพร้อมกัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตาเดียวเทพพ่อค้าและเทพที่เหลือไร้พลังสวนกลับ มีเพียงคนที่ถูกจับตัวเท่าที่นั้นที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่แหวนผนึกเก้าเทพอสูรองค์หญิงหกและองค์ชายเจ็ดปรากฏตัว แต่ทั้งสองก็กระโดดลงสู่วายุโดยไม่ลังเล
ในขณะเดียวกันซือหยูได้ยินเพียงแต่เสียงครวญครางและฝ่ามือใหญ่ไร้ขอบเขตที่มีแสงเทพเปล่งประกายปกปิดท้องนภาและดวงสุริยา มันเคลื่อนไหวข้ามฟ้าไปที่แหวนผนึกเก้าเทพอสูร
สีหน้าขององค์หญิงหกและองค์ชายเจ็ดเปลี่ยนไปทั้งสองพยายามใช้พลังต้านทานมัน
แต่ทันทีที่ปะทะทั้งสองก็หวาดกลัวมาก ฝ่ามือยักษ์ทำให้ทั้งสองบาดเจ็บราวกับทั้งคู่เป็นเพียงเด็กไร้พลัง
เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะถูกเทพแห่งความตายบดขยี้เสียงของเทพที่ทรงพลังอีกคนก็ดังขึ้น
“เทพแห่งความตายเจ้าไม่เห็นจักรพรรดิในสายตายามที่ทำร้ายลูกของเขาเลยรึ?”
ตู้ม!
พลังทั้งสองปะทะกันอีกครั้งพลังแข็งแกร่งที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ระเบิดจนแม้แต่มิติเวลายังปั่นป่วน
เกิดการต่อสู้ที่มองไม่เห็นของเทพเสียงโซ่ขาดดังไม่ขาดสาย มันคือกฎแห่งสวรรค์!
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองทำให้ห่วงโซ่ตอบสนอง!
วายุที่กลางแหวนผนึกเก้าเทพอสูรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงมันขยายขนาดเป็นร้อยเท่าและกลืนกินทุกสิ่งใกล้ ๆ
นั่นรวมถึงเซียนมณีและแม้แต่เทพตำรา!
เทพแห่งความตายปรากฏตัวความเยือกเย็นหายไปจากใบหน้าของเขาแล้ว เขาจ้องวายุและกล่าว
“กฎจักรวาลเปลี่ยนไปแล้วและซือหยูจะถูกยา้ยไปที่โลกอสูร!”
ในความคิดของเขาหากซือหยูตกไปอยู่ในมือขององค์ชายเจ็ดและองค์หญิงหก มันจะเป็นโชคดีในความโชคร้าย เพราะถ้าหากเขาไปอยู่กับพวกอสูรอื่นแทน เขาจะต้องตายแน่นอน!
เทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งรีบออกมาดูแต่แหวนผนึกเก้าเทพอสูรก็หยุดทำงานแล้ว ซือหยูถูกกลืนเข้าไป
“เขา…เขาตกไปที่โลกอสูรแล้ว!”
เทพเจิ้งหน้าซีดเจิ้งหยวนชิงน้ำตาไหลอย่างควบคุมไม่อยู่
หากสิ่งที่ไม่ใช่อสูรไปที่โลกอสูรใครจะบอกได้เล่าว่าจะเกิดอะไรกับเขาต่อไป?
อสูรในโลกอสูรจะกินเขาอย่างไม่ลังเล