เมื่อซือหยูมองไปที่เทพไม้เขาเห็นนางกำลังมองเขาด้วยความรัก เทพไม้พูดอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินคำถาม
“ข้าไม่รู้อดีตของยักษ์ทะเลขม!จะมียักษ์อยู่ในทะเลขมแต่ละแห่ง พวกมันมีพลังที่แตกต่างกัน ยักษ์ที่เราเพิ่งเจอเป็นพวกระดับกลางหรือไม่ก็ระดับต่ำ หากเจอยักษ์ระดับสูง คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหนีจากโซ่!”
“อะไรนะ?ยังมียักษ์ในทะเลขมมากกว่านี้อีกเรอะ?”
“ใช่แล้ว!แต่ละทะเลจะมียักษ์หนึ่งตน! แต่ไม่มีทะเลขมอื่นแล้วในแดนอสูร! ข้ารู้จักทะเลขมอีกหลายที่เลยล่ะ!”
ทะเลขมในแดนอสูรเป็นเพียงหนึ่งในทะเลขมมากมายเท่านั้นหรือ?
“แล้วทะเลขมเกินขึ้นได้อย่างไรกัน?น้ำทะเลกัดกร่อนได้กระทั่งเทพ! มันไม่ใช่สิ่งที่เทพสร้างขึ้นมาแน่!”
“แต่ละคนก็มีพูดถึงที่มาของมันต่างกันออกไป!ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน!”
จริงรึ?
“มียักษ์เพียงตนเดียวในทะเลกว้างเช่นนี้!เราบังเอิญถูกเจอเข้ารึ?”
“ข้าคิดว่ามันคงเข้ามาหาพวกเราผ่านการเปลี่ยนแปลงของกฎมิติตอนที่เรามาถึงแดนอสูร!”
นั่นคือคำตอบ!
“ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วเจ้าเอาของของเจ้าคืนไปเถอะ!”
ซือหยูชี้ที่ระหว่างคิ้วของตัวเอง
เทพไม้ว่ายหน้านางหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม นางกล่าว
“ไม่จำเป็นแล้ว!มันจะไม่มีผลอะไรกับข้านอกจากเจ้าจะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเทพไม้คนใหม่!” “เจ้าต้องดูแลตัวเองในอนาคตในบางครั้งข้าอาจจะช่วยเจ้าไม่ได้!”
เทพไม้กล่าวนางหน้าซีดราวกับกระดาษ
อะไรกัน?ซือหยูตั้งใจมองเทพไม้และพบว่านางอ่อนแอลงมาก พลังเทพในตัวนางกำลังปั่นป่วน
ร่างบอบบางของนางสั่นเครือเบาๆ ราวกับกำลังเจ็บปวดรุนแรง
ทันใดนั้นเองซือหยูเห็นที่เอวของนางว่ากำลังมีเลือดไหล เขาเห็นน้ำทะเลขมในโลหิตของนาง
“น้ำทะเลขมอยู่ในร่างเจ้า!”
ซือหยูตะโกนด้วยความตกใจเขารู้ว่าจะต้องเป็นโซ่ที่รัดนางเมื่อครู่
เทพไม้กำลังจะตายนางพูดด้วยเสียงรวยรินราวกับทนความเจ็บปวดไม่ไหวอีกแล้ว
“ข้า..ไม่เป็นไร!ข้าต้องการเวลาพักฟื้นเพื่อกำจัดน้ำทะเลขมในร่าง ข้าอาจจะต้องหลับใหลสักระยะ!” “ให้ข้าจัดการเอง!”
ซือหยูวางมือที่แผ่นหลังเทพไม้แสงดาวเข้าสู่ร่างของนาง
แต่มันยากมากที่จะดูดซับน้ำทะเลขมด้วยทรายดาราทางช้างเผือก
เสียงเทพกระเรียนดังขึ้นในหัวของซือหยู
“น้ำทะเลขมแข็งแกร่งกว่าพลังเทพใดๆ นอกจากจะควบคุมทรายดาราได้อย่างสมบูรณ์ นายท่านจะเอาน้ำทะเลขมออกมาไม่ได้!”
ซือหยูผิดหวังเขารู้ว่าเทพไม้มิอาจชำระล้างพลังปีศาจได้ ซึ่งนั่นทำให้นางต้องหลับใหลมาเป็นพันปี!
เป็นไปไม่ได้ที่นางจะจัดการน้ำทะเลขมมที่มีพลังเหนือกว่าพลังปีศาจ!นางจะตายในระหว่างที่หลับใหล!
เทพไม้พยายามปลอบใจซือหยูเท่านั้น!
เทพไม้ล้มลงที่อ้อมแขนซือหยูนางจมสู่การหลับใหล ร่างกายนางมีพลังสีเขียวปกคลุม
หากซือหยูหาทางนำน้ำทะเลขมออกมาจากร่างนางไม่ได้เทพไม้จะตายในยามหลับใหลโดยที่เขาไม่รู้ตัว!
ข้าต้องควบคุมทรายดาราให้ได้โดยสมบูรณ์ใช่ไหม?ซือหยูคิดในใจ เขามองทรายดาราทางช้างเผือกในมือ
เทียนจี่จื้อมอบคำสั่งเสียให้กับซือหยูสองสิ่งสิ่งแรกคือการสังหารจักรพรรดิโลหิต ซึ่งเขาทำสำเร็จแล้ว
แต่เขายังต้องบอกคำสั่งเสียของเทียนจี่จื้อกับเมฆากุหลาบ!
แต่เขาไม่พบเมฆากุหลาบในพันธมิตรบูรพาเขาจะหานางเจอได้อย่างไร?
เดี๋ยวสิ!
ซือหยูจำได้ว่าองค์ชายเจ็ดเคยกล่าวถึงสนมเมฆากุหลาบมาก่อน
หรือว่านางจะเป็นเมฆากุหลาบที่เทียนจี่จื้อพูดถึง? ซือหยูคิดกับตัวเอง
“ข้ามาแดนอสูรด้วยความยากลำบากก่อนที่ข้าจะไปจากที่นี่ ข้าต้องหาเมฆากุหลาบให้เจอเพื่อเทพไม้และเพื่อทำคำสั่งเสียของเทียนจี่จื้อให้สำเร็จ!”
ซือหยูพาเทพไม้ไปที่มุกเมฆาเก้าหยกและขอให้จางตี๋เก้อดูแลจากนั้นซือหยูจึงเริ่มที่จะเดินทางไปหาอสูรไร้กังวลในทิศที่อสูรสองตนเคยบอก
อสูรไร้กังวลคือหนึ่งในอสูรแปดสิบเอ็ดตนที่ดูแลพื้นที่เขตเมืองชมทะเลเขาอยู่ในพื้นที่เดียวกับซือหยู
อสูรตนนี้อาจจะรู้ก็ได้ว่าเมฆากุหลาบคือใครรวมถึงทางเข้าของแดนอสูร
ระหว่างทางซือหยูผ่านหมู่บ้านอสูรหลายแห่งอย่างลับ ๆ เขาพยายามจะเลี่ยงการสื่อสารกับอสูรโดยไม่จำเป็น มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่ได้
ซือหยูเดินทางเช่นนี้อยู่สองสัปดาห์แต่เขายังต้องเดินทางอีกสองสัปดาห์ก่อนจะถึงที่หมาย
“แดนอสูรใหญ่ยิ่งกว่าพันธมิตรบูรพาเสียอีก!”
ซือหยูอุทานด้วยความแปลกใจในพันธมิตร เขาจะถึงโลกอีกใบในเวลาภายในหนึ่งเดือน
แต่ที่แดนอสูรหนึ่งเดือนนั้นเป็นเพียงเวลาที่เขาจะผ่านอาณาเขตของอสูรผู้คุมหนึ่งตน!
เมืองชมทะเลมีขนาดใหญ่พอๆ กับพันธมิตรบูรพา ในแดนอสูรมีเมืองใหญ่พอ ๆ กับเมืองชมทะเลถึงเก้าเมือง
“ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าพันธมิตรบูรพาอยู่มานานเช่นนี้ได้ยังไง!”
ซือหยูขมวดคิ้วแน่นพื้นที่และกำลังของแดนอสูรเหนือกว่าพันธมิตรบูรพานับสิบเท่า!
ก่อนหน้านี้ซือหยูคิดเอาว่าพันธมิตรบูรพาและประจิมมีกำลังพอ ๆ กันกับแดนอสูร แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้เลย! แดนอสูรแข็งแกร่งกว่าพันธมิตรบูรพาและประจิมหลายเท่า
แล้วเหตุใดแดนอสูรถึงอยู่อย่างระวังแทนที่จะใช้กำลังเต็มที่บุกเข้ามากัน?
“หืม?ข้าไม่คิดว่าจะมีใครกล้าออกมานอกเมืองเช่นนี้!”
มีคนตะโกนด้วยความแปลกใจ
ซือหยูหันไปมองและพบสาวน้อยน่ารักที่มาพร้อมกับเขาหนึ่งคู่นางอายุราวสิบห้าปี นางมิใช่อสูรแท้
นางยืนอยู่บนสมบัติอสูรที่ทำจากหัวสัตว์อสูรด้านข้างนางเป็นอสูรกลางคน ซือหยูไม่ได้สัมผัสอสูรที่แข็งแกร่งจากเขานัก เขาก็ไม่ใช่อสูรแท้เช่นกัน
เทียบกับอสูรอื่นพลังของสาวน้อยนั้นค่อนข้างต่ำ แต่นางก็เป็นเซียนขั้นหนึ่งที่มีพลังเหนือกว่าซือหยู!
อสูรกลางคนเป็นเซียนขั้นสามเขามีพลังอันเยือกเย็นล้อมรอบกาย ซือหยูพยายามใจเย็นเพื่อเลี่ยงการสงสัยต่อหน้าอสูรทั้งสอง
“ข้ากำลังเดินทาง…”
เขาพูด
“มีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลือหรือไม่?”
“หา?เจ้าไม่ได้ข่าวจากท่านอสูรไร้กังวลจากมโนอสูรรึ?”
สาวน้อยถามและมองซือหยูด้วยความสงสัย
“ยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งมาแล้ว!มันกำลังกลืนกินทุกสิ่งในเส้นทาง!”
ซือหยูหัวใจหยุดเต้นยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งแล้ว!
ดูเหมือนว่าอสูรทั้งสองจะเคลือบแคลงซือหยูจึงพูด
“ข้ามาจากดินแดนขององค์หญิงหกข้าเลยไม่ได้ข่าวจากท่านอสูรไร้กังวลผ่านมโนอสูร! ข้ากำลังจะมุ่งหน้าไปที่พื้นที่ของท่านอสูรไร้กังวล!” แม้ซือหยูจะไม่รู้ว่ามโนอสูรคืออะไรแต่เขารู้ว่ามันจะต้องเป็นวิชาสื่อสารสักรูปแบบหนึ่ง
“องค์หญิงหกรึ?เข้าใจแล้ว หลายคนจากแดนองค์หญิงหกก็มาที่แดนขององค์หญิงเก้า!”
สาวพูดหลังจากได้เหตุผล
อสูรวัยกลางคนลดความระแวงลง
“พูดตามตรง…”
เขาพูด
“พวกเรากำลังหนีไปทางพื้นที่ของท่านอสูรไร้กังวลหากเจ้าไม่ว่าอะไรก็มากับพวกเราได้ ไปด้วยกันเราจะปลอดภัยกว่า!”
ยักษ์ทะเลขมนั้นอันตรายมันทำลายล้างอยู่ตลอดทาง อสูรมากหมายถูกสังหารอย่างป่าเถื่อน
ตอนนี้กฎเกณฑ์ในเมืองอสูรถูกคุมโดยอสูรผู้คุมดินแดน
ซือหยูลังเลเล้กน้อยแต่ยักษ์ทะเลขมกำลังไล่ตามเขา เขาต้องไปถึงเมืองอสูรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาตอบ
“ตกลงขอบคุณท่านมาก!”
หัวสัตว์อสูรบินอย่างรวดเร็วมันเร็วพอ ๆ กับเซียนขั้นสี่
“เจ้าโชคดีที่ได้เจอท่านพ่อที่นี่ไม่งั้นคนผอมบางอย่างเจ้าคงถูกสัตว์อสูรกินในระหว่างทางแล้ว!”
สาวน้อยกล่าวและตบบ่าซือหยูด้วยรอยยิ้ม
ซือหยูไม่เคยถูกอสูรแตะต้องมาก่อนแต่เขาก็ไม่พูดอะไร เขายิ้มเงียบ ๆ
เมื่อเห็นซือหยูตอบรับอย่างนั้นสาวน้อยเชิดหน้าอย่างภูมิใจ
“ฮื่ม!เจ้าไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใครสินะ? พ่อข้าคือหน่วยลาดตระเวนเมืองอสูรไร้กังวลยังไงล่ะ! หากมีท่านพ่อคุ้มกัน พวกเราก็ไปถึงเมืองอสูรได้อย่างปลอดภัย!”
ซือหยูพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอีกครั้งแต่เขาไม่พูดอะไรออกมา
หน่วยลาดตระเวนรึ?ข้าจำได้ว่าอสูรสองตนนั้นที่เป็นเซียนขั้นสี่ก็เป็นหน่วยลาดตระเวน!
“เจ้าโง่รึเปล่า?”
สาวน้อยเริ่มโมโห
“เจ้าต้องตกใจสิ!”
สาวน้อยที่ไม่ได้รับการตอบสนองที่ต้องการพูดด้วยความโมโห
“เจ้าโง่น่าเบื่อ!”
ซือหยูยิ้มตอบอีกครั้งหากนางไม่ใช่อสูร เขาคงจะแหย่นางไปแล้ว
“ชาเอ๋อระวังคำพูดเจ้าเสีย!”
อสูรกลางคนพูดพลางส่ายหน้าด้วยความอับอาย
“หนุ่มน้อยขออภัยด้วย! ชาเอ๋อถูกข้าตามใจจนเคยตัว!”
ซือหยูประสานมือด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรๆ!”
หือ?อสูรกลางคนมองซือหยูด้วยความแปลกใจ เขาเป็นอสูรพลังระดับอสูรเนรมิตรเท่านั้น…เขาใจเย็น…ต่อหน้าเซียนขั้นสาม! เขาไม่หยาบคายไปหน่อยรึ?
ตามปกติอสูรเนรมิตรจะต้องเป็นฝ่ายทักทายเขา หากรู้ว่าเป็นหน่วยลาดตระเวน พวกเขาถึงกับคุกเข่า
ดูเหมือนว่าอสูรหนุ่มผู้นี้จะไม่รู้จักมารยาทเอาเสียเลย
แม้เขาจะไม่สนใจการตอบสนองของซือหยูเขาก็แปลกใจอยู่เล็กน้อย หรือว่าคนขององค์หญิงหกไม่รู้ว่าควรจะทำตัวเช่นไร?
อสูรกลางคนแอบส่ายหน้าและพูดเสริม
“โจรมักก่อปัญหาในเขตนี้มากนักเจ้าจะปลอดภัยที่ได้เดินทางกับหน่วยลาดตระเวนอย่างข้า อย่าได้กังวล เจ้าหนู!”
ซือหยูยิ้มตอบอีกครั้ง
“เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านมาก!” อสูรกลางคนส่ายหน้าอย่างไม่พอใจเขาหยาบคายนัก!
พวกเขาบินต่อไปหลายวันเมื่ออยู่ห่างจากเมืองอสูรราวสามวัน อสูรกลางคนก็เริ่มระแวดระวังมากขึ้น
อสูรทุกตนในพื้นที่นีกำลังมุ่งหน้าไปที่เมืองอสูรหรือก็คือมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะได้เจอกับโจร!
เมื่อพวกเขาพยายามข้ามแม่น้ำดำสนิทซือหยูที่บ่มเพาะพลังก็เบิกตาโพลงและมองไปที่แม่น้ำ เขาขมวดคิ้ว
อสูรกลางคนเองก็สัมผัสได้เขาตะโกน
“ข้าคือหน่วยลาดตระเวน!”
พวกเขาสัมผัสพลังแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ในแม่น้ำได้หลายจุดพวกมันอาจจะเป็นโจร
ตามปกติโจรส่วนมากมักจะกลัวหน่วยลาดตระเวน
แต่โจรในแม่น้ำไม่ได้หนีไปสมบัติอสูรที่เป็นหัวสัตว์อสูรสามชิ้นได้พุ่งออกมาจากแม่น้ำล้อมรอบพวกซือหยูเอาไว้
“เมืองอสูรไม่มีอยู่แล้ว!หน่วยลาดตระเวนไม่น่ากลัวอีกแล้ว!”
อสูรตนหนึ่งแสยะยิ้ม
เมืองอสูรไม่มีอยู่แล้วเรอะ?อสูรกลางคนกับซือหยูตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เหลวไหล!พูดอะไรของเจ้า? เมืองอสูรมีท่านอสูรไร้กังวลปกป้อง! โจรอย่างเจ้าไม่มีทางทำอะไรได้!”
“ฮ่า!ฮ่า! ฮ่า! …”
พวกโจรบนหัวสัตว์อสูรหัวเราะเสียงดังลั่น
“ยักษ์ทะเลขมกินทั้งเมืองอสูรไปแล้ว!อสูรไร้กังวลก็หายตัวไป! ที่นี่เป็นของข้าแล้ว!”
ยักษ์ทะเลขมมาที่นี่รึ?
ซือหยูตัวสั่นสัญชาตญาณบอกเขาว่าเขาคือเป้าหมายของยักษ์ทะเลขม และเขาคือสาเหตุที่ยักษ์ทะเลขมขึ้นจากฝั่ง! ซือหยูใจเต้นอย่างรุนแรงเพราะเขากำลังสัมผัสถึงสิ่งที่อันตรายได้
ยักษ์ทะเลขมจะต้องยังอยู่แถวนี้และเขากำลังตกเป็นเป้าของยักษ์!
��
“ข้าไม่รู้อดีตของยักษ์ทะเลขม!จะมียักษ์อยู่ในทะเลขมแต่ละแห่ง พวกมันมีพลังที่แตกต่างกัน ยักษ์ที่เราเพิ่งเจอเป็นพวกระดับกลางหรือไม่ก็ระดับต่ำ หากเจอยักษ์ระดับสูง คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหนีจากโซ่!”
“อะไรนะ?ยังมียักษ์ในทะเลขมมากกว่านี้อีกเรอะ?”
“ใช่แล้ว!แต่ละทะเลจะมียักษ์หนึ่งตน! แต่ไม่มีทะเลขมอื่นแล้วในแดนอสูร! ข้ารู้จักทะเลขมอีกหลายที่เลยล่ะ!”
ทะเลขมในแดนอสูรเป็นเพียงหนึ่งในทะเลขมมากมายเท่านั้นหรือ?
“แล้วทะเลขมเกินขึ้นได้อย่างไรกัน?น้ำทะเลกัดกร่อนได้กระทั่งเทพ! มันไม่ใช่สิ่งที่เทพสร้างขึ้นมาแน่!”
“แต่ละคนก็มีพูดถึงที่มาของมันต่างกันออกไป!ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน!”
จริงรึ?
“มียักษ์เพียงตนเดียวในทะเลกว้างเช่นนี้!เราบังเอิญถูกเจอเข้ารึ?”
“ข้าคิดว่ามันคงเข้ามาหาพวกเราผ่านการเปลี่ยนแปลงของกฎมิติตอนที่เรามาถึงแดนอสูร!”
นั่นคือคำตอบ!
“ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วเจ้าเอาของของเจ้าคืนไปเถอะ!”
ซือหยูชี้ที่ระหว่างคิ้วของตัวเอง
เทพไม้ว่ายหน้านางหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม นางกล่าว
“ไม่จำเป็นแล้ว!มันจะไม่มีผลอะไรกับข้านอกจากเจ้าจะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเทพไม้คนใหม่!” “เจ้าต้องดูแลตัวเองในอนาคตในบางครั้งข้าอาจจะช่วยเจ้าไม่ได้!”
เทพไม้กล่าวนางหน้าซีดราวกับกระดาษ
อะไรกัน?ซือหยูตั้งใจมองเทพไม้และพบว่านางอ่อนแอลงมาก พลังเทพในตัวนางกำลังปั่นป่วน
ร่างบอบบางของนางสั่นเครือเบาๆ ราวกับกำลังเจ็บปวดรุนแรง
ทันใดนั้นเองซือหยูเห็นที่เอวของนางว่ากำลังมีเลือดไหล เขาเห็นน้ำทะเลขมในโลหิตของนาง
“น้ำทะเลขมอยู่ในร่างเจ้า!”
ซือหยูตะโกนด้วยความตกใจเขารู้ว่าจะต้องเป็นโซ่ที่รัดนางเมื่อครู่
เทพไม้กำลังจะตายนางพูดด้วยเสียงรวยรินราวกับทนความเจ็บปวดไม่ไหวอีกแล้ว
“ข้า..ไม่เป็นไร!ข้าต้องการเวลาพักฟื้นเพื่อกำจัดน้ำทะเลขมในร่าง ข้าอาจจะต้องหลับใหลสักระยะ!” “ให้ข้าจัดการเอง!”
ซือหยูวางมือที่แผ่นหลังเทพไม้แสงดาวเข้าสู่ร่างของนาง
แต่มันยากมากที่จะดูดซับน้ำทะเลขมด้วยทรายดาราทางช้างเผือก
เสียงเทพกระเรียนดังขึ้นในหัวของซือหยู
“น้ำทะเลขมแข็งแกร่งกว่าพลังเทพใดๆ นอกจากจะควบคุมทรายดาราได้อย่างสมบูรณ์ นายท่านจะเอาน้ำทะเลขมออกมาไม่ได้!”
ซือหยูผิดหวังเขารู้ว่าเทพไม้มิอาจชำระล้างพลังปีศาจได้ ซึ่งนั่นทำให้นางต้องหลับใหลมาเป็นพันปี!
เป็นไปไม่ได้ที่นางจะจัดการน้ำทะเลขมมที่มีพลังเหนือกว่าพลังปีศาจ!นางจะตายในระหว่างที่หลับใหล!
เทพไม้พยายามปลอบใจซือหยูเท่านั้น!
เทพไม้ล้มลงที่อ้อมแขนซือหยูนางจมสู่การหลับใหล ร่างกายนางมีพลังสีเขียวปกคลุม
หากซือหยูหาทางนำน้ำทะเลขมออกมาจากร่างนางไม่ได้เทพไม้จะตายในยามหลับใหลโดยที่เขาไม่รู้ตัว!
ข้าต้องควบคุมทรายดาราให้ได้โดยสมบูรณ์ใช่ไหม?ซือหยูคิดในใจ เขามองทรายดาราทางช้างเผือกในมือ
เทียนจี่จื้อมอบคำสั่งเสียให้กับซือหยูสองสิ่งสิ่งแรกคือการสังหารจักรพรรดิโลหิต ซึ่งเขาทำสำเร็จแล้ว
แต่เขายังต้องบอกคำสั่งเสียของเทียนจี่จื้อกับเมฆากุหลาบ!
แต่เขาไม่พบเมฆากุหลาบในพันธมิตรบูรพาเขาจะหานางเจอได้อย่างไร?
เดี๋ยวสิ!
ซือหยูจำได้ว่าองค์ชายเจ็ดเคยกล่าวถึงสนมเมฆากุหลาบมาก่อน
หรือว่านางจะเป็นเมฆากุหลาบที่เทียนจี่จื้อพูดถึง? ซือหยูคิดกับตัวเอง
“ข้ามาแดนอสูรด้วยความยากลำบากก่อนที่ข้าจะไปจากที่นี่ ข้าต้องหาเมฆากุหลาบให้เจอเพื่อเทพไม้และเพื่อทำคำสั่งเสียของเทียนจี่จื้อให้สำเร็จ!”
ซือหยูพาเทพไม้ไปที่มุกเมฆาเก้าหยกและขอให้จางตี๋เก้อดูแลจากนั้นซือหยูจึงเริ่มที่จะเดินทางไปหาอสูรไร้กังวลในทิศที่อสูรสองตนเคยบอก
อสูรไร้กังวลคือหนึ่งในอสูรแปดสิบเอ็ดตนที่ดูแลพื้นที่เขตเมืองชมทะเลเขาอยู่ในพื้นที่เดียวกับซือหยู
อสูรตนนี้อาจจะรู้ก็ได้ว่าเมฆากุหลาบคือใครรวมถึงทางเข้าของแดนอสูร
ระหว่างทางซือหยูผ่านหมู่บ้านอสูรหลายแห่งอย่างลับ ๆ เขาพยายามจะเลี่ยงการสื่อสารกับอสูรโดยไม่จำเป็น มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่ได้
ซือหยูเดินทางเช่นนี้อยู่สองสัปดาห์แต่เขายังต้องเดินทางอีกสองสัปดาห์ก่อนจะถึงที่หมาย
“แดนอสูรใหญ่ยิ่งกว่าพันธมิตรบูรพาเสียอีก!”
ซือหยูอุทานด้วยความแปลกใจในพันธมิตร เขาจะถึงโลกอีกใบในเวลาภายในหนึ่งเดือน
แต่ที่แดนอสูรหนึ่งเดือนนั้นเป็นเพียงเวลาที่เขาจะผ่านอาณาเขตของอสูรผู้คุมหนึ่งตน!
เมืองชมทะเลมีขนาดใหญ่พอๆ กับพันธมิตรบูรพา ในแดนอสูรมีเมืองใหญ่พอ ๆ กับเมืองชมทะเลถึงเก้าเมือง
“ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าพันธมิตรบูรพาอยู่มานานเช่นนี้ได้ยังไง!”
ซือหยูขมวดคิ้วแน่นพื้นที่และกำลังของแดนอสูรเหนือกว่าพันธมิตรบูรพานับสิบเท่า!
ก่อนหน้านี้ซือหยูคิดเอาว่าพันธมิตรบูรพาและประจิมมีกำลังพอ ๆ กันกับแดนอสูร แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้เลย! แดนอสูรแข็งแกร่งกว่าพันธมิตรบูรพาและประจิมหลายเท่า
แล้วเหตุใดแดนอสูรถึงอยู่อย่างระวังแทนที่จะใช้กำลังเต็มที่บุกเข้ามากัน?
“หืม?ข้าไม่คิดว่าจะมีใครกล้าออกมานอกเมืองเช่นนี้!”
มีคนตะโกนด้วยความแปลกใจ
ซือหยูหันไปมองและพบสาวน้อยน่ารักที่มาพร้อมกับเขาหนึ่งคู่นางอายุราวสิบห้าปี นางมิใช่อสูรแท้
นางยืนอยู่บนสมบัติอสูรที่ทำจากหัวสัตว์อสูรด้านข้างนางเป็นอสูรกลางคน ซือหยูไม่ได้สัมผัสอสูรที่แข็งแกร่งจากเขานัก เขาก็ไม่ใช่อสูรแท้เช่นกัน
เทียบกับอสูรอื่นพลังของสาวน้อยนั้นค่อนข้างต่ำ แต่นางก็เป็นเซียนขั้นหนึ่งที่มีพลังเหนือกว่าซือหยู!
อสูรกลางคนเป็นเซียนขั้นสามเขามีพลังอันเยือกเย็นล้อมรอบกาย ซือหยูพยายามใจเย็นเพื่อเลี่ยงการสงสัยต่อหน้าอสูรทั้งสอง
“ข้ากำลังเดินทาง…”
เขาพูด
“มีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลือหรือไม่?”
“หา?เจ้าไม่ได้ข่าวจากท่านอสูรไร้กังวลจากมโนอสูรรึ?”
สาวน้อยถามและมองซือหยูด้วยความสงสัย
“ยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งมาแล้ว!มันกำลังกลืนกินทุกสิ่งในเส้นทาง!”
ซือหยูหัวใจหยุดเต้นยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งแล้ว!
ดูเหมือนว่าอสูรทั้งสองจะเคลือบแคลงซือหยูจึงพูด
“ข้ามาจากดินแดนขององค์หญิงหกข้าเลยไม่ได้ข่าวจากท่านอสูรไร้กังวลผ่านมโนอสูร! ข้ากำลังจะมุ่งหน้าไปที่พื้นที่ของท่านอสูรไร้กังวล!” แม้ซือหยูจะไม่รู้ว่ามโนอสูรคืออะไรแต่เขารู้ว่ามันจะต้องเป็นวิชาสื่อสารสักรูปแบบหนึ่ง
“องค์หญิงหกรึ?เข้าใจแล้ว หลายคนจากแดนองค์หญิงหกก็มาที่แดนขององค์หญิงเก้า!”
สาวพูดหลังจากได้เหตุผล
อสูรวัยกลางคนลดความระแวงลง
“พูดตามตรง…”
เขาพูด
“พวกเรากำลังหนีไปทางพื้นที่ของท่านอสูรไร้กังวลหากเจ้าไม่ว่าอะไรก็มากับพวกเราได้ ไปด้วยกันเราจะปลอดภัยกว่า!”
ยักษ์ทะเลขมนั้นอันตรายมันทำลายล้างอยู่ตลอดทาง อสูรมากหมายถูกสังหารอย่างป่าเถื่อน
ตอนนี้กฎเกณฑ์ในเมืองอสูรถูกคุมโดยอสูรผู้คุมดินแดน
ซือหยูลังเลเล้กน้อยแต่ยักษ์ทะเลขมกำลังไล่ตามเขา เขาต้องไปถึงเมืองอสูรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาตอบ
“ตกลงขอบคุณท่านมาก!”
หัวสัตว์อสูรบินอย่างรวดเร็วมันเร็วพอ ๆ กับเซียนขั้นสี่
“เจ้าโชคดีที่ได้เจอท่านพ่อที่นี่ไม่งั้นคนผอมบางอย่างเจ้าคงถูกสัตว์อสูรกินในระหว่างทางแล้ว!”
สาวน้อยกล่าวและตบบ่าซือหยูด้วยรอยยิ้ม
ซือหยูไม่เคยถูกอสูรแตะต้องมาก่อนแต่เขาก็ไม่พูดอะไร เขายิ้มเงียบ ๆ
เมื่อเห็นซือหยูตอบรับอย่างนั้นสาวน้อยเชิดหน้าอย่างภูมิใจ
“ฮื่ม!เจ้าไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใครสินะ? พ่อข้าคือหน่วยลาดตระเวนเมืองอสูรไร้กังวลยังไงล่ะ! หากมีท่านพ่อคุ้มกัน พวกเราก็ไปถึงเมืองอสูรได้อย่างปลอดภัย!”
ซือหยูพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอีกครั้งแต่เขาไม่พูดอะไรออกมา
หน่วยลาดตระเวนรึ?ข้าจำได้ว่าอสูรสองตนนั้นที่เป็นเซียนขั้นสี่ก็เป็นหน่วยลาดตระเวน!
“เจ้าโง่รึเปล่า?”
สาวน้อยเริ่มโมโห
“เจ้าต้องตกใจสิ!”
สาวน้อยที่ไม่ได้รับการตอบสนองที่ต้องการพูดด้วยความโมโห
“เจ้าโง่น่าเบื่อ!”
ซือหยูยิ้มตอบอีกครั้งหากนางไม่ใช่อสูร เขาคงจะแหย่นางไปแล้ว
“ชาเอ๋อระวังคำพูดเจ้าเสีย!”
อสูรกลางคนพูดพลางส่ายหน้าด้วยความอับอาย
“หนุ่มน้อยขออภัยด้วย! ชาเอ๋อถูกข้าตามใจจนเคยตัว!”
ซือหยูประสานมือด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรๆ!”
หือ?อสูรกลางคนมองซือหยูด้วยความแปลกใจ เขาเป็นอสูรพลังระดับอสูรเนรมิตรเท่านั้น…เขาใจเย็น…ต่อหน้าเซียนขั้นสาม! เขาไม่หยาบคายไปหน่อยรึ?
ตามปกติอสูรเนรมิตรจะต้องเป็นฝ่ายทักทายเขา หากรู้ว่าเป็นหน่วยลาดตระเวน พวกเขาถึงกับคุกเข่า
ดูเหมือนว่าอสูรหนุ่มผู้นี้จะไม่รู้จักมารยาทเอาเสียเลย
แม้เขาจะไม่สนใจการตอบสนองของซือหยูเขาก็แปลกใจอยู่เล็กน้อย หรือว่าคนขององค์หญิงหกไม่รู้ว่าควรจะทำตัวเช่นไร?
อสูรกลางคนแอบส่ายหน้าและพูดเสริม
“โจรมักก่อปัญหาในเขตนี้มากนักเจ้าจะปลอดภัยที่ได้เดินทางกับหน่วยลาดตระเวนอย่างข้า อย่าได้กังวล เจ้าหนู!”
ซือหยูยิ้มตอบอีกครั้ง
“เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านมาก!” อสูรกลางคนส่ายหน้าอย่างไม่พอใจเขาหยาบคายนัก!
พวกเขาบินต่อไปหลายวันเมื่ออยู่ห่างจากเมืองอสูรราวสามวัน อสูรกลางคนก็เริ่มระแวดระวังมากขึ้น
อสูรทุกตนในพื้นที่นีกำลังมุ่งหน้าไปที่เมืองอสูรหรือก็คือมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะได้เจอกับโจร!
เมื่อพวกเขาพยายามข้ามแม่น้ำดำสนิทซือหยูที่บ่มเพาะพลังก็เบิกตาโพลงและมองไปที่แม่น้ำ เขาขมวดคิ้ว
อสูรกลางคนเองก็สัมผัสได้เขาตะโกน
“ข้าคือหน่วยลาดตระเวน!”
พวกเขาสัมผัสพลังแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ในแม่น้ำได้หลายจุดพวกมันอาจจะเป็นโจร
ตามปกติโจรส่วนมากมักจะกลัวหน่วยลาดตระเวน
แต่โจรในแม่น้ำไม่ได้หนีไปสมบัติอสูรที่เป็นหัวสัตว์อสูรสามชิ้นได้พุ่งออกมาจากแม่น้ำล้อมรอบพวกซือหยูเอาไว้
“เมืองอสูรไม่มีอยู่แล้ว!หน่วยลาดตระเวนไม่น่ากลัวอีกแล้ว!”
อสูรตนหนึ่งแสยะยิ้ม
เมืองอสูรไม่มีอยู่แล้วเรอะ?อสูรกลางคนกับซือหยูตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เหลวไหล!พูดอะไรของเจ้า? เมืองอสูรมีท่านอสูรไร้กังวลปกป้อง! โจรอย่างเจ้าไม่มีทางทำอะไรได้!”
“ฮ่า!ฮ่า! ฮ่า! …”
พวกโจรบนหัวสัตว์อสูรหัวเราะเสียงดังลั่น
“ยักษ์ทะเลขมกินทั้งเมืองอสูรไปแล้ว!อสูรไร้กังวลก็หายตัวไป! ที่นี่เป็นของข้าแล้ว!”
ยักษ์ทะเลขมมาที่นี่รึ?
ซือหยูตัวสั่นสัญชาตญาณบอกเขาว่าเขาคือเป้าหมายของยักษ์ทะเลขม และเขาคือสาเหตุที่ยักษ์ทะเลขมขึ้นจากฝั่ง! ซือหยูใจเต้นอย่างรุนแรงเพราะเขากำลังสัมผัสถึงสิ่งที่อันตรายได้
ยักษ์ทะเลขมจะต้องยังอยู่แถวนี้และเขากำลังตกเป็นเป้าของยักษ์!
��