The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1233 – โซ่ศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 1233 - โซ่ศักดิ์สิทธิ์
  “ยักษ์ทะเลขม!”
เทพไม้หน้าซีดแววตานางเต็มไปด้วยความกลัว
“ต้องหนี!เร็วเข้า!”
นางคว้าตัวซือหยูเพื่อก้าวพริบตาซือหยูอาจข้ามโลกอสูรไม่ได้ด้วยพลังของนาง แต่อย่างน้อยมันก็มากพอที่จะหนีจากทะเลขม
เทพไม้ก้าวพริบตาเนตรสีเทาของยักษ์ทะเลขมเปล่งแสงออกมาปกคลุมพื้นดิน เทพไม้เองก็ถูกพลังนั้นปกคลุม
ร่างกายนางที่มีพลังเทพถูกกั้นขวางนางมิอาจก้าวพริบตาได้!
ยักษ์ทะเลขมแข็งแกร่งจนขวางนางได้
แกร๊ง!
เสียงโลหะกระทบดังขึ้นซือหยูหันไปมองและเบิกตากว้างเมื่อเห็นยักษ์ร่างใหญ่ปลดโซ่ทมิฬที่พันรอบเอว โซ่หนามากและถูกน้ำทะเลขมรายล้อมอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่แสดงทีท่าว่าจะถูกกัดกร่อนเลย มันเป็นโซ่ที่ทำด้วยวัตถุดิบสุดยอด
ยักษ์มองเทพไม้และเข้าใกล้นางด้วยโซ่ในมือ
พลังเทพอันยิ่งใหญ่คืบคลานเข้ามามันยิ่งใหญ่เสียจนไร้ทางหนี
พื้นที่หลายแสนศอกรอบตัวเทพไม้หยุดนิ่งโซ่ที่เข้ามาอัดแน่นไปด้วยพลังมิติ
โซ่กำลังรัดแน่นขึ้น
เทพไม้ผลักซือหยูออกไป
“มันจบแล้วครั้งนี้มันจบแล้ว!!”
แกร๊ง!
ยักษ์ล้อมรอบพวกเขาด้วยโซ่ยาวแสนศอกและทันใดนั้นมันก็เข้ารัดเอวเทพไม้
เทพไม้ต้องผลักซือหยูไปมิเช่นนั้นจะถูกรัดทั้งคู่
“เทพอยู่ตรงนี้!”   เทพไม้หลับตาร่างกายงดงามของนางปล่อยพลัง นางเปลี่ยนเป็นต้นไม้เก่าแก่อย่างรวดเร็ว ร่างของนางขยายขึ้นเรื่อย ๆ จนหนาล้านศอก ซือหยูได้เห็นร่างของนางเป็นครั้งแรก
แต่ถึงอย่างนั้นโซ่สีดำสนิทก็ได้ขยายขนาดและพันรอบตัวนางอยู่ดี
ยักษ์ทะเลขมจับต้นไม้ที่เป็นตัวนางด้วยมือเดียวและหันกลับเดินลงสู่ทะเลขม
รากของเทพไม้นั้นใหญ่พอที่จะปกคลุมโลกครึ่งใบแต่นางกลับถูกถอนรากถอนโคนได้อย่างไม่ยากโดยยักษ์
แม้นางจะพยายามรัดแน่นกับพื้นดินมากเท่าไหร่แต่มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับยักษ์เลย แม้แต่แผ่นดินก็ถูกมันลากขึ้นมาและมุ่งหน้าลงสู่ทะเล
มันเป็นภาพอันยิ่งใหญ่
เสียงอันขมขื่นดังมาจากต้นไม้โบราณ
“ซือหยูข้าทำไม่ได้ ตั้งแต่โบราณกาล ผู้ใดที่ถูกยักษ์ทะเลขมจับตัวจะไม่มีทางหนีพ้น! ทำไมข้าถึงไม่ได้ชิงสมบัติที่เจ้ามีอยู่มากมายมาสักชิ้นกัน! ข้าหงุดหงิดจริง ๆ!”
ณเวลานี้ ซือหยูมิอาจหัวเราะออกมาได้
ฟึ่บ!
กระบี่สีเงินเก้าเล่มปรากฏขึ้นมากระบี่เข้าฟันโซ่ เสียงโลหะกระทบดังก้อง แต่ไม่มีร่องรอยความเสียหายบนโซ่เลย
แต่กลับเป็นกระบี่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่แสดงร่องรอยของความเสียหาย
“อย่าเสียแรงเปล่าเลย!โซ่ของยักษ์ทะเลขมคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลราชวงศ์ อาวุธเจ้าทำอะไรไม่ได้”
เทพไม้ถูกลากไปถึงชายฝั่งทะเลและกำลังจะจมลงสู่ทะเลขม
เทพมิอาจอยู่ในทะเลขมได้นาน
ยักษ์กินอสูรสองตนทั้งเป็นไปแล้วเทพไม้เองจะไม่ถูกกินเหมือนกันหรือหากถูกลากลงไป?   ซือหยูเก็บกระบี่ไผ่เงินเขากัดฟันบินเข้าไปเพื่อใช้ภูเขาห้าะาตุ เขาใช้พลังห้าธาตุอย่างเต็มที่เพื่อซัดใส่ยักษ์
ปั้ง!
โซ่ทมิฬสั่นแต่มันไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยการรัดเทพไม้
ยักษ์สัมผัสได้ว่าโซ่ในมือลื่นมันเหลือบมองมาที่ด้านหลัง
เทพไม้เจ็บปวดมากเมื่อถูกโซ่พันรอบกาย
“อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลยรีบหนีไปซะ ที่นี่เสียงดังเกินไปแล้ว จะต้องมี…พวกที่แข็งแกร่งเข้ามาอีก”
เทพไม้ขอร้องให้ซือหยูหนีไปด้วยความเจ็บปวดเสียงของนางเบาลงเรื่อย ๆ
ซือหยูไม่พูดอะไรแต่เขากำลังร้อนรน
เวลาที่ทั้งคู่ได้รู้จักกันนั้นไม่ได้นานนักแต่ก็ไม่สั้นเช่นกันเทพไม้สามารถไปจากซือหยูได้ทุกเมื่อ แต่นางเลือกที่จะอยู่กับเขา  เขามิอาจมองนางถูกกินทั้งเป็นได้
เขาถือเขาห้าธาตุในมือและกัดฟันบุกเข้าไปอีกครั้ง
แรงปะทะอันบ้าคลั่งทำให้น้ำทะเลขมที่อยู่บนโซ่กระเด็นใส่ตัวซือหยูร่างของเขาเน่าเปื่อยในทันที เกิดรอยแผลเต็มกาย เห็นไปถึงภายในกระดูกของเขา
อ๊ากก!
ซือหยูเจ็บปวดเขาพยายามหายใจเอาอากาศเย็นเข้าเพื่อให้ความเจ็บเบาบางลง แม้ว่าหัวใจนิรันดร์จะปลดปล่อยพลังออกมารักษาบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ความเจ็บปวดนั้นราวกับจะคงอยู่ไปตลอดกาล
ซือหยูไม่คิดจะหยุดเขาอดทนความเจ็บปวดต่อไปดั่งคนดื้อรั้น เขาซัดภูเขาห้าธาตุต่อไป ร่างวของเขาถูกน้ำทะเลขมกระเด็นโดนทุกครั้ง ทั้งร่างของเขามีแผลโลหิตและแผลเน่า
เทพไม้ขยับเล็กน้อยนางที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวกับได้เห็นซือหยูที่เด็กกว่านี้ผู้ที่พยายามดึงหอกพลังปีศาจออกจากตัวนางอีกครั้ง
เขาดื้อรั้นแต่ก็สิ้นหวัง
“ซือหยู…”
เทพไม้ทนเจ็บพูดเบาๆ เสียงนางเต็มไปด้วยความรู้สึกอันสง่างดงาม
“ขอบคุณเจ้ามาก…ที่ทำให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อและทำให้ข้าได้พบกับเจ้า ข้ามีความสุขเหลือเกิน”
แม้นางจะเป็นต้นไม้ขนาดยักษ์ซือหยูก็ดูเหมือนจะเห็นรอยยิ้มของนาง เขากำลังเห็นเด็กสาวกล่าวลาเขาด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา
ขณะที่พูดร่างขนาดใหญ่ของนางถูกลากลงสู่ทะเลขม มันเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็วตั้งแต่รากขึ้นมา
เทพไม้สะบัดกิ่งด้วยความเจ็บปวดทั้งร่างของนางหม่นหมองลง แต่ซือหยูยังสัมผัสได้ว่าดวงตาของนางยังคงจ้องมองเขา  “ข้าเคยบอกว่า…ข้าจะให้ของขวัญเจ้ายามที่เจ้าเป็นเซียนขั้นสี่…ข้าคงต้องให้เจ้าล่วงหน้าแล้ว…มันคงไม่สายเกินไป”
ที่ลำต้นของเทพไม้มีแสงกลมขนาดเท่าปั้นข้าวลอยออกมาไปที่ด้านหน้าของซือหยู
ซือหยูใจสั่น
“นี่มัน…ของสืบทอดของเจ้า!”
มันคือสิ่งสืบทอดที่เทพจะส่งให้ได้ก่อนตายเท่านั้นเพราะจะมีเทพเผ่าเดียวกันได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
หากมีเทพสองคนครองบัลลังก์เดียวกันมันจะทำให้พลังของเทพอีกคนอ่อนแอลงอย่างแน่นอน
นางกำลังจะทิ้งคำสั่งเสีย
บางทีของขวัญนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่นางตั้งใจเอาไว้แต่แรกแต่ในเมื่อนางกำลังจะตาย…
ซือหยูโกรธแค้นสุดบรรยายเขาคุ้นชินกับความเป็นความตายมามากเกินไป และหลังจากที่สิ้นหวังใกล้ตายมานักต่อนัก เขาจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง
“ใครอนุญาตให้เจ้าทำแบบนี้กัน?ใครเห็นด้วยกับเจ้า? ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้! เจ้าจะตายได้ก็ต่อเมื่อข้าให้เจ้าตาย!”
ซือหยูร้องคำรามเนตรของเขาระเบิดพลังเวลา มิติ และวิญญาณ
“ย้อนมิติเวลา!”
เทพไม้ถูกลากผ่านห้วงเวลาและมิติที่ต่างกันออกไป
ยักษ์ทะเลขมเอนหลังมิได้ดึงลากเทพไม้ที่อยู่ด้านหลัง
แน่นอนว่ายักษ์มิอาจดึงนางได้อีกนอกเสียจากจะต้องดึงทั้งมิติเวลา!!!
วาบ!
ในมิติเวลาที่เปลี่ยนแปลงร่างของเทพไม้ได้เปลี่ยนจากต้นไม้มาเป็นเด็กสาวดวงตาสดใส แววตานางราวกับจะหัวเราะและร้องไห้ออกมาพร้อมกัน  “หากข้าได้คนที่ยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยข้าอย่างเจ้ามาก่อนข้าคงไม่ต้องถูกผนึกมาหลายพันปี”
ซือหยูขมวดคิ้ว
“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว!มิติเวลาอยู่ไม่นาน เจ้าจะต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด!”
นางส่ายหน้าเบาๆ น้ำตาหยดใหญ่ไหลอาบแก้ม
“ไม่ได้ผลหรอก!หากโซ่ยักษ์ทะเลขมรัดใครแล้ว เทพก็มิอาจเป็นอิสระได้ เจ้าต้องรีบหนี ข้ารู้แล้วว่ายังมีอีกคนที่พยายามเช่นนี้เพื่อที่จะช่วยชีวิตข้า ข้าตายตาหลับแล้ว”
“ฮื่ม!”
ซือหยูไม่สนใจนางและคิดดูใหม่
ภูเขาห้าธาตุซัดไปหลายสิบครั้งแต่โซ่ก็ไม่เสียหายมันไม่มีแม้แต่ร่องรอยอะไรบนโซ่เลย
หากการปลดโซ่ไม่ได้ผลแล้วจะมีวิธีอื่นช่วยเทพไม้อีกไหม?   ซือหยูกระวนกระวายเขามักจะคิดหาทางออกได้เสมอ แต่ทำไมเวลานี้จึงดูทำอะไรไม่ได้
เทพไม้ยิ้มน้ำตายังลงรินไหล นางเดินมาอย่างแผ่วเบาและลูบแก้มซือหยู
“ข้าต้องไปแล้วถนอมตัว…”
มิติเวลากำลังพังทลายนางกำลังจะถูกลากลงไปในทะเลขมอีกครา
แต่ในตอนนั้นเองซือหยูก็คิดได้
หากเปลี่ยนปัจจุบันไม่ได้เขาก็ต้องเปลี่ยนอดีต!
หากเขาย้อนเวลากลับไปในยามที่เทพไม้ถูกจับด้วยโซ่เขาอาจจะเปลี่ยนชะตานางได้!
ตู้ม!
มิติเวลาพังทลายซือหยูใช้พลังมิติเวลาอีกครั้ง เขาไม่ใช้พลังนี้มานานแล้ว!
หัวใจนิรันดร์ปล่อยพลังชีวิตออกมามากมายซึ่งมากพอที่จะทำให้ซือหยูย้อนเวลา  ซือหยูใจเต้นแรงเมื่อเวลาเริ่มย้อนกลับ!
เขาย้อนไปตอนที่เทพไม้แปลงร่างเป็นต้นไม้ใหญ่
จากนั้นเขาย้อนกลับไปในตอนที่นางถูกโซ่รัด
แต่ซือหยูก็ต้องใจหายเมื่อรู้ว่าทุกสิ่งถูกย้อนเวลากลับมายกเว้นยักษ์ทะเลขมและโซ่ราวกับว่ายักษ์กับโซ่ไม่ได้รับผลกระทบจากมิติเวลาเลย มันยังคงลากเทพไม้ที่ถูกรัดแน่น
จากนั้นมิติเวลาได้หยุดย้อนมันมิอาจกลับไปก่อนที่เทพไม้จะถูกจับตัวได้
ในขณะเดียวกันยักษ์ทะเลขมยังจับตามองซือหยูที่ส่งเสียงน่ารำคาญ
ซือหยูเชี่ยวชาญหลากหลายภาษาแต่เขาไม่รู้ว่ายักษ์ทะเลขมใช้ภาษาใด
แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว
“ข้าไม่เชื่อหรอก!”
ซือหยูร้องคำรามหัวใจนิรันดร์ปล่อยพลังเต็มที่ มันปลดปล่อยพลังชีวิตออกมาถึงขีดสุด  มิติเวลาย้อนกลับอีกครั้งแต่ย้อนกลับได้เพียงเสี้ยวเวลาเดียว
โซ่ที่รัดเทพไม้หลวมลงมากเหลือเพียงม่านพลังที่บางราวกับไหมดักแด้
ยักษ์ทะเลขมกู่ร้องมันดึงโซ่อีกครั้งเพื่อขวางพลังมิติเวลาแต่ก็ล้มเหลวในการต่อต้านพลังนี้
อีกไม่นานโซ่ที่รัดตัวเทพไม้จะคลายออกโดยสมบูรณ์
ซือหยูกระซิบ
“ทำอะไรของเจ้าอยู่?ออกมาได้แล้ว!”
เทพไม้มองซือหยูมองดูใบหน้าอาบเหงื่อของเขา มองดูความปรารถนาที่เขาใช้ทุกสิ่งที่มีในการย้อนเวลา นางรู้สึกประหลาดในใจ มันเป็นความอบอุ่นที่งดงาม ความรู้สึกทุกแบบเติมเต็มในใจ นางเห็นซือหยูเป็นสิ่งใหม่ที่ต่างไปจากเดิม
เทพไม้กระโดดออกจากโซ่อย่างว่าง่ายราวกับสาวน้อยด้วยใจที่เต้น  แต่ทันทีที่นางหลุดจากโซ่ทั้งซือหยูกับนางก็ถูกล้อมด้วยพลังที่มองไม่เห็นจากโซ่
เทพไม้ขบริมฝีปากแน่น
“มันไม่ได้ผล!มันจะไม่หยุด ซือหยู ข้า…”
ซือหยูไม่สนใจนางเขาเรียกร่างอสูรเซียนขั้นสูงสุดจากหอคอยออกมา
“เจ้าชอบกินไม่ใช่เรอะ?ข้าให้เจ้ากินเปลือกไข่ก็แล้วกัน!”
ซือหยูโยนร่างอสูรไปที่โซ่มันถูกโซ่รัดทันที
โลหิตของอสูรเซียนขั้นสูงสุดนั้นถูกซือหยูนำไปใช้หมดแล้วแหล่งพลังเทพเองก็ถูกชิงไป เหลือเพียงเปลือกกายหยาบเท่านั้น
โซ่หยุดเล็งเป้าซือหยูและเทพไม้
โซ่ลากร่างอสูรลงสู่ทะเลขม
ยักษ์ทะเลขมที่ได้เหยื่อใหม่ร้องคำรามไปยังท้องนภาเสียงคำรามสั่นสะเทือนทั้งโลกอสูร  มันสะบั้นร่างอสูรด้วยมือเดียวและขว้างโซ่ออกมาอีกครั้ง
แต่เทพไม้และซือหยูก็ฉวยโอกาสที่มีเวลาหนีไปแล้ว
อสูรผิวเข้มดวงตาสีเลือดบริสุทธิ์ตนหนึ่งมองเมืองชมทะเลด้วยใบหน้าแข็งกร้าวเขาลืมตาขึ้น
“เสียงคำรามยักษ์ทะเลขมรึ?อะไรทำให้ยักษ์บ้าคลั่งเช่นนี้?”
เทพอสูรแปลกใจเขาหวาดกลัวเล็กน้อย
“หากยักษ์ทะเลขมบ้าคลั่งได้เช่นนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกกัน…”
เขาหนาวสั่นเมื่อคิดเช่นนี้
ยักษ์ทะเลขม…ฝันร้ายแห่งแดนอสูร!
ฝันร้ายที่ทุกชีวิตหวาดกลัวหากชีวิตใดถูกยักษ์ทะเลขมจ้องมอง เทพที่ถูกมองจะไม่มีทางรอด ไม่แม้แต่อสูร!
จักรพรรดิอสูรครั้งหนึ่งเคยถูกลากลงสู่ทะเลขมโดยยักษ์ทะเลขม!   แต่ยักษ์ทะเลขมมักจะไม่ขึ้นฝั่งหากไม่เกิดอะไรขึ้น
ครั้งสุดท้ายที่ยักษ์ทะเลขมปรากฏตัวคือเมื่อพันปีก่อน!
เจ้าเมืองชมทะเลที่เป็นบรรพบุรุษของเขาถูกลากลงสู่ทะเลขมโดยยักษ์ทะเลขมเช่นกัน
เทพอสูรเหงื่อแตกพลั่ก
“ไม่ได้แล้ว!องค์หญิงเก้าจะต้องรู้ มีเพียงอาวุธวิเศษชิ้นล่าสุดของตระกูลราชวงศ์เท่านั้นที่จะหยุดยักษ์ทะเลขมได้!”

แฮ่ก!แฮ่ก!
ไม่แน่ใจว่าทั้งสองหนีมาไกลแค่ไหน
เทพไม้กับซือหยูอยู่บนภูเขาทั้งสองหน้าซีด
มันกินพลังอย่างมากในการหนีจากยักษ์ทะเลขม  ซือหยูยังคงกลัวอยู่ในใจ
“เทพไม้ยักษ์ทะเลขมมันมาจากไหนกัน? มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวเกินไป!”
��
The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน